เรื่องจำนวนกับงานสกรีน DTG เท่าที่ผมเคยรับงานมา ระดับ 600+ ตัว แต่ลูกค้าต้องการงานสกรีน DTG ก็เคยทำส่งมาแล้วครับ กำไรต่อตัวก็ยังตกที่ 40-50 บาท เทียบราคากับบล็อคสกรีนแล้วสูงกว่าจริง แต่ก็ไม่ถือว่ามากมายนัก(แต่ลูกค้ากลุ่มนี้มีไม่น้อยเลย)  ขึ้นอยู่ที่ลายสกรีนมากกว่าว่าเหมาะกับการสกรีนแบบไหน

เครื่องสำหรับงานสกรีน DTG ที่มีในตลาด เท่าที่ผมทราบซึ่งคาดว่ากว่า 80% เป็น part ของ EPSON ทั้งนั้น

ส่วนที่ว่าเครื่องไหนดีไม่ดี ปัจจัยคือบริษัทที่นำมาดัดแปลง(ซึ่งก็ดัดแปลงแทบทั้งหมด)  ลักษณะการออกแบบ  ซึ่งสำหรับการดัดแปลงจากตัวฟีดกระดาษเป็นถาดเลื่อนสำหรับใส่ผ้าเพื่องานสกรีน DTG แล้ว ฝีมือคนไทยสามารถทำได้ไม่ยาก เหมือนที่เห็นหลายๆยี่ห้อนั่นแหละครับ

แต่สำคัญตรงตัว RIP software ที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพงาน  ความละเอียดการสั่งงาน การใช้งานต่อเนื่อง เครื่องไทยยังไม่เห็นเจ้าไหนที่สามารถสั่งพิมพ์โดยการรองพื้นด้วยสีขาวได้สมบูรณ์ และการพิมพ์แม่นยำเพียงพอต่อการใช้งาน   workflow ดูยังไม่เสถียรพอสำหรับการใช้งานต่อเนื่องเชิงพานิชย์

ปัจจัยอื่นๆก็คือเรื่องหมึก ที่ต่างประเทศจะมี OEM สำหรับผลิตหมึก DTG โดยเฉพาะ (เทียบกันก็คล้ายๆโรงงานขายครีมบ้านเรา ใครมาจ้างผลิตก็ทำได้ ให้ใส่ส่วนผสมเท่าไหร่ก็บอกโรงงานเลย สูตรใครสูตรมัน)  แต่เค้าจะมีโรงงานมาตรฐานเป็นแบรนด์ยี่ห้อมีชื่อ ซึ่งสีทีไ่ด้ คุณภาพก็อยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกัน (ดี)

ถัดมาคือการเตรียมงาน ผมยังไม่เห็นเครื่องในไทยเจ้าไหนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ซึ่งนี่เป็นส่วนที่สำคัญพอสมควรสำหรับคุณภาพงานที่จะได้รับ  ไปร้านไหนก็จะทำได้เฉพาะเสื้อขาว  ที่สำคัญสีจะจืด และงานสกรีนจะซีดลงหลังซัก เพราะจับเสื้อมาแล้วก็เอาใส่เครื่องปริ๊นท์เลย ไม่มีวิธีการอะไร

ตลาด DTG ที่เมืองนอกค่อนข้างได้รับความนิยมพอสมควร มีหลายบริษัทใหญ่ทำเครื่องมาจำหน่ายและคุณภาพดี สามารถต่อยอดธุรกิจได้จริง  มีงานเทรดโชว์สำหรับผู้ที่ต้องการจะเข้ามาจับธุรกิจตัวนี้อย่างต่อเนื่อง และมีการพัฒนาเครื่อง, น้ำหมึกอยู่เสมอๆ (ตอนนี้คุณภาพงานสวยกว่างานบล็อคสกรีนไปหลายก้าวแล้ว รวมถึงอายุการใช้งานทนทานไม่แพ้บล็อคสกรีนเช่นกัน)

แต่จุดบอดที่เห็นของคนไทยสำหรับงาน DTG หลักๆก็คือ ใครที่คิดจะก้าวเข้ามาจริงจัง ต้องเจอปัญหาเรื่องการบำรุงรักษา maintenance ตามอายุการใช้งาน ซึ่งต้องได้รับการดูแลที่ค่อนข้างดีและสม่ำเสมอพอสมควร  

จุดต่อมาคือต้นทุน ถ้าเขียนเป็นกราฟแผนภูมิคร่าวๆ งานสกรีน DTG จะคุ้มค่ากว่างานบล้อคสกรีนที่ 1-150 ตัว ส่วนใหญ่ถ้าจำนวนมากกว่านี้ผมก็คัดงานไปลงบล็อคสกรีนเช่นกัน   เพราะบล็อคสกรีน ยิ่งเยอะยิ่งถูกถ้าจำนวนเยอะจริง รายละเอียดงานก็เก็บได้เกือบครบเช่นกัน ต่างจาก DTG ที่จำนวนเยอะไม่ได้ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตเลย ยิ่งเยอะยิ่งกำไรน้อย แต่ก็จะได้จำนวนรวมมาเพิ่มเติมแทน (**ซึ่งก็ไปคาบเกี่ยวกับเรื่องเวลาตามที่กล่าวไว้ หลายคนเห็นงานเยอะก็ดั้มราคาลงเยอะๆเพราะอยากได้งาน แต่หารู้ไม่ว่าเวลาที่เสียไปกับกำไรที่ลดลง บวกลบแล้วกลายเป็นทำลายจุดแข็งของตัวเองไปเสียดื้อๆ ถ้างานจำนวนเยอะแต่กำไรไม่คุ้มเวลาจริง แนะนำว่าไปรับงานย่อย บางทีใช้เวลาเท่ากันแต่กำไรเยอะกว่ามาก *คหสต)

จุดแข็งของเครื่อง DTG คือ
- เราสามารถสกรีนหลายๆสีได้แม้จะมีจำนวนงานน้อย ไม่ต้องเซ็ตอัพเรื่องแม่พิมพ์ ซึ่งออเดอร์ 1-50 ตัวจะค่อนข้างเยอะพอสมควร (แฟนคลับ ,เสื้อแก๊งใส่เที่ยวตามแต่ละโอกาส , เสื้อคู่ , ฯลฯ)
- สามารถขึ้นงานตัวอย่างให้ลูกค้าดูก่อนได้เลย  หลายครั้งงานใหญ่ๆมาแต่ลูกค้าต้องการดูงานก่อน ก็สามารถนำเสนอได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มโอกาสในการได้งานนั้นๆขึ้นมาเยอะพอสมควร
- คุณภาพงานสกรีน ขึ้นชื่อว่าเครื่องพิมพ์ เรื่องไล่สีเล่นเงาควันไฟแสงสี เก็บได้ครบหมด
- แรงงาน ใช้คนเดียวคุมต่อ 1 เครื่องสบายๆ

จุดอ่อน
- ต้นทุน แพง ยิ่งถ้าหมึกนำเข้าต้องบวกค่าส่งไปอีก เข้ามาเจอภาษีอีกต่อ คำนวนกันไม่ดีมีเหนื่อย
- อะไหล่ ,ซ่อมบำรุง  เครื่องที่เราใช้เป็นรุ่นไหน ใช้อะไหล่ตัวไหนได้บ้าง หาได้ง่ายไหม  หลายชิ้นต้องเปลี่ยนตามอายุงาน ซึ่งรวมถึงหัวพิมพ์ด้วย หลักๆแนะนำให้พึ่งตัวเอง  ทำเองรื้อเอง แรกๆยากหน่อย เหนื่อยหนัก ยิ่งเวลาไอ่นั่นเสียไอ่นี่พังบ่อยๆ แทบท้อ แต่ถ้าสู้ก็ลุยได้เลย

ในอนาคตอาจจะได้เห็นเครื่องคุณภาพดี ในราคาที่เหมาะสมสำหรับเริ่มธุรกิจ เร็วๆนี้ครับ