ก่อนอื่นต้องบอก ก่อนเลยว่าเจตนาคือ อยากจะแชร์สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ ทุกคนได้รับรู้ มุมนี้ของสังคมปัจจุบัน ส่วนเรื่องกฏหมาย/กฏหมู่ หรือกฏของแต่ละสถานที่อะไรก็ตาม จะยังไม่พูดถึง ต้องยอมรับว่าไม่มีความรู้ แค่อยากบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง) และพูดย้ำตรงนี้อีกครั้งว่าสิ่งที่เราเล่าเป็นความจริงทั้งหมด (ยกสามนิ้วขึ้นมาด้วยเลย ^^)
อีกเรื่องที่ต้องบอกคือส่วนตัวปกติไม่ได้แต่งหญิงใส่กระโปรงค่ะ แต่งหน้าบ้าง เอาเป็นว่าสบายใจอะไรก็แต่งอะค่ะไม่ฝืนใจตัวเองใดๆทั้งสิ้น แต่อยู่ในกรอบกาลเทศะของแต่ละสถานที่
ชี้แจงก่อนว่า เมื่อก่อนเป็นคนชอบไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ เป็นประจำทุกอาทิตย์ ซึ่ง ไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้มาก่อนกับสถานที่ไหนๆเลย
ปัจจุบัน หลังจากเรียนจบ เราไม่ค่อยชอบไปสังสรรค์แบบเดิมๆเท่าไหร่ จะไปก็ต่อเมื่อเป็นวันเกิดเพื่อน หรือตามโอกาสที่ส่วนตัวเห็นสมควร
สถานที่ที่เกิดเรื่องคือ D_M_ ย่านทองหล่อ ซึ่งเคยไปใช้บริการมาแล้วหลายครั้งอยู่ ไม่เคยเกิดปัญหาใดๆค่ะ จนกระทั่งประมาณสามครั้งหลังสุดที่ไป เหตุการณ์เริ่มต้นจาก พอดีเพื่อนได้มีการจัดปาร์ตี้ ที่ผับดังกล่าว และมีการชักชวนให้เราไปร่วมงานด้วย พอจอดรถเสร็จก็เดินเข้าสถานที่ที่จัดงานเหมือนคนทั่วไป แต่พอเรายื่นบัตรให้ตรวจ เค้าบอกว่า "ขอยึดบัตรประชาชนไว้" เราเลยถามว่าจะยึดทำไม? เค้าไม่ตอบเราแต่บอกเพียงว่า "ขอเก็บไว้ จนกว่าจะออกแล้วค่อยมาเอาคืน"
ซึ่งเอาจริงๆแล้วเราก็ไม่ค่อยอยากทิ้งบัตรไว้เท่าไหร่ เพราะอันตรายมากๆ (วันนั้นเป็น Theme Party คนส่วนใหญ่ก็แต่งตัวตาม theme ที่กำหนดไว้ ซึ่งเราคิดว่าที่เค้ายึดบัตรไปอาจจะเป็นเพราะ จะจดชื่อเพื่อ แจกรางวัลหรืออะไรหรือเปล่า) แต่พอเข้าไปสอบถามกับเพื่อนๆในงาน ทุกคนไม่เคยมีใครโดนยึดบัตร
หลังจากกลับมาจากกลับมาบ้านได้หนึ่งวัน ก็รู้ตัวว่าตัวเองลืมบัตรประชาชนที่ทางร้านเก็บไปตอนก่อนเข้าไว้
ตอนขับรถเข้าไปเอาบัตรคืนเรา ยอมรับว่าโกรธมากเพราะการยึดบัตรไว้เป็นอะไรที่ไม่ปกติเลยสำหรับเราเพราะโดยส่วนตัวเราไม่เคยโดนทำแบบนี้
หลังจากที่ไปเอาบัตรจากการ์ดคืนตอนหัวค่ำ เราได้ถือโอกาสถามทางการ์ดไปว่า "ยัดบัตรเราไว้ทำไม" ก็ได้ความจากการ์ดคนนั้นว่า "มีคนที่เป็นแบบเนี้ย ชอบมาโจรกรรมที่นี่บ่อย" เราเลยถามต่อว่าแบบนี้แบบไหน? "แบบที่เป็นแบบคุณ ประเภทสอง" เราเลยบอกทางนั้นว่าเราไม่มีวันทำอะไรแบบนั้นแน่นอน วันหลังอย่ามายึดบัตรประชาชนไว้แบบนี้อีก ทางการ์ดเห็นเราเริ่มโมโหก็พูดกับทางเรากลับมาดีดี ว่าทางเค้าก็ทำตามคำสั่งมาอีกทีต้องขอโทษด้วย. เราใจเย็นขึ้นและไม่ได้คิดจะเอาเรื่องอะไร แต่คิดว่าจะพยายามไม่มาที่นี่อีก เพราะรู้สึกว่าโดนปฏิบัติด้วยแบบนี้แล้วเรารู้สึกแย่มากๆ
หลังจากนั้นเราไปสถานที่ดังกล่าวมาอีกครั้งสองครั้ง แต่เราไปกับเพื่อนๆ ทางการ์ดเหมือนจะอยากเก็บบัตรไว้ทุกครั้งแต่เพื่อนเราก็บองกับทางการ์ดว่าจะยึดทำไม ทางการ์ดเองก็เลยไม่ได้ยืนยันที่จะเก็บบัตรไว้
จนกระทั่งล่าสุด เมื่อ กลางคืนของวันที่ 27 ธันวาคม เราไปงานปาร์ตี้ที่บ้านเพื่อนใกล้ๆก่อนไป สถานที่ดังกล่าว
เวลาที่ไปถึงประมาณ ตีหนึ่งกว่าๆ จุดประสงค์ของเราก็คือ จะเข้าไปหาเพื่อนที่ไม่เจอมานาน และกำลังจะกลับไปเรียนต่อต่างประเทศ
จ่ายเงินสองร้อยเข้าไปจอดตามปกติ แล้วก็หยิบบัตรประชาชนเตรียมตัวเข้าไปเจอเพื่อนโดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นกับตัวเอง
หลังจากยื่นบัตรให้ ทางการ์ดรับบัตรไป แล้วเอาไฟฉายส่องบัตรดูตามปกติ หลังจากนั้นก็เอาบัตรคืนเรา พร้อมกับพูดว่า "ประเภทสองห้ามเข้า" เรา งงมากจับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยพูดกลับไปว่าเรามาที่นี่ตั้งหลายครั้งแล้วก็เข้าได้ แต่ทางการ์ดพูดแบบเดิม เราไม่ได้โต้ตอบ อะไรใดๆ ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่อยากเข้าไปแล้วด้วยซ้ำ อยากกลับและไม่อยากมาเหยียบที่นี่อีก เลยโทรหาเพื่อนที่นัดไว้ว่าจะไปเจอข้างในสถานที่ดังกล่าวว่าเราจะกลับแล้ว (เพื่อนส่วนใหญ่ของเรามีแต่ผู้หญิงจริงๆ ไม่ค่อยมีเพื่อนที่เป็น ตุ๊ดหรือเกย์ กระเทยมากนัก) เพื่อนเราออกมาหาเราแล้วถามว่า "ทำไมแกไม่เข้าไป?" เราบอกเพื่อนผู้หญิงของเราว่า "เค้าไม่ให้เราเข้า เค้าบอกประเภทสองห้ามเข้า" เพื่อนของเราโกรธมากเดินเข้าไปถามการ์ดว่า ทำไมถึงไม่ให้เพื่อนเข้าไป การ์ดพูดแบบเดิมว่า "ห้ามประเภทสองเข้า มันเป็นกฏ" "ถ้าอยากเข้าไปหาคนมาคุยพาเข้าเอาเอง" ทางเพื่อนเราหันมาถามว่า จะเข้าไปไม๊ เดี๋ยวตามคนมาเคลียร์ได้ แต่ต้องบอกเลยว่าความรู้สึกตอนนั้น เรารู้สึกแย่มากที่โดน การ์ดของทาง เดโม่ ปฏิบัติกับเราแบบนั้น เราเดินออกมาได้ระยะนึงแล้วกลั้นน้ำตาไว้ ไม่ไหว เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวในรอบปีที่ทำให้เราร้องไห้ เสียใจมากจากการกระทำแบบนี้ หลังจากนั้นเราก็นั่งสงบอารมณ์ ในรถพักนึงแล้วออกมา พร้อมกับเอาค่าจอดรถ สองร้อยบาทคืน โดยบอกว่า ทางเดโม่ ไม่ให้เราเข้าไป เค้าก็คืนเรามาแต่โดยดี
หลังจากนั้น เราก็โพส เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน instagram ของเรา @pokkiiz (ปกติจะเป็นลงรูป วิดิโอตลก/สนุกสนาน ไม่เคยมีเหตุการณ์ดรามาแบบนี้ที่เราโพสลงเลย) เพื่อนๆของเราที่ทราบเรื่องก็ได้มีการ วิจารณ์ต่างๆนาๆกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขอบคุณเพื่อนๆที่พอรู้จักคนข้างในสถานที่นั้น และไปบอกเล่าเรื่องราวนี้ให้คนในนั้นทราบเรื่อง และบางคนก็ช่วย แชร์ข้อความต่างๆ ผ่านทาง social media ของตัวเพื่อนๆเอง น้ำชาคือหนึ่งในเพื่อนที่รีโพส ข้อความของเพื่อนอีกคนนึงที่ได้โพสความคิดเห็นของตัวเอง ลงใน instagram
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้เราสงสัยว่า คุณมีทัศนคติแบบนี้ กับมนุษย์คนนึงได้อย่างไร อะไรคือสิ่งที่คุณใชวัดความน่าเชื่อใจของคน? สิทธิความเท่าเทียมกันของมนุษย์คืออะไรในทัศนคติแย่ๆ ของคุณ และการที่คุณประกอบธุรกิจ แบบนี้แล้วยัง มีวิสัยทัศน์ที่แคบ และคร่ำครึ แบบนี้มันถูกต้องแล้วหรือ?
สิ่งที่เกิดขึ้นเราเป็นสิ่งที่ เรารับไม่ได้ และไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด เพราะการกระทำแบบนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติ อันไม่เท่าเทียมของความเป็นมนุษย์
จะบอกตามตรงว่า การที่เราต้องไปตามคนมาพาเราเข้าไปทั้งๆที่เราอายุถึงถูกต้องตามกฏหมาย มันถูกแล้วหรือ?
คุณควรจะมีมาตรการ มาจัดการกับเรื่องราวแบบนี้ได้ดีกว่านี้ ใช่ว่า คนประเภทสองทุกคนก่อเรื่องราวร้ายๆ ทั้งหมดซะที่ไหน ผู้หญิง ผู้ชายเองโอกาสจะกระทำเรื่องดังกล่าวก็มีเท่ากัน
สำหรับคนที่คิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราว่าเราเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในที่แบบนั้นเอง จะมาโวยวายเพื่อ!!?? เรายอมรับว่าเราก็เป็นเป็นมนุษย์คนนึง รักโลภโกรธหลง ไปเที่ยวผ่อนคลายสมองบ้าง ไม่ได้เป็นคนดีเด่อะไรมากมาย เป็นปุถุชนคนทั่วไปคนนึง ถ้าสถานที่ดังกล่าว ได้ประกาศไว้ชัดเจนก่อนหน้าว่าไม่ให้คนเพศทางเลือกแบบเราเข้าไปใช้บริการ เราก็คงไม่ไปตั้งแต่แรก เพราะถ้าทางสถานที่ไม่ต้อนรับ เราก็คูลพอที่จะเคารพกฎ เพราะก็เป็นคนมีการศึกษาและวุฒิภาวะ สูงพอที่จะไตร่ตรองและคิดได้ แต่กรณีนี้ไม่ได้มีกฎหรือข้อบังคับอะไรแจ้งให้รับรู้ก่อนหน้าเลย แถมการ์ดก็พูดจาแย่มากๆ หากเป็นเหตุการณ์ หอชายห้ามผู้หญิงเข้าหรือหอชายห้ามผู้เข้า เรายินดีปฏิบัติตามกฎเพราะ เหตุและผลไปด้วยกันกับข้อบังคับของสถานที่ ความสมควรของข้อบังคับถูกใช้อย่างถูกหลักมนุษยธรรม
ไม่ได้เรียกร้อง จะให้คน แบนไม่ไปสถานที่ดังกล่าวอีก เพราะก็มีเพื่อนเราหลายคนยังชอบไปอยู่ เราเข้าใจแต่เราจะไม่อยุ่นิ่งปล่อยให้เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คน ที่มีความสุขมากคนนึงเสียน้ำตาให้กับเรื่องราวแบบนี้หายไปง่ายๆ ค่ะ
"คุณคือคนที่ทำให้รอยยิ้มของคนคนนึงเปื้อนน้ำตาโดยไม่จำเป็น"
ปล.หากพิมพ์ผิดหรือ พลาดอะไรขออภัยด้วย และขอบคุณพื้นที่ดีดี ที่ให้สังคมวงกว้างให้รับรู้เรื่องราวประสบการณ์นี้ของ เรา เชื่อว่าผู้หญิงผู้ชายแท้ๆหรือเพศทางเลือกทุกคนลองคิดดูว่าหากเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับคุณบ้าง จะรู้สึกแย่แค่ไหน ใจเขาใจเราคะไม่ว่าเพศไหนก็มีจิตใจเหมือนกันนะคะ ....... ป๊อกกี้
เรื่องราวของผับดังที่ห้ามคนเพศทางเลือกเข้าใช้บริการ
อีกเรื่องที่ต้องบอกคือส่วนตัวปกติไม่ได้แต่งหญิงใส่กระโปรงค่ะ แต่งหน้าบ้าง เอาเป็นว่าสบายใจอะไรก็แต่งอะค่ะไม่ฝืนใจตัวเองใดๆทั้งสิ้น แต่อยู่ในกรอบกาลเทศะของแต่ละสถานที่
ชี้แจงก่อนว่า เมื่อก่อนเป็นคนชอบไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ เป็นประจำทุกอาทิตย์ ซึ่ง ไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้มาก่อนกับสถานที่ไหนๆเลย
ปัจจุบัน หลังจากเรียนจบ เราไม่ค่อยชอบไปสังสรรค์แบบเดิมๆเท่าไหร่ จะไปก็ต่อเมื่อเป็นวันเกิดเพื่อน หรือตามโอกาสที่ส่วนตัวเห็นสมควร
สถานที่ที่เกิดเรื่องคือ D_M_ ย่านทองหล่อ ซึ่งเคยไปใช้บริการมาแล้วหลายครั้งอยู่ ไม่เคยเกิดปัญหาใดๆค่ะ จนกระทั่งประมาณสามครั้งหลังสุดที่ไป เหตุการณ์เริ่มต้นจาก พอดีเพื่อนได้มีการจัดปาร์ตี้ ที่ผับดังกล่าว และมีการชักชวนให้เราไปร่วมงานด้วย พอจอดรถเสร็จก็เดินเข้าสถานที่ที่จัดงานเหมือนคนทั่วไป แต่พอเรายื่นบัตรให้ตรวจ เค้าบอกว่า "ขอยึดบัตรประชาชนไว้" เราเลยถามว่าจะยึดทำไม? เค้าไม่ตอบเราแต่บอกเพียงว่า "ขอเก็บไว้ จนกว่าจะออกแล้วค่อยมาเอาคืน"
ซึ่งเอาจริงๆแล้วเราก็ไม่ค่อยอยากทิ้งบัตรไว้เท่าไหร่ เพราะอันตรายมากๆ (วันนั้นเป็น Theme Party คนส่วนใหญ่ก็แต่งตัวตาม theme ที่กำหนดไว้ ซึ่งเราคิดว่าที่เค้ายึดบัตรไปอาจจะเป็นเพราะ จะจดชื่อเพื่อ แจกรางวัลหรืออะไรหรือเปล่า) แต่พอเข้าไปสอบถามกับเพื่อนๆในงาน ทุกคนไม่เคยมีใครโดนยึดบัตร
หลังจากกลับมาจากกลับมาบ้านได้หนึ่งวัน ก็รู้ตัวว่าตัวเองลืมบัตรประชาชนที่ทางร้านเก็บไปตอนก่อนเข้าไว้
ตอนขับรถเข้าไปเอาบัตรคืนเรา ยอมรับว่าโกรธมากเพราะการยึดบัตรไว้เป็นอะไรที่ไม่ปกติเลยสำหรับเราเพราะโดยส่วนตัวเราไม่เคยโดนทำแบบนี้
หลังจากที่ไปเอาบัตรจากการ์ดคืนตอนหัวค่ำ เราได้ถือโอกาสถามทางการ์ดไปว่า "ยัดบัตรเราไว้ทำไม" ก็ได้ความจากการ์ดคนนั้นว่า "มีคนที่เป็นแบบเนี้ย ชอบมาโจรกรรมที่นี่บ่อย" เราเลยถามต่อว่าแบบนี้แบบไหน? "แบบที่เป็นแบบคุณ ประเภทสอง" เราเลยบอกทางนั้นว่าเราไม่มีวันทำอะไรแบบนั้นแน่นอน วันหลังอย่ามายึดบัตรประชาชนไว้แบบนี้อีก ทางการ์ดเห็นเราเริ่มโมโหก็พูดกับทางเรากลับมาดีดี ว่าทางเค้าก็ทำตามคำสั่งมาอีกทีต้องขอโทษด้วย. เราใจเย็นขึ้นและไม่ได้คิดจะเอาเรื่องอะไร แต่คิดว่าจะพยายามไม่มาที่นี่อีก เพราะรู้สึกว่าโดนปฏิบัติด้วยแบบนี้แล้วเรารู้สึกแย่มากๆ
หลังจากนั้นเราไปสถานที่ดังกล่าวมาอีกครั้งสองครั้ง แต่เราไปกับเพื่อนๆ ทางการ์ดเหมือนจะอยากเก็บบัตรไว้ทุกครั้งแต่เพื่อนเราก็บองกับทางการ์ดว่าจะยึดทำไม ทางการ์ดเองก็เลยไม่ได้ยืนยันที่จะเก็บบัตรไว้
จนกระทั่งล่าสุด เมื่อ กลางคืนของวันที่ 27 ธันวาคม เราไปงานปาร์ตี้ที่บ้านเพื่อนใกล้ๆก่อนไป สถานที่ดังกล่าว
เวลาที่ไปถึงประมาณ ตีหนึ่งกว่าๆ จุดประสงค์ของเราก็คือ จะเข้าไปหาเพื่อนที่ไม่เจอมานาน และกำลังจะกลับไปเรียนต่อต่างประเทศ
จ่ายเงินสองร้อยเข้าไปจอดตามปกติ แล้วก็หยิบบัตรประชาชนเตรียมตัวเข้าไปเจอเพื่อนโดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นกับตัวเอง
หลังจากยื่นบัตรให้ ทางการ์ดรับบัตรไป แล้วเอาไฟฉายส่องบัตรดูตามปกติ หลังจากนั้นก็เอาบัตรคืนเรา พร้อมกับพูดว่า "ประเภทสองห้ามเข้า" เรา งงมากจับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยพูดกลับไปว่าเรามาที่นี่ตั้งหลายครั้งแล้วก็เข้าได้ แต่ทางการ์ดพูดแบบเดิม เราไม่ได้โต้ตอบ อะไรใดๆ ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่อยากเข้าไปแล้วด้วยซ้ำ อยากกลับและไม่อยากมาเหยียบที่นี่อีก เลยโทรหาเพื่อนที่นัดไว้ว่าจะไปเจอข้างในสถานที่ดังกล่าวว่าเราจะกลับแล้ว (เพื่อนส่วนใหญ่ของเรามีแต่ผู้หญิงจริงๆ ไม่ค่อยมีเพื่อนที่เป็น ตุ๊ดหรือเกย์ กระเทยมากนัก) เพื่อนเราออกมาหาเราแล้วถามว่า "ทำไมแกไม่เข้าไป?" เราบอกเพื่อนผู้หญิงของเราว่า "เค้าไม่ให้เราเข้า เค้าบอกประเภทสองห้ามเข้า" เพื่อนของเราโกรธมากเดินเข้าไปถามการ์ดว่า ทำไมถึงไม่ให้เพื่อนเข้าไป การ์ดพูดแบบเดิมว่า "ห้ามประเภทสองเข้า มันเป็นกฏ" "ถ้าอยากเข้าไปหาคนมาคุยพาเข้าเอาเอง" ทางเพื่อนเราหันมาถามว่า จะเข้าไปไม๊ เดี๋ยวตามคนมาเคลียร์ได้ แต่ต้องบอกเลยว่าความรู้สึกตอนนั้น เรารู้สึกแย่มากที่โดน การ์ดของทาง เดโม่ ปฏิบัติกับเราแบบนั้น เราเดินออกมาได้ระยะนึงแล้วกลั้นน้ำตาไว้ ไม่ไหว เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวในรอบปีที่ทำให้เราร้องไห้ เสียใจมากจากการกระทำแบบนี้ หลังจากนั้นเราก็นั่งสงบอารมณ์ ในรถพักนึงแล้วออกมา พร้อมกับเอาค่าจอดรถ สองร้อยบาทคืน โดยบอกว่า ทางเดโม่ ไม่ให้เราเข้าไป เค้าก็คืนเรามาแต่โดยดี
หลังจากนั้น เราก็โพส เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน instagram ของเรา @pokkiiz (ปกติจะเป็นลงรูป วิดิโอตลก/สนุกสนาน ไม่เคยมีเหตุการณ์ดรามาแบบนี้ที่เราโพสลงเลย) เพื่อนๆของเราที่ทราบเรื่องก็ได้มีการ วิจารณ์ต่างๆนาๆกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขอบคุณเพื่อนๆที่พอรู้จักคนข้างในสถานที่นั้น และไปบอกเล่าเรื่องราวนี้ให้คนในนั้นทราบเรื่อง และบางคนก็ช่วย แชร์ข้อความต่างๆ ผ่านทาง social media ของตัวเพื่อนๆเอง น้ำชาคือหนึ่งในเพื่อนที่รีโพส ข้อความของเพื่อนอีกคนนึงที่ได้โพสความคิดเห็นของตัวเอง ลงใน instagram
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้เราสงสัยว่า คุณมีทัศนคติแบบนี้ กับมนุษย์คนนึงได้อย่างไร อะไรคือสิ่งที่คุณใชวัดความน่าเชื่อใจของคน? สิทธิความเท่าเทียมกันของมนุษย์คืออะไรในทัศนคติแย่ๆ ของคุณ และการที่คุณประกอบธุรกิจ แบบนี้แล้วยัง มีวิสัยทัศน์ที่แคบ และคร่ำครึ แบบนี้มันถูกต้องแล้วหรือ?
สิ่งที่เกิดขึ้นเราเป็นสิ่งที่ เรารับไม่ได้ และไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด เพราะการกระทำแบบนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติ อันไม่เท่าเทียมของความเป็นมนุษย์
จะบอกตามตรงว่า การที่เราต้องไปตามคนมาพาเราเข้าไปทั้งๆที่เราอายุถึงถูกต้องตามกฏหมาย มันถูกแล้วหรือ?
คุณควรจะมีมาตรการ มาจัดการกับเรื่องราวแบบนี้ได้ดีกว่านี้ ใช่ว่า คนประเภทสองทุกคนก่อเรื่องราวร้ายๆ ทั้งหมดซะที่ไหน ผู้หญิง ผู้ชายเองโอกาสจะกระทำเรื่องดังกล่าวก็มีเท่ากัน
สำหรับคนที่คิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราว่าเราเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในที่แบบนั้นเอง จะมาโวยวายเพื่อ!!?? เรายอมรับว่าเราก็เป็นเป็นมนุษย์คนนึง รักโลภโกรธหลง ไปเที่ยวผ่อนคลายสมองบ้าง ไม่ได้เป็นคนดีเด่อะไรมากมาย เป็นปุถุชนคนทั่วไปคนนึง ถ้าสถานที่ดังกล่าว ได้ประกาศไว้ชัดเจนก่อนหน้าว่าไม่ให้คนเพศทางเลือกแบบเราเข้าไปใช้บริการ เราก็คงไม่ไปตั้งแต่แรก เพราะถ้าทางสถานที่ไม่ต้อนรับ เราก็คูลพอที่จะเคารพกฎ เพราะก็เป็นคนมีการศึกษาและวุฒิภาวะ สูงพอที่จะไตร่ตรองและคิดได้ แต่กรณีนี้ไม่ได้มีกฎหรือข้อบังคับอะไรแจ้งให้รับรู้ก่อนหน้าเลย แถมการ์ดก็พูดจาแย่มากๆ หากเป็นเหตุการณ์ หอชายห้ามผู้หญิงเข้าหรือหอชายห้ามผู้เข้า เรายินดีปฏิบัติตามกฎเพราะ เหตุและผลไปด้วยกันกับข้อบังคับของสถานที่ ความสมควรของข้อบังคับถูกใช้อย่างถูกหลักมนุษยธรรม
ไม่ได้เรียกร้อง จะให้คน แบนไม่ไปสถานที่ดังกล่าวอีก เพราะก็มีเพื่อนเราหลายคนยังชอบไปอยู่ เราเข้าใจแต่เราจะไม่อยุ่นิ่งปล่อยให้เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คน ที่มีความสุขมากคนนึงเสียน้ำตาให้กับเรื่องราวแบบนี้หายไปง่ายๆ ค่ะ
"คุณคือคนที่ทำให้รอยยิ้มของคนคนนึงเปื้อนน้ำตาโดยไม่จำเป็น"
ปล.หากพิมพ์ผิดหรือ พลาดอะไรขออภัยด้วย และขอบคุณพื้นที่ดีดี ที่ให้สังคมวงกว้างให้รับรู้เรื่องราวประสบการณ์นี้ของ เรา เชื่อว่าผู้หญิงผู้ชายแท้ๆหรือเพศทางเลือกทุกคนลองคิดดูว่าหากเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับคุณบ้าง จะรู้สึกแย่แค่ไหน ใจเขาใจเราคะไม่ว่าเพศไหนก็มีจิตใจเหมือนกันนะคะ ....... ป๊อกกี้