ไม่เลือกงานไม่ยากจน เด็กนิเทศใกล้จบ อย่างผมจะทำใงดี
ต้องบอกไว้ก่อนนะครับผมเรียนนิเทศโฆษณาเเต่มาฝึกงานกับเคเบิลทีวีช่องนึง(ซึ่งชนะการประมูลทีวีดิจิตอลด้วย)ในตำเเหน่ง Co Producer ฝึกงานที่นี่ดีมากเลยครับพี่ๆทุกคนก็น่ารักได้เปลี่ยนรูปเเบบการทำงานทุก3อาทิตย์เพราะมีคนมาฝึกโคโปรอีก4คน ถามว่าได้ทำอะไรบ้างก็ได้
คิดเนื้อหารายการในช่วงเสริมซึ่งพี่ๆเค้าก็จะเอาของเราไปรีไรท์อีกทีเเต่หลังๆพอเราเริ่มเก็บงานรีไรท์เป็นพี่ก็เอาไปOnAirเลย ซึ่งผมดีใจมาก
ที่ได้เห็นเนื้อรายการตัวเองออกอากาศสดจริงๆ วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกมหาวิทยาลัยของผมเค้าให้ฝึกงานเเค่2เดือนนิดๆ เเละตอนนี้ก็เหลือเเค่ไม่ถึงอาทิตย์ ผมเริ่มกังวลเเล้วใงจะทำที่นี่ต่อหรือไปหาที่อื่นดีเลยลองไปปรึกษากับเเม่เเม่บอกว่าทำต่อเลยเเล้วค่อยขยับขยาย เเต่ผมบอกเเม่ไปว่ามันไม่ใช่เเนวผมอ่ะเเม่(ไหนๆก็มาขนาดนี้เเล้วบอกเลยเเล้วกันว่าเป็นช่องรายการข่าว) คือผมโตมากับการเสพสายบันเทิงกับเรื่องเทคโนโลยีวันว่างผมจะไม่ทำอะไรนอกจากฟังเพลงดูหนังถ่ายรูปเเฟชั่นกะเดินสำรวจร้านขายของไอทีเเละหาข้อมูลนั้นๆผมมีความสุขกับเรื่องพวกนี้มาก ผมเเค่อยากตื่นนอนมาเเล้วมีความรู้สึกว่า (ไปทำงานดีกว่าดีใจจังนี่คืองานที่ฉันรัก) คือผมไม่อยากมีความรู้สึกว่า อะไรนะไปทำงานอีกเเล้วเหรอนอนต่อดีว่า ซึ่งผมสังเกตตัวเองมาหลายทีเเล้วว่าเวลาเรียนที่มหาลัยในวิชาถ่ายรูปหรือตัดต่อวีดีโอเเละการตลาด ผมจะมีพลังอยากมาเรียนกว่าปกติ คือมาเข้าเรื่องทำไมผมถึงไม่อยากสมัครทำงานที่ที่ผมฝึกงานเพราะช่วงเวลาที่ผมฝึกงานอยู่นั้นมีพี่ๆหลายคนลาออกไปไปที่ใหม่(ช่องคู่เเข่ง)กันหลายคนอยู่ เเถมงานที่ผมทำก็เดิมๆรีไรท์ข่าวปริ๊นข่าวส่งห้องตัดซึ่งพอมีพี่พนักงานใหม่มางานที่เค้าทำก็ไม่ต่างจากผมมากทำอยู่เเค่นี่ ไม่ได้มีอะไรใหม่ๆเลยในที่นี่ผมลอยลองถามพี่เลี้ยงที่เป็นโปรดิวเซอร์รายการว่า ทำไมช่องที่นี่ไม่มีรายการอะไรใหม่ๆเลยอ่ะวนเทปซ้ำๆไปมานานเเล้วนะรูปเเบบรายการก็เดิมๆ พี่โปรดิวเซอร์ก็ตอบว่าจริงๆพี่ก็อยากให้มันมีหลากหลายเหมือนกันเเหละเเต่ทำใงได้ สปอนเซอร์เค้ามาเหมาเวาลาช่องซึ่งเราก็เป็นเเค่ช่องเคเบิลที่วีที่ไม่ได้ดังอะไรอาศัยเรทติ้งจากรายการข่าวกับรายการช่วยชาวบ้าน ซึ่งหน้าที่พี่มีเเค่พัฒนามันไปเรื่อยๆ ส่วนรายการอื่นๆให้เป็นเรื่องของอนาคตที่ทางผู้ใหญ่เค้าว่ามาอีกทีเอา พอผมฟังพี่เค้าพูดจบเท่านั้นเเหละรู้สึกสงสารอยากอยู่ช่วยทำงานต่อเลยทีเดียว(ผมกับพี่เลี้ยงสนิทกันนะครับ) พี่เค้าก็ชวนให้อยู่ทำงานด้วยกันต่อเเล้วบอกว่าเดี๋ยวอนาคตอาจจะมีรายการอื่นๆเองเเหละตอนนี้ก็ทำเเต่ข่าวไปก่อน ผมก็ได้เเต่ขอคิดดูก่อนนะครับ
ทีนี้ก็เลยเริ่มถามตัวเองว่า เอาใงดีว่ะ (ผมเองไม่ค่อยซีเรียสเรื่องเงินเดือนมากหรอกขอเเค่ได้พอดีกับค่ารถเมล์+ค่ากินก็พอเพราะที่บ้านมีธุรกิจของพ่ออยู่เเล้วเรียกง่ายๆก็เกาะพ่อกินนั้นเเหละ เเ่ต่ผมเป็นคนประหยัดนะ) ผมก็เเค่อยากยืนด้วยลำเเข้งในสายอาชีพที่ดัวยเองรักบ้างก็เท่านั้น
ทีนี้ก็สับสนเเล้วใงว่าจะสมัครทำงานที่นี่ต่อเเล้วทนๆทำงานข่าวไปเรื่อยๆเดี๋ยวอาจได้โอกาสทำรายการที่ชอบเอง หรือไปสมัครที่อื่นที่เค้ารับคนรสนิยมเนื้อหารายการเดียวกับเราเลย ซึ่งเเน่นอนตำเเหน่งที่จะไปสมัครคงต้อง CoProducer หรืออะไรก็ได้ที่ใกล้เคียง ถ้าข้ามไป Producer เลยเค้าก็รับเเต่พวกประสบการณ์2-3ปี ซึ่งผมดูๆเเล้วผมยังต้องหาประสบการณ์อีกเยอะ เเต่อีกใจก็เบื่อที่เดิมที่ฝึกงานเเต่อีกใจก็อยากไปที่ใหม่ๆเเต่ก็กลัวเค้าไม่รับอีก ต่อให้ตอนนี้มีช่องทีวีระบบดิจิตอลเเล้วก็เหอะ เเต่ผมก็ยังคิดไม่ตกอยู่ดี
เเม่เคยสอนว่าคนเก่งอย่าไปกลัวเเต่ให้กลัวคนขยัน ซึ่งผมกู้สู้เเบบที่เเม่สอนมาตลอดผมไม่ใช่คนเก่งนะเเต่ผมขยัน งานเสริฟงานเเต่งพี่นุ่นเอย งานขายไอติม งานตัวประกอบ งานขายข้าวเกรียบเกาหลีที่สวนสนุก งานขายน้ำ งานพนักงานโลตัส ผมทำมาหมด ดังนั้นผมจึงเป็นคนไม่กลัวงาน เเต่ถ้างานมันเลือกได้มันมีโอกาสเเม้ว่าโอกาสจะไม่มากผมก็ควรวิ่งเข้าหาโอกาสใช่มั้ยครับ
สุดท้าย ผมขอบอกว่าความฝันอันสูงสุดของผมคือ ผมอยากมีรายการนำเสนอเรื่องเทคโนโลยีเเบบง่ายๆดูสนุกเเละใช้ได้จริงกับคนทุกเพศทุกวัย เพราะจุดเริ่มต้นมันมาจากคลิปรีวิวมือถือกากๆของผมที่ทำกับน้องข้างบ้านมันเป็นคลิปที่เนื้อหาผมคัดมาเเล้วว่าทุกคนควรรู้ตรงนี้เเล้วทำให้เห็นภาพชัดเจนไปเลย ผ่านไป1ปี ขุ่นพระ !! จากที่ผมไม่เคยคาดหวังอะไรเเค่ทำไว้ดูกันเอง ยอดวิวมันล่อไป9หมื่นกว่า ! ทั้งที่ผมไม่เคยเเชร์ให้ใครดูเลย
ซึ่งมันทำให้ผมรู้ว่าคนไทยยังมีความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีน้อยมากโดยเฉพาะคนต่างจังหวัดกับคุณลุงๆป้าๆ ตรงจุดนี่เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมรักจะทำรายการทีวี(เรื่องไอทีกับหนังนี่ชอบมาก) นี่ยังไม่รวมเรื่องที่ผมเคยถามพี่ๆเค้านะว่ารายการข่าวที่นี่อยู่มาหลายปีนี่ไม่เคยคิดที่จะเปลียนฉากหลังบ้างเหรอพี่เค้าตอบว่าฝันไปเถอะไม่มีทาง ผมก็เงิบสิ...
ขอบพระคุณที่อ่านมากๆนะครับ ผมอึดอัดเเละอยากจะบอกจริงๆ
ไม่เลือกงานไม่ยากจน เด็กนิเทศใกล้จบ อย่างผมจะทำใงดี
ต้องบอกไว้ก่อนนะครับผมเรียนนิเทศโฆษณาเเต่มาฝึกงานกับเคเบิลทีวีช่องนึง(ซึ่งชนะการประมูลทีวีดิจิตอลด้วย)ในตำเเหน่ง Co Producer ฝึกงานที่นี่ดีมากเลยครับพี่ๆทุกคนก็น่ารักได้เปลี่ยนรูปเเบบการทำงานทุก3อาทิตย์เพราะมีคนมาฝึกโคโปรอีก4คน ถามว่าได้ทำอะไรบ้างก็ได้
คิดเนื้อหารายการในช่วงเสริมซึ่งพี่ๆเค้าก็จะเอาของเราไปรีไรท์อีกทีเเต่หลังๆพอเราเริ่มเก็บงานรีไรท์เป็นพี่ก็เอาไปOnAirเลย ซึ่งผมดีใจมาก
ที่ได้เห็นเนื้อรายการตัวเองออกอากาศสดจริงๆ วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกมหาวิทยาลัยของผมเค้าให้ฝึกงานเเค่2เดือนนิดๆ เเละตอนนี้ก็เหลือเเค่ไม่ถึงอาทิตย์ ผมเริ่มกังวลเเล้วใงจะทำที่นี่ต่อหรือไปหาที่อื่นดีเลยลองไปปรึกษากับเเม่เเม่บอกว่าทำต่อเลยเเล้วค่อยขยับขยาย เเต่ผมบอกเเม่ไปว่ามันไม่ใช่เเนวผมอ่ะเเม่(ไหนๆก็มาขนาดนี้เเล้วบอกเลยเเล้วกันว่าเป็นช่องรายการข่าว) คือผมโตมากับการเสพสายบันเทิงกับเรื่องเทคโนโลยีวันว่างผมจะไม่ทำอะไรนอกจากฟังเพลงดูหนังถ่ายรูปเเฟชั่นกะเดินสำรวจร้านขายของไอทีเเละหาข้อมูลนั้นๆผมมีความสุขกับเรื่องพวกนี้มาก ผมเเค่อยากตื่นนอนมาเเล้วมีความรู้สึกว่า (ไปทำงานดีกว่าดีใจจังนี่คืองานที่ฉันรัก) คือผมไม่อยากมีความรู้สึกว่า อะไรนะไปทำงานอีกเเล้วเหรอนอนต่อดีว่า ซึ่งผมสังเกตตัวเองมาหลายทีเเล้วว่าเวลาเรียนที่มหาลัยในวิชาถ่ายรูปหรือตัดต่อวีดีโอเเละการตลาด ผมจะมีพลังอยากมาเรียนกว่าปกติ คือมาเข้าเรื่องทำไมผมถึงไม่อยากสมัครทำงานที่ที่ผมฝึกงานเพราะช่วงเวลาที่ผมฝึกงานอยู่นั้นมีพี่ๆหลายคนลาออกไปไปที่ใหม่(ช่องคู่เเข่ง)กันหลายคนอยู่ เเถมงานที่ผมทำก็เดิมๆรีไรท์ข่าวปริ๊นข่าวส่งห้องตัดซึ่งพอมีพี่พนักงานใหม่มางานที่เค้าทำก็ไม่ต่างจากผมมากทำอยู่เเค่นี่ ไม่ได้มีอะไรใหม่ๆเลยในที่นี่ผมลอยลองถามพี่เลี้ยงที่เป็นโปรดิวเซอร์รายการว่า ทำไมช่องที่นี่ไม่มีรายการอะไรใหม่ๆเลยอ่ะวนเทปซ้ำๆไปมานานเเล้วนะรูปเเบบรายการก็เดิมๆ พี่โปรดิวเซอร์ก็ตอบว่าจริงๆพี่ก็อยากให้มันมีหลากหลายเหมือนกันเเหละเเต่ทำใงได้ สปอนเซอร์เค้ามาเหมาเวาลาช่องซึ่งเราก็เป็นเเค่ช่องเคเบิลที่วีที่ไม่ได้ดังอะไรอาศัยเรทติ้งจากรายการข่าวกับรายการช่วยชาวบ้าน ซึ่งหน้าที่พี่มีเเค่พัฒนามันไปเรื่อยๆ ส่วนรายการอื่นๆให้เป็นเรื่องของอนาคตที่ทางผู้ใหญ่เค้าว่ามาอีกทีเอา พอผมฟังพี่เค้าพูดจบเท่านั้นเเหละรู้สึกสงสารอยากอยู่ช่วยทำงานต่อเลยทีเดียว(ผมกับพี่เลี้ยงสนิทกันนะครับ) พี่เค้าก็ชวนให้อยู่ทำงานด้วยกันต่อเเล้วบอกว่าเดี๋ยวอนาคตอาจจะมีรายการอื่นๆเองเเหละตอนนี้ก็ทำเเต่ข่าวไปก่อน ผมก็ได้เเต่ขอคิดดูก่อนนะครับ
ทีนี้ก็เลยเริ่มถามตัวเองว่า เอาใงดีว่ะ (ผมเองไม่ค่อยซีเรียสเรื่องเงินเดือนมากหรอกขอเเค่ได้พอดีกับค่ารถเมล์+ค่ากินก็พอเพราะที่บ้านมีธุรกิจของพ่ออยู่เเล้วเรียกง่ายๆก็เกาะพ่อกินนั้นเเหละ เเ่ต่ผมเป็นคนประหยัดนะ) ผมก็เเค่อยากยืนด้วยลำเเข้งในสายอาชีพที่ดัวยเองรักบ้างก็เท่านั้น
ทีนี้ก็สับสนเเล้วใงว่าจะสมัครทำงานที่นี่ต่อเเล้วทนๆทำงานข่าวไปเรื่อยๆเดี๋ยวอาจได้โอกาสทำรายการที่ชอบเอง หรือไปสมัครที่อื่นที่เค้ารับคนรสนิยมเนื้อหารายการเดียวกับเราเลย ซึ่งเเน่นอนตำเเหน่งที่จะไปสมัครคงต้อง CoProducer หรืออะไรก็ได้ที่ใกล้เคียง ถ้าข้ามไป Producer เลยเค้าก็รับเเต่พวกประสบการณ์2-3ปี ซึ่งผมดูๆเเล้วผมยังต้องหาประสบการณ์อีกเยอะ เเต่อีกใจก็เบื่อที่เดิมที่ฝึกงานเเต่อีกใจก็อยากไปที่ใหม่ๆเเต่ก็กลัวเค้าไม่รับอีก ต่อให้ตอนนี้มีช่องทีวีระบบดิจิตอลเเล้วก็เหอะ เเต่ผมก็ยังคิดไม่ตกอยู่ดี
เเม่เคยสอนว่าคนเก่งอย่าไปกลัวเเต่ให้กลัวคนขยัน ซึ่งผมกู้สู้เเบบที่เเม่สอนมาตลอดผมไม่ใช่คนเก่งนะเเต่ผมขยัน งานเสริฟงานเเต่งพี่นุ่นเอย งานขายไอติม งานตัวประกอบ งานขายข้าวเกรียบเกาหลีที่สวนสนุก งานขายน้ำ งานพนักงานโลตัส ผมทำมาหมด ดังนั้นผมจึงเป็นคนไม่กลัวงาน เเต่ถ้างานมันเลือกได้มันมีโอกาสเเม้ว่าโอกาสจะไม่มากผมก็ควรวิ่งเข้าหาโอกาสใช่มั้ยครับ
สุดท้าย ผมขอบอกว่าความฝันอันสูงสุดของผมคือ ผมอยากมีรายการนำเสนอเรื่องเทคโนโลยีเเบบง่ายๆดูสนุกเเละใช้ได้จริงกับคนทุกเพศทุกวัย เพราะจุดเริ่มต้นมันมาจากคลิปรีวิวมือถือกากๆของผมที่ทำกับน้องข้างบ้านมันเป็นคลิปที่เนื้อหาผมคัดมาเเล้วว่าทุกคนควรรู้ตรงนี้เเล้วทำให้เห็นภาพชัดเจนไปเลย ผ่านไป1ปี ขุ่นพระ !! จากที่ผมไม่เคยคาดหวังอะไรเเค่ทำไว้ดูกันเอง ยอดวิวมันล่อไป9หมื่นกว่า ! ทั้งที่ผมไม่เคยเเชร์ให้ใครดูเลย
ซึ่งมันทำให้ผมรู้ว่าคนไทยยังมีความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีน้อยมากโดยเฉพาะคนต่างจังหวัดกับคุณลุงๆป้าๆ ตรงจุดนี่เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมรักจะทำรายการทีวี(เรื่องไอทีกับหนังนี่ชอบมาก) นี่ยังไม่รวมเรื่องที่ผมเคยถามพี่ๆเค้านะว่ารายการข่าวที่นี่อยู่มาหลายปีนี่ไม่เคยคิดที่จะเปลียนฉากหลังบ้างเหรอพี่เค้าตอบว่าฝันไปเถอะไม่มีทาง ผมก็เงิบสิ...
ขอบพระคุณที่อ่านมากๆนะครับ ผมอึดอัดเเละอยากจะบอกจริงๆ