ถ้าได้ติดตามข่าว บิ๊กตู๋ พล.อ.ประยุทธ์ เปรยว่า การทำรัฐประหารเกิดขึ้นได้ แล้วแต่สถานการณ์ คำกล่าวเช่นนี้แสดงให้เห็นว่า ทหารพร้อมจะรอโอกาสทำรัฐประหารใช่หรือไม่ ???
นายสุเทพ และ ผบ.ทบ คนปัจจุบัน คงยากจะปฎิเสธว่าเกื้อกูลกันมา บิ๊กตู๋ ได้เป็นใหญ่เป็นโตก็สมัยกำนันเทือกเป็นรองนายกฯ โดยมี มาร์คเป็นนายกฯ บิ๊กป้อม ประวิตร เป็น รมต. กลาโหม และ บิ๊กป๊อก อนุพงศ์ เป็น ผบ.ทบ. สายสัมพันธ์ของสี่คนนี้ที่แน่นแฟ้นกันอย่างยิ่ง และร่วมกันในเหตุการณ์สั่งฆ่าคนเสื้อแดงในปี 2553
ม็อบกบฎของนายสุเทพ ที่พยายามให้ทหารออกมาทำรัฐประหาร ได้กลายภัยคุกคามเศรษฐกิจของประเทศนี้
การลงทุน และตลาดหุ้นไทยดิ่งลงเหว ยิ่งคำสัมภาษณ์ของ พ.อ. ประยุทธ์ ที่ส่อทีท่าการทำรัฐประหารยังเปิดประตูอยู่ ยิ่งทำให้ทั้งนักลงทุนทั้งในประเทศและทั่วโลกเกิดความวิตกอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ก็มีกระแสสังคมบีบ บิ๊กตู๋ ให้ต้องมาแก้ข่าวภายหลังว่า “ปัญหาการเมือง ต้องแก้ด้วยการเมือง ทหารไม่เกี่ยว” จนทำให้คนดูมองว่า บิ๊กตู๋ กำลัง Take Side อย่างเงียบๆ
จากข่าวที่ปรากฏว่า ม็อบได้กระทำผิดกฎหมายในคดีต่างๆ ทั้งการปิดสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง การปะทะกับเจ้าหน้าที่ จนถึงการใช้อาวุธปืนยิงจนทำให้ดาบตำรวจณรงค์ตาย แต่ บิ๊กตู๋ กลับไม่ได้พูดติเตียนใดๆ เลยให้ออกจากปาก ทั้งๆที่ คนนี้ในฐานะที่ทหารคนหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเหมือนกันกับคนเป็นตำรวจ ก็น่าจะรักความเป็นข้าราชการของรัฐด้วยกัน
แต่มิหนำซ้ำ กลับได้ยินเสียงคัดค้านของ บิ๊กตู๋ ซึ่ง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ได้ขอคำปรึกษากับเขาและกองทัพที่จะประกาศใช้ พรก. สถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เขากลับกระทำอย่างไม่อินังขังขอบอะไร ไม่แสดงความสนใจจะรับผิดชอบ แน่นอนละว่า คอการเมืองรู้อยู่แล้วว่าเลือกข้างชัดเจน
ขอเตือนว่า ทหารอย่าทำรัฐประหาร โดยเด็ดขาด มิฉะนั้น การเลือกข้างของพวกคุณ โดยไม่สนใจประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ ก็จะเหมือนกำลังเทน้ำมันลงบนเปลวเพลิง รอดูแล้วกันว่าอะไรจะใหญ่กว่ากันระหว่างอำนาจปืนจริง (แต่ปลอมโดยตำแหน่ง) กับ อำนาจประชาชน ของจริง ที่มือเปล่าแต่มีจำนวนเป็นล้านคน รวมถึงนานาอารยะประเทศที่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย
เทือกทำกบฎ เพื่อเรียก ผบ.ทบ. สั่งทหารทำรัฐประหาร ช่วยก่อกบฎ เจริญละประเทศนี้
นายสุเทพ และ ผบ.ทบ คนปัจจุบัน คงยากจะปฎิเสธว่าเกื้อกูลกันมา บิ๊กตู๋ ได้เป็นใหญ่เป็นโตก็สมัยกำนันเทือกเป็นรองนายกฯ โดยมี มาร์คเป็นนายกฯ บิ๊กป้อม ประวิตร เป็น รมต. กลาโหม และ บิ๊กป๊อก อนุพงศ์ เป็น ผบ.ทบ. สายสัมพันธ์ของสี่คนนี้ที่แน่นแฟ้นกันอย่างยิ่ง และร่วมกันในเหตุการณ์สั่งฆ่าคนเสื้อแดงในปี 2553
ม็อบกบฎของนายสุเทพ ที่พยายามให้ทหารออกมาทำรัฐประหาร ได้กลายภัยคุกคามเศรษฐกิจของประเทศนี้
การลงทุน และตลาดหุ้นไทยดิ่งลงเหว ยิ่งคำสัมภาษณ์ของ พ.อ. ประยุทธ์ ที่ส่อทีท่าการทำรัฐประหารยังเปิดประตูอยู่ ยิ่งทำให้ทั้งนักลงทุนทั้งในประเทศและทั่วโลกเกิดความวิตกอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ก็มีกระแสสังคมบีบ บิ๊กตู๋ ให้ต้องมาแก้ข่าวภายหลังว่า “ปัญหาการเมือง ต้องแก้ด้วยการเมือง ทหารไม่เกี่ยว” จนทำให้คนดูมองว่า บิ๊กตู๋ กำลัง Take Side อย่างเงียบๆ
จากข่าวที่ปรากฏว่า ม็อบได้กระทำผิดกฎหมายในคดีต่างๆ ทั้งการปิดสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง การปะทะกับเจ้าหน้าที่ จนถึงการใช้อาวุธปืนยิงจนทำให้ดาบตำรวจณรงค์ตาย แต่ บิ๊กตู๋ กลับไม่ได้พูดติเตียนใดๆ เลยให้ออกจากปาก ทั้งๆที่ คนนี้ในฐานะที่ทหารคนหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเหมือนกันกับคนเป็นตำรวจ ก็น่าจะรักความเป็นข้าราชการของรัฐด้วยกัน
แต่มิหนำซ้ำ กลับได้ยินเสียงคัดค้านของ บิ๊กตู๋ ซึ่ง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ได้ขอคำปรึกษากับเขาและกองทัพที่จะประกาศใช้ พรก. สถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เขากลับกระทำอย่างไม่อินังขังขอบอะไร ไม่แสดงความสนใจจะรับผิดชอบ แน่นอนละว่า คอการเมืองรู้อยู่แล้วว่าเลือกข้างชัดเจน
ขอเตือนว่า ทหารอย่าทำรัฐประหาร โดยเด็ดขาด มิฉะนั้น การเลือกข้างของพวกคุณ โดยไม่สนใจประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ ก็จะเหมือนกำลังเทน้ำมันลงบนเปลวเพลิง รอดูแล้วกันว่าอะไรจะใหญ่กว่ากันระหว่างอำนาจปืนจริง (แต่ปลอมโดยตำแหน่ง) กับ อำนาจประชาชน ของจริง ที่มือเปล่าแต่มีจำนวนเป็นล้านคน รวมถึงนานาอารยะประเทศที่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย