′มาร์ค′เปิดพิมพ์เขียว ดัน 20 มาตรการแก้คอร์รัปชั่น หนุนปฏิรูปประเทศ

เมื่อวันที่ 7 มกราคม เวลา 13.30 น. ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. ได้จัดแถลงข่าว เปิดพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทย ในหัวข้อ "ขจัดคอร์รัปชั่น มุ่งมั่นปฏิรูป" มีแกนนำพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ประธานสถาบันออกแบบประเทศไทยและสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ เข้าร่วมรับฟัง


นายอภิสิทธิ์แถลงว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจว่า การเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้และประชาชนต้องการปฏิรูป โดยความจำเป็นต้องปฏิรูป เพราะการเมืองทุจริต เศรษฐกิจเหลื่อมล้ำ สังคมไม่เป็นธรรม โดยอำนาจและผลประโยชน์กระจุกตัว ซึ่งมีแนวทางที่ต้องปฏิรูป 7 ด้าน ได้แก่ 1.การขจัดทุจริตคอร์รัปชั่น 2.ปฏิรูปการเลือกตั้งที่เป็นธรรม 3.การปฏิรูประบบราชการและการกระจายอำนาจ 4.การปฏิรูปเศรษฐกิจ 5.การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปตำรวจ 6.ปฏิรูปการศึกษา และ 7.ปฏิรูปสื่อ ทั้งนี้ การทุจริตส่งผลให้ไทยไม่เป็นที่เชื่อถือและอันดับความโปร่งใสตกต่ำ ทำให้ขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศลดลง ซึ่งหลังจากนี้จะวิเคราะห์ปัญหารูปแบบการทุจริตมีอะไรบ้าง เพื่อเสนอมาตรการแก้ไข


นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการขจัดคอร์รัปชั่นนั้น พรรคขอเสนอ 4 ด้าน 20 มาตรการ คือ 1.ด้านปราบปราม ต้องแก้กฎหมายให้คดีไม่มีอายุความ ปรับกฎหมายให้เป็นสากล เพิ่มอำนาจ ป.ป.ช.ในการสืบสวน เพิ่มบทบาทสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และผู้ตรวจการแผ่นดิน และการตรวจสอบภาษีย้อนหลังนักการเมือง ผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานรัฐ 2.ด้านป้องกัน ต้องแก้กฎหมาย เช่น การร่าง พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ... และต้องแก้ไขเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง รวมทั้งการจัดระเบียบโฆษณาของรัฐ ที่มีการสนับสนุนงบประมาณการโฆษณาให้สื่อ ทั้งที่สื่อควรเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน จนทำให้สื่อหลายสำนักกลายเป็นสุนัขรับใช้ ห้ามเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมดำรงตำแหน่งในบอร์ดรัฐวิสาหกิจ


3.ด้านความโปร่งใส จัดให้มีข้อตกลงคุณธรรมในการจัดซื้อจัดจ้าง เพิ่มมาตรการเปิดเผยข้อมูลรัฐวิสาหกิจให้เทียบเท่ากับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมแก้กฎหมายข้อมูลข่าวสารทางราชการปี 2540 เพิ่มความเข้มข้นในการเปิดเผยข้อมูล ทรัพย์สินและผลประโยชน์ทางธุรกิจของผู้บริหารสูงสุดในภาครัฐ และ 4.ด้านการปลูกฝัง สนับสนุนให้งานวิจัยด้านคอร์รัปชั่น จัดตั้งกองทุนสนับสนุนการต่อต้านคอร์รัปชั่นภาคประชาชน ซึ่งทั้ง 20 มาตรการ 4 ด้าน เราพร้อมผลักดันเมื่อมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล และสัปดาห์หน้าจะแถลงด้านอื่นๆ อีก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายอภิสิทธิ์แถลงเสร็จ ได้เปิดคลิปภาพวีดิทัศน์โฆษณาเรื่องการเดินหน้าต่อต้านคอร์รัปชั่นและเดินหน้าปฏิรูปประเทศ โดยมีนายอภิสิทธิ์เป็นผู้เดินเรื่อง


จากนั้นเปิดให้ผู้เข้าฟังได้ซักถาม โดยมีการถามว่าพิมพ์เขียว ปชป.สามารถควบคุมฝ่ายนิติบัญญัติ เช่น เสียงข้างมากที่จะผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมได้ ซึ่งนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เชื่อว่ากฎหมายนิรโทษกรรมจะไม่สามารถออกได้ แต่หากรัฐบาลใหม่เข้ามาแล้วใช้เสียงข้างมากหยิบยกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ค้างอยู่ในสภา พรรคก็จะยืนยันว่ากฎหมายนี้ขัดรัฐธรรมนูญกว่า 20 มาตรา และพรรคก็เตรียมคำร้องไว้แล้ว

จากนั้นมีผู้สนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์เว้นวรรคไม่ลงเลือกตั้ง แต่เสนอให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคการเมืองอื่นยุติบทบาททางการเมือง 5 ปี เพื่อแสดงความจริงใจคืนอำนาจให้ประชาชน ซึ่งนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีคนเสนอหลายคนแล้ว แต่ตนเห็นว่าพรรคที่ไม่ได้ทำผิด จะให้เว้นวรรคคงไม่ถูกต้อง และทำไมจึงไม่เสนอให้พรรคที่ทำผิดยุติบทบาททางการเมือง และที่ผ่านมาไม่เห็นว่านักการเมืองที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ว่าแก้ปัญหาให้ประชาชนได้  

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1389084862&grpid=&catid=01&subcatid=0100
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่