นาทีนี้คือ สปป. (นปช.หนะไม่อยู่ในสายตากำนันแล้ว)
เพราะเขามั่นใจว่า เขาสามารถกล่อม ให้มวลมหาประชาชนของเขาเชื่ออยู่หมัด ด้วยมนต์ มหาระรวย จงมา จงมา จงออกมา ว่า
"พวก นปช. ต้องเป็นเป็นมวลชนจัดตั้ง จัดตั้ง จัดตั้ง จัดตั้ง ใช้เงิน ผิดกับของเรา
ของเรา ของเรา ของเรา ของเรา ของแท้ (แม้นจะมีคนสะกิดว่า เพ่ ๆ กำนัน ครับ ของเราก็ใช้เงินบานเลย เฉพาะการ์ด ฝึกหัดนอกเครื่องแบบ เนี่ย นับ ๆ เป็นรายวันก็โขอยู่ ไหน จะรถตู้ รสบัส ค่ากิน บางจังหวัด ต้องมี พ๊อกเก็ตมันนี่ ไว้ให้อุ่นใจด้วยนะครับ) แต่ไม่ทันขาดคำ กำนัน หันมาบ้องหูด้งเผี้ย.. พร้อมคำรามในคอว่า "เออ รู้แล้ว อย่าขัดจังหวะได้ไหม กรูกำลังฟิน"
แต่ สปป. ดู ๆ แล้ว กำนัน ไม่ค่อยกล้าแตะเท่าไหร่ ขนาดกองทัพยังจับตามองแบบไม่กระพริบ
เพราะ อัตราเจริญเติบโต แบบก้าวกระโดด ใหญ่ ขึ้น กว้างขึ้น ๆ ๆ ของ สปป. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในโลกไซเบอร์ มันโตขึ้นอย่างน่าตกใจ
ที่สำคัญหลักการ แน่น ชัด ไม่โยกไปโยกมา ด้วยการบอกกับสังคมว่า
"๑ คนเท่ากับ ๑ เสียง เพราะเราคือคนเท่ากัน"
จริง ๆ ข้อเรียกร้องนี้ ดูไปก็ไม่น่าจะมีอะไร ถ้าไม่สังเกต และคิดลึก ๆ ว่า
จุดมุ่งหมายในการ ปฏิรูประเทศ ปฏิทิน ปฏิวัติ ปฏิสนธิ หรือจะ ประติดประต่ออะไรก็แล้วแต่ ของ กปปส. ที่กำนัน เป็นแกนนำ
แกแบไต๋ และบอกเป้าหมายสุดท้ายชัดเจนก็คือ ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ๑ สิทธิ เท่ากับ ๑ เสียง ยังใช้กับคนไทยไม่ได้
นั่นเป็นบทสรุปสุดท้ายของชัยชนะ ที่ กปปส. ต้องการ
ไอ้เลือกตั้งผู้ว่าราชการ
ไอ้ขายเสียง ซื้อเสียงติดคุก
ไอ้ปฏิรูปโครงสร้างตำรวจหนะ มันเครื่องเคียง อาหารหลัก
ตรรกะง่าย ๆที่ผุ้ชายไม่รู้ แต่ผู้หญิงเขารู้ผู้ชายไม่เกี่ยววววววววววว..(.ไปหนุ่มบาวสาวปานได้งัยฟ๊ะ )
ก็คือ "ห้ามคนในประเทศนี้ มีสิทธิขั้นพื้นฐานทางการเมืองเท่ากัน"
นั่นจะเป็นการ กำจัดระบบทักษิณ ไปชั่วตลอดกาลปาวสาน เจ้าหญิง กับเจ้าชาย ก็จะรักกันมีลูกหลาน ปกครองเมืองนี้อย่ามีฟามสุข เหมือน การตูนส์ของ วอลส์ ดีสนีย์
ครั้น สปป. ชูธง คนเท่ากันขึ้นมา
หลาย ๆ คนใน กปปส. สะท้านใจเป็นยิ่งนัก หลายคนคำรามว่า ขนาดมี ทปอ. ออกมานำร่องแล้ว ทำไมอาจารย์เหล่านี้ ยังดื้ออีก
ดื้อไม่ดื้อเปล่า ดันสู้ซะด้วย
ตอนนี้ก็ล่อไปห้าแสนในเพจแล้ว ถ้าขยับอีกสองสามดอก เข้าใจว่า หมัดหนึ่งสอง ที่นาน ๆ ออกที จะเข้าตาคนไทยทั้งประเทศแบบจะ ๆ จะเพิ่มปริมาณแนวร่วมอีกไม่รู้เท่าไหร่
แต่ด้วยความที่เป็นนักวิชาการของแท้ เป็นครูบาอาจารย์ จึงพูดอะไร ขยับอะไรแบบถนอมน้ำใจคนไทยด้วยกัน
แต่นั่นไม่ใช่หมายถึง สปป. เขายอมนะครับ โดยเฉพาะอาจารย์เกษียร ของค่ายรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์
แกบอกไว้ชัดเจนว่า "อย่าไปกลัว อย่าไปหวาดวิตก หนทางข้างหน้า ไม่ว่าเราจะแพ้หรือชนะ แต่หากเราต้องแพ้ เราจะไม่หนีไปไหน เราจะอยู่ปกป้อง หลักการของประชาธิปไตย เพราะประเทศนี้ เป็นของพวกคุณ เท่า ๆ กับเป็นของพวกเรา"
แปลไทยเป็นไทยว่า หากพระยาสุเทพ ปราบดา ตัวเองสำเร็จ แล้วทำอย่างที่คิดไว้
๑๔ ตุลาคม Version ใหม่ เกิดแน่ ๆ แม้นจะไม่ได้เกิดตรงลานโพธิ์ แต่ยุคใหม่ จะกิดขึ้นที่ สบร. ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
และอนาคตท่านพระยาสุเทพ และลิ่วล้อ คงไม่มีที่จะยืน ในประเทศนี้ เฉกเช่น พณท่าน จอมพลถนอม เป็นแน่แท้
วันนี้ หลายกลุ่มเริ่มขยับ โดยเฉพาะกลุ่มที่ไปจุดเทียนเรียกร้องที่หอศิลป ว่า พอกันที แปลเป็นภาษาบ้าน ๆ ว่า เมิงเลิกเหอะ ก็มีอัตรา การเติบโตที่น่าจับตามอง แม้นศุกร์หน้าจะค่อนข้างเสี่ยงอยู่บ้าง กับระบอบ "ถ้าไม่เห็นด้วยกับเรา พวกเมิงสลบ" แต่ผมเชื่อว่า คนกรุงเทพจะไปเยอะกว่าเดิม
อยากเรียนไปยัง มวลมหาประชาชน ของท่านพระยากำนันสุเทพว่า ตอนนี้ โจทย์ของท่านเยอะขึ้นครับ มากขึ้น ๆ ๆ ๆ และเริ่มขยายตัวไปทุกหย่อมหญ้า
ในอนาคตอันใกล้นี้ มวลมหาประชาชน อาจต้องรีบถอดริสแบนด์ ธงชาติ กันเป็นพัลวันเพื่อทำเนียน
ซึ่งแถวบ้านผมเมื่อก่อน เพียบเลยครับ โชว์หรา กันตามถนน แต่หลังจากกำนัน แกจะ shut down กทม. ชาวบ้านเขายังไม่ได้ว่าอะไรนะครับ แค่มองริสแบนด์ ตาเขียว ๆ สาวกเหล่านั้น ก็รีบหายวับไปกับตา
ถ้าอยาก เช็ค rate จริง ๆ ลองใส่ไปขึ้นรถตู้ รถเมล์ หรือ รถสาธารณะอะไร ต่อมิอะไร ในวันที่ ๑๓ นี้ดูครับ
รับรอง ความนิยมพวกท่านกระฉูดแน่ ๆ แต่กระฉูดไปทางไหน ผมเดาไม่ถูกจริง ๆ
สิ่งที่ กปปส. และผู้อยู่เบื้องหลัง กลัวมากกว่า คนเสื้อแดง
เพราะเขามั่นใจว่า เขาสามารถกล่อม ให้มวลมหาประชาชนของเขาเชื่ออยู่หมัด ด้วยมนต์ มหาระรวย จงมา จงมา จงออกมา ว่า
"พวก นปช. ต้องเป็นเป็นมวลชนจัดตั้ง จัดตั้ง จัดตั้ง จัดตั้ง ใช้เงิน ผิดกับของเรา
ของเรา ของเรา ของเรา ของเรา ของแท้ (แม้นจะมีคนสะกิดว่า เพ่ ๆ กำนัน ครับ ของเราก็ใช้เงินบานเลย เฉพาะการ์ด ฝึกหัดนอกเครื่องแบบ เนี่ย นับ ๆ เป็นรายวันก็โขอยู่ ไหน จะรถตู้ รสบัส ค่ากิน บางจังหวัด ต้องมี พ๊อกเก็ตมันนี่ ไว้ให้อุ่นใจด้วยนะครับ) แต่ไม่ทันขาดคำ กำนัน หันมาบ้องหูด้งเผี้ย.. พร้อมคำรามในคอว่า "เออ รู้แล้ว อย่าขัดจังหวะได้ไหม กรูกำลังฟิน"
แต่ สปป. ดู ๆ แล้ว กำนัน ไม่ค่อยกล้าแตะเท่าไหร่ ขนาดกองทัพยังจับตามองแบบไม่กระพริบ
เพราะ อัตราเจริญเติบโต แบบก้าวกระโดด ใหญ่ ขึ้น กว้างขึ้น ๆ ๆ ของ สปป. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในโลกไซเบอร์ มันโตขึ้นอย่างน่าตกใจ
ที่สำคัญหลักการ แน่น ชัด ไม่โยกไปโยกมา ด้วยการบอกกับสังคมว่า
"๑ คนเท่ากับ ๑ เสียง เพราะเราคือคนเท่ากัน"
จริง ๆ ข้อเรียกร้องนี้ ดูไปก็ไม่น่าจะมีอะไร ถ้าไม่สังเกต และคิดลึก ๆ ว่า
จุดมุ่งหมายในการ ปฏิรูประเทศ ปฏิทิน ปฏิวัติ ปฏิสนธิ หรือจะ ประติดประต่ออะไรก็แล้วแต่ ของ กปปส. ที่กำนัน เป็นแกนนำ
แกแบไต๋ และบอกเป้าหมายสุดท้ายชัดเจนก็คือ ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ๑ สิทธิ เท่ากับ ๑ เสียง ยังใช้กับคนไทยไม่ได้
นั่นเป็นบทสรุปสุดท้ายของชัยชนะ ที่ กปปส. ต้องการ
ไอ้เลือกตั้งผู้ว่าราชการ
ไอ้ขายเสียง ซื้อเสียงติดคุก
ไอ้ปฏิรูปโครงสร้างตำรวจหนะ มันเครื่องเคียง อาหารหลัก
ตรรกะง่าย ๆที่ผุ้ชายไม่รู้ แต่ผู้หญิงเขารู้ผู้ชายไม่เกี่ยววววววววววว..(.ไปหนุ่มบาวสาวปานได้งัยฟ๊ะ )
ก็คือ "ห้ามคนในประเทศนี้ มีสิทธิขั้นพื้นฐานทางการเมืองเท่ากัน"
นั่นจะเป็นการ กำจัดระบบทักษิณ ไปชั่วตลอดกาลปาวสาน เจ้าหญิง กับเจ้าชาย ก็จะรักกันมีลูกหลาน ปกครองเมืองนี้อย่ามีฟามสุข เหมือน การตูนส์ของ วอลส์ ดีสนีย์
ครั้น สปป. ชูธง คนเท่ากันขึ้นมา
หลาย ๆ คนใน กปปส. สะท้านใจเป็นยิ่งนัก หลายคนคำรามว่า ขนาดมี ทปอ. ออกมานำร่องแล้ว ทำไมอาจารย์เหล่านี้ ยังดื้ออีก
ดื้อไม่ดื้อเปล่า ดันสู้ซะด้วย
ตอนนี้ก็ล่อไปห้าแสนในเพจแล้ว ถ้าขยับอีกสองสามดอก เข้าใจว่า หมัดหนึ่งสอง ที่นาน ๆ ออกที จะเข้าตาคนไทยทั้งประเทศแบบจะ ๆ จะเพิ่มปริมาณแนวร่วมอีกไม่รู้เท่าไหร่
แต่ด้วยความที่เป็นนักวิชาการของแท้ เป็นครูบาอาจารย์ จึงพูดอะไร ขยับอะไรแบบถนอมน้ำใจคนไทยด้วยกัน
แต่นั่นไม่ใช่หมายถึง สปป. เขายอมนะครับ โดยเฉพาะอาจารย์เกษียร ของค่ายรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์
แกบอกไว้ชัดเจนว่า "อย่าไปกลัว อย่าไปหวาดวิตก หนทางข้างหน้า ไม่ว่าเราจะแพ้หรือชนะ แต่หากเราต้องแพ้ เราจะไม่หนีไปไหน เราจะอยู่ปกป้อง หลักการของประชาธิปไตย เพราะประเทศนี้ เป็นของพวกคุณ เท่า ๆ กับเป็นของพวกเรา"
แปลไทยเป็นไทยว่า หากพระยาสุเทพ ปราบดา ตัวเองสำเร็จ แล้วทำอย่างที่คิดไว้
๑๔ ตุลาคม Version ใหม่ เกิดแน่ ๆ แม้นจะไม่ได้เกิดตรงลานโพธิ์ แต่ยุคใหม่ จะกิดขึ้นที่ สบร. ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
และอนาคตท่านพระยาสุเทพ และลิ่วล้อ คงไม่มีที่จะยืน ในประเทศนี้ เฉกเช่น พณท่าน จอมพลถนอม เป็นแน่แท้
วันนี้ หลายกลุ่มเริ่มขยับ โดยเฉพาะกลุ่มที่ไปจุดเทียนเรียกร้องที่หอศิลป ว่า พอกันที แปลเป็นภาษาบ้าน ๆ ว่า เมิงเลิกเหอะ ก็มีอัตรา การเติบโตที่น่าจับตามอง แม้นศุกร์หน้าจะค่อนข้างเสี่ยงอยู่บ้าง กับระบอบ "ถ้าไม่เห็นด้วยกับเรา พวกเมิงสลบ" แต่ผมเชื่อว่า คนกรุงเทพจะไปเยอะกว่าเดิม
อยากเรียนไปยัง มวลมหาประชาชน ของท่านพระยากำนันสุเทพว่า ตอนนี้ โจทย์ของท่านเยอะขึ้นครับ มากขึ้น ๆ ๆ ๆ และเริ่มขยายตัวไปทุกหย่อมหญ้า
ในอนาคตอันใกล้นี้ มวลมหาประชาชน อาจต้องรีบถอดริสแบนด์ ธงชาติ กันเป็นพัลวันเพื่อทำเนียน
ซึ่งแถวบ้านผมเมื่อก่อน เพียบเลยครับ โชว์หรา กันตามถนน แต่หลังจากกำนัน แกจะ shut down กทม. ชาวบ้านเขายังไม่ได้ว่าอะไรนะครับ แค่มองริสแบนด์ ตาเขียว ๆ สาวกเหล่านั้น ก็รีบหายวับไปกับตา
ถ้าอยาก เช็ค rate จริง ๆ ลองใส่ไปขึ้นรถตู้ รถเมล์ หรือ รถสาธารณะอะไร ต่อมิอะไร ในวันที่ ๑๓ นี้ดูครับ
รับรอง ความนิยมพวกท่านกระฉูดแน่ ๆ แต่กระฉูดไปทางไหน ผมเดาไม่ถูกจริง ๆ