ในตอนนี้เป็นวันเดียวกันที่เรย์จะเดินทางไปยังไฮฮ็อกก้า เหตุการณ์ย้อนกลับไปยังตอนเช้าอันเงียบสงบ ดังเช่นทุกๆวันธรรมดาของเหล่านักเรียน...
สายลมเอื่อยๆพัดอย่างแผ่วเบาล้อกับปีกนกกระจอกที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างอิสระเสรี ในวันที่เมฆสีขาวที่สีอ่อนละมุดดั่งปุยนุ่นลอยผ่านท้องฟ้าสีครามดั่งน้ำทะเลในตอนเช้า แสงแดดอ่อนๆทอลงมากระทบกับพื้นน้ำของน้ำพุรูปวงกลมกลางโรงเรียนไนท์เบลด
รูปปั้นของนักรบแห่งไนท์เบลดตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำพุอย่างสง่าผ่าเผย แสงแดดที่ทอลงมาสะท้อนผิวน้ำขึ้นมายังรูปปั้นแลดูเหมือนว่ารูปปั้นรูปนี้กำลังเปล่งประกายออร่าจากแสงพระอาทิตย์อยู่ก็ไม่ปาน
ประตูโรงเรียนสีขาวที่ดูสูงและแข็งแกร่งดั่งปราการที่แข่งกล้าเปิดต้อนรับเหล่าเด็กนักเรียนหนุ่มสาวทั้งหลาย ที่เดินเข้ามาภายในโรงเรียนอย่างไม่รีบร้อนอะไน สีแดงดังเพลิงที่ร้อนแรงจากชุดนักเรียนที่เดินเรียงรายกันตามทางเดินบนถนนคอนกรีต รวมไปถึงทางเดินและที่ต่างๆภายในโรงเรียน เสียงเจียวจาวดังอย่างไม่มีหยุดหย่อนของบรรดาเด็กนักเรียนที่กำลังนั่งพบปะพูดคุยกันตามจุดต่างๆของโรงเรียน หรือเล่นกันอยู่ที่ลานแสงมณีตามประสาของเด็กนักเรียนวัยรุ่นทั่วไปก่อนชั่วโมงแรกของคาบเรียนที่หนึ่งจะมาถึง เป็นยามเช้าของวันธรรมดาในทุกๆวันของโรงเรียนที่ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป... หรือเปล่า?!
ไม่มี!!
อะไรเนี่ย!!!
ไม่มี!!!
"ม่ายยยยยยยมี๊!!!!!!"
ภายในห้องเรียนของชั้นมัธยมปีที่ 4/1 อาคารเรียนที่สี่แห่งตึกวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนไนท์เบลดพรอนเทียร่าที่ดูแล้วน่าจะเงียบสงบ เมื่อเด็กนักเรียนน้อยคนนักทีจะขึ้นมารอเรียนกันในห้องเรียนตั้งแต่เช้า
แต่ในตอนนี้ความสงบกลับถูกทำลายลงไปด้วยน้ำเสียงสิบแปดหลอดของนักเรียนสาวที่ตัวค่อนข้างเล็ก ร่างอวบ ริบฝีปากเจ่อๆของเธอเผยอขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ ทำให้เห็นฝันกระต่ายขาวๆทั้งสองซี่ของเธอ แว่นสายตาเลนใสที่เจ้าตัวใส่อยู่สะท้อนกองหนังสือขนาดใหญ่ที่อยู่ในกระเป๋าเป๋นักเรียนหนาๆของเธอ หากคนที่มาเห็นกระเป๋าคู่ใจของเธอในตอนนี้ ก็ต้องคิดเหมือนๆกันแน่ว่า นี่เธอกำลังย้ายบ้านมาโรงเรียนใช่ไหม
ของชิ้นแล้วชิ้นเล่าที่เธอจับโยนออกนอกกระเป๋าอย่างไม่สบอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นกระดาษที่ม้วนๆกันเป็นลูกกลมๆ เศษถุงพลาสติกของขนมปัง ถุงใส่ปากกาก หรือแม้กระทั่งหนังสือนิยายเล่มโปรดของเธอ เพื่อที่เธอจะหาของบางให้พบ แต่ผลที่ตามมาคือเสียงกรี๊ดร้องอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมกับมือสองข้างที่เก่าหัวดังแครกๆจนผมยาวๆสีดำสรวยของเธอนั้นยุ่งไปหมด
"เป็นบ้าอะไรของเธอแต่เช้าเนี่ยซากิ!" เด็กสาวที่เป็นเจ้าของโต๊ะเลคเชอร์ซึ่งบนโต๊ะกำลังเต็มไปด้วยกองกระดาษด้วยฝีมือของคนข้างๆที่ขว้างมาอย่างไม่มีความสนใจใยดี ซึ่งในตอนนี้เธอก็มีอารมณ์ไม่ต่างจากคนที่ถูกเรียกชื่อจนหันควับมาซักเท่าไรนัก สายตาของเด็กเรียนส่องมองลอดออกมาผ่านแว่นตาที่เธอกำลังสวมใสอยู่ ซากิลุกพลวดขึ้นมาแล้วตรงเข้าไปดึงคอเสื้อเพื่อนสาวของเธอที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างแรง
"เป็นความผิดของเธอนั่นแหละ!! ยัยไม!!!"
ไม สาวน้อยตัวเล็กหน้าตาน่ารักด้วยแก้มที่อวบอิ่ม เพราะแก้มยุ้ยขาวๆกับไฝเม็ดเล็กๆที่แก้มของเธอ รวทไปถึงร่างเล็กๆตันๆของเธอนั้นทำให้เธอแลดูเหมือนกับเด็กมัธยมชั้นปีที่ 1 เลยทีเดียว สายตาอย่างไม่สบอารมณ์ของเด็กเรียนส่องลอดแว่นตาเลนใสเช่นเดียวกันกับเพื่อนสาวของเธอ
"อะไรเล่ายัยบ้า!" ไมว่าพลางปัดมือของซากิออกพร้อมกับปัดเลือนผมสีดำประบ่าของเธอ แต่ซากิก็ยังอาละวาดไม่เลิก เธอถอนหายใจฟ้อดใหญ่แล้วหันกลับไปที่กระเป๋าของเธอแล้วค้นกระเป๋าของเธออีกครั้งหนึ่ง
"ฉันหาหนังสือวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตประจำวันที่จะเรียนตอนคาบแรกไม่เจอ! เพราะเธอเอาไปซ่อนใช่มั๊ย! ยัยไมเน่า!!!" เธอหันมาตะหวาดใส่ไมอีกครั้งหนึ่ง
"ไม่ได้เอาไปเฟ้ย!! เธอลืมเอามาจากบ้านหรือเปล่า! แล้วอีกอย่างใครจะไปกล้ายุ่งกับของๆเธอกันเล่า!!" ไมหันมาพูดฉอดๆจนคนตรงหน้าฟังเกือบไม่ทัน แต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้ซากิอยากจะหยุดอาละวาดเลยแม้แต่น้อย
"โกหก!! เมื่อกี้หน้าของเธอยังบอกเลยว่า "สะใจ" อยู่เลยไม่ใช่หราาาา!!!" ซากิพูดแล้วทำท่าเลียนแบบท่าทางของไมอย่างที่เธอว่าในตอนนั้น ซึ่งเจ้าตัวที่กำลังถูกใส่ร้ายก็ไม่รู้เลยว่าเธอทำแบบนั้นไปตั้งแต่เมื่อไรกัน
"ไม่ใช่เฟ้ยยยยยยยยยยยย!!!!!"
สงครามสี่ตาของสองสาวยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด เสียงดังลั่นไปทั่วทั้งตึกที่สี่ จนแม้แต่เพื่อนร่วมห้องของพวกเธอที่แทบไม่อยากจะสนใจเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นกิจวัตรประจำวันคือการทะเลาะกันของพวกเธอ ก็ต้องหันมาติดตามชมสงครามเล็กๆว่ามันจะจบลงอย่างไร
แต่ถึงแม้ว่าเสียงของซากิจะดังขนาดไหนก็ตามแต่ก็ยังไม่ขนาหูของชายหนุ่มที่กำลังฟุบตัวหลับอยู่บนโต๊ะเลคเชอร์สีขาวของเขาน ใบหน้าหันข้างของเขาทำให้ดูเหมือนว่าคนๆนี้ช่างไร้เดียงสากะไร ทั้งๆที่จริงแล้วมันตรงกันข้ามกับที่กล่าวมาทั้งหมด เสียงกรนเล็กๆยังคงดังอยู่เงียบๆในที่ส่วนตัวของตัวเองอย่างนั้น เขาแอบขยับตัวเล็กน้อยเมื่อซากิที่อยู่โต๊ะหลังดูเหมือนว่าจะผลักตัวเองออกจากโต๊ะ จนขอบโต๊ะของตัวเองไปถูกหลังเก้าอี้ของคนที่กำลังนอนอยู่เล็กน้อย
"บอกแล้วไงว่าไม่ได้ทำ!! ไม่ได้ทำ!! ยัยบ้า!!!" ไมตวาดลั่น ซากิกำหมัดแน่นพร้อมกับแยกฟันกระต่ายของเธอออกมาอีกครั้งหนึ่ง
"ฉันไม่เชื่อ!!!!!"
"ได้โปรดรักษาความสงบกันด้วยค่ะ!"
น้ำเสียงที่ฟังดูเป็นทางการดังขึ้นมาทำให้สองสาวที่กำลังจ้องตาเขม่งใส่กันอยู่นั้นต้องหยุดสงครามชั่วขณะ แล้วหันไปยังต้นเสียงที่ดังขึ้นมาที่หน้าห้องเรียนของพวกเธอ สารวัตรนักเรียนสาวทั้งสามคนกำลังย่างก้าวเข้ามาในห้องด้วยท่าทางที่ดูเป็นระเบียบ เมื่อมองดูจากการเดินเอามือไพล่หลังอยู่ตลอดเวลาของพวกเธอแล้ว ปลอกแขนสีแดงขาวที่มีตราสัญลักษณ์ประสำโรงเรียนนั้น เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเธออยู่ในฐานะอะไรในโรงเรียนนี้
สารวัตรนักเรียนสาวคนหนึ่งค่อยๆเดินนำหน้าเข้ามาหาซากิและไมผู้ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ ใบหน้าเนียนขาวที่ดูงดงามแต่เยือกเย็น ดวงตาที่ดูเย็นชาและเข้มแข็งแสดงถึงความเคร่งครัดในกฏระเบียบเอามากๆ นัยน์ตาคู่นั้นกำลังจ้องมองไปยังเด็กสาวตัวเล็กทั้งสองคนตรงหน้าของเธออย่างดูน่ากลัวๆ
"เป็นอะไรกันน่ะ? คิดว่าเป็นเด็กประถมกันรึไง เสียงนี่ได้ยินไปถึงทางเดินข้างล่างเลย" เธอกล่าวด้วยท่าทีที่ดูนิ่งๆและมือของเธอยังคงไพล่หลังอยู่อย่างนั้น
"...เอ่อ ขอโทษคะ คิคาวะ ยูว์" ซากิบอกด้วยน้ำเสียงเจื่อนๆแล้วก้มหน้าสำนึกผิดในความผิดของตัวเอง
"ขอบคุณนะที่เรียกชื่อฉันแบบเต็มๆแต่ทีหลังไม่ต้อง..." ยูว์พูดสั้นๆห้วนๆ "พวกเธอคงรู้สินะว่าฉันเป็นใครที่นี่?"
"สารวัตรนักเรียน ใช่ไหมค่ะ..." แววตาสั่นระริกและใบหน้าซีดเซียวของทั้งสองสาว แสดงถึงความกลัวจากสารวัตรนักเรียนสาวตรงหน้าของพวกเธอในตอนนี้
"ถูกต้อง..." ยูว์เน้นทีละคำอย่างชัดเจนพร้อมกับสีหน้าที่ดูแสดงความมั่นอกมั่นใจมากๆของตัวเอง "พอมาพูดถึงเรื่องนี้แล้วฉันก็จะมีอะไรที่จะตักเตือนพวกเธออยู่เหมือนกันนะ ซากิ ไม"
"ผมข้างหน้าของเธอยาวเกินไปนะ..."
"ห๊า!" สองสาวอุทานขึ้นมาพร้อมๆกันแล้วก็ไม่วายเหลือบตาขึ้นไปมองผมยาวๆหน้าม้าของพวกเธอ แล้วจับผมของพวกเธอที่ดูแล้วก็ไม่ยาวเกินไปซักเท่าไรนัก
"แต่ผมเราก็ยาวไปนิดหน่อยเอง ไม่ถึงเซนเลยด้วยซ้ำ ที่เห็นว่ายาวคงเพราะเราทำผมหน้าม้าหรอกนะคะ"
"แล้วนั่นอะไรน่ะ โบว์สีชมพูของพวกเธอ กฏเขาห้ามใส่ที่คาดผมแฟชั่นมาโรงเรียนไม่ใช่เหรอ?" สายตาของยูว์มองไปยังโบว์ใหญ่ๆที่กับที่คาดผมที่อยู่กลางหัวของซากิและไม จนพวกเธอต้องรีบดึงมันออกมาอย่างลุกลนๆ
"แต่ว่าพวกเราใส่มันไว้แค่ตอนอยู่ในห้องเวลาพวกเราอ่านหนังสือเท่านั้นแหละนะ ไม่เห็นจะผิดกฏตรงไหนเลยนี่..." ซากิอธิบายให้คนตรงหน้าฟัง ซึ่งคนตรงหน้าเองก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยฟังคำอธิบายจากเธอซักเท่าไร ยูว์แสดงรอยยิ้มที่ดูเย็นชาออกมาแล้วกำลังจะพูดต่อ โดยไม่ได้สังเกตว่าคนข้างๆที่กำลังนอนฟุบตัวอยู่บนโต๊ะกำลังกำมือแน่นด้วยความคุ่นเคืองที่เสียงของเธอกำลังเข้าไปกระทบโสตประสาทหูของเขาในตอนนั้น
"แต่ยังไงพวกเธอก็ทำผิดอยู่ดี กฏก็ต้องเป็นกฏ มันผิดกฏเธอเองก็รู้ดีนี่ เพราะฉะนั้.น..."
- ปัง!!!!! -
"หนวกหูจริงเล๊ย!!!!"
เสียงตบโต๊ะดั่งลั่นจากชายหนุ่มที่เคยฟุบหน้านอนลงไปกับโต๊ะของตัวเอง จนทำให้คนในห้องนั้นตกใจถึงกับสะดุ้งขึ้นมากันหมด ในตอนนี้คนที่ลุกขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าที่ดูโมโหมากกับการที่มีคนเข้ามาขัดจังหวะการนอนที่แสนจะสุขสบายในยามเช้าของโรงเรียน ยูว์มองหน้าคนที่กำลังจ้องหน้าเธออย่างไม่สบอารมณ์ ถึงแม้เธอจะรู้สึกตกใจนิดๆแต่สีหน้าที่เรียบเฉยของเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยจากเดิมแม้แต่นิดเดียว
"รามูเนส?!" คนที่ถูกเรียกเลิกคิ้วขึ้นมาเมื่อเจอกับเพื่อนที่อยู่ในฐานะเดียวกัน รามูเนสพ่นลมหายใจที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวออกมาฟ๊อดใหญ่อย่างแรง
"อ๋อ ฝีมือเธอเองเหรอยูว์..." รามูเนสพยักหน้าช้าๆประหนึ่งเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด พร้อมกับยิ้มหยันเล็กน้อยออกมา
"อะไรกั๊นเธอ วันนี้บ้าอำนาจแต่เช้าเลยนะ"
"ว่าไงนะ..." เพราะคำพูดที่ฟังดูไม่เข้าหูคนฟังอย่างที่สุดของรามูเนส ทำให้ยูว์คิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจในทันที ส่วนสารวัตรนักเรียนอีกสองคนที่เหลือเห็นท่าว่าเพื่อนของพวกเธอจะมีปัญหาเลยเดินเข้ามาสมทบกับยูว์ แล้วก็ไม่วายพวกเธอก็เดินเอามือไพล่หลังมาอยู่ตลอดอีกด้วย เหมือนกับว่ามันเป็นกฏระเบียบอีกหนึ่งข้อของพวกเธอไปซะแล้ว
"แค่แหกกฏซักข้อสองข้อก็ไม่ได้ทำให้ใครตายซักหน่อย..." รามูเนสพูดแบบหน้ากวนอารมณ์แล้วเบนหน้าหนีสายตาที่ดูไม่เป็นมิตรจนน่ากลัวของยูว์สารวัตรนักเรียนสาวตรงหน้าของเขาไป ซากิและไมที่ยืนอยู่ข้างหลังรามูเนสเมื่อได้ยินประโยคของเพื่อนชายของเธอต่างก็รีบพยักหน้าสนับสนุนในความเห็นนั้น
"ทำแบบนี้คิดว่ามันสนุกนักเหรอ?" หางตาของรามูเนสค่อยๆขยับมาเพื่อสบตากับสายตาของยูว์ที่กำลังจ้องอยู่อย่างไม่ลดละ เช่นเดียวกับสายตาของเพื่อนของเธออีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอเหมือนกับกำลังคอยสนับสนุนเธออยู่อีกด้วยเช่นกัน
"หึ! จากมุมมองของฉัน คนอย่างนายไม่มีวันเข้าใจหรอก" เธอว่าพลางเดินเข้าไปใกล้รามูเนสให้มากขึ้นไปอีกประหนึ่งกำลังจะท้าทายชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเธอ
รามูเนสค่อยๆหันหน้ามาแล้วก็เดินเข้าไปให้ใกล้กับเธอให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกเช่นเดียวกัน ทำให้คนที่กำลังยืนดูเห็นว่าระดับสายตาของทั้งสองนั้นมันช่างต่างกันนัก เมื่อยูว์นักเรียนสาวที่ตัวไม่สูงมากต้องมาแหงนหน้ามองรามูเนสที่ตัวสูงกว่าเข้าเล็กน้อยแต่ก็มากอยู่
"คนอย่างเธอ! คนอย่างเธอนั่นเหรอยูว์ฉันไม่เคยคิดอยากจะเข้าใจเลย ผู้หญิงเห่ยๆแบบเธอที่ทำงานให้กับอาจารย์ใหญ่ซึงคุเพื่อหวังเกรดดีๆน่ะ"
เพราะคำพูดกระแทกกระทั้นของรามูเนสทำให้ทั้งเพื่อนสาวของเขาทำตาโตกับสีหน้าที่ดูตกใจมากในทันที เมื่อคำพูดของรามูเนสแฉเรื่องบางเรื่องของสารวัตรนักเรียนสาวที่อยู่ตรงหน้าของพวกเธอ
"ว่ายังไงนะ..." ใบหน้าเนียนใสของยูว์เริ่มจะเปลี่ยนสี ไม่ว่าใครๆที่กำลังมองอยู่ดูก็รู้ว่าตอนนี้เธอเริ่มจะรู้สึกโกรธขึ้นมานิดๆแล้ว "...อย่าคิดนะว่าคนที่คอยถือหางเอวินอย่างเธอจะทำอะไรตามใจชอบได้ซะทุกอย่าง!"
"ก็ยังดีกว่าคนที่บ้ากฏบ้าบออย่างเธอล่ะน่า!"
"หึยยยยยยยยยย"
เหมือนมีประจุไฟฟ้าซักแสนโวลที่ออกมาจากสายตาของทั้งสองคนที่กำลังขับเขี่ยวจ้องเขม่งอย่างไม่กระพริบตา ฟันของทั้งคู่ขบกันแน่นอย่างไม่มีใครคิดจะยอมใครจนทำให้คนกลางอย่างสาวแว่นทั้งสองคนต้องเข้าไปห้ามปรามพวกเขา
KP Warriors ตอนที่ 10 : เบื้องหลังแห่งผู้กล้า
สายลมเอื่อยๆพัดอย่างแผ่วเบาล้อกับปีกนกกระจอกที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างอิสระเสรี ในวันที่เมฆสีขาวที่สีอ่อนละมุดดั่งปุยนุ่นลอยผ่านท้องฟ้าสีครามดั่งน้ำทะเลในตอนเช้า แสงแดดอ่อนๆทอลงมากระทบกับพื้นน้ำของน้ำพุรูปวงกลมกลางโรงเรียนไนท์เบลด
รูปปั้นของนักรบแห่งไนท์เบลดตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำพุอย่างสง่าผ่าเผย แสงแดดที่ทอลงมาสะท้อนผิวน้ำขึ้นมายังรูปปั้นแลดูเหมือนว่ารูปปั้นรูปนี้กำลังเปล่งประกายออร่าจากแสงพระอาทิตย์อยู่ก็ไม่ปาน
ประตูโรงเรียนสีขาวที่ดูสูงและแข็งแกร่งดั่งปราการที่แข่งกล้าเปิดต้อนรับเหล่าเด็กนักเรียนหนุ่มสาวทั้งหลาย ที่เดินเข้ามาภายในโรงเรียนอย่างไม่รีบร้อนอะไน สีแดงดังเพลิงที่ร้อนแรงจากชุดนักเรียนที่เดินเรียงรายกันตามทางเดินบนถนนคอนกรีต รวมไปถึงทางเดินและที่ต่างๆภายในโรงเรียน เสียงเจียวจาวดังอย่างไม่มีหยุดหย่อนของบรรดาเด็กนักเรียนที่กำลังนั่งพบปะพูดคุยกันตามจุดต่างๆของโรงเรียน หรือเล่นกันอยู่ที่ลานแสงมณีตามประสาของเด็กนักเรียนวัยรุ่นทั่วไปก่อนชั่วโมงแรกของคาบเรียนที่หนึ่งจะมาถึง เป็นยามเช้าของวันธรรมดาในทุกๆวันของโรงเรียนที่ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป... หรือเปล่า?!
ไม่มี!!
อะไรเนี่ย!!!
ไม่มี!!!
"ม่ายยยยยยยมี๊!!!!!!"
ภายในห้องเรียนของชั้นมัธยมปีที่ 4/1 อาคารเรียนที่สี่แห่งตึกวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนไนท์เบลดพรอนเทียร่าที่ดูแล้วน่าจะเงียบสงบ เมื่อเด็กนักเรียนน้อยคนนักทีจะขึ้นมารอเรียนกันในห้องเรียนตั้งแต่เช้า
แต่ในตอนนี้ความสงบกลับถูกทำลายลงไปด้วยน้ำเสียงสิบแปดหลอดของนักเรียนสาวที่ตัวค่อนข้างเล็ก ร่างอวบ ริบฝีปากเจ่อๆของเธอเผยอขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ ทำให้เห็นฝันกระต่ายขาวๆทั้งสองซี่ของเธอ แว่นสายตาเลนใสที่เจ้าตัวใส่อยู่สะท้อนกองหนังสือขนาดใหญ่ที่อยู่ในกระเป๋าเป๋นักเรียนหนาๆของเธอ หากคนที่มาเห็นกระเป๋าคู่ใจของเธอในตอนนี้ ก็ต้องคิดเหมือนๆกันแน่ว่า นี่เธอกำลังย้ายบ้านมาโรงเรียนใช่ไหม
ของชิ้นแล้วชิ้นเล่าที่เธอจับโยนออกนอกกระเป๋าอย่างไม่สบอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นกระดาษที่ม้วนๆกันเป็นลูกกลมๆ เศษถุงพลาสติกของขนมปัง ถุงใส่ปากกาก หรือแม้กระทั่งหนังสือนิยายเล่มโปรดของเธอ เพื่อที่เธอจะหาของบางให้พบ แต่ผลที่ตามมาคือเสียงกรี๊ดร้องอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมกับมือสองข้างที่เก่าหัวดังแครกๆจนผมยาวๆสีดำสรวยของเธอนั้นยุ่งไปหมด
"เป็นบ้าอะไรของเธอแต่เช้าเนี่ยซากิ!" เด็กสาวที่เป็นเจ้าของโต๊ะเลคเชอร์ซึ่งบนโต๊ะกำลังเต็มไปด้วยกองกระดาษด้วยฝีมือของคนข้างๆที่ขว้างมาอย่างไม่มีความสนใจใยดี ซึ่งในตอนนี้เธอก็มีอารมณ์ไม่ต่างจากคนที่ถูกเรียกชื่อจนหันควับมาซักเท่าไรนัก สายตาของเด็กเรียนส่องมองลอดออกมาผ่านแว่นตาที่เธอกำลังสวมใสอยู่ ซากิลุกพลวดขึ้นมาแล้วตรงเข้าไปดึงคอเสื้อเพื่อนสาวของเธอที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างแรง
"เป็นความผิดของเธอนั่นแหละ!! ยัยไม!!!"
ไม สาวน้อยตัวเล็กหน้าตาน่ารักด้วยแก้มที่อวบอิ่ม เพราะแก้มยุ้ยขาวๆกับไฝเม็ดเล็กๆที่แก้มของเธอ รวทไปถึงร่างเล็กๆตันๆของเธอนั้นทำให้เธอแลดูเหมือนกับเด็กมัธยมชั้นปีที่ 1 เลยทีเดียว สายตาอย่างไม่สบอารมณ์ของเด็กเรียนส่องลอดแว่นตาเลนใสเช่นเดียวกันกับเพื่อนสาวของเธอ
"อะไรเล่ายัยบ้า!" ไมว่าพลางปัดมือของซากิออกพร้อมกับปัดเลือนผมสีดำประบ่าของเธอ แต่ซากิก็ยังอาละวาดไม่เลิก เธอถอนหายใจฟ้อดใหญ่แล้วหันกลับไปที่กระเป๋าของเธอแล้วค้นกระเป๋าของเธออีกครั้งหนึ่ง
"ฉันหาหนังสือวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตประจำวันที่จะเรียนตอนคาบแรกไม่เจอ! เพราะเธอเอาไปซ่อนใช่มั๊ย! ยัยไมเน่า!!!" เธอหันมาตะหวาดใส่ไมอีกครั้งหนึ่ง
"ไม่ได้เอาไปเฟ้ย!! เธอลืมเอามาจากบ้านหรือเปล่า! แล้วอีกอย่างใครจะไปกล้ายุ่งกับของๆเธอกันเล่า!!" ไมหันมาพูดฉอดๆจนคนตรงหน้าฟังเกือบไม่ทัน แต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้ซากิอยากจะหยุดอาละวาดเลยแม้แต่น้อย
"โกหก!! เมื่อกี้หน้าของเธอยังบอกเลยว่า "สะใจ" อยู่เลยไม่ใช่หราาาา!!!" ซากิพูดแล้วทำท่าเลียนแบบท่าทางของไมอย่างที่เธอว่าในตอนนั้น ซึ่งเจ้าตัวที่กำลังถูกใส่ร้ายก็ไม่รู้เลยว่าเธอทำแบบนั้นไปตั้งแต่เมื่อไรกัน
"ไม่ใช่เฟ้ยยยยยยยยยยยย!!!!!"
สงครามสี่ตาของสองสาวยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด เสียงดังลั่นไปทั่วทั้งตึกที่สี่ จนแม้แต่เพื่อนร่วมห้องของพวกเธอที่แทบไม่อยากจะสนใจเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นกิจวัตรประจำวันคือการทะเลาะกันของพวกเธอ ก็ต้องหันมาติดตามชมสงครามเล็กๆว่ามันจะจบลงอย่างไร
แต่ถึงแม้ว่าเสียงของซากิจะดังขนาดไหนก็ตามแต่ก็ยังไม่ขนาหูของชายหนุ่มที่กำลังฟุบตัวหลับอยู่บนโต๊ะเลคเชอร์สีขาวของเขาน ใบหน้าหันข้างของเขาทำให้ดูเหมือนว่าคนๆนี้ช่างไร้เดียงสากะไร ทั้งๆที่จริงแล้วมันตรงกันข้ามกับที่กล่าวมาทั้งหมด เสียงกรนเล็กๆยังคงดังอยู่เงียบๆในที่ส่วนตัวของตัวเองอย่างนั้น เขาแอบขยับตัวเล็กน้อยเมื่อซากิที่อยู่โต๊ะหลังดูเหมือนว่าจะผลักตัวเองออกจากโต๊ะ จนขอบโต๊ะของตัวเองไปถูกหลังเก้าอี้ของคนที่กำลังนอนอยู่เล็กน้อย
"บอกแล้วไงว่าไม่ได้ทำ!! ไม่ได้ทำ!! ยัยบ้า!!!" ไมตวาดลั่น ซากิกำหมัดแน่นพร้อมกับแยกฟันกระต่ายของเธอออกมาอีกครั้งหนึ่ง
"ฉันไม่เชื่อ!!!!!"
"ได้โปรดรักษาความสงบกันด้วยค่ะ!"
น้ำเสียงที่ฟังดูเป็นทางการดังขึ้นมาทำให้สองสาวที่กำลังจ้องตาเขม่งใส่กันอยู่นั้นต้องหยุดสงครามชั่วขณะ แล้วหันไปยังต้นเสียงที่ดังขึ้นมาที่หน้าห้องเรียนของพวกเธอ สารวัตรนักเรียนสาวทั้งสามคนกำลังย่างก้าวเข้ามาในห้องด้วยท่าทางที่ดูเป็นระเบียบ เมื่อมองดูจากการเดินเอามือไพล่หลังอยู่ตลอดเวลาของพวกเธอแล้ว ปลอกแขนสีแดงขาวที่มีตราสัญลักษณ์ประสำโรงเรียนนั้น เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเธออยู่ในฐานะอะไรในโรงเรียนนี้
สารวัตรนักเรียนสาวคนหนึ่งค่อยๆเดินนำหน้าเข้ามาหาซากิและไมผู้ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ ใบหน้าเนียนขาวที่ดูงดงามแต่เยือกเย็น ดวงตาที่ดูเย็นชาและเข้มแข็งแสดงถึงความเคร่งครัดในกฏระเบียบเอามากๆ นัยน์ตาคู่นั้นกำลังจ้องมองไปยังเด็กสาวตัวเล็กทั้งสองคนตรงหน้าของเธออย่างดูน่ากลัวๆ
"เป็นอะไรกันน่ะ? คิดว่าเป็นเด็กประถมกันรึไง เสียงนี่ได้ยินไปถึงทางเดินข้างล่างเลย" เธอกล่าวด้วยท่าทีที่ดูนิ่งๆและมือของเธอยังคงไพล่หลังอยู่อย่างนั้น
"...เอ่อ ขอโทษคะ คิคาวะ ยูว์" ซากิบอกด้วยน้ำเสียงเจื่อนๆแล้วก้มหน้าสำนึกผิดในความผิดของตัวเอง
"ขอบคุณนะที่เรียกชื่อฉันแบบเต็มๆแต่ทีหลังไม่ต้อง..." ยูว์พูดสั้นๆห้วนๆ "พวกเธอคงรู้สินะว่าฉันเป็นใครที่นี่?"
"สารวัตรนักเรียน ใช่ไหมค่ะ..." แววตาสั่นระริกและใบหน้าซีดเซียวของทั้งสองสาว แสดงถึงความกลัวจากสารวัตรนักเรียนสาวตรงหน้าของพวกเธอในตอนนี้
"ถูกต้อง..." ยูว์เน้นทีละคำอย่างชัดเจนพร้อมกับสีหน้าที่ดูแสดงความมั่นอกมั่นใจมากๆของตัวเอง "พอมาพูดถึงเรื่องนี้แล้วฉันก็จะมีอะไรที่จะตักเตือนพวกเธออยู่เหมือนกันนะ ซากิ ไม"
"ผมข้างหน้าของเธอยาวเกินไปนะ..."
"ห๊า!" สองสาวอุทานขึ้นมาพร้อมๆกันแล้วก็ไม่วายเหลือบตาขึ้นไปมองผมยาวๆหน้าม้าของพวกเธอ แล้วจับผมของพวกเธอที่ดูแล้วก็ไม่ยาวเกินไปซักเท่าไรนัก
"แต่ผมเราก็ยาวไปนิดหน่อยเอง ไม่ถึงเซนเลยด้วยซ้ำ ที่เห็นว่ายาวคงเพราะเราทำผมหน้าม้าหรอกนะคะ"
"แล้วนั่นอะไรน่ะ โบว์สีชมพูของพวกเธอ กฏเขาห้ามใส่ที่คาดผมแฟชั่นมาโรงเรียนไม่ใช่เหรอ?" สายตาของยูว์มองไปยังโบว์ใหญ่ๆที่กับที่คาดผมที่อยู่กลางหัวของซากิและไม จนพวกเธอต้องรีบดึงมันออกมาอย่างลุกลนๆ
"แต่ว่าพวกเราใส่มันไว้แค่ตอนอยู่ในห้องเวลาพวกเราอ่านหนังสือเท่านั้นแหละนะ ไม่เห็นจะผิดกฏตรงไหนเลยนี่..." ซากิอธิบายให้คนตรงหน้าฟัง ซึ่งคนตรงหน้าเองก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยฟังคำอธิบายจากเธอซักเท่าไร ยูว์แสดงรอยยิ้มที่ดูเย็นชาออกมาแล้วกำลังจะพูดต่อ โดยไม่ได้สังเกตว่าคนข้างๆที่กำลังนอนฟุบตัวอยู่บนโต๊ะกำลังกำมือแน่นด้วยความคุ่นเคืองที่เสียงของเธอกำลังเข้าไปกระทบโสตประสาทหูของเขาในตอนนั้น
"แต่ยังไงพวกเธอก็ทำผิดอยู่ดี กฏก็ต้องเป็นกฏ มันผิดกฏเธอเองก็รู้ดีนี่ เพราะฉะนั้.น..."
- ปัง!!!!! -
"หนวกหูจริงเล๊ย!!!!"
เสียงตบโต๊ะดั่งลั่นจากชายหนุ่มที่เคยฟุบหน้านอนลงไปกับโต๊ะของตัวเอง จนทำให้คนในห้องนั้นตกใจถึงกับสะดุ้งขึ้นมากันหมด ในตอนนี้คนที่ลุกขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าที่ดูโมโหมากกับการที่มีคนเข้ามาขัดจังหวะการนอนที่แสนจะสุขสบายในยามเช้าของโรงเรียน ยูว์มองหน้าคนที่กำลังจ้องหน้าเธออย่างไม่สบอารมณ์ ถึงแม้เธอจะรู้สึกตกใจนิดๆแต่สีหน้าที่เรียบเฉยของเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยจากเดิมแม้แต่นิดเดียว
"รามูเนส?!" คนที่ถูกเรียกเลิกคิ้วขึ้นมาเมื่อเจอกับเพื่อนที่อยู่ในฐานะเดียวกัน รามูเนสพ่นลมหายใจที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวออกมาฟ๊อดใหญ่อย่างแรง
"อ๋อ ฝีมือเธอเองเหรอยูว์..." รามูเนสพยักหน้าช้าๆประหนึ่งเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด พร้อมกับยิ้มหยันเล็กน้อยออกมา
"อะไรกั๊นเธอ วันนี้บ้าอำนาจแต่เช้าเลยนะ"
"ว่าไงนะ..." เพราะคำพูดที่ฟังดูไม่เข้าหูคนฟังอย่างที่สุดของรามูเนส ทำให้ยูว์คิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจในทันที ส่วนสารวัตรนักเรียนอีกสองคนที่เหลือเห็นท่าว่าเพื่อนของพวกเธอจะมีปัญหาเลยเดินเข้ามาสมทบกับยูว์ แล้วก็ไม่วายพวกเธอก็เดินเอามือไพล่หลังมาอยู่ตลอดอีกด้วย เหมือนกับว่ามันเป็นกฏระเบียบอีกหนึ่งข้อของพวกเธอไปซะแล้ว
"แค่แหกกฏซักข้อสองข้อก็ไม่ได้ทำให้ใครตายซักหน่อย..." รามูเนสพูดแบบหน้ากวนอารมณ์แล้วเบนหน้าหนีสายตาที่ดูไม่เป็นมิตรจนน่ากลัวของยูว์สารวัตรนักเรียนสาวตรงหน้าของเขาไป ซากิและไมที่ยืนอยู่ข้างหลังรามูเนสเมื่อได้ยินประโยคของเพื่อนชายของเธอต่างก็รีบพยักหน้าสนับสนุนในความเห็นนั้น
"ทำแบบนี้คิดว่ามันสนุกนักเหรอ?" หางตาของรามูเนสค่อยๆขยับมาเพื่อสบตากับสายตาของยูว์ที่กำลังจ้องอยู่อย่างไม่ลดละ เช่นเดียวกับสายตาของเพื่อนของเธออีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอเหมือนกับกำลังคอยสนับสนุนเธออยู่อีกด้วยเช่นกัน
"หึ! จากมุมมองของฉัน คนอย่างนายไม่มีวันเข้าใจหรอก" เธอว่าพลางเดินเข้าไปใกล้รามูเนสให้มากขึ้นไปอีกประหนึ่งกำลังจะท้าทายชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเธอ
รามูเนสค่อยๆหันหน้ามาแล้วก็เดินเข้าไปให้ใกล้กับเธอให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกเช่นเดียวกัน ทำให้คนที่กำลังยืนดูเห็นว่าระดับสายตาของทั้งสองนั้นมันช่างต่างกันนัก เมื่อยูว์นักเรียนสาวที่ตัวไม่สูงมากต้องมาแหงนหน้ามองรามูเนสที่ตัวสูงกว่าเข้าเล็กน้อยแต่ก็มากอยู่
"คนอย่างเธอ! คนอย่างเธอนั่นเหรอยูว์ฉันไม่เคยคิดอยากจะเข้าใจเลย ผู้หญิงเห่ยๆแบบเธอที่ทำงานให้กับอาจารย์ใหญ่ซึงคุเพื่อหวังเกรดดีๆน่ะ"
เพราะคำพูดกระแทกกระทั้นของรามูเนสทำให้ทั้งเพื่อนสาวของเขาทำตาโตกับสีหน้าที่ดูตกใจมากในทันที เมื่อคำพูดของรามูเนสแฉเรื่องบางเรื่องของสารวัตรนักเรียนสาวที่อยู่ตรงหน้าของพวกเธอ
"ว่ายังไงนะ..." ใบหน้าเนียนใสของยูว์เริ่มจะเปลี่ยนสี ไม่ว่าใครๆที่กำลังมองอยู่ดูก็รู้ว่าตอนนี้เธอเริ่มจะรู้สึกโกรธขึ้นมานิดๆแล้ว "...อย่าคิดนะว่าคนที่คอยถือหางเอวินอย่างเธอจะทำอะไรตามใจชอบได้ซะทุกอย่าง!"
"ก็ยังดีกว่าคนที่บ้ากฏบ้าบออย่างเธอล่ะน่า!"
"หึยยยยยยยยยย"
เหมือนมีประจุไฟฟ้าซักแสนโวลที่ออกมาจากสายตาของทั้งสองคนที่กำลังขับเขี่ยวจ้องเขม่งอย่างไม่กระพริบตา ฟันของทั้งคู่ขบกันแน่นอย่างไม่มีใครคิดจะยอมใครจนทำให้คนกลางอย่างสาวแว่นทั้งสองคนต้องเข้าไปห้ามปรามพวกเขา