ONE PIECE : STRONG WORLD
สำหรับแฟน one piece ก็คงจะไม่พลาดหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
แต่สำหรับผม ซึ่งเพิ่งเคยรู้จัก one piece เป็นครั้งแรก
เพิ่งรู้ว่าเนื้อเรื่อง ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของโจรสลัดผจญภัยออกตามหาขุมทรัพย์
แต่เป็นเรื่องของกลุ่มคนที่มีพลังวิเศษ ประมาณ x-men ฉบับตะวันออกเสียมากกว่า
(คาดว่าไม่สปอยหรอก เพราะใครๆที่เคยอ่าน one piece คงรู้อยู่แล้ว)

สำหรับผม ถึงแม้จะไม่เคยรู้จักกับกลุ่มลูฟี่และพ้องเพื่อนมาก่อน
ก็เข้าใจ และตลกกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยาก เพราะคาแรกเตอร์ทุกตัว ชัดเจนและเด่นมากๆ
จนคิดว่า เดี๋ยวหาการ์ตูนมาอ่านน่าจะสนุกแน่ เรื่องนี้

จุดเด่นของเรื่อง ก็คงเป็นอนิเมชั่นที่สร้างฉากได้วิจิตรตระการตาใช้ได้ กราฟฟิคสวยดี
รู้เลยว่า ทีมงานสร้างตั้งใจกับมันพอควรเลยเชียว,
การแจกบทตัวละครในเรือโจรสลัดหมวกฟาง ที่มีเกินครึ่งโหล
ก็ทำได้ดี เรียกว่าใครเป็นแฟนตัวละครไหนๆก็ฟินได้แน่ๆ

ยังแอบขำตัวเองไม่ได้ กลุ่มสาวๆที่นั่งเก้าอี้ติดกันเขาขำกันคริๆตลอดทั้งเรื่อง
ส่วนผม ก็หาวหวอดๆ ตลอดครึ่งแรกเหมือนกัน
ก็คงพอสรุปได้บ้าง ว่าใครเคยรู้จัก ก็คงอินกับเรื่องนี้แน่นอน

สำหรับสาเหตุที่หาวเป็นพักๆ เพราะเนื้อเรื่องบางทีก็ทิ้งช่วงจังหวะไว้นานไปหน่อย
ที่ตลกคือ ขนาดฉากต่อสู้ตอนกลางๆเรื่องยังหาวตลอด
(ไม่น่าเชื่อ ฉากต่อสู้เวลาดูยังหาวได้ หนังก็ดูตอนกลางวัน ไม่น่าจะง่วงขนาดนั้นนะ)

สรุป สำหรับแฟนหนัง อย่างไรก็คงต้องติดตามดู one piece ภาคนี้อยู่ดี
(ก็คนมักรัก ทำอะไรก็ดีไปหมดอยู่แล้ว)

สำหรับคนที่ไม่เคยดูมาก่อน ก็ปล่อยให้แฟนหนังดูต่อไปนั่นแหละ
ไว้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ก่อน แล้วค่อยดู น่าจะอินและสนุกโดยไม่คำนึงถึงเหตุผลอะไรได้มากกว่านี้

*************************

เมื่อวานไปดูรอบฟรีมา ที่เซ็นทรัลเวิร์ด สปอนเซอร์โดยน้ำชาเขียวยี่ห้อหนึ่ง
ก็คงเป็นการโปรโมทดีวีดีและบลูเรย์ ที่กำลังจะออกมาขายในไทยนะครับ (แน่นอน ของฟรี อย่างไรก็ต้อง ตาม..ไปดู อยู่แล้ว)

ผมคงไม่บ่น เรื่องของระบบแจกตั๋ว ที่ไม่ระบุที่นั่ง ใครมาก่อนได้ก่อน แต่กว่าจะเปิดให้เข้าโรง
ก็เรียกว่าคนทะลักรอกันหน้าประตูเหมือนงานทิ้งกระจาดชอบกล
ก็ตะหงิดๆแล้วว่าข้างในโรงคงมีปัญหาแน่จึงกั้นคนไว้เลยกำหนดการขนาดนี้
ตามคาด ถึงเวลาฉายจริง ก็มีปัญหาติดขัดนิดๆหน่อยๆ
อาจเพราะ(คาดว่า)ใช้โปรเจคเตอร์ส่วนตัวหรือเปล่าเลยต้อง setting นาน
คุณภาพภาพก็เหมือนเอาบลูเรย์มาฉาย ซึ่งพอขึ้นจอใหญ่ยักษ์ อย่างไรก็คมชัดสู้หนังทั่วไปไม่ได้อยู่ดี
ร่วมด้วยระบบเสียงลำโพง 2 ข้าง ซ้าย-ขวา เพิ่มบรรยากาศงานวัดให้มากขึ้นไปอีกนิด
(ว่าจะไม่บ่น แต่ทนไม่ได้นะ)

ปล. เช็คดูในเน็ต เห็นมีแฟนซับ อะไรออกมาเยอะแยะเชียว
อย่างไรแฟนจริงๆก็อย่าลืมไปอุดหนุนของแท้ดีกว่านะครับ ภาพคมชัดกว่าเยอะ

(ปล. ยังมีต่อข้างล่าง แต่สปอยแรงอยู่ ถ้าสนใจก็คลิกอ่านกันต่อได้เลยครับ)



สำหรับเนื้อเรื่องในภาคนี้ (คงสปอยหน่อยๆแน่ ถ้าไม่อยากอ่านข้ามไปก่อนได้)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้.
.
.
.
.
เรือของโจรสลัดสิงโตทองคำ พอดีแล่นผ่านเรือของลูฟี่ ซึ่งนามิก็พอดีได้กลิ่นว่าพายุกำลังจะมา
ด้วยลูฟี่นิสัยดี จึงพยายามบอกโจรสลัดสิงโตทองคำ ช่วยให้เรือไม่ล่มจากพายุ
แต่ทว่า หลังจากนั้นโจรสลัดอยากได้นามิมาเป็นลูกเรือส่วนตัว ก็เลยจัดการชิงตัวมา
แล้วเอาลูฟี่พร้อมลูกเรือ ไปปล่อยไว้บนเกาะลอยฟ้า
(ซึ่งเป็นเกาะที่เกิดจากการใช้อำนาจของโจรสลัดสิงโตทองคำ เสกขึ้นมา)
บนเกาะ ก็มีบรรดาสารพัดสัตว์ ที่ครีเอทผสมพันธุ์กันมั่วแข็งแรงดี ก็น่ารักไปอีกแบบ

แน่นอน ลูฟี่กับพวก ก็ต้องพยายามฝ่าฟันสารพัดสัตว์เพื่อไปช่วยนามิ
พร้อมทั้งขัดขวางแผนการโจรสลัดเข้าทำลายทำลายบ้านเกินของตนอีกด้วย
(ผมว่า แฟนๆการ์ตูน คงเดาออกแล้วหละ ว่าตอนจบ จะจบอย่างไร)
***************************
ความรู้สึก หลังจากดูจบ (อันนี้สปอยแรงครับ)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1) โจรสลัดสิงโตทองคำ เก่งมาก เก่งเกินไปด้วยซ้ำ โดยเฉพาะตอนต้นเรื่อง
แต่บทจะแพ้ ก็ไม่สมเหตุผลเอาเสียเลย และคาดว่าไม่น่าจะตายด้วย คงต้องกลับมาในภาคต่อๆไปแน่

2) ทำไมในเมื่อโจรสลัดสิงโตทองคำ ก็เก่งปานนั้น ทำไมโดนจับขังคุกและหนีออกมาได้ตอนต้นเรื่อง
เรื่องก็ไม่ได้บอกข้อมูลเอาไว้ แถมยังต้องชวนโจรสลัดอื่นๆมาร่วมทำลายเกาะบ้านเกิดลูฟี่
ทั้งๆที่จะพังเองเลย ก็คงทำได้ง่ายดายเหลือเกิน
หรือว่าต้องการพยาน หรือคนดู ไว้ยืนยัน เพื่อความบันเทิงส่วนตัวกันแน่ (คิดว่าใช่นะ ประเด็นนี้)

3) การเดินเรื่อง ก็เปิดประเด็นอะไรไว้เยอะแยะ แต่พอหนังใกล้จบ
ทุกอย่างแก้ปัญหาได้ง่ายดายด้วยพลังของลูฟี่ซะงั้น
ทั้งๆที่ตัวลูฟี่ก็ไม่ได้ไปฝึกวิชาอะไรเพิ่มเติมเลย แค่โดนยั่วโมโหมากกว่าปกตินิดหน่อย

4) คำบอกรักในคำร่ำลาของนามิ เออ...จะว่าคนแปล sub ไทย มันไม่เก่ง หรือเราไม่เข้าใจนะ
ฟังยังไงก็ไม่เห็นเป็นคำบอกรักตรงไหนเลย ไม่เข้าใจจริงๆ

5) เสียดายตัวละครบางตัว เช่น เจ้าเป็ดไฟฟ้า (ที่คล้ายๆกับโปเกม่อน) ออกจะน่ารัก
ไม่รู้จะมีโอกาสได้เห็นอีกในภาคต่อๆไปหรือไม่

6) คติสอนใจที่ได้จากเรื่องนี้ (รึเปล่า)
"อย่าช่วยคนที่มีทีท่าว่าอาจเป็นอันตราย เพราะอาจตกเป็นเป้าความลำบากได้โดยง่าย"
(เอ๊ะ มันเหมือนแล้งน้ำใจนะ ที่คิดแบบนี้..แต่ส่วนตัวผม ก็จริงนะ
เหมือน ถ้าเห็นว่าใครท่าทางไม่ดี อยู่ไกลๆดีกว่า เดี๋ยวอาจโดนปล้นฆ่าข่มขืนได้โดยง่าย)

****************************
ว่างๆแวะไป add friend พูดคุยเรื่องหนังกันได้นะครับที่ fb ของผม
https://www.facebook.com/choord.k