วันนี้เปลี่ยนจากโหมดหม่ำมาเป็นโหมดเที่ยวกันบ้างนะคะ เดี๋ยวจะกลิ้งกันซะก่อน 55
ที่ ๆ เราจะพาไปเที่ยววันนี้อยู่ที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จิมทอมป์สันฟาร์มนั่นเอง
จริง ๆ ที่นี่เราอยากไปมานานแล้ว แต่เค้าจะเปิดให้เข้าแค่ปีละประมาณ 1 เดือน
ซึ่งปีนี้ก็เปิดให้เข้าชมวันที่ 14 ธ.ค. 56 - 12 ม.ค. 57 ตั้งแต่เวลา 9.00 - 17.00 น.
ทุกปีชวนใครก็ไม่มีใครไปเพราะช่วงปีใหม่ส่วนมากจะยุ่ง ๆ กัน
ปีนี้โพสต์หน้า wall ในเฟซเลยใครจะไปช่วยลากไปด้วย 555 และแล้วก็มีคนใจดีพาเราไป เย่
(ขอบคุณพี่กิ คุณมิและหม่าม๊าที่ให้เกาะไปด้วยนะค้า)
เราออกเดินทางจากกทม.ตอน 8 โมงเช้าถึงที่นู่นก็ประมาณเกือบบ่ายโมง
พอดีมีกิจกรรมเปลี่ยนยางล้อรถกันก่อนถึงฟาร์มเลยเสียเวลานิดหน่อย
ไปถึงก็ซื้อบัตรเข้าชมงานกันเลย
วันธรรมดา ผู้ใหญ่ 120 บ. เด็ก 80 บ. วันเสาร์-อาทิตย์ ผู้ใหญ่ 140 เด็ก 100 บ.
เด็กสูงน้อยกว่า 100 ซม.เข้าฟรีค่ะ
จ่ายเงินเรียบร้อยก็ได้บัตรเข้าชมกับโบว์ชัวร์มา 1 ใบ
ตั๋วเอาไว้แสดงหน้าทางเข้านะคะ ส่วนโบชัวร์นี่เก็บไว้ดี ๆ มีกิจกรรมให้เล่นกันด้วยค่ะ
ซึ่งแนวคิดของปีนี้จะนำเสนอเรื่อง“ออนซอนหลาย ลายผ้าอีสาน”
ตั้งแต่ทางเข้าก็จะมีซุ้มผ้าที่มีสีสันสดใสรอต้อนรับนั่งท่องเที่ยวอยู่ เสียดายไม่ได้ถ่าย คนเยอะมาก ๆ
ตอนเราไปถึงยังไม่เข้านะ ขอแวะเติมพลังมื้อเที่ยงก่อน เพราะหิวโซกันมาเลย
ด้านหน้าก็มีศูนย์อาหารขายพวก ข้าว,ก๋วยเตี๋ยว แต่ถ้าใครยังไม่หิวด้านในก็มีศูนย์อาหารอีกจุดไว้คอยบริการค่ะ
พออิ่มปุ๊บก็โดดขึ้นรถปั๊บ รถจะพาเราไปยังจุดท่องเที่ยวทั้งหมด 5 จุดด้วยกัน
จุดแรกก็คือจุดที่รถรับ-ส่งนักท่องเที่ยวจอดอยู่
เป็นบริเวณทุ่งคอสมอส และแปลงเก็บผักปลอดสารพิษ แต่เรายังไม่เที่ยวตรงจุดนี้ ไว้มาเก็บสุดท้ายค่ะ
ระหว่างทางที่ไปยังจุดที่ 2 ก็ชื่นชมกับบรรดาดอกไม้นานาชนิด ทั้งทุ่งดอกคอสมอส
ทุ่งทานตะวัน 2 ข้างทาง
พอรถขับมาถึงจุดที่ 2 จะเป็นลานฟักทองและทุ่งดอกไม้หลากสี
ใครมาเที่ยววันเด็กช่วงบ่าย 2 - 4 โมงเย็นก็มีกิจกรรมเก็บฟักทองกันค่ะ
เก็บได้แค่ไหนเอาไปเลย สมัครทีมละ 4 คน ค่าสมัคร 1000 บ.ค่า
มาลานฟักทองก็ต้องถ่ายรูปกับฟักทองสิเนอะ
ปีนี้ฟักทองดูไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่ค่ะ เคยเห็นรูปที่เพื่อนไปถ่ายมาดูละลานตากว่านี้นะ
สีส้มสดใส อยากกินฟักทองขึ้นมาเลยทีเดียว
[CR] Jim Thompson Farm Tour 2556
ที่ ๆ เราจะพาไปเที่ยววันนี้อยู่ที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จิมทอมป์สันฟาร์มนั่นเอง
จริง ๆ ที่นี่เราอยากไปมานานแล้ว แต่เค้าจะเปิดให้เข้าแค่ปีละประมาณ 1 เดือน
ซึ่งปีนี้ก็เปิดให้เข้าชมวันที่ 14 ธ.ค. 56 - 12 ม.ค. 57 ตั้งแต่เวลา 9.00 - 17.00 น.
ทุกปีชวนใครก็ไม่มีใครไปเพราะช่วงปีใหม่ส่วนมากจะยุ่ง ๆ กัน
ปีนี้โพสต์หน้า wall ในเฟซเลยใครจะไปช่วยลากไปด้วย 555 และแล้วก็มีคนใจดีพาเราไป เย่
(ขอบคุณพี่กิ คุณมิและหม่าม๊าที่ให้เกาะไปด้วยนะค้า)
เราออกเดินทางจากกทม.ตอน 8 โมงเช้าถึงที่นู่นก็ประมาณเกือบบ่ายโมง
พอดีมีกิจกรรมเปลี่ยนยางล้อรถกันก่อนถึงฟาร์มเลยเสียเวลานิดหน่อย
ไปถึงก็ซื้อบัตรเข้าชมงานกันเลย
วันธรรมดา ผู้ใหญ่ 120 บ. เด็ก 80 บ. วันเสาร์-อาทิตย์ ผู้ใหญ่ 140 เด็ก 100 บ.
เด็กสูงน้อยกว่า 100 ซม.เข้าฟรีค่ะ
จ่ายเงินเรียบร้อยก็ได้บัตรเข้าชมกับโบว์ชัวร์มา 1 ใบ
ตั๋วเอาไว้แสดงหน้าทางเข้านะคะ ส่วนโบชัวร์นี่เก็บไว้ดี ๆ มีกิจกรรมให้เล่นกันด้วยค่ะ
ซึ่งแนวคิดของปีนี้จะนำเสนอเรื่อง“ออนซอนหลาย ลายผ้าอีสาน”
ตั้งแต่ทางเข้าก็จะมีซุ้มผ้าที่มีสีสันสดใสรอต้อนรับนั่งท่องเที่ยวอยู่ เสียดายไม่ได้ถ่าย คนเยอะมาก ๆ
ตอนเราไปถึงยังไม่เข้านะ ขอแวะเติมพลังมื้อเที่ยงก่อน เพราะหิวโซกันมาเลย
ด้านหน้าก็มีศูนย์อาหารขายพวก ข้าว,ก๋วยเตี๋ยว แต่ถ้าใครยังไม่หิวด้านในก็มีศูนย์อาหารอีกจุดไว้คอยบริการค่ะ
พออิ่มปุ๊บก็โดดขึ้นรถปั๊บ รถจะพาเราไปยังจุดท่องเที่ยวทั้งหมด 5 จุดด้วยกัน
จุดแรกก็คือจุดที่รถรับ-ส่งนักท่องเที่ยวจอดอยู่
เป็นบริเวณทุ่งคอสมอส และแปลงเก็บผักปลอดสารพิษ แต่เรายังไม่เที่ยวตรงจุดนี้ ไว้มาเก็บสุดท้ายค่ะ
ระหว่างทางที่ไปยังจุดที่ 2 ก็ชื่นชมกับบรรดาดอกไม้นานาชนิด ทั้งทุ่งดอกคอสมอส
ทุ่งทานตะวัน 2 ข้างทาง
พอรถขับมาถึงจุดที่ 2 จะเป็นลานฟักทองและทุ่งดอกไม้หลากสี
ใครมาเที่ยววันเด็กช่วงบ่าย 2 - 4 โมงเย็นก็มีกิจกรรมเก็บฟักทองกันค่ะ
เก็บได้แค่ไหนเอาไปเลย สมัครทีมละ 4 คน ค่าสมัคร 1000 บ.ค่า
มาลานฟักทองก็ต้องถ่ายรูปกับฟักทองสิเนอะ
ปีนี้ฟักทองดูไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่ค่ะ เคยเห็นรูปที่เพื่อนไปถ่ายมาดูละลานตากว่านี้นะ
สีส้มสดใส อยากกินฟักทองขึ้นมาเลยทีเดียว