Bonus รับปีใหม่ 2014 ...เชื้อ HIV!!!!!! เมื่อต้องมารู้ว่าติดเชื้อ ตอนปีใหม่..เป็นไปได้ไง ทั้งๆที่ใส่ถุงป้องกันตลอด????

**เรื่องจริงของเจ้าของกระทู้ ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่เพื่อนๆ ทั้งชายและหญิง ในยุค4จี ที่เรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องใกล้ตัว  และหาเซ็กซ์ได้ง่ายๆมาก ทั้งจากผับบาร์ทั้งหลาย และยังมีแอพแชทต่างๆไว้เสาะหาเพื่อนร่วมเตียงเคียงหมอน แบบทั้งชั่วคราว และค้างคืนตลอดไป แถมใครมีเงิน ก็ซื้อบริการจากอ อ น คาเกะ และเว็บไซต์ ได้ตะหาก** อัพเดท 15/1

ช่วงปีใหม่ ตั้งใจ จะไปบริจาคเลือดให้คุณย่า ที่กำลังป่วย
ปรากฎว่า หมอเรียกคุย บอกกับเราว่าเลือดมีปัญหา บริจาคไม่ได้แล้ว (เคยบริจาคมาแล้ว 8 ครั้ง) ...เพราะ มีเชื้อ HIV
T o T..... T  o T....

เป็นอะไรที่ทำให้อึ้ง และช๊อค เพราะ ตัวเองเป็นคนทีมีเซ็กซ์เมื่อไร (ซึ่งก็ไม่ได้บ่อยเลย --สรรหากิจกรรมเข้าจังหวะมาให้ตัวเดือนละ ครั้ง 2 ครั้ง ตามประสา คนโฉด เอ้ย โสด นิถือว่า บ่อยปะ อิอิ คนมีแฟน เขามีกินตับกันทุกวัน แทบทุกวันอะปะ ) เราก็ป้องกันอย่างดีใส่ถุงทุกครั้ง

ณ จุดนั้น ถามตัวเองซ้ำๆ " เฮ้ยยยยย... ไร้แว้ววววว ไรแว้  เป็นไปได้ไงแว้   ตูก้อใส่ถุงตลอดนิหว่าาาา"

หมอก็บอกว่า ถุงยางป้องกันโรคได้ แต่ก็ ไม่ได้ 100 เปอร์เซนต์  
***เหตุผลเพิ่มเติมว่า ใส่ถุง แล้วติดเชื้อได้ยังไง รบกวนดูข้อมูลด้านล่างที่อัพเดทแล้วจ้า (14/1/57)**

สรุปคือ ไม่ควรมีเซ้กซ์กับใครก็ตามที่เราไม่รู้จักดีพอ ว่าเขาปลอดภัยไหม ปลอดเชื้อไหม เพราะใส่ถุงยางก็ใช่ว่าจะป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์  แต่ลดความเสี่ยงไปได้เยอะมากๆๆๆๆๆ แต่เปอร์เซนต์พลาด มันก็มีอยู่ และตูก้ออาจเป็นหนุ่งในร้อยที่พลาดก้ได้  เหอๆ หุๆ งุงิ งุงิ

ย้อนนึกไปถึงคนที่เราไป featuring ติ๊ดชิ่ง ๆ ด้วย อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าตัว มีเชื้อ เพราะยังแข็งแรง ไม่มีอาการ และ คงไม่เคยไป ตรวจเลือดด้วยซ้ำ เพราะคิดว่า ตัวปลอดโรค ( คิดไปคิดมา พวกขายบริการ คงจะเซฟกว่าไหม เพราะเขาต้องตรวจเลือดตลอด และถ้ามีเคสพลาด เขาคงรู้ตัวและรีบทานยาต้านฉุกเฉิน ซึ่งช่วยได้)

มันคงเป็นเวรกรรม กรรมเก่า ที่ทำให้ เกิดเรืองแบบนี้ขึ้นกับชีวิต  ...ทั้งๆที่ป้องกัน ทุกครั้ง

ปีใหม่นี้ จะต้องปรับเปลี่ยนวิถีชิวิต ให้ตรงกันข้าม  เรียกว่าเปนจุดพลิกชิวิตก็ว่าได้ จากที่ลั้ลลา ๆๆ ตามแหล่งอโคจร จะเลิกดื่ม เลิกเที่ยวเตร่ เลิกเมา หันมาหลับแต่หัวค่ำ หมั่นออกกำลังกาย ให้ได้ทุกวัน เพื่อรักษาภูมิคุ้มกัน ไม่ให้ต่ำ จนเชื้อร้าย มาทำลายชิวิตเราให้ตายไปได้ และหันหน้าเข้าหาทางธรรมให้มากขึ้น หมั่นทำบุญ สร้างกุศล สวดมนต์ ทำสมาธิ ให้ใจสงบยิ่งขึ้น

ขอให้ทุกคนโชคดี และใช้ชิวิตอย่างมีสติ อย่าเมามันกับกามารมย์จนเกิดเริ่องแบบนี้ขึ้น.....
และถ้าทำได้ เลือกคู่ที่ดี ที่ปลอดโรค และซื่อสัตย์ต่อกันและกัน กับคนรักดีที่สุด ปลอดภัยมากแน่ๆ

.....ด้วยความเป็นห่วง  จาก คนที่พลาดไปแล้ว และพยายามอยู่สู้ชีวิตต่อไป จนกว่าชีวิตจะหาไม่

(แต่จะขอ ไฟต์โตะ ! Fighting! ไม่ยอมแพ้เชื้อร้ายนี้ ง่ายๆ หรอก จะรักษาตัวให้ดีๆ อยู่ให้ยาวๆ เลย คอยดู!)
-----------------------------

*** ขอขอบพระคุณเพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน ที่ให้กำลังใจดีๆ

  ขออวยพรให้ปีใหม่นี้ ทุกๆท่านอยู่ดีมีสุข สุขภาพแข็งแรง อยู่รอดปลอดภัย จากโรคร้าย ภัยอันตรายใดๆ ทั้งปวง  ขอให้ทุกท่านหมั่นทำความดี ทำบุญทำทาน และขอให้ บุญรักษา เทวดาคุ้มครอง ทุกท่านเทอญ****


-----------------------------

9 / 1 / 57

ก่อนอื่น ต้องขอขอบพระคุณเพื่อนๆ สมาชิกทุกๆท่านอย่างมากมายที่สุด สำหรับกำลังใจที่แสนวิเศษ มากๆๆๆ

ขอขอบคุณทุกๆท่าน อย่างมากมายจากใจเลยนะก๊าบบบบบ

ได้พูดคุยถึงความเป็นไปได้ของการติดโรคโดยอุบัติเหตุจากการใช้ถุงยาง คุยกับคุณหมอ

มันมัปัจจัยเสี่ยงได้หลายทาง (มากกว่าที่คิด โอว้ บระเจ๊า ก่อนหน้านี้ ไม่เคยรู้มาก่อน)
โดยเฉพาะหาก ถุงยางมีกาีร "แตก รั่ว หรือ หลวม หลุด "---ซึ่ง จขกท จำไม่ได้ว่าครั้งไหนมี รั่วไหม ถุงแตกนี่ไม่เคยแน่ๆ ถ้ามันแตกคงเห็น แต่หลวม หลุด มีบ้าง เนื่องจากบางครั้ง อวัยวะอ่อนตัวกลางคัน- -" ตามประสา ไก่อ่อน อิอิ

ถุงยางเป็นยางลาเทกซ์  ไม่ได้รับประกันการรั่วได้ 100 เปอรเซ้นต์ มีโอกาสที่จะรั่วได้ แม้รอยรั่วจะมองด้วยตาแทบไม่เห็น ถ้าแตกก็คงมองเห็นได้ แต่ถ่าเกิดรั่วเล็กๆ คงไม่ทันสังเกตุ
-บางครั้งก็เป็นตำหนิของตัวถุงเองทีมีจุดรั่วมากจากโรงงาน ที่โอกาสเจอมีน้อยมาก แต่ก็ยังมีโอกาส คนที่เจอถุงรั่วแบบนี้ คือดวงซวยแท้ๆ  (อาจเป็นเราด้วยก็ได้ เหอๆ)
-บางครั้งก็เิกิดจากการเสียดสีกับช่องคลอดหรือทวารหนักจนรั่วหรือแตก โดยเฉพาะหากช่องทางมันฝืดเข้ายาก เพราะขาดน้ำหล่อลื่นที่เพียงพอ
(ดังนั้น หนุ่ม ๆ ที่กระเหี้ยนกระหือรือทั้งหลาย โปรดทราบ อย่าตะบี้ตะบัน รีบยัดรีบสอด หาก ช่องน้อยแต่พอตัว มันแสนฝืด มันเข้าไปยาก ระวังถุงรั่ว นะเฟ้ยยยย)
- หรือ การใช้ถุงยางเป็นเวลานานจนเกินไป  (แบบตะบี้ตะบัน ไม่บันยะบันยัง ไม่เมตตาปราณี ไม่ใช้ลวด ไม่ใช้สลิง ของจริงเท่านั้นน ...เ้อ้ยยย นั่นมันโทนี่ จา  คนละเรื่องละ )จนมีการเสียดสีอย่างรุนแรงต่อเนื่อง ก็อาจทำให้เกิดการรั่วได้ จึงควรเปลี่ยนถุงใหม่ หากใช้ถุงเกิน 15-20 นาที (ข้อนี้ หลายคนอาจจะเป็น ภารกิจอันแสนยาวนานของท่าน อาจเป้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุทางการใช้ถุงได่ ขอบอก)
- อาจเผลอเอาเล็บมือไปบาดปลายถุงโดยบังเอิญ ตอนใส่ถุง หรือตอนกระทำอยู่
บางคนฉีกซองถุงยาง ใช้มือ ใช้กรรไกร แล้วไปโดนตัวถุงโดนไม่รู้

-บางคน ใส่ถุงยางช้า ก่อนใส่ถุงจริง เอาอวัยวะไปสัมผัสกับของอีกฝ่าย แม้จะแค่แหย่ๆปลายเข้าไปเล่นๆ เป็นน้ำจิ้มออเดิรฟ ก็เสี่ยงได้

-ใช้ถุง แต่ละครั้ง อย่าให้เล็กไป ใหญ่ไป หรือหมดอายุ ของมันเสีย ให้ดูดี ไม่งั้น ถุงฉีกรั่ว หลวม หลุด ได้ง่ายๆ บอกเลย!


ส่วนการที่ถุงหลุด หรือหลวมนั้น  เช่น
- อวัยวะชายเกิดอ่อนตัว จนถุงหลวม หรือหลุด ก็เป็นเหตุให้อวัยวะสัมผัสกับสารคัดหลั่ง และทำให้ติดโรคได้
ถ้าฝ่ายชายถึงสวรรค์แล้ว ให้รีบถอดถุงทันที เพราะอวัยวะจะอ่อนตัว และจะทำให้ถุงเกิดรั่ว หรือ หลวม จนน้ำเชื้อหลุดเข้าไปได้
- ถ้าอวัยวะชายอ่อนตัวลง ไม่ว่าหลังเสร็จแล้ว หรือ อ่อนตัวกลางคัน ให้รีบถอดถุง ขืนลุยต่อ หรือ แช่ไว้ อาจเสี่ยงกับการหลวม รั่ว หลุดได้

และถ้าจะถอดถุง ต้องเอามือจับตรงโคนสุดของถุง เอากระดาษทิชชู่จับโคนถุงแล้วรูดลง หรือเอามือเราล้วงเข้าข้างในถุง เพราะถ้ามีเชื้อ เชื้อจะติดอยู่รอบตัวถุงด้านนอก แล้วมือเราไปโดนอีก แล้วมา จับน้องชายน้องสาวตัวที่อาจมีแผลเล็กๆจากการเสียดสีโดยที่ไม่รู้ตัว ก้็จะเสี่ยงติดได้

**ณ จุดนี้ ก็ทำให้นึกได้ว่า บางครั้ง ตามประสาไก่อ่อน ก็มีอาการอ่อนตัวกลางคัน หรือไม่แข็งตัวเต็มที่ขณะปฏิบัติกิจ อยู่เหมือนกัน เลยต้องพักยก บิวด์ ต้องปั่นๆให้แข็งตัวเพื่อลุยต่อ โดยใช้ถุงเดิม ไม่เปลี่ยนถุง นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ถุงหลุดหลวม และสารคัดหลั่งก็ไหลเข้าไปได้...


เอาเป็นว่า ถุงยางนั้นดีมาก ช่วยป้องกันโรคได้มากๆแต่มันก็มีความเสี่ยงอยู่ ถ้าเกิดการหลุด รั่ว หรือ แตก ใช้ไม่ถูกวิธี  
และถ้าใช้ถุงอย่างถูกวิธี อัตราการแตกรั่วหลุดของถุงก็จะต่ำมากจนไม่มีเสี่ยงเลย และท่านจะปลอดภัย ไม่เหมือน จขกท. แง แง

**จึงขอให้ทุกท่านทั้งชายหญิง พึงระวังไว้ ให้ดีเถิดหนา
โดยเฉพาะ ถ้าเรายังไม่รู้จักตัวตนเขาดีพอ ว่าเขาปลอดเชื้อไหม ในปัจจุบันนี้ ยังมีคนอีกมาก ทั้งชายและหญิง ที่ติดเชื้อแล้วไม่รู้ตัว เพราะร่างกายยังแข็งแรง จึงไม่มีอาการ เลยไม่ร้ตัวว่าติดเชื้อและไม่ได้ตรวจเลือด เพราะคิดว่าตัวปลอดโรค และไปมีอะไรกับคนอื่นๆต่อไปเรื่อยๆ

***พึงตระหนักไว้ว่า ถ้าจะต้องมีอะไรกับคนที่เราไม่รู้จักดี ไม่รู้ผลตรวจเลือด ให้ถือว่า "มีความเสี่ยง" และถ้าจะเสี่ยง ก้อต้องทำใจยอมรับผลของความเสี่ยงนั้นให้ได้ **  

ขออวยพรให้ทุกๆท่าน ไ้ด้เจอะเจอคู่ครองที่ดี ที่รักและซื่อสัตย์กับท่าน และปลอดภัยจากโรคทางเพศสัมพันธ์

ขอให้ทุกๆท่าน จงมีแต่ความสุขกาย สุขใจ ร่ำรวยความดี ร่ำ่รวยความสุข และเงินทอง กันทุกคนเลยจ้าาาาา ม้วฟฟ ม้วฟฟฟ

---------------------------------------------------------

ปล.   เย็นนี้ จะไปฟังผลระดับภิมิคุ้มกัน CD4 ถ้ามีสูง ไม่ต่ำกว่า 200 ก็ยังไม่ต้องทานยาต้าน และถ้ารักษาสุขภาพให้ดีที่สุด รักษาระดับภูมิให้สูง ไปเรื่อยๆ ร่างกายแข็งแรง ก็ยังไม่ต้องทานยาต้าน...เราอยากเป็นคนนั้นที่จะไม่พึ่ง ยาต้าน แต่จะดูแลสุขภาพให้ดีไว้

สู้ๆๆ .... สู้ชิวิตกันต่อไป เราและท่านทุกคน..   ขอให้สุขสวัสดี จงมีแต่ท่านทุกคน เทอญ

----------------------------------------------------

-------------------------------


14 / 1/ 57

เจ้าของกระทู้ ขอกราบขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาส่งกำลังใจอย่างล้นหลาม ที่สุด ที่สุด ^ _ ^

ขอภาวนาให้ทุกๆท่านจงอยู่ดีมีสุข มีแต่ความสุขกายสุขใจ และมีแต่ความเจริญ ห่างไกลจากโรคร้ายภัยใดๆทั้งปวง อยู่รอดปลอดภัยกันทุกท่าน

จขกท ได้พบหมอแล้ว ระดับภิมิคุ้มกันของเรา อยู่ที่ 351 เซลล์ ซึ่งน่าจะถึงเกณฑ์ที่สามารถรับยาต้านได้ตามสิทธิประกันสังคม (เมื่อเท่ากับหรือน้อยกว่า 350 เซลล์)
แต่คุณหมอ ก็แนะนำว่า ยังไม่ต้องรับยาต้านก็ได้ แต่อยากให้เริ่มรักษาสุขภาพเพราะระดับภิมิ สามารถเพิ่มขึ้นได้ หากเราดูแลตัวเองให้ดีเข้าไว้ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายบ่อยๆ นอนพักให้เพียงพอ ไม่นอนดึก และเลิกเกี่ยวข้องกับเหล้ายาปล้าปิ้ง เอ้ย ปลาปิ้งทานได้ดี มีประโยชน์ เลิกของมึนเมาทั้งหลาย
แล้วอีก 3 เดือน มาดูกันว่า ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มหรือ ลด  ซึ่งถ้าเพิ่ม เราก็จะยืดเวลาที่จะเริ่มรับยาไปได้อีก บอกตรงๆ ว่าตอนนี้ ยังไม่อยากรับยาต้าน เพราะกลัวผลข้างเคียงจากยา แต่อยากรักษาสุขภาพให้ภิมิเพิ่มขึ้นดีขึ้น มากกว่า

เราเริ่มดูแลตัวเองแล้วนะ ตอนนี้ งดเที่ยวเตร่ งดเหล้า งดนอนดึก พยายามออกกำลังคาร์ดิโอ ให้ได้วันละ 30 นาที และหันหน้าเข้าหาธรรมะมากขึ้น มีสวดมนต์ ไหว้พระ ทำบุญ และพยายามทำสมาธิให้บ่อยให้ เพื่อเพิ่มความสงบให้จิตใจ

.....เราขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกท่าน ใช้ชิวิตอย่างคุ้มค่า อย่างมีสติ แต่อย่าประมาท อย่าเสี่ยงให้มันมากนัก โดยเฉพาะเรื่องเซ็กซ์
คนสมัยนี้ รู้หน้า หน้าใสๆ หน้าหวานๆ แต่ไม่รู้ใจ และ ไม่รู้ผลเลือด
รู้ไหม คนที่เราเจอ ตามที่เที่ยว ตามแอพแชท แบบ วีแชท แต่ละคนก็หน้าใสๆ หุ่นเซี๊ยะท้ังนั้น แล้วเป็นไง.. ก็ไม่รุสินะ ก็ไม่รู้สินะ.. ติดมาได้ เหอๆ

ถ้าจะต้องไปมีอะไรกับใคร ที่เราไม่รู้จักดีพอ กรุณาป้องกันให้ดี ด้วยถุงยางอนามัย ทุกครั้ง  และ**ใช้มันให้ถูกวิธี อย่าให้รั่ว แตก หลุด หลวม" มิเช่นนั้น อาจเจอแจ๊คพอต แบบเราได้นะ  บอกเลย!

อ้อ สาวๆ ที่จะทำ ออรัล ให้หนุ่่มที่เรายังไม่รู้ผลเลือด จงระวังด้วย เช็คให้ดีว่าปากมีแผลไหมถ้าให้ปลอดภัยใส่ถุงก่อนออรัลนะ เพราะถ้าออรัลสดๆแค่น้ำหล่อลื่นของผช ก็มีเชื้อนะ

ใส่ถุงยางอนามัยอย่างไรให้ปลอดภัยจากโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จากเว็บศูนย์วิจัยโรคเอดส์
http://th.trcarc.org/index.php?option=com_content&view=article&id=99:2013-09-02-02-29-36&catid=40:2013-07-23-10-53-31&Itemid=56

1.ดูวันเดือนปีหมดอายุหรือยัง ถ้าหมดอายุแล้วไม่ควรนำมาใช้
2.เลือกไซร์ตามขนาดของแต่ละบุคคล ซึ่งส่วนใหญ่คนไทยจะไซร์ 49 หรือ 52
3.เวลาฉีกซองถุงยางควรดันถุงยางลงมาอยู่ด้านใดด้านหนึ่งแล้วจึงฉีกไม่งั้นอาจฉีกโดนถุงยางขาดได้
4.ใส่ขณะอวัยวะเพศแข็งตัว โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อนซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและเป็น ที่ที่เก็บน้ำอสุจิ จากนั้นรูดให้สุดโคนอวัยวะเพศเพื่อจะได้ไม่หลุดขณะทำภารกิจ
5.ถ้าจะใช้สารหล่อลื่น ควรใช้สารหล่อลื่นที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน และห้ามใช้วาสลีนเด็ดขาด เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น
6.เมื่อเสร็จภารกิจแล้วควรใช้กระดาษทิชชูพันรอบโคนอวัยวะเพศแล้วรูดถุงยาง จากส่วนโคนลงมา จากนั้นทิ้งลงถังขยะให้เรียบร้อย และทำความสะอาดอวัยวะเพศ
7.ไม่ควรเก็บถุงยางในที่อากาศร้อนเป็นเวลานาน หรือเก็บใส่กระเป๋าด้านหลังกางเกงเวลานั่งจะทับถุงยางอาจทำให้เกิดการฉีดขาดได้

ขอให้ทุกท่านๆ และตัวเราเอง อยุ่ดี มีสุข สุขภาพแข็งแรง ยิ่งๆขึ้นไป กันทุกค