ศาลเห็นควรเพิกถอนถ่าย "บอลโลก" ฟรีทีวีทุกแมตช์
ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นั่งพิจารณาคดี "อาร์เอส" ฟ้อง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ครั้งแรก เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 มกราคม 2557 โดยเห็นควรเพิกถอนคำสั่งถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ผ่านทางฟรีทีวีครบทุกแมตช์
ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ตุลาการเจ้าของสำนวนคดีที่ บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ครอบครองลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ได้ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เพื่อให้มีคำสั่งยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 หรือที่เรียกว่ากฎมัสต์ แฮฟ (Must Have) ที่บังคับให้การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทั้ง 64 นัด ต้องออกอากาศผ่านฟรีทีวีเท่านั้น และศาลฯ ได้นัดนั่งพิจารณาคดีเป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ นายสุพรรณ เสือหาญ ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้ครอบครองลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 กล่าวว่า วันนี้ (8 ม.ค. 57) ทางตุลาการเจ้าของสำนวนคดีดังกล่าวได้สรุปข้อเท็จจริงและประเด็นของคดีให้คู่กรณีที่มาศาลฟัง และทางตุลาการผู้แถลงคดีได้ชี้แจงด้วยวาจา ดังนี้
-ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 (ประกาศ) เป็นประกาศที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
-ประกาศแม้จะใช้กับผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ทั่วไป แต่ก็กระทบลิขสิทธิ์ของผู้ฟ้องคดี ในฐานะเป็นผู้รับลิขสิทธิ์จาก FIFA ซึ่งได้ทำสัญญาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2548 และได้ชำระค่าตอบแทนไปแล้ว ผู้ฟ้องคดีจึงเป็นผู้ได้รับความเสียหายตามประกาศ
-ผู้ฟ้องคดีต้องแจ้งแผนงานล่วงหน้า 6 เดือน ก่อนการแข่งขัน หากไม่สามารถปฏิบัติได้ อาจถูกยกเลิกการให้ลิขสิทธิ์ ผู้ฟ้องคดีจึงเป็นผู้เสียหาย และประชาชนอาจไม่ได้รับชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ประกาศจึงมีผลกระทบผู้ฟ้องคดีเรื่องลิขสิทธิ์
-ผู้ฟ้องคดีทำสัญญาก่อนที่จะมีประกาศ แม้ พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ พ.ศ. 2553 และพรบ.การประกอบกิจการกระจายเสียงฯ พ.ศ. 2551 ให้สิทธิหน่วยงานรัฐที่จะจำกัดสิทธิของบุคคลในทรัพย์สินได้ แต่การจำกัดสิทธิดังกล่าวไม่อาจมีผลย้อนหลังนิติกรรมซื้อลิขสิทธิ์ที่ผู้ฟ้องคดีได้ทำกับ FIFA ก่อนมีประกาศอีกทั้งประกาศไม่มีบทเฉพาะกาลที่จะคุ้มครองผู้ได้รับความเสียหายเพื่อให้ได้รับการเยียวยา
-หากผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมของประชาชน รัฐก็ควรเป็นผู้ซื้อและชำระค่าลิขสิทธิ์ มิใช่ให้เอกชนเป็นผู้ซื้อและชำระค่าลิขสิทธิ์ แล้วให้เอกชนถ่ายทอดเป็นสาธารณะ
-ตุลาการผู้แถลงคดีจึงเห็นว่าควรเพิกถอนประกาศฉบับนี้
ด้าน นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รับทราบคำแถลงการณ์ของตุลาการเจ้าของสำนวนฯ แล้ว แม้จะยังไม่ใช่คำตัดสินสิ้นสุดแต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี ที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อแนวทางบริหารลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่บริษัทฯ วางไว้
โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ตระหนักและคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลักเสมอ จึงเตรียมถ่ายทอดสดการแข่งขันครั้งนี้ผ่านทางฟรีทีวี 22 นัด อันได้แก่ ช่อง 7 และช่อง 8 ส่วนบางนัดที่สำคัญ เช่น พิธีเปิดหรือนัดชิงชนะเลิศจะถ่ายทอดสดพร้อมกันทั้ง 2 ช่อง และสำหรับผู้ที่ต้องการรับชมครบทั้ง 64 นัด ทางบริษัทฯ เตรียมจะเปิดช่องเฉพาะกิจชื่อช่อง เวิลด์ คัพ แชนแนล (World Cup Channel) ซึ่งจะสามารถรับชมผ่านทางกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียมต่างๆ ที่เข้ารหัสรับชมได้
ขอขอบคุณที่มา - ASTV ผู้จัดการออนไลน์ (Th)
ศาลเห็นควรเพิกถอนถ่าย "บอลโลก" ฟรีทีวีทุกแมตช์
ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นั่งพิจารณาคดี "อาร์เอส" ฟ้อง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ครั้งแรก เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 มกราคม 2557 โดยเห็นควรเพิกถอนคำสั่งถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ผ่านทางฟรีทีวีครบทุกแมตช์
ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ตุลาการเจ้าของสำนวนคดีที่ บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ครอบครองลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ได้ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เพื่อให้มีคำสั่งยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 หรือที่เรียกว่ากฎมัสต์ แฮฟ (Must Have) ที่บังคับให้การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทั้ง 64 นัด ต้องออกอากาศผ่านฟรีทีวีเท่านั้น และศาลฯ ได้นัดนั่งพิจารณาคดีเป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ นายสุพรรณ เสือหาญ ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้ครอบครองลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 กล่าวว่า วันนี้ (8 ม.ค. 57) ทางตุลาการเจ้าของสำนวนคดีดังกล่าวได้สรุปข้อเท็จจริงและประเด็นของคดีให้คู่กรณีที่มาศาลฟัง และทางตุลาการผู้แถลงคดีได้ชี้แจงด้วยวาจา ดังนี้
-ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 (ประกาศ) เป็นประกาศที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
-ประกาศแม้จะใช้กับผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ทั่วไป แต่ก็กระทบลิขสิทธิ์ของผู้ฟ้องคดี ในฐานะเป็นผู้รับลิขสิทธิ์จาก FIFA ซึ่งได้ทำสัญญาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2548 และได้ชำระค่าตอบแทนไปแล้ว ผู้ฟ้องคดีจึงเป็นผู้ได้รับความเสียหายตามประกาศ
-ผู้ฟ้องคดีต้องแจ้งแผนงานล่วงหน้า 6 เดือน ก่อนการแข่งขัน หากไม่สามารถปฏิบัติได้ อาจถูกยกเลิกการให้ลิขสิทธิ์ ผู้ฟ้องคดีจึงเป็นผู้เสียหาย และประชาชนอาจไม่ได้รับชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ประกาศจึงมีผลกระทบผู้ฟ้องคดีเรื่องลิขสิทธิ์
-ผู้ฟ้องคดีทำสัญญาก่อนที่จะมีประกาศ แม้ พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ พ.ศ. 2553 และพรบ.การประกอบกิจการกระจายเสียงฯ พ.ศ. 2551 ให้สิทธิหน่วยงานรัฐที่จะจำกัดสิทธิของบุคคลในทรัพย์สินได้ แต่การจำกัดสิทธิดังกล่าวไม่อาจมีผลย้อนหลังนิติกรรมซื้อลิขสิทธิ์ที่ผู้ฟ้องคดีได้ทำกับ FIFA ก่อนมีประกาศอีกทั้งประกาศไม่มีบทเฉพาะกาลที่จะคุ้มครองผู้ได้รับความเสียหายเพื่อให้ได้รับการเยียวยา
-หากผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมของประชาชน รัฐก็ควรเป็นผู้ซื้อและชำระค่าลิขสิทธิ์ มิใช่ให้เอกชนเป็นผู้ซื้อและชำระค่าลิขสิทธิ์ แล้วให้เอกชนถ่ายทอดเป็นสาธารณะ
-ตุลาการผู้แถลงคดีจึงเห็นว่าควรเพิกถอนประกาศฉบับนี้
ด้าน นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รับทราบคำแถลงการณ์ของตุลาการเจ้าของสำนวนฯ แล้ว แม้จะยังไม่ใช่คำตัดสินสิ้นสุดแต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี ที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อแนวทางบริหารลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่บริษัทฯ วางไว้
โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ตระหนักและคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลักเสมอ จึงเตรียมถ่ายทอดสดการแข่งขันครั้งนี้ผ่านทางฟรีทีวี 22 นัด อันได้แก่ ช่อง 7 และช่อง 8 ส่วนบางนัดที่สำคัญ เช่น พิธีเปิดหรือนัดชิงชนะเลิศจะถ่ายทอดสดพร้อมกันทั้ง 2 ช่อง และสำหรับผู้ที่ต้องการรับชมครบทั้ง 64 นัด ทางบริษัทฯ เตรียมจะเปิดช่องเฉพาะกิจชื่อช่อง เวิลด์ คัพ แชนแนล (World Cup Channel) ซึ่งจะสามารถรับชมผ่านทางกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียมต่างๆ ที่เข้ารหัสรับชมได้
ขอขอบคุณที่มา - ASTV ผู้จัดการออนไลน์ (Th)