ตำแยกิ่งเพชร (บทที่๒๑ต่อ + บทที่ ๒๒ )

กระทู้สนทนา
ลิงค์บทที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ทั้งหมดจากเด็กดี ก่อนลบ มค.57 นี้


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


                ก่อนอื่นขอสวัสดีวันเด็กนะครับ  ขอให้พาน้อง พาลูก พาหลานไปเที่ยวด้วยความสนุกครับ



        
  ต่อจากลิงค์เดิมครับ

           หลังจากเฝ้าไข้ลูกชายจนถึงช่วงสายของวัน ช่อแก้วก็ตรงไปที่คอนโดหรูของอรพินท์  หญิงวัยกลางคนเดินทางไปตามลำพัง เพราะต้องการปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เธออยากเคลียร์ทุกปัญหาทั้งในอดีตและปัญหาที่พึ่งเกิดขึ้นให้จบไปเสียในคราเดียวกัน ด้วยเกรงว่าหากปล่อยให้ยืดเยื้อ อาจส่งผลเสียต่อตัวเอง วันนี้จึงตัดสินใจขั้นเด็ดขาด แม้จะต้องตัดขาดความเป็นพี่น้องกับอรพินท์ เธอก็จะทำ!


    อรพินท์เปิดประตูต้อนรับพี่สาวด้วยสีหน้าสบายอกสบายใจ ท่าทีน้องสาวผู้ที่เคยมักจะทำตัวหงอและแสดงกิริยาเกรงอกเกรงใจอีกฝ่ายเปลี่ยนไป เธอวางมาดสง่าราวกับเป็นนางพญา แต่งเนื้อแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเน้นโทนสีหวานจัดกระชากวัย พรั่งพร้อมเครื่องประดับที่ขนมาประโคมใส่ตัว


     ผิดกับช่อแก้วเองที่ยามนี้เหมือนว่าความทุกข์ที่ต้องแบกไว้บนหลังไหล่จะทำให้ตัวเธอตัวหดเล็กลงกว่าเดิม สีหน้าดูอิดโรยเต็มไปด้วยริ้วรอย ช่อแก้วในวันนี้จึงดูราวกับว่ามีอายุเพิ่มขึ้นนับสิบปี


    “คุณแก้วไม่น่าลำบาก มาหาอรถึงนี่เลย ก็บอกแล้วไงคะ ว่าจะไปเยี่ยมเจ้านายที่โรงพยาบาล นั่งก่อนค่ะ เดี๋ยวอร จะหากาแฟ กับคุกกี้มาเสิร์ฟ” อรพินท์เชื้อเชิญ หากน้ำเสียงนั้นเจือความเย้ยหยันน้อยๆ



    “อย่ามาทำตีสองหน้ากับฉัน ทำเรื่องชั่วเอาไว้ นึกว่าฉันไม่รู้หรือยังไง คนอย่างเธอมันต้องถูกลากคอเข้าคุก ไปใช้ชีวิตเลวๆ ในนั้นเสียให้เข็ด” ช่อแก้วเป็นเดือดเป็นแค้นตั้งแต่คุยกับน้องสาวเมื่อคืนเกิดเหตุ อรพินท์เล่นลิ้นไม่ยอมตอบความจริง โดยเฉพาะต้นเหตุที่ทำให้มีบริบูรณ์ได้รับบาดเจ็บ



    กระทั่งมีผู้หวังดีส่งจดหมายลึกลับมาให้ช่อแก้ว   เนื้อความข้างในเล่าถึงเหตุการณ์ในคืนไฟไหม้โรงงาน เน้นสาเหตุที่มีบริบูรณ์ต้องเจ็บหนัก เมื่อช่อแก้วสอบถามจากแพทย์ก็พบว่า ศีรษะของลูกชายได้การกระทบกระเทือนอย่างแรง สาเหตุเป็นเพราะถูกตีด้วยของแข็ง ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่จดหมายฉบับนั้นเขียนถึง



    อรพินท์มองพี่สาวด้วยสายตาเหยียดหยาม ถึงเวลาที่เธอจะเหยียบช่อแก้วให้จมดิน สิ้นสุดกับการตกเป็นเบี้ยล่างด้วยเวลายาวนาน และมันก็คุ้มค่ายิ่งนัก เมื่อได้เห็นช่อแก้วพ่ายแพ้ต่อทุกสิ่งด้วยสายตาตนเอง


“ฟังคุณแก้วพูดเข้าสิคะ ยังไง เราก็ลงเรือลำด้วยกันตั้งแต่ต้น แทนที่จะขึ้นฝั่งพร้อมๆ กัน แต่คุณแก้วทำเหมือนกับว่า จะถีบหัวอรตกน้ำให้ตายเป็นผีไปก่อนอย่างนั้นละค่ะ” อรพินท์ทำสุ้มเสียงน่าหมั่นไส้  สายตาเธอก็วอกแวกคอยลอบมองไปยังระเบียงห้องซึ่งปิดผ้าม่านไว้อย่างมีพิรุธ



    “ถ้าบ้านเมืองไม่มีขื่อ มีแป ฉันคงจ้างคนมายิงหัวกะบาลเธอแล้ว! จะได้หายแค้น ที่กล้าคิดร้ายกับครอบครัวฉันแบบนี้!”


     “อุ้ย  พูดจาเลอะเทอะไปกันใหญ่ สงสัยเครียดมากจนขาดสติ รักษาสุขภาพบ้างนะคะ เดี๋ยวได้ล้มหมอนนอนเสื่อไปอีกคน แล้วอย่างนี้ใครจะดูแลเจ้านาย...”


    ได้ยินคำพูดที่ทิ่มแทงใจดำเช่นนั้น ช่อแก้วแทบจะเข้าไปฉีกทึ้งร่างอีกฝ่ายด้วยมือตนเอง ทว่าทำได้เพียงแค่คิดในใจ  เธอไม่เคยใช้กำลังตัดสินปัญหา และตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็ยืมมืออรพินท์ทำงานมาโดยตลอด


    “เหิมเกริมเหลือเกิน นังตัวดี คนอย่างแกมันก็พวกกินบนเรือนแล้วขี้บนหลังคา อีนังอสรพิษ!” ไฟแค้นในใจ ทำให้ช่อแก้วเปลี่ยนสรรพนามน้องสาว และหน้ากากที่สวมไว้ก็เปิดออกจนเห็นเนื้อในของเธอ  

            อรพินท์กำหมัดแน่น ข่มใจ ข่มสติอย่างหนัก แม้จะเอ่ยเสียงราบเรียบออกมา แต่แววตาเธอแทบจะมีไฟลุกโชนเผาพี่สาว “เห็นไหมคะ คุณแก้วพูดจาเปรอะไปทั่ว อรไม่อยากคุยด้วยแล้ว เดี๋ยวจะผิดใจกันไปเปล่าๆ”


    “ฉันหรือจะเข้าใจแกผิด ... แกจ้างคนไปเผาโรงงาน และยังให้พวกกเฬวรากทำร้ายเจ้านายอีก!”


    “โถ ไปฟังใครเขามาหรือคะถึงได้มาต่อว่าอรอย่างนี้ ก็บอกไปตั้งแต่เมื่อคืนก่อนแล้วว่ามันเป็นอุบัติเหตุทั้งจป. ทั้งตำรวจ ก็รายงานให้คุณอนันต์ทราบแล้วนี่คะว่าไฟฟ้าลัดวงจร ทำไมคุณแก้วยังไม่เชื่อ!” อรพินท์ส่ายหน้าน้อยๆ ประหนึ่งระอาพี่สาวเต็มทน


    “แกรวมหัวกับจป. สร้างหลักฐานเท็จ แล้วยัดเงินใต้โต๊ะ ผู้ใหญ่ในท้องถิ่นไปจนถึงตำรวจในพื้นที่ ทำไมฉันจะมองคนอย่างแกไม่ออก ในหัวคิดแต่ทำเรื่องเลวๆ สันดานลูกขี้ข้ามันติดตัวแกมาตั้งแต่เกิด!” ความแรงของถ้อยคำที่ช่อแก้วกล่าวหาไปถึงบุพพาการีอรพินท์ สร้างแผลใหญ่หลวงให้เธอ  ตลอดเวลาเธอเจียมเนื้อเจียมตนมาตลอด รู้ว่าเป็นลูกที่บิดาไม่ตั้งใจให้เธอลืมตามาดูโลก แต่ไม่เคยคิดท้อแท้ต่อโชคชะตา จะมีก็แต่ช่อแก้วที่คอยโขกสับ ตอกย้ำปมด้อยของเธอเรื่อยมา และพี่สาวคนนี้ยังยกตนไว้สูงส่ง  คือคนคอยออกคำสั่งชี้นิ้วให้เธอกระทำเรื่องผิดบาปต่อศีลธรรมมาโดยตลอด


    “ถ้าคุณแก้ว รู้ดีถึงขนาดสมมุติ สมเมเล่าได้เป็นฉากๆ อย่างนี้ อรจะแก้ตัวยังไงก็คงไม่เป็นผลใช่ไหมคะ เอาเถอะคะ อยากจะโทษอร ป้ายสีให้ผิดยังไงก็ตามใจ...แต่อย่าลืมนึกถึงเพชรเอกด้วย คุณแก้วมั่นใจหรือคะว่าไม่ได้เป็นแผนของเขา ที่คิดจะฮุบสมบัติทั้งหมดไว้คนเดียว”  อรพินท์พยายามสร้างเรื่องให้พี่สาวสับสน


    “เหลวไหล ฉันไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าเพชรเอกจะโง่พอที่จะเผาโรงงาน และทำร้ายน้องตัวเอง  แต่ถ้าเป็นแก ฉันจะไม่สงสัยสักนิด นังเลือดชั่ว!”  ช่อแก้วชี้หน้าน้องสาว


    “ตายละ คุณแก้วเห็นลูกคนอื่น ดีกว่าน้องแท้ๆ ของตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่” อรพินท์ระงับความฉุนเฉียวเอาไว้สุดกำลัง ข่มใจไม่ให้เต้นตามช่อแก้ว  “...อรอยากให้คุณแก้ว มองอีกด้านบ้าง จะมีใครบ้างที่จะยอมปล่อยทุกสิ่งที่สร้างมากลับให้หลุดลอยไปง่ายๆ  เจ้านายเป็นลูกรักมาตั้งแต่ไหนแต่ไร พ่อแม่ประเคนหาให้ทุกอย่าง แล้วลูกอีกคนที่เห็นแม่ตายไปต่อหน้า ถูกพรากทุกอย่างจากตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า คุณแก้วลองตรองดูสิว่า เพชรเอกจะสะสมความโกรธเกลียดต่อคุณแก้วมานานแค่ไหน  เขาจะบ้าพอที่ เผาโรงงาน และฆ่าน้องได้ไหม!”


    ช่อแก้วยอมรับว่าคำพูดน้องสาวทำให้ใจไขว้เขว ตั้งแต่เด็กเพชรเอกต่อต้านเธอมาตลอด และเขาก็ร้ายใส่เธออย่างไม่มีเหตุผล จะเป็นไปได้ไหมว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา  ความแค้นในใจเขาได้ระเบิดขึ้นแล้ว


    “ฉะ...ฉันไม่เชื่อแกหรอก คนอย่างแก ฉันไม่ควรจะให้โอกาสตั้งแต่แรก ถ้าย้อนเวลากลับได้ ฉันคงปล่อยให้อดตายอยู่ข้างถนน แต่ฉันมันใจอ่อน คิดว่าอย่างน้อยก็เป็นลูกพ่อคนนึง ถึงได้ช่วยเหลือเอาไว้”


    อรพินท์นึกสมเพชช่อแก้ว คนที่ลำพองตนว่าดีกว่าคนอื่นเสมอมา ไม่เคยคิดว่าตัวเองได้กระทำสิ่งผิดบาป
        ทั้งการแย่งสามีคนอื่น ด้วยการวางแผนชั่วร้าย ส่งผลให้พิกุลทองที่ป่วยใจตั้งแต่สามีมีใจออกห่าง ต้องทุกข์ทรมานทั้งกายและใจ และในที่สุดเธอก็ฆ่าตัวตาย ทิ้งให้ลูกชายต้องกำพร้าแม่


      “พูดอย่างนี้หมายความว่า คุณแก้วจะเอาตัวรอดคนเดียวอย่างนั้นหรือคะ  คนเรามันหนีบาปไม่ได้หรอก บาปมันจะติดตัวคุณแก้วไปจนวันตาย” อรพินท์โยนไฟเข้าใส่ใจช่อแก้ว



    “อย่ามาพูดจาพล่อยๆ มือฉันไม่เคยเปื้อนเลือดเหมือนแก” ช่อแก้วมีอาการคล้ายจะเป็นลม เธออดหลับอดนอนเพราะเฝ้าไข้ลูกชายหลายวัน อีกทั้งเครียดกับหลายสิ่งที่อดีตนั้นย้อนคืนมาให้ระลึกถึง...


    “แน่ใจหรือ แล้วเรื่องของพิกุลทองละ ทำให้เขาเจ็บช้ำจนฆ่าตัวตาย  เพราะใคร ถ้าไม่ใช่ฝีมือคุณแก้ว”



    “พิกุลทอง มันทำร้ายตัวเอง ไม่เกี่ยวกับฉัน แล้วคุณอนันต์ก็เลือกฉัน เข้าใจไหมว่าเขาทิ้งนังบ้านั่นมาหาฉันเอง!” ช่อแก้วโต้กลับปากคอสั่น ดวงหน้าหญิงสูงวัยแดงก่ำขึ้น


    “...ใช่ คุณแก้วไม่ได้แย่งคุณอนันต์มาจากพิกุลทอง แต่ทำลายครอบครัวเขาด้วยการยืมมือยืมตีนอร แล้วสร้างภาพว่าเป็นแม่เลี้ยงสุดประเสริฐ  แต่ในความจริงคุณแก้วเป็นพวกหน้าเนื้อใจเสือ ...คนดีอย่างคุณแก้ว ตายไปก็ตกกระทะทองแดง!”


    “นังอสรพิษ ไสหัวออกไปให้ไกลเลยนะ อย่าให้ฉันเห็นหน้าอีก คอยดูนะ คราวนี้ฉันสัญญาเลยว่าจะไม่ให้แกลืมตาอ้าปากได้ เงินทองที่เคยแอบเอาเข้ากระเป๋า โดยที่ฉันทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็นมาตลอด แกอย่าคิดว่าจะหยิบฉวยได้อีก คนอย่างแก หมดตัวเมื่อไหร่ ผู้ชายหน้าไหนมันก็ไม่เอา แก่ขนาดนี้ยังไม่เจียมตัว เห็นแล้วขยะแขยงเต็มทน!” ช่อแก้วรู้ถึงเรื่องคาวๆ ของอรพินท์มาโดยตลอด ตั้งแต่เลิกกับสามีเก่า เธอมีข่าวกับผู้ชายหลายคน และล่าสุดก็คือหนุ่มเจ้าของร้านอาหารคนนั้น  


    อรพินท์ได้ยินแบบพี่สาวต่อว่าตนแล้ว แทนที่จะโกรธหรือตอบโต้  เธอกับหัวเราะอย่างคนเสียสติ สาแก่ใจเหลือเกิน ที่ได้เปิดโปงความจริงทั้งของตนเองและช่อแก้ว และในจังหวะนั้นผ้าม่านซึ่งกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับระเบียงเลื่อนเปิดออก!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่