๓๒
กลิ่นน้ำมันเครื่อง ผสมกับกลิ่นเหล็กขึ้นสนิมและกลิ่นอับ บางทีก็ปนเปมากับกลิ่นคาวเลือด กลิ่นเหล่านี้ลอยมาปะทะระบบประสาทการหายใจ เมื่อทั้งสองสาวเปิดบานประตูเก่าลั่นเอี๊ยดอ๊าด แล้วเดินเข้ามายืนอยู่ภายในสถานที่แห่งนี้...สถานที่ที่ใช้สำหรับเก็บซากรถที่ประสบอุบัติเหตุ!
น่ากลัวเสียจริงรถแต่ละคัน ไม่รู้ว่าขับกันอีท่าไหน จึงได้กลายมาเป็นซากสภาพสยองเช่นนี้ ความประมาทของมนุษย์ช่างมีจุดจบที่น่ากลัวเหลือเกิน จินตนาการภาพออกได้เลยว่าวินาทีสุดท้ายของชีวิต ก่อนจะประสบพบกับคำว่า ‘ตาย’ จะเจ็บปวดทรมานมากมายสักเพียงใด
หนูบ้านสีเทาตัวใหญ่เป้งสองสามตัว ร้องจี๊ดๆวิ่งพรวดออกมาจากซากรถเก๋งคันหนึ่ง สองสาวนายบ่าวร้องกรี๊ดลั่น จนเสียงแหลมๆสะท้อนกลับไปกลับมา พลางยกแข้งยกขา กระโดดเหยงๆกลัวเนื้อตัวจะไปถูกไปต้องไปสัมผัสกับเจ้าหนูสีเทาสกปรกมอมแมม
“นังสา ตัวอะไร...ไอ้ตัวเมื่อกี้มันตัวอะไร ทำไมมันน่าเกลียดแบบนั้นฮะ!” มดแดงถามเสียงสั่น ใจเต้นเร็วแรงกว่าปกติ เล่นเอาความดันเกือบขึ้น
“หนะ...หนู หนูค่ะ สงสัยจะหนูยักษ์ด้วยมั้งคะ ตัวโตขนาดนี้...อึ๊ย สาขนลุกค่ะ”
“ไปสิ”
“ไปไหนคะ หรือว่าคุณมดแดงเปลี่ยนใจกลับบ้านแล้ว...ดีเลยค่ะ กลับกันเลยนะคะ...กลับเลยๆ”
“แกจะไปไหนนังสา ฉันหมายความว่าให้เดินไปข้างใน ไม่ได้จะกลับบ้าน”
“อ๊าว...โถ คุณมดแดง ช่างมานะบากบั่นจริงนะคะ บรรยากาศสยองแบบนี้เปลี่ยนใจเดินออกตอนนี้ยังทัน ไปค่ะประตูอยู่ใกล้ๆ”
“ไม่!” มดแดงเสียงเข้ม
“แล้วจะอยู่ทำไมคะ ไอ้ที่กองๆอยู่เนี่ย กี่ศพก็ไม่รู้ อาจมีวิญญาณหวงรถติดอยู่ก็เป็นไปได้นะคะ บอกตามตรงว่าสาหวั่นใจ หัวใจมันอ่อนแรง ดูละครที่มีผีอีแพง สาว่ามันยังไม่น่ากลัว เท่ากับที่ๆเรายืนอยู่ตอนนี้เลยนะคะ”
“หุบปากเสียๆของแกไปเลยนะนังสา แล้วแกก็ช่วยฉันมองหารถยายลูกไม้ เร็วเข้า เจอไวๆ จะได้ไปๆจากที่นี่ ฉันเองก็ไม่อยากอยู่ในนี้นานๆเหมือนกัน จะมีตัวอะไรโผล่มาอีกรึเปล่าก็ไม่รู้...ว่าแต่ แกพอจะจำรถได้ใช่ไหม?”
“ไอ้จำได้ก็จำได้อยู่นะคะ สาเห็นเขาขับรถเข้าเมือง เอาผักผลไม้ในสวนไปส่งที่ตลาดใหญ่บ่อยๆ แต่...”
“แต่อะไร...ทำไมนะ วันนี้มันถึงได้มีคำว่าแต่เยอะแบบนี้ แต่ๆๆอยู่ได้”
“แต่สภาพตอนนี้มันไม่เหมือนกับตอนนั้นนี่คะ ไม่รู้หน้าตาจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน”
“เออ...ก็จริงของแก”
“อ้อ...สานึกออกแล้วค่ะ เลขทะเบียนไงคะ...แต่...สาจำเลขทะเบียนไม่ได้ เคยว่าจะจำเอาไปซื้อหวยตอนที่เขาตาย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อค่ะ สาลืม”
“ฉันไม่แน่ใจว่าทะเบียนอะไร จำได้แค่ ตัวอักษร ‘ล ม’ เลขสองตัวหลัง มันเป็นเลข เก้า หก”
แม่สาวสาช่วยกวาดสายตามองหาอยู่พักใหญ่ๆ แล้วเจ้าหล่อนก็ร้องออกมาอย่างดีใจว่า...
“คุณมดแดงคะ...เจอแล้วค่ะทะเบียน ‘ล ม’ เลขสองตัวท้าย เก้า หก สาหาเจอแล้วค่ะ...สาหาเจอแล้ว”
“ไหน อยู่ไหน?”
“นั่นไงคะ แต่มันจอดอยู่ข้างในนั้นแน่ะค่ะ” แม่สาวสา ชี้มือเข้าไป
“ทำไมต้องเอาไปไว้ลึกขนาดนั้นด้วยเนี่ย เดินเข้ามาแค่นี้ก็น่ากลัวจะแย่แล้ว” มดแดงขนลุก ขยาดเป็นที่สุด
“จะเดินไปดูจริงหรือคะคุณมดแดง?”
“เข้ามาขนาดนี้ ไม่มีคำว่าถอยแล้ว”
และเมื่อได้มาเห็นสภาพรถใกล้ๆ มดแดงก็ถึงกับขนแขนตั้งชันขึ้นมาในทันที ไม่คิดว่ารถจะยับเยินได้ถึงขนาดนี้ น่ากลัวไปกว่านั้นคือคราบเลือดแห้งกรังจำนวนไม่น้อย ที่ยังติดอยู่ที่พวงมาลัยรถ เลือดที่ไหลออกมาจากตัวเพื่อนของเธอ!
“ใช่คันนี้ไหมคะ คุณมดแดง?”
“อืม...” มดแดงพยักหน้าให้แม่สาวใช้ น้ำตาเริ่มคลอหน่วยขึ้นมาทีละนิด จมูกแดงระเรื่อ เพราะพยายามกลั้นเสียงร้องไห้เอาไว้ไม่ให้ลอดออกมาอย่างถึงที่สุด
“คุณมดแดง เป็นอะไรไปคะ ร้องไห้ทำไม?”
“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร ในนี้ฝุ่นเยอะฉันเคืองตา...” มดแดงยกมือเช็ดน้ำตาลวกๆ “ไปกันเถอะ ฉันอยากจะเห็นแค่นี้แหละ”
“อะไรวะ มาดูแค่เนี๊ยเนี่ยนะ” แม่สาวสาพูดประโยคนี้เบาๆ พลางขมวดคิ้วสงสัย “เอ๊ะ เดี๋ยวค่ะคุณมดแดง เดี๋ยวค่ะ”
“อะไรของแกอีกล่ะนังสา ทีเมื่อกี้บ่นจะกลับ ตอนนี้มาบอกเดี๋ยว”
“สาว่ารถคันนี้มันเอียงแปลกๆนะคะ” แม่สาวสาเดินวนไปด้านหลังรถ “นี่ไงคะ ยางรถล้อซ้ายทางด้านหลังมันแบนนี่เอง แต่เอ๊ะ ทำไมล้อนี้มันแบนอยู่ล้อเดียวล้ออื่นไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”
มดแดงก้มลงดูบ้าง “จริงด้วย...เหยียบตะปูเรือใบมารึเปล่า”
“ไม่น่าใช่นะคะ”
“ทำไมแกพูดอย่างนี้ล่ะนังสา?” มดแดงหน้าถอดสี
ลูกไม้ฯ ตอนที่ ๓๒
กลิ่นน้ำมันเครื่อง ผสมกับกลิ่นเหล็กขึ้นสนิมและกลิ่นอับ บางทีก็ปนเปมากับกลิ่นคาวเลือด กลิ่นเหล่านี้ลอยมาปะทะระบบประสาทการหายใจ เมื่อทั้งสองสาวเปิดบานประตูเก่าลั่นเอี๊ยดอ๊าด แล้วเดินเข้ามายืนอยู่ภายในสถานที่แห่งนี้...สถานที่ที่ใช้สำหรับเก็บซากรถที่ประสบอุบัติเหตุ!
น่ากลัวเสียจริงรถแต่ละคัน ไม่รู้ว่าขับกันอีท่าไหน จึงได้กลายมาเป็นซากสภาพสยองเช่นนี้ ความประมาทของมนุษย์ช่างมีจุดจบที่น่ากลัวเหลือเกิน จินตนาการภาพออกได้เลยว่าวินาทีสุดท้ายของชีวิต ก่อนจะประสบพบกับคำว่า ‘ตาย’ จะเจ็บปวดทรมานมากมายสักเพียงใด
หนูบ้านสีเทาตัวใหญ่เป้งสองสามตัว ร้องจี๊ดๆวิ่งพรวดออกมาจากซากรถเก๋งคันหนึ่ง สองสาวนายบ่าวร้องกรี๊ดลั่น จนเสียงแหลมๆสะท้อนกลับไปกลับมา พลางยกแข้งยกขา กระโดดเหยงๆกลัวเนื้อตัวจะไปถูกไปต้องไปสัมผัสกับเจ้าหนูสีเทาสกปรกมอมแมม
“นังสา ตัวอะไร...ไอ้ตัวเมื่อกี้มันตัวอะไร ทำไมมันน่าเกลียดแบบนั้นฮะ!” มดแดงถามเสียงสั่น ใจเต้นเร็วแรงกว่าปกติ เล่นเอาความดันเกือบขึ้น
“หนะ...หนู หนูค่ะ สงสัยจะหนูยักษ์ด้วยมั้งคะ ตัวโตขนาดนี้...อึ๊ย สาขนลุกค่ะ”
“ไปสิ”
“ไปไหนคะ หรือว่าคุณมดแดงเปลี่ยนใจกลับบ้านแล้ว...ดีเลยค่ะ กลับกันเลยนะคะ...กลับเลยๆ”
“แกจะไปไหนนังสา ฉันหมายความว่าให้เดินไปข้างใน ไม่ได้จะกลับบ้าน”
“อ๊าว...โถ คุณมดแดง ช่างมานะบากบั่นจริงนะคะ บรรยากาศสยองแบบนี้เปลี่ยนใจเดินออกตอนนี้ยังทัน ไปค่ะประตูอยู่ใกล้ๆ”
“ไม่!” มดแดงเสียงเข้ม
“แล้วจะอยู่ทำไมคะ ไอ้ที่กองๆอยู่เนี่ย กี่ศพก็ไม่รู้ อาจมีวิญญาณหวงรถติดอยู่ก็เป็นไปได้นะคะ บอกตามตรงว่าสาหวั่นใจ หัวใจมันอ่อนแรง ดูละครที่มีผีอีแพง สาว่ามันยังไม่น่ากลัว เท่ากับที่ๆเรายืนอยู่ตอนนี้เลยนะคะ”
“หุบปากเสียๆของแกไปเลยนะนังสา แล้วแกก็ช่วยฉันมองหารถยายลูกไม้ เร็วเข้า เจอไวๆ จะได้ไปๆจากที่นี่ ฉันเองก็ไม่อยากอยู่ในนี้นานๆเหมือนกัน จะมีตัวอะไรโผล่มาอีกรึเปล่าก็ไม่รู้...ว่าแต่ แกพอจะจำรถได้ใช่ไหม?”
“ไอ้จำได้ก็จำได้อยู่นะคะ สาเห็นเขาขับรถเข้าเมือง เอาผักผลไม้ในสวนไปส่งที่ตลาดใหญ่บ่อยๆ แต่...”
“แต่อะไร...ทำไมนะ วันนี้มันถึงได้มีคำว่าแต่เยอะแบบนี้ แต่ๆๆอยู่ได้”
“แต่สภาพตอนนี้มันไม่เหมือนกับตอนนั้นนี่คะ ไม่รู้หน้าตาจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน”
“เออ...ก็จริงของแก”
“อ้อ...สานึกออกแล้วค่ะ เลขทะเบียนไงคะ...แต่...สาจำเลขทะเบียนไม่ได้ เคยว่าจะจำเอาไปซื้อหวยตอนที่เขาตาย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อค่ะ สาลืม”
“ฉันไม่แน่ใจว่าทะเบียนอะไร จำได้แค่ ตัวอักษร ‘ล ม’ เลขสองตัวหลัง มันเป็นเลข เก้า หก”
แม่สาวสาช่วยกวาดสายตามองหาอยู่พักใหญ่ๆ แล้วเจ้าหล่อนก็ร้องออกมาอย่างดีใจว่า...
“คุณมดแดงคะ...เจอแล้วค่ะทะเบียน ‘ล ม’ เลขสองตัวท้าย เก้า หก สาหาเจอแล้วค่ะ...สาหาเจอแล้ว”
“ไหน อยู่ไหน?”
“นั่นไงคะ แต่มันจอดอยู่ข้างในนั้นแน่ะค่ะ” แม่สาวสา ชี้มือเข้าไป
“ทำไมต้องเอาไปไว้ลึกขนาดนั้นด้วยเนี่ย เดินเข้ามาแค่นี้ก็น่ากลัวจะแย่แล้ว” มดแดงขนลุก ขยาดเป็นที่สุด
“จะเดินไปดูจริงหรือคะคุณมดแดง?”
“เข้ามาขนาดนี้ ไม่มีคำว่าถอยแล้ว”
และเมื่อได้มาเห็นสภาพรถใกล้ๆ มดแดงก็ถึงกับขนแขนตั้งชันขึ้นมาในทันที ไม่คิดว่ารถจะยับเยินได้ถึงขนาดนี้ น่ากลัวไปกว่านั้นคือคราบเลือดแห้งกรังจำนวนไม่น้อย ที่ยังติดอยู่ที่พวงมาลัยรถ เลือดที่ไหลออกมาจากตัวเพื่อนของเธอ!
“ใช่คันนี้ไหมคะ คุณมดแดง?”
“อืม...” มดแดงพยักหน้าให้แม่สาวใช้ น้ำตาเริ่มคลอหน่วยขึ้นมาทีละนิด จมูกแดงระเรื่อ เพราะพยายามกลั้นเสียงร้องไห้เอาไว้ไม่ให้ลอดออกมาอย่างถึงที่สุด
“คุณมดแดง เป็นอะไรไปคะ ร้องไห้ทำไม?”
“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร ในนี้ฝุ่นเยอะฉันเคืองตา...” มดแดงยกมือเช็ดน้ำตาลวกๆ “ไปกันเถอะ ฉันอยากจะเห็นแค่นี้แหละ”
“อะไรวะ มาดูแค่เนี๊ยเนี่ยนะ” แม่สาวสาพูดประโยคนี้เบาๆ พลางขมวดคิ้วสงสัย “เอ๊ะ เดี๋ยวค่ะคุณมดแดง เดี๋ยวค่ะ”
“อะไรของแกอีกล่ะนังสา ทีเมื่อกี้บ่นจะกลับ ตอนนี้มาบอกเดี๋ยว”
“สาว่ารถคันนี้มันเอียงแปลกๆนะคะ” แม่สาวสาเดินวนไปด้านหลังรถ “นี่ไงคะ ยางรถล้อซ้ายทางด้านหลังมันแบนนี่เอง แต่เอ๊ะ ทำไมล้อนี้มันแบนอยู่ล้อเดียวล้ออื่นไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”
มดแดงก้มลงดูบ้าง “จริงด้วย...เหยียบตะปูเรือใบมารึเปล่า”
“ไม่น่าใช่นะคะ”
“ทำไมแกพูดอย่างนี้ล่ะนังสา?” มดแดงหน้าถอดสี