สพฐ.เสนอ ครม.กันงบประมาณปี 2556 ( ขอใช้เงินเพิ่ม 3,741 ล้านบาท ) ส่วนโซนระบุอื่น สพฐ. ระบุส่งช้าหน่อยเพราะ ไฟไหม้โรงงาน

07 มกราคม 2557 สพฐ.เสนอ ครม.กันงบประมาณปี 2556 ( ขอใช้เงินเพิ่ม 3,741 ล้านบาท ) ยื่นอุทธรณ์ของแท็บเล็ต โซน 3 กับสุพรีม // ส่วนโซนระบุอื่น สพฐ. ระบุส่งช้าหน่อยเพราะ ไฟไหม้โรงงาน

ประเด็นหลัก


       แหล่งข่าวจาก ศธ.อธิบายว่า แม้ในโซน 4 บริษัท จัสมินฯ จะจัดส่งแท็บเล็ตให้สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ แล้ว 200-300 เครื่อง แต่ก็เป็นการจัดส่งตามสัญญาที่ทำร่วมกับต้นสังกัด คือ กรมศิลปากร แต่ในส่วนสัญญาจัดซื้อจัดจ้างที่ทำกับ สพฐ.นั้นครบกำหนดจัดส่ง 90 วันเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่ง บ.จัสมินฯ ยังไม่สามารถจัดส่งเครื่องแท็บเล็ตกว่า 4 แสนเครื่องได้เพราะฉะนั้นต้องเข้าสู่กระบวนการปรับตามระเบียบ


อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 31 มี.ค. 2557 นั้น จะถือวันสิ้นสุดการใช้งบประมาณของปี 2556 แต่ สพฐ.ยังมีปัญหาเรื่องการจัดซื้อแท็บเล็ตของปีงบประมาณดังกล่าวที่ยังไม่เรียบร้อยเพราะบริษัทยังไม่สามารถจัดส่งแท็บเล็ตได้ตามกำหนด เพราะฉะนั้น สพฐ.จะเสนอต่อ ครม.เพื่อขอกันงบประมาณปี 2556 ในวงเงิน 3,741 ล้านบาทเศษไว้ก่อน เพื่อนำไปจัดซื้อแท็บเล็ตในส่วนที่เหลือ นอกจากนี้ ในส่วนที่คณะกรรมการบริการฯ มอบให้ สพฐ.ไปดำเนินการเรื่องการยื่นอุทธรณ์ของแท็บเล็ต โซน 3 นั้น ในวันนี้ (7 ม.ค.) ตนได้ลงนามในหนังสือแจ้งไปยังบริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ตามที่คณะกรรมการจัดซื้อฯมีมติให้ยกเลิกผลการประมูลและระบุในหนังสือว่าให้บริษัทสามารถยื่นอุทธรณ์มาได้ภายใน 30 วันนับจากวันออกหนังสือแจ้งดังกล่าว
    
       “สำหรับการจัดซื้อแท็บเล็ตใน 3 โซน คือ โซน 1, 2 และ 4 ซึ่งยังมีปัญหาว่าบริษัทที่ชนะการประมูลไม่สามารถจัดส่งแท็บเล็ตได้ เวลานี้ได้เดินหน้าปรับตามสัญญาแล้วส่วนจะยกเลิกสัญญา หรือให้ต่อสัญญาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตรวจรับของทั้ง 8 หน่วยงานที่จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ เพราะทั้ง บริษัท เซิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด ซึ่งชนะการประมูลโซน 1, 2 และบริษัท จัสมิน เทเลคอมซิสเต็มส์ จำกัด ซึ่งชนะประมูลในโซน 4 ได้ทำหนังสือแจ้งเหตุผลในการจัดส่งล่าช้าต่อหน่วยงานต่างๆ โดยมีเหตุผลเดียวกันคือ ไฟไหม้โรงงาน ซึ่งคณะกรรมการตรวจรับก็ต้องพิจารณาว่าเหตุผลดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัยหรือไม่อย่างไร และแจ้งต่อต้นสังกัด เพื่อนำมาหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารฯ ต่อไป ทั้งนี้ เพราะการจัดซื้อแท็บเล็ตมอบอำนาจให้ สพฐ.จัดซื้อรวม แต่แยกกันทำสัญญา” นายอภิชาติ กล่าว



http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9570000002187

______________________________________

เล็งขอกันงบ 56 ซื้อแท็บเล็ตอีก 3 พันล้าน ก่อนพ้นโค้งสุดท้ายขอเงิน ครม.



       “อภิชาติ” เผยแนวโน้มปี 57 อาจเสนอ ครม.อนุมัติซื้อแบบไม่ต้องอิงระเบียบว่าด้วยการพัสดุ โดยจะเร่งสรุปบทเรียน 2 ปีที่ผ่านมา และทำแนวทางเสนอบอร์ดแท็บเล็ตพิจารณา พร้อมเตรียมเสนอ ครม.ขอกันงบปี 56 กว่า 3 พันล้านบาท ซื้อแท็บเล็ตที่เหลือ ก่อนสิ้นสุดวันใช้งบฯ 31 มี.ค.57 ระบุ สพฐ.ส่งหนังสือแจ้ง “บ.สุพรีมฯ” แล้วให้ยื่นอุทธรณ์มติยกเลิกประมูลแท็บเล็ต โซน 3 ภายใน 30 วัน

เล็งขอกันงบ 56 ซื้อแท็บเล็ตอีก 3 พันล้าน ก่อนพ้นโค้งสุดท้ายขอเงิน ครม.
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

       วันนี้ (7 ม.ค.) นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ซึ่งมี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มารวบรวมข้อดีข้อเสียของการดำเนินงานจัดซื้อจัดหาแท็บเล็ต 2 ปีที่ผ่านมานั้น ในวันที่ 8 ม.ค.นี้ ตนจะประชุมสรุปบทเรียนของการจัดซื้อแท็บเล็ตปีงบประมาณ 2555 และปีงบฯ 2556 เพื่อเสนอแนวทางการจัดซื้อในปีงบฯ 2557 ที่ได้รับการจัดสรรงบฯมาแล้ว พร้อมทั้งทำร่างขอบเขตงาน หรือ ทีโออาร์แท็บเล็ตปีการศึกษา 2557 คาดว่าใช้เวลา 1 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ จากนั้นจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายฯ พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีการตั้งข้อสังเกตว่าการจัดซื้อแท็บเล็ตปีการศึกษา 2556 โดยใช้วิธีประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-ออกชัน ยังมีปัญหา ดังนั้นแนวโน้มในการจัดซื้อแท็บเล็ตปีการศึกษา 2557 กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อาจใช้วิธีการขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการจัดซื้อจัดหาโดยวิธีซึ่งไม่เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุ
    
       อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 31 มี.ค. 2557 นั้น จะถือวันสิ้นสุดการใช้งบประมาณของปี 2556 แต่ สพฐ.ยังมีปัญหาเรื่องการจัดซื้อแท็บเล็ตของปีงบประมาณดังกล่าวที่ยังไม่เรียบร้อยเพราะบริษัทยังไม่สามารถจัดส่งแท็บเล็ตได้ตามกำหนด เพราะฉะนั้น สพฐ.จะเสนอต่อ ครม.เพื่อขอกันงบประมาณปี 2556 ในวงเงิน 3,741 ล้านบาทเศษไว้ก่อน เพื่อนำไปจัดซื้อแท็บเล็ตในส่วนที่เหลือ นอกจากนี้ ในส่วนที่คณะกรรมการบริการฯ มอบให้ สพฐ.ไปดำเนินการเรื่องการยื่นอุทธรณ์ของแท็บเล็ต โซน 3 นั้น ในวันนี้ (7 ม.ค.) ตนได้ลงนามในหนังสือแจ้งไปยังบริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ตามที่คณะกรรมการจัดซื้อฯมีมติให้ยกเลิกผลการประมูลและระบุในหนังสือว่าให้บริษัทสามารถยื่นอุทธรณ์มาได้ภายใน 30 วันนับจากวันออกหนังสือแจ้งดังกล่าว
    
       “สำหรับการจัดซื้อแท็บเล็ตใน 3 โซน คือ โซน 1, 2 และ 4 ซึ่งยังมีปัญหาว่าบริษัทที่ชนะการประมูลไม่สามารถจัดส่งแท็บเล็ตได้ เวลานี้ได้เดินหน้าปรับตามสัญญาแล้วส่วนจะยกเลิกสัญญา หรือให้ต่อสัญญาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตรวจรับของทั้ง 8 หน่วยงานที่จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ เพราะทั้ง บริษัท เซิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด ซึ่งชนะการประมูลโซน 1, 2 และบริษัท จัสมิน เทเลคอมซิสเต็มส์ จำกัด ซึ่งชนะประมูลในโซน 4 ได้ทำหนังสือแจ้งเหตุผลในการจัดส่งล่าช้าต่อหน่วยงานต่างๆ โดยมีเหตุผลเดียวกันคือ ไฟไหม้โรงงาน ซึ่งคณะกรรมการตรวจรับก็ต้องพิจารณาว่าเหตุผลดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัยหรือไม่อย่างไร และแจ้งต่อต้นสังกัด เพื่อนำมาหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารฯ ต่อไป ทั้งนี้ เพราะการจัดซื้อแท็บเล็ตมอบอำนาจให้ สพฐ.จัดซื้อรวม แต่แยกกันทำสัญญา” นายอภิชาติ กล่าว
    
       เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ส่วนที่ บริษัท เซิ่นเจิ้น อิงถังฯ เสนอขอเปลี่ยนอุปกรณ์ประกอบแท็บเล็ต ได้แก่ ซองพลาสติก และอะแดปเตอร์แปลงไฟนั้น ไม่สามารถทำได้ โดยยืนยันจะต้องส่งของตามตัวอย่าง และสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้ ทั้งนี้ หากนักเรียนชั้น ป.1 และ ม.1 ไม่สามารถใช้แท็บเล็ตการในการเรียนได้ทันในปีการศึกษา 2556 นี้เมื่อเลื่อนชั้นไปเรียน ป.2 และ ม.2 แท็บเล็ตดังกล่าวก็จะตามตัวเด็กไปเพราะสามารถเปลี่ยนเนื้อหาในแท็บเล็ต เพื่อให้เด็กได้ใช้เรียนตามระดับชั้นได้
    
       แหล่งข่าวจาก ศธ.อธิบายว่า แม้ในโซน 4 บริษัท จัสมินฯ จะจัดส่งแท็บเล็ตให้สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ แล้ว 200-300 เครื่อง แต่ก็เป็นการจัดส่งตามสัญญาที่ทำร่วมกับต้นสังกัด คือ กรมศิลปากร แต่ในส่วนสัญญาจัดซื้อจัดจ้างที่ทำกับ สพฐ.นั้นครบกำหนดจัดส่ง 90 วันเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่ง บ.จัสมินฯ ยังไม่สามารถจัดส่งเครื่องแท็บเล็ตกว่า 4 แสนเครื่องได้เพราะฉะนั้นต้องเข้าสู่กระบวนการปรับตามระเบียบ

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9570000002187



ผมขอเปลื่ยนชื่อจาก So Magawn เป็น Magawn19 (มันมีความหมายว่าเริ่มเล่นพันทิปอายุ19ครับ) มีผลทุกช่องทางนะครับ รวมถึงคลังความรู้โทรคมนาคมและการสือสาร http://magawn19.blogspot.com/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่