เมื่อวันที่ 2 ม.ค.57 ผมซึ่งปกติพักอาศัยอยู่กับภรรยาที่บ้านของแม่ยาย ในระหว่างเดินทางกลับถึงบ้านแม่ยายในตอนเย็นหลังเลิกงานพร้อมภรรยา(บ้านแม่ยายเป็นบ้านเดี่ยว อยู่ในหมู่บ้าน และพี่ชายภรรยาและเมียเขาไม่ได้พักอาศัยในบ้านหลังนี้) พี่ชายภรรยาและเมียเขาได้ดักจอดรถรออยู่ด้านนอกรั้วบ้านห่างออกไปจากตัวรั้วบ้านประมาณ50เมตร  เมื่อผมขับรถเข้าจอดในโรงรถ และเดินเข้าภายในบ้านแล้ว พี่ชายภรรยาได้เดินตามหลัง(ในขณะที่รั้วบ้านซึ่งแม่ยายผมกำลังปิดประตูรั้วยังปิดไม่สนิท) และตรงเข้ามาชกผมจากด้านหลังที่ต้นคอ 3 ครั้ง และชักดาบยาวประมาณเมตรตรงเข้ามาจะฟันผม แต่ภรรยาผมขัดขวาง ผมรีบวิ่งขึ้นห้องด้านบนบ้าน แม่ยายและพ่อตาพยายามดึงมือของพี่ชายภรรญาไว้ และแย่งดาบไป หลังจากนั้นพี่ชายภรรยาได้เรียกเมียเขาเอากระเป๋าปืนที่อยู่ในรถเขาเข้ามาในบ้านและส่งกระเป๋าปืนให้พี่ชายภรรยา พี่ชายภรรยาเอาปืนออกจากกระเป๋า หมายจะตรงขึ้นไปยิงผมแต่พ่อตาแม่ยายช่วยกันดึงมือไว้และดันตัวออกไปทางประตูบ้าน หลังจากนั้นพี่ชายภรรยาและเมียเขาได้ขับรถวนเวียนอยู่หน้าบ้านซัก1ชั่วโมงและพยายามจะเข้ามาในบ้านอีกครั้งแต่ไม่สำเร็จ จึงล่าถอยไป (ปกติพี่ชายภรรยาและเมียเขาไม่ทำมาหากิน ไม่มีอาชีพ และมาขอเงินกับแม่ยายเพื่อใช้จ่ายอยู่เป็นประจำ ประกอบกับเขาทั้งสองคนกลัวแม่ยายยกสมบัติให้ภรรยาผมและผม อีกทั้งพี่ชายภรรยาและเมียเขาชอบสะสมปืน ซื้อปืนถูกต้องแต่ไม่มีใบอนุญาตพกปืน นอกจากนี้พี่ชายภรรยาเคยมีคดีเอาปืนขู่แท็กซี่ที่จอดรถขวางทางจนเป็นคดีความมาแล้วเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว) วันต่อมาพี่ชายภรรยาได้ประกาศว่าหากผมและภรรยามาขายของที่ร้านในตลาดเขาจะยิงให้ตาย (ซึ่งร้านที่ผมและภรรยาขายของในตลาดนี้เป็นร้านชื่อของภรรยาผมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และอยู่ติดกับร้านของแม่ยาย)
ขอปรึกษาท่านผู้เชี่ยวชาญข้อกฏหมายดังนี้ครับ
1.ผมสามารถแจ้งความพี่ชายภรรยาข้อหาพยายามฆ่า ทำร้ายร่างกายและบุกรุกได้ไหมครับ
2.ผมสามารถแจ้งความเมียของพี่ชายภรรยาข้อหาสมรู้ร่วมคิดพยายามฆ่า ทำร้ายร่างกายและบุกรุกได้ไหมครับ เนื่องจากเป็นคนถือกระเป๋าปืนและส่งให้กับพี่ชายภรรยา
3.สามารถแจ้งความข้อหาอื่นใดเพิ่มเติมได้อีกไหมครับ
4.อัตราโทษครับ
5.กระบวนการเมื่อไปแจ้งความแล้วที่โรงพักและการดำเนินคดีครับ