สวัสดีค่ะเพื่อนห้องบลูทุกคน
เราเพิ่งไปญี่ปุ่นมาเมื่อตอนปลายปีค่ะกลับไทยมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (เราไป 17 ธค. 56 กลับ 1 มค 57)
เลยอยากมาตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์โดนเรียกสัมภาษณ์ในห้องเย็น(ไม่เย็นนะอุ่นมาก 555)
เราไปญี่ปุ่นครั้งนี้คือไปเพื่อเที่ยวค่ะ(แล้วก็มีดูคอนเสิร์ตด้วยเล็กน้อยค่ะ)
ก่อนเดินทางก็มีถามเพื่อนๆหลายคนที่เพิ่งไปมาช่วงหลังจากเค้ายกเว้นวีซ่าไปแล้วว่าน่ากลัวอะไรมั๊ย
ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ง่ายมากไม่ถามอะไรเลยสแกนเสร็จคือผ่านเลย
แต่เราเป็นคนที่ชอบเตรียมทุกอย่างไปให้พร้อม เพราะเคยไปฮ่องกงกับเพื่อนแล้วเพื่อนเข้าก่อนโดน ตม ถามยิบ
แต่ดีว่าเราปริ้นเอกสารทุกอย่างไปครบเลย เลยตอบคำถามได้หมด
มาถึงตอนผ่าน ตม. ญี่ปุ่นนะคะ
เราก็เข้าช่องปกติ แต่เราสังเกตว่าเจ้าหน้าที่เริ่มมีปัญหากับพาสปอร์ตเรา
เค้าเปิดไปเปิดมา พลิกดูนั่นนี่
เราเข้าใจว่าเค้าสงสัยเกี่ยวกับวีซ่าตอนปี 2011 ที่เคยขอไว้แล้วไม่ได้ใช้เพราะตอนนั้นเรื่องสึนามิเราเลยแคนเซิลทริป
ก็เลยอธิบายกับเค้าไป แล้วเค้าก็ให้เราสแกนนิ้วรอบที่ 2 แต่ก็ยังไม่ผ่าน
จนเค้าโทรเรียกเจ้าหน้าที่มาพาเราไปห้องนั่งรอ
(คนรอเป็นเพื่อนเพียบเลยค่ะ ทั้งฝรั่ง ทั้งอินเดีย 555)
นั่งรออยู่เกินครึ่งชั่วโมง คนอื่นที่เข้ามาก็พากันออกไป ก็เริ่มกังวลละ 555
สักพักก็มีเจ้าหน้าที่เอาเอกสารมาให้ตอบคำถาม
เป็นคำถามประมาณว่าเคยมาญี่ปุ่นมั๊ย มาอยู่เมื่อไหร่ถึงเมื่อไหร่
มาครั้งนี้มากี่วัน ไปไหนบ้าง พักที่ไหน ทำนองนี้ (ทุกอย่างมีภาษาไทยกำกับ)
พอตอบแบบสอบถามเสร็จเจ้าหน้าที่เค้าก็มาเก็บไปค่ะ อีกสักพักนึง(15 นาทีได้) เจ้าหน้าที่ก็มาเชิญเราไปอีกห้อง
ห้องนี้คือมีเจ้าหน้าที่ ญี่ปุ่นอยู่ค่ะ
เขาจะขอจะทำการสัมภาษณ์เรา และมีเครื่องโฟนอินเอาไว้ซึ่งต่อสายกับล่ามเพื่อให้การถามคำถามเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย
ซึ่งคำถามที่ได้มาเน้นหลักๆแบบนี้นะคะ
1.เคยเข้ามาญี่ปุ่นกี่ครั้ง
2.เคยเปลียนสัญชาติเป็นญี่ปุ่นมั๊ย(งงมากค่ะคำถามนี้)
3.ครั้งก่อนที่ขอวีซ่าไปทำไมถึงโดนปฏิเสธ (เราเคยขอมัลติเพิลแต่ยื่นเอกสารไม่ครบค่ะ พอไม่ผ่านเลยถอนเรื่องกลับ)
4.ครั้งที่แล้วที่ได้วีซ่า 6 เดือนมาทำอะไร
5.ตอนนี้มีอาชีพอะไร
6.มาเที่ยวกี่วัน พักที่ไหนบ้าง และทำอะไรบ้าง
นี่คือ 6 คำถามหลักๆที่โดนค่ะ
2 คำถามแรกนี่ตอบแบบงงมากค่ะ คือจะไปเปลี่ยนสัญชาติตอนไหน พาสปอร์ตก็แบบไทยชัดเจนมากๆ
คำถามที่ 3 >> เราคิดว่านี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สแกนไม่ผ่านค่ะ ครั้งนั้นเรามีเอกสารพอดีเลยลองขอดูไม่ได้คิดจะไปเที่ยวจริงจัง
แต่ดันลืมส่งใบเกิดแนบไปด้วย ด้วยความคิดว่าแค่ทะเบียนบ้านน่าจะพอ พอเรื่องไม่ผ่านเราเลยไม่ได้ขอวีซ่าธรรมดาต่อดึงเรื่องคืน
แต่เราก็อธิบายกับเจ้าหน้าที่เค้าไปนะคะว่าเอกสารเราส่งไม่ครบ เรื่องเลยไม่ผ่านแบบนี้
คำถามที่ 4 >> อันนี้โดนถามละเอียดมาก คือเราได้ทุน JASSO มาทำวิจัย 3 เดือน เจ้าหน้าที่ถามว่ามาทำอะไร
ถามว่าไปที่ไหน อยู่นานแค่ไหน ชื่อทุนอะไร แล้วพอกลับไปแล้วได้เข้ามาอีกมั๊ย แล้วได้วีซ่า 6 เดือนแต่ทำไมอยู่แค่ 3 เดือน
แต่เราก็ตอบไปเรื่อยๆทุกคำถามนะคะ อาจด้วยเพราะตอนนั้นเพลียมากและง่วงนอนจึงไม่มีอาการตื่นกลัวและตื่นเต้นใดๆทั้งสิ้น 555
คำถามที่ 5 >> อันนี้ก็บอกเค้าไปว่าเป็นนักศึกษาค่ะ เราเรียนระดับปริญญาโทอยู่ และเรียนที่ไหนอยู่
เอกสารเราขอไปจากไทยพร้อมค่ะเป็นใบรับรองความเป็นนิสิต
คำถามที่ 6 >> ถามว่ามากี่วันและไปไหนบ้าง เราก็ตอบไปว่า 15 วัน และบอกไปว่าจะไปที่ไหนบ้าง
เจ้าหน้าที่ก็ถามต่อค่ะว่าเหมือนเราอยู่แค่ 15 วันเราไปแค่นี้เองเหรอ
เราเลยต้องเอาตารางทริป(ที่ปริ้นเตรียมไว้)ให้เจ้าหน้าที่ดูว่าวันไหนไปไหนบ้าง
เจ้าหน้าที่ถึงได้ทราบว่าที่เราไปไม่เยอะเพราะแพลนเราคือดูคอนเสิร์ตไปแล้ว 4 วัน 555
เขาก็มีถามๆต่อนะคะว่าจะมาดูคอนเสิร์ตใครเหรอ พอบอกไปเค้าก็แอบขำๆ =_=
ตรงนี้เค้าขอดูพวกเอกสารการจองโรงแรมด้วยนะคะ แน่นอนว่าเรามีพร้อมค่ะ ^^
จริงๆเค้าขอดูบัตรคอนเสิร์ตด้วยนะคะ แต่เราบอกไปว่าอยู่ที่เพื่อนที่ญี่ปุ่น เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร
พอจบคำถามเรื่องคอนเสิร์ต(หรือจะผ่านมาได้เพราะความติ่ง)
เจ้าหน้าที่ก็เอาเอกสารมาให้เซ็นค่ะ แล้วก็อธิบายให้เราฟังว่า
เราอยู่ขั้นตอนนี้นะ และเขากำลังจะอนุญาตให้เราเข้าประเทศนะ
เราก็ขอบคุณเขาค่ะ แล้วก็เข้าประเทศญี่ปุ่นได้โดยสวิสดิภาพ ^__^
จากประสบการณ์นะคะ
อยากให้ทุกคนเตรียมเอกสารหลักๆไปให้พร้อมค่ะ
โดยเฉพาะ
1.ตั๋วเครื่องบินขากลับ (ปริ้นไปด้วยก็จะดีค่ะ)
2.เอกสารการจองที่พัก(ทางเจ้าหน้าที่ขอถ่ายเอกสารเก็บไว้ด้วยค่ะ)
3.แพลนท่องเที่ยว
4.เอกสารยืนยันตัวตน
เราไม่รู้ว่าคนที่โดนเรียกอาจจะเป็นเราในซักวันมั๊ย
อย่างเราเคยมีวีซ่า 6 เดือนนึกว่าจะผ่านสบายๆยังไม่ผ่านง่ายๆ
ดีที่ว่าเราเป็นคนชอบเตรียมเอกสารทุกอย่างติดตัวไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ เจ้าหน้าที่ทีสัมภาษณ์และเจ้าหน้าที่ที่ทำงานตรงนั้นทุกคนอัทธยาศัยดีหมดค่ะ
เขาถามอะไรมาเราก็ตอบไปตามความจริง อย่าตื่นเต้น อย่ากลัวค่ะ
ขอให้ทุกคนเที่ยวญี่ปุ่นกันชิลๆนะคะ
ประเทศนี้เที่ยวได้ตลอดจริงๆ ^__^
แชร์ประสบการณ์โดน ตม.ญี่ปุ่น เรียกเข้าห้องสัมภาษณ์
เราเพิ่งไปญี่ปุ่นมาเมื่อตอนปลายปีค่ะกลับไทยมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (เราไป 17 ธค. 56 กลับ 1 มค 57)
เลยอยากมาตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์โดนเรียกสัมภาษณ์ในห้องเย็น(ไม่เย็นนะอุ่นมาก 555)
เราไปญี่ปุ่นครั้งนี้คือไปเพื่อเที่ยวค่ะ(แล้วก็มีดูคอนเสิร์ตด้วยเล็กน้อยค่ะ)
ก่อนเดินทางก็มีถามเพื่อนๆหลายคนที่เพิ่งไปมาช่วงหลังจากเค้ายกเว้นวีซ่าไปแล้วว่าน่ากลัวอะไรมั๊ย
ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ง่ายมากไม่ถามอะไรเลยสแกนเสร็จคือผ่านเลย
แต่เราเป็นคนที่ชอบเตรียมทุกอย่างไปให้พร้อม เพราะเคยไปฮ่องกงกับเพื่อนแล้วเพื่อนเข้าก่อนโดน ตม ถามยิบ
แต่ดีว่าเราปริ้นเอกสารทุกอย่างไปครบเลย เลยตอบคำถามได้หมด
มาถึงตอนผ่าน ตม. ญี่ปุ่นนะคะ
เราก็เข้าช่องปกติ แต่เราสังเกตว่าเจ้าหน้าที่เริ่มมีปัญหากับพาสปอร์ตเรา
เค้าเปิดไปเปิดมา พลิกดูนั่นนี่
เราเข้าใจว่าเค้าสงสัยเกี่ยวกับวีซ่าตอนปี 2011 ที่เคยขอไว้แล้วไม่ได้ใช้เพราะตอนนั้นเรื่องสึนามิเราเลยแคนเซิลทริป
ก็เลยอธิบายกับเค้าไป แล้วเค้าก็ให้เราสแกนนิ้วรอบที่ 2 แต่ก็ยังไม่ผ่าน
จนเค้าโทรเรียกเจ้าหน้าที่มาพาเราไปห้องนั่งรอ
(คนรอเป็นเพื่อนเพียบเลยค่ะ ทั้งฝรั่ง ทั้งอินเดีย 555)
นั่งรออยู่เกินครึ่งชั่วโมง คนอื่นที่เข้ามาก็พากันออกไป ก็เริ่มกังวลละ 555
สักพักก็มีเจ้าหน้าที่เอาเอกสารมาให้ตอบคำถาม
เป็นคำถามประมาณว่าเคยมาญี่ปุ่นมั๊ย มาอยู่เมื่อไหร่ถึงเมื่อไหร่
มาครั้งนี้มากี่วัน ไปไหนบ้าง พักที่ไหน ทำนองนี้ (ทุกอย่างมีภาษาไทยกำกับ)
พอตอบแบบสอบถามเสร็จเจ้าหน้าที่เค้าก็มาเก็บไปค่ะ อีกสักพักนึง(15 นาทีได้) เจ้าหน้าที่ก็มาเชิญเราไปอีกห้อง
ห้องนี้คือมีเจ้าหน้าที่ ญี่ปุ่นอยู่ค่ะ
เขาจะขอจะทำการสัมภาษณ์เรา และมีเครื่องโฟนอินเอาไว้ซึ่งต่อสายกับล่ามเพื่อให้การถามคำถามเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย
ซึ่งคำถามที่ได้มาเน้นหลักๆแบบนี้นะคะ
1.เคยเข้ามาญี่ปุ่นกี่ครั้ง
2.เคยเปลียนสัญชาติเป็นญี่ปุ่นมั๊ย(งงมากค่ะคำถามนี้)
3.ครั้งก่อนที่ขอวีซ่าไปทำไมถึงโดนปฏิเสธ (เราเคยขอมัลติเพิลแต่ยื่นเอกสารไม่ครบค่ะ พอไม่ผ่านเลยถอนเรื่องกลับ)
4.ครั้งที่แล้วที่ได้วีซ่า 6 เดือนมาทำอะไร
5.ตอนนี้มีอาชีพอะไร
6.มาเที่ยวกี่วัน พักที่ไหนบ้าง และทำอะไรบ้าง
นี่คือ 6 คำถามหลักๆที่โดนค่ะ
2 คำถามแรกนี่ตอบแบบงงมากค่ะ คือจะไปเปลี่ยนสัญชาติตอนไหน พาสปอร์ตก็แบบไทยชัดเจนมากๆ
คำถามที่ 3 >> เราคิดว่านี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สแกนไม่ผ่านค่ะ ครั้งนั้นเรามีเอกสารพอดีเลยลองขอดูไม่ได้คิดจะไปเที่ยวจริงจัง
แต่ดันลืมส่งใบเกิดแนบไปด้วย ด้วยความคิดว่าแค่ทะเบียนบ้านน่าจะพอ พอเรื่องไม่ผ่านเราเลยไม่ได้ขอวีซ่าธรรมดาต่อดึงเรื่องคืน
แต่เราก็อธิบายกับเจ้าหน้าที่เค้าไปนะคะว่าเอกสารเราส่งไม่ครบ เรื่องเลยไม่ผ่านแบบนี้
คำถามที่ 4 >> อันนี้โดนถามละเอียดมาก คือเราได้ทุน JASSO มาทำวิจัย 3 เดือน เจ้าหน้าที่ถามว่ามาทำอะไร
ถามว่าไปที่ไหน อยู่นานแค่ไหน ชื่อทุนอะไร แล้วพอกลับไปแล้วได้เข้ามาอีกมั๊ย แล้วได้วีซ่า 6 เดือนแต่ทำไมอยู่แค่ 3 เดือน
แต่เราก็ตอบไปเรื่อยๆทุกคำถามนะคะ อาจด้วยเพราะตอนนั้นเพลียมากและง่วงนอนจึงไม่มีอาการตื่นกลัวและตื่นเต้นใดๆทั้งสิ้น 555
คำถามที่ 5 >> อันนี้ก็บอกเค้าไปว่าเป็นนักศึกษาค่ะ เราเรียนระดับปริญญาโทอยู่ และเรียนที่ไหนอยู่
เอกสารเราขอไปจากไทยพร้อมค่ะเป็นใบรับรองความเป็นนิสิต
คำถามที่ 6 >> ถามว่ามากี่วันและไปไหนบ้าง เราก็ตอบไปว่า 15 วัน และบอกไปว่าจะไปที่ไหนบ้าง
เจ้าหน้าที่ก็ถามต่อค่ะว่าเหมือนเราอยู่แค่ 15 วันเราไปแค่นี้เองเหรอ
เราเลยต้องเอาตารางทริป(ที่ปริ้นเตรียมไว้)ให้เจ้าหน้าที่ดูว่าวันไหนไปไหนบ้าง
เจ้าหน้าที่ถึงได้ทราบว่าที่เราไปไม่เยอะเพราะแพลนเราคือดูคอนเสิร์ตไปแล้ว 4 วัน 555
เขาก็มีถามๆต่อนะคะว่าจะมาดูคอนเสิร์ตใครเหรอ พอบอกไปเค้าก็แอบขำๆ =_=
ตรงนี้เค้าขอดูพวกเอกสารการจองโรงแรมด้วยนะคะ แน่นอนว่าเรามีพร้อมค่ะ ^^
จริงๆเค้าขอดูบัตรคอนเสิร์ตด้วยนะคะ แต่เราบอกไปว่าอยู่ที่เพื่อนที่ญี่ปุ่น เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร
พอจบคำถามเรื่องคอนเสิร์ต(หรือจะผ่านมาได้เพราะความติ่ง)
เจ้าหน้าที่ก็เอาเอกสารมาให้เซ็นค่ะ แล้วก็อธิบายให้เราฟังว่า
เราอยู่ขั้นตอนนี้นะ และเขากำลังจะอนุญาตให้เราเข้าประเทศนะ
เราก็ขอบคุณเขาค่ะ แล้วก็เข้าประเทศญี่ปุ่นได้โดยสวิสดิภาพ ^__^
จากประสบการณ์นะคะ
อยากให้ทุกคนเตรียมเอกสารหลักๆไปให้พร้อมค่ะ
โดยเฉพาะ
1.ตั๋วเครื่องบินขากลับ (ปริ้นไปด้วยก็จะดีค่ะ)
2.เอกสารการจองที่พัก(ทางเจ้าหน้าที่ขอถ่ายเอกสารเก็บไว้ด้วยค่ะ)
3.แพลนท่องเที่ยว
4.เอกสารยืนยันตัวตน
เราไม่รู้ว่าคนที่โดนเรียกอาจจะเป็นเราในซักวันมั๊ย
อย่างเราเคยมีวีซ่า 6 เดือนนึกว่าจะผ่านสบายๆยังไม่ผ่านง่ายๆ
ดีที่ว่าเราเป็นคนชอบเตรียมเอกสารทุกอย่างติดตัวไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ เจ้าหน้าที่ทีสัมภาษณ์และเจ้าหน้าที่ที่ทำงานตรงนั้นทุกคนอัทธยาศัยดีหมดค่ะ
เขาถามอะไรมาเราก็ตอบไปตามความจริง อย่าตื่นเต้น อย่ากลัวค่ะ
ขอให้ทุกคนเที่ยวญี่ปุ่นกันชิลๆนะคะ
ประเทศนี้เที่ยวได้ตลอดจริงๆ ^__^