เห็นหลายกระทู้ว่าถ้าปิดกรุงเทพ จะใช้ความรุนแรงขับรถชนบ้าง ปาประทัดใส่บ้าง เอาอุจาระปาบ้าง เอาก้อนอิฐก้อนหินปาบ้าง
วิธีการเหล่านี้ไม่มีผลดีต่อใครเลย เพราะว่าถ้าใครชนะก็เป็นการได้มาด้วยเลือด มาแบบนักเลง มาแบบกุ๊ย ขึ้นไปปกครองเขาไม่ได้หรอก
ทำไมไม่ทำให้ม็อบนี้รู้ถึงความเท่าเทียมกันของทุกอาชีพ คนเราไม่ได้เก่งกันทุกเรื่องต้องอาศํยซึ่งกันและกัน แต่ละคนเก่งไม่เหมือนกัน ดังนั้นการที่มีการปฏิรูปอะไรก็ตามต้องให้เกียรติคนทุกสาขาอาชีพ ไม่ใช่เอาแต่พวกนั่งห้องแอร์ทำงานเอกสารเข้าไปปกครองเพราะไม่รู้ถึงความเป็นอยู่จริงๆ ของแต่ละคน
เคยเห็น
คนทำสวนดอกไม้หรือคนเดินป่าไหมครับ เขาต้องเจอกับ ผึ้งต่อแตน ต่อยเอา
คนทำสวนผลไม้ ก็เจอกับ หนอน บุ้ง หรือแม้แต่มดคันไฟ มดตะนอย
ชาวประมง คนขนปลา วันๆ อยู่กับปลาเน่าๆ ขับรถก็อาจมีเมือกปลา ขับแล้วรถแฉลบเข้าข้างทางก็มี
คนเลี้ยงหมู ชาวนา วันๆ ต้องจมอยู่กับปลักกับโคลน ทั้งเหม็นทั้งติดตัว
คนเดินป่าหาของป่า อาจจะกับ งูเหลือม งูหลาม หรืองูต่าง บางครั้งก็มีทั้งปลิงทั้งทากติดตามตัว
คนตัดหน่อไม้ ก็เจอขุยไผ่บ้าง ใบไผ่บางคันตามตัวยิบๆ
พ่อครัว แม่ครัว ต้องอยู่หน้าเตาไฟทุกวัน ทำกับข้าวเหม็นๆ บางครั้งถึงกับสำลักควัน เช่นผัดกะเพราะหรือคั่วพริก
คนตามชนบทห่างไกลทุรกันดาร เวลาเดินทางบางที ถนนก็มีดินถล่ม ทางขาด มีก้อนหินขวาง เดินทางกันไม่ได้
แล้วการที่จะเอานักวิชาการมาบอกว่าคนพวกนี้ไม่มีสิทธิเท่าพวกเขาหรอกเพราะเขาฉลาดกว่า ถ้าไม่มีคนเหล่านั้นเขาจะมีกินมีใช้อยู่อย่างสบายอย่างนี้หรือ ลองให้เขาไปสัมผัสดูก็ได้นะครับ เพื่อจะเปลี่ยนใจกัน
แล้วคุณคิดว่าอาชีพอื่นๆ ที่ถูกดูถูกว่าไม่เท่าเทียมกันมีอะไรอีกบ้าง
ปิดกรุงเทพวันที่ 13 อยู่ให้โง่หรือจะฆ่ากันให้ตาย
วิธีการเหล่านี้ไม่มีผลดีต่อใครเลย เพราะว่าถ้าใครชนะก็เป็นการได้มาด้วยเลือด มาแบบนักเลง มาแบบกุ๊ย ขึ้นไปปกครองเขาไม่ได้หรอก
ทำไมไม่ทำให้ม็อบนี้รู้ถึงความเท่าเทียมกันของทุกอาชีพ คนเราไม่ได้เก่งกันทุกเรื่องต้องอาศํยซึ่งกันและกัน แต่ละคนเก่งไม่เหมือนกัน ดังนั้นการที่มีการปฏิรูปอะไรก็ตามต้องให้เกียรติคนทุกสาขาอาชีพ ไม่ใช่เอาแต่พวกนั่งห้องแอร์ทำงานเอกสารเข้าไปปกครองเพราะไม่รู้ถึงความเป็นอยู่จริงๆ ของแต่ละคน
เคยเห็น
คนทำสวนดอกไม้หรือคนเดินป่าไหมครับ เขาต้องเจอกับ ผึ้งต่อแตน ต่อยเอา
คนทำสวนผลไม้ ก็เจอกับ หนอน บุ้ง หรือแม้แต่มดคันไฟ มดตะนอย
ชาวประมง คนขนปลา วันๆ อยู่กับปลาเน่าๆ ขับรถก็อาจมีเมือกปลา ขับแล้วรถแฉลบเข้าข้างทางก็มี
คนเลี้ยงหมู ชาวนา วันๆ ต้องจมอยู่กับปลักกับโคลน ทั้งเหม็นทั้งติดตัว
คนเดินป่าหาของป่า อาจจะกับ งูเหลือม งูหลาม หรืองูต่าง บางครั้งก็มีทั้งปลิงทั้งทากติดตามตัว
คนตัดหน่อไม้ ก็เจอขุยไผ่บ้าง ใบไผ่บางคันตามตัวยิบๆ
พ่อครัว แม่ครัว ต้องอยู่หน้าเตาไฟทุกวัน ทำกับข้าวเหม็นๆ บางครั้งถึงกับสำลักควัน เช่นผัดกะเพราะหรือคั่วพริก
คนตามชนบทห่างไกลทุรกันดาร เวลาเดินทางบางที ถนนก็มีดินถล่ม ทางขาด มีก้อนหินขวาง เดินทางกันไม่ได้
แล้วการที่จะเอานักวิชาการมาบอกว่าคนพวกนี้ไม่มีสิทธิเท่าพวกเขาหรอกเพราะเขาฉลาดกว่า ถ้าไม่มีคนเหล่านั้นเขาจะมีกินมีใช้อยู่อย่างสบายอย่างนี้หรือ ลองให้เขาไปสัมผัสดูก็ได้นะครับ เพื่อจะเปลี่ยนใจกัน
แล้วคุณคิดว่าอาชีพอื่นๆ ที่ถูกดูถูกว่าไม่เท่าเทียมกันมีอะไรอีกบ้าง