นิยาม "คนดี" ของชนชั้นล่าง (คนจน) กับ "คนดี" ของชนชั้นกลาง
นายแพทย์ ท่านนี้ ได้อธิบายได้ดีมากเลยนะครับ เกี่ยวกับมุมมอง การมอง "คนดี" ในฐานะทางสังคมที่แตกต่างกัน
"คนดีของคนจน"
...พูดถึงคุณอนันต์ ปัญญารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ท่านเองเคยออกมายอมรับว่าตอนท่านเปนนายกฯ ท่านดำเนินนโยบายบางอย่างผิดพลาด เพราะนโยบายของท่าน มักจะมุ่งไปดูแลแต่ชนชั้นกลางและชนชั้นบนเป็นหลัก โดยลืมชนชั้นล่างที่เปนคนส่วนใหญ่ของประเทศ ไปอย่างหมดสิ้น
...เพราะอะไร??
...เพราะตัวท่านเกิดมาอยู่กับสังคมชนชั้นบนเป็นหลัก ท่านไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าชนชั้นล่างนั้น เป็นใคร ทำมาหากินอะไร อยู่อย่างไร คิดอะไร ต้องการอะไร อยากได้อะไร
...คนชนชั้นล่าง หรือเรียกง่ายๆว่า "คนจน" คนจนไม่ได้อยากรวย คนจนเขาพอเพียงมาก คนจนเขาสมถะ คนจนอยู่อย่างไม่ฟุ่งเฟ้อ คนจนชอบเข้าวัดเข้าวา คนจนชอบแบ่งปัน
...สรุปแล้ว คนจนเขาไม่ได้อยากรวย คนจนเขาเพียง"แค่ต้องการพื้นที่ยืนในสังคมให้เขาบ้าง" เท่านั้นเอง
...มาพูดถึงบริบทของสังคมไทย ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศยังยากจนอยู่มาก ดังนั้น เขาไม่ได้มองอะไรแบบคนชนชั้นบนหรือชนชั้นกลางมองหรอกครับ คำว่า "คนดี" อะไรนั่น มันกินไม่ได้ มันจับต้องไม่ได้
...คนดี ในนิยามของคนจน คือคนที่ไม่ลืมเขา คนที่ไม่ทอดทิ้งเขา คนที่ช่วยทำให้เขามีที่ยืนบนสังคมนี้ได้บ้าง เขานิยามคนนั้นว่าคนดี
...ในอดีต นักการเมืองคนแล้วคนเล่า ตอนหาเสียงนั้นบอกจะให้อย่างนั้น จะให้อย่างนี้ ถึงเวลาที่คนจนเลือกไป สุดท้ายคนจนกลับฝันสลายเสมอ
...แต่เมื่อวันหนึ่งมีปรากฎการณ์ ที่นักการเมืองสัญญาว่าจะให้ และให้จริงจัง ย่อมเป็นฮีโร่ของคนจนเป็นธรรมดา!!!!
...หากเวลาผ่านไป บริบทของสังคมมันเปลี่ยน คนจนน้อยกว่าคนรวยเมื่อไร ความต้องการของคนส่วนใหญ่มันถึงจะเปลี่ยนไป นิยามของคำว่า "ความดี" มันถึงจะเปลี่ยนไป
...ปัจจุบัน คนชนชั้นกลางเริ่มเยอะขึ้น มีเงินเดือนประจำ เริ่มมีบ้าน เริ่มมีรถ ใช่ เริ่มมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย นิยามของคำว่า "คนดี" จึงเปลี่ยนเป็นใครก็ได้ ไม่ต้องเก่ง ไม่ต้องทำอะไรเป็นก็ได้ ไม่ต้องมาให้อะไรฉันก็ได้ แค่รักประเทศ รักโลก รักสิ่งแวดล้อม โลกสวยไปวันๆก็พอ เพราะชีวิตฉันดีอยู่แล้ว แต่......
...ยังใช้ไม่ได้กับบริบทของความเป็นจริงของประเทศไทยในปัจจุบัน
...คนดีของคนรวย กับคนดีของคนจน มันจึงต่างกัน
...หากคุณเกิดมาบนกองเงินกองทอง อธิบายให้ตายก็ไม่มีวันเข้าใจ
สำหรับผม ครอบครัวผมที่มี ปู่ย่าเป็นชาวไร่ ตายายเป็นชาวนา แม่ผมก็เป็นแม่ค้าขายผักหาบเร่ ผมจึงเข้าใจจริงๆว่าเวลาจน มันจนยังไง
เวลานอนหลับในหน้าร้อน หลังคาสังกะสีดีดเปี๊ยะๆมันร้อนขนาดไหน
เวลาหน้าหนาวมันหนาวจับใจยังไง
หากคุณไม่เคยสัมผัส คุณก็ยังไม่มีวันเข้าใจคำว่า "คนดีของคนจน" หรอกครับ!!!!
ด้วยความเคารพในทุกความเห็นต่าง
นพ.ธนภัทร์ พงษ์ไพบูลย์
มุมมอง "คนดี" ระหว่างชนชั้นล่างกับชนชั้นกลาง ในสังคมไทย
นายแพทย์ ท่านนี้ ได้อธิบายได้ดีมากเลยนะครับ เกี่ยวกับมุมมอง การมอง "คนดี" ในฐานะทางสังคมที่แตกต่างกัน
"คนดีของคนจน"
...พูดถึงคุณอนันต์ ปัญญารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ท่านเองเคยออกมายอมรับว่าตอนท่านเปนนายกฯ ท่านดำเนินนโยบายบางอย่างผิดพลาด เพราะนโยบายของท่าน มักจะมุ่งไปดูแลแต่ชนชั้นกลางและชนชั้นบนเป็นหลัก โดยลืมชนชั้นล่างที่เปนคนส่วนใหญ่ของประเทศ ไปอย่างหมดสิ้น
...เพราะอะไร??
...เพราะตัวท่านเกิดมาอยู่กับสังคมชนชั้นบนเป็นหลัก ท่านไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าชนชั้นล่างนั้น เป็นใคร ทำมาหากินอะไร อยู่อย่างไร คิดอะไร ต้องการอะไร อยากได้อะไร
...คนชนชั้นล่าง หรือเรียกง่ายๆว่า "คนจน" คนจนไม่ได้อยากรวย คนจนเขาพอเพียงมาก คนจนเขาสมถะ คนจนอยู่อย่างไม่ฟุ่งเฟ้อ คนจนชอบเข้าวัดเข้าวา คนจนชอบแบ่งปัน
...สรุปแล้ว คนจนเขาไม่ได้อยากรวย คนจนเขาเพียง"แค่ต้องการพื้นที่ยืนในสังคมให้เขาบ้าง" เท่านั้นเอง
...มาพูดถึงบริบทของสังคมไทย ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศยังยากจนอยู่มาก ดังนั้น เขาไม่ได้มองอะไรแบบคนชนชั้นบนหรือชนชั้นกลางมองหรอกครับ คำว่า "คนดี" อะไรนั่น มันกินไม่ได้ มันจับต้องไม่ได้
...คนดี ในนิยามของคนจน คือคนที่ไม่ลืมเขา คนที่ไม่ทอดทิ้งเขา คนที่ช่วยทำให้เขามีที่ยืนบนสังคมนี้ได้บ้าง เขานิยามคนนั้นว่าคนดี
...ในอดีต นักการเมืองคนแล้วคนเล่า ตอนหาเสียงนั้นบอกจะให้อย่างนั้น จะให้อย่างนี้ ถึงเวลาที่คนจนเลือกไป สุดท้ายคนจนกลับฝันสลายเสมอ
...แต่เมื่อวันหนึ่งมีปรากฎการณ์ ที่นักการเมืองสัญญาว่าจะให้ และให้จริงจัง ย่อมเป็นฮีโร่ของคนจนเป็นธรรมดา!!!!
...หากเวลาผ่านไป บริบทของสังคมมันเปลี่ยน คนจนน้อยกว่าคนรวยเมื่อไร ความต้องการของคนส่วนใหญ่มันถึงจะเปลี่ยนไป นิยามของคำว่า "ความดี" มันถึงจะเปลี่ยนไป
...ปัจจุบัน คนชนชั้นกลางเริ่มเยอะขึ้น มีเงินเดือนประจำ เริ่มมีบ้าน เริ่มมีรถ ใช่ เริ่มมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย นิยามของคำว่า "คนดี" จึงเปลี่ยนเป็นใครก็ได้ ไม่ต้องเก่ง ไม่ต้องทำอะไรเป็นก็ได้ ไม่ต้องมาให้อะไรฉันก็ได้ แค่รักประเทศ รักโลก รักสิ่งแวดล้อม โลกสวยไปวันๆก็พอ เพราะชีวิตฉันดีอยู่แล้ว แต่......
...ยังใช้ไม่ได้กับบริบทของความเป็นจริงของประเทศไทยในปัจจุบัน
...คนดีของคนรวย กับคนดีของคนจน มันจึงต่างกัน
...หากคุณเกิดมาบนกองเงินกองทอง อธิบายให้ตายก็ไม่มีวันเข้าใจ
สำหรับผม ครอบครัวผมที่มี ปู่ย่าเป็นชาวไร่ ตายายเป็นชาวนา แม่ผมก็เป็นแม่ค้าขายผักหาบเร่ ผมจึงเข้าใจจริงๆว่าเวลาจน มันจนยังไง
เวลานอนหลับในหน้าร้อน หลังคาสังกะสีดีดเปี๊ยะๆมันร้อนขนาดไหน
เวลาหน้าหนาวมันหนาวจับใจยังไง
หากคุณไม่เคยสัมผัส คุณก็ยังไม่มีวันเข้าใจคำว่า "คนดีของคนจน" หรอกครับ!!!!
ด้วยความเคารพในทุกความเห็นต่าง
นพ.ธนภัทร์ พงษ์ไพบูลย์