ตามรักคืนเรือน ตอนที่ 10

กระทู้สนทนา
....กลิ่นหอมฉุนๆ กับลมเย็นๆ ทำให้หล่อนลืมตาตื่น ภาพตรงหน้ายังพร่าเลือนอยู่ หลังจากกระพริบตา สองสามครั้ง หล่อนจึงเห็นหน้าของคุณราตรีชัด สีหน้านั้นเหมือนกำลังดีใจ มือถือหลอดยาดม นั่นคงเป็นที่มาของกลิ่นฉุนๆ ยังมีสายลมเย็นๆที่พัดกระทบผิวหน้าเป็นจังหวะ หล่อนหันศีรษะไปมองยังที่มา วิวัฒน์ก้มหน้ากำลังใช้พัดพลาสติกโบกขึ้นลงเป็นจังหวะ

   “ฟื้นแล้ว”

   เสียงของคุณราตรี ดังขึ้นเหมือนจะมาจากที่ไกลๆ  หล่อนเป็นอะไรไป และทำไมถึงได้มานอนอยู่ตรงนี้ได้ ความคิดแวบแรก คือต้องนั่งขึ้นก่อน ไวเท่าความคิด มือทั้งสองข้างพยายามยันตัวลุกขึ้นจากท่านอน แต่มือของคุณราตรีก็กดไหล่หล่อนไว้เบาๆ

   “อย่าเพิ่งลุก หนูวาณี เช็ดเนื้อ เช็ดตัวซะก่อน”

   มือข้างที่เคยถือยาดมตอนนี้เปลี่ยนเป็นผ้าขนหนูผืนน้อย สัมผัสความเย็นจากผ้าขนหนูชุบน้ำที่เช็ดไล่จากใบหน้า ลงมาถึงซอกคอทำให้หล่อนอดนึกถึงแม่ไม่ได้ ยามที่ไม่สบายมีไข้ แม่มักจะเช็ดตัวให้แบบนี้

   “ตาเล็กก้มหน้าไป” เสียงของคุณราตรี ดุลูกชาย

   มือของคุณราตรี จัดปกเสื้อให้หล่อน พร้อมกับกลัดกระดุมเม็ดบนให้ ตอนนั้นเองหล่อนถึงเข้าใจ ว่าทำไม วิวัฒน์ ถึงได้ก้มหน้าอยู่ตลอด เมื่อลำดับ เหตุการณ์ ที่หล่อนมานอนอยู่บนโซฟา ได้อย่างไรถ้าไม่ใช่ชายหนุ่มอุ้มมา แล้วยังสภาพหล่อนเมื่อกี้อีกละ ความอายก็เข้ามาแทนที่ความมึนงงเมื่อครู่ หล่อนรีบยันตัวขึ้น สำรวจเสื้อผ้าว่าเรียบร้อยดีไหม

   “ดีขึ้นหรือยังจ๊ะ?” เสียงคุณราตรีถาม

   “คะ ขอบคุณมากคะ ”หล่อนพนมไหว้  เจ้าของบ้าน ก่อนแล้วก็หันไปขอบคุณ วิวัฒน์ ที่ตอนนี้เงยหน้าขึ้นมามองหล่อนแล้ว สายตาที่ดูเป็นห่วงกังวลของชายหนุ่ม  ยิ่งทำให้หล่อนอาย จนเป็นฝ่ายก้มหน้าหลบสายตาไปเอง

   “แดดตอนบ่ายออกร้อน ฉันก็ห่วงอยู่เหมือนกันว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างหนู ออกไปเดินตากแดดหัวแดง น่ากลัวจะเป็นลมล้มพับไปแล้วก็เป็นจริงๆ ดีที่ตาเล็กอยู่ด้วย”

   จากคำพูดของคุณราตรี แสดงว่า วิวัฒน์ยังไม่ได้เล่าให้คุณราตรีทราบถึงเรื่องที่หล่อนเห็นวิญญาณ คุณทวด หล่อนหันไปมองชายหนุ่ม ด้วยความสงสัย เขากำลังปิดบังอะไรหรือเปล่า แต่สายตาที่มองกลับมานั้น ยังคงเป็นสายตาห่วงใยแบบเดิม หล่อนตัดสินใจ เล่าเรื่องที่เจอให้คุณราตรีทราบหล่อนอยากรู้ว่า ครอบครัวนี้รู้เรื่องของวิญญาณคุณทวดไหม

   “คือ ดิฉัน คิดว่าเห็นวิญญาณ คุณทวด ที่ศาลาริมน้ำคะ”

   “คุณทวด? คุณทวดหนูชื่อ อะไรจ๊ะ” เสียงของคุณราตรีนั้นออกจะตื่นเต้น กับเรื่องที่หล่อนเล่า

   “คุณทวดละเอียด คะ ดิฉันเองก็ไม่ทราบว่าใช่ไหม แต่พอบอกให้คุณเล็กทราบ เธอบอกว่า เป็นคุณละเอียด บังเอิญเหลือเกินที่ชื่อตรงกับชื่อคุณทวดดิฉัน”

   ดูเหมือนคุณราตรี จะยิ่งสงสัยกว่าเดิม แต่สายตากลับไปคาดคั้นเอาคำตอบกับลูกชาย

   “เล็กเล่ามาสิ ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง กันแล้วหนูวาณี ไปเห็นอะไรที่ไหน”
   
   “คุณวาณี เป็นหลานคุณกิจจา ที่ขายศาลา ให้คุณพ่อครับก็เป็นเหลนของคุณละเอียด” เสียงวิวัฒน์ ดูจะแผ่วๆ ตอนท้ายๆ

   “ตายจริง เล็กไปปลุกคุณพ่อสิ ไปเอนหลังอยู่ที่ห้องนอนแหนะ” ท่าทางของคุณราตรีดูดีใจ จนหล่อนประหลาดใจนัก

   ขณะที่รอ วิวัฒน์ไปตามคุณวิทยาเจ้าของบ้านนั้น คุณราตรีก็รินน้ำส้มคั้น มาให้หล่อนอีกแก้ว สักพักเจ้าบ้านฝ่ายชายก็ลงมาสมทบพร้อมกับวิวัฒน์ เดินตามหลัง

   “หนูวาณี เป็นเหลน คุณละเอียด คะคุณวิทย์ แถมยังเห็น คุณละเอียด เธอด้วย”คุณราตรีเล่าให้สามีฟังทันที

   “จริงเหรอ หนู” เสียงของคุณวิทยาก็ดูตื่นเต้นไม่แพ้กัน

   “คะ”หล่อนรับคำอย่างงงๆกับสถานการณ์ตรงหน้า

   “บ้านนี้เรานับถือ คุณละเอียดเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งลูกหลานคุณละเอียด ก็เหมือนลูกหลานบ้านนี้ หนูวาณี เรียกลุงก็ได้”

   “คะ”หล่อนรับคำอีกครั้ง

   บ้านนี้เขาเป็นอะไรกันหนอ ดูเหมือนเรื่องที่หล่อน เห็นวิญญาณ คุณทวดจะกลายเป็นเรื่องปกติ หรือเรื่องน่ายินดีไปแล้ว

     หล่อนพยายามตั้งสติ  เรียบเรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้น คุณวิทยา หรือ ตอนนี้กลายเป็นลุงวิทยา ของหล่อนไปแล้ว กับ ป้าราตรี กำลังเล่าเรื่องราวที่มาของวิญญาณ คุณละเอียด ที่มาพร้อมกับ ศาลาริมน้ำ เมื่อเล่าถึง ตอนที่คุณเล็กเป็นคนเดียวที่เคยพบและคุยกับคุณทวดของหล่อน ใบหน้าของชายหนุ่มนั้นเรียบเฉย เหมือนกับเป็นเรื่องปกติ สำหรับการได้พูดคุยกับวิญญาณ

   ถึงเรื่องราวออกจะแปลกพิกล แต่อย่างน้อยหล่อนก็ได้รู้ว่าวิญญาณบรรพบุรุษ ของหล่อนได้รับการ ต้อนรับเคาพรนับถือ จากครอบครัวนี้

   “เออ..คุณลุงวิทย์ คะ หนูงงไปหมดแล้ว ขอเวลาหนูไปพักทบทวนเรื่องวันนี้ก่อนได้ไหมคะ ส่วนเรื่องงานจัดสวน อาทิตย์หน้า หนูจะส่งแบบร่างกับสัญญา มาให้ดู วันนี้หนูอยากจะขอตัวกลับก่อน”

   “นั่นสินะ คิดๆไปเรื่องมันก็ยากจะเชื่ออยู่ แต่อยากให้หนูรู้ไว้ว่าครอบครัวของเรา ไม่ได้รังเกียจ วิญญาณทวดของหนู แต่เราเป็นห่วงอยากให้เธอได้หลุดจากห่วงที่ดึงเธอไว้ อยากให้เธอได้ไปสู่สุขคติ”

   “คะ หนูดีใจที่ คุณลุงและครอบครัว ปรารถนา ดีต่อคุณทวด”

   “แล้วนี่หนูวาณี ขับรถไหวไหม เดี๋ยวลุงให้นายสน ขับไปส่งให้ไหม หนูบอกทางก็พอ ขากลับเดี๋ยวเขากลับมาเองได้ ไม่ต้องห่วง”

   “หนูขับเองได้คะ คุณลุงไม่ต้องเป็นห่วง”

   “งั้นก็ขับรถ ระวังด้วยนะหนู เรื่องแบบสวน ไม่ต้องเร่งก็ได้ ไว้สบายใจเมื่อไหร่ค่อยทำ” ป้าราตรีกำชับ ก่อนที่หล่อนจะลากลับ

   วิวัฒน์ ช่วยถือของมาส่งหล่อนที่รถ ดูชายหนุ่มจะเงียบผิดสังเกต แต่หล่อนไม่ได้ซักถามอะไร เรื่องที่หล่อนต้องคิดมีมากมายพออยู่แล้ว ชายหนุ่มกล่าวล่ำลาหล่อนนิดหน่อย ถึงอย่างไรหล่อนก็ยังไม่กล้าสบตาคุณเล็กดูเหมือนว่า ทุกครั้งที่พบกับคุณเล็ก หล่อนจะต้องมีเรื่องให้อาย ขายหน้าชายหนุ่มทุกครั้งไป เมื่อรถแล่นห่างออกไป  มือซ้าย หล่อนกำจี้ทองรูปผีเสื้อ ที่ขอยืมมาจากคุณทวด นึกถึงเสียงสุดท้ายที่หล่อนได้ยินก่อนสลบเสียงที่หล่อนไม่ได้เล่า ใครฟัง

   เอ็งเห็นข้าด้วยรึ


   ----------------------------------------


   วิวัฒน์ มองจนรถของวาณีพ้นไปจากสายตาไปแล้วจึงเดินกลับเข้าบ้าน เรื่องราวไม่เป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้ แถมคุณแม่ ยังจับพิรุธเขาได้หลายอย่าง เขารู้ชะตากรรมตัวเองดี ว่าหลังจากวาณีกลับไปคงโดนซักเรื่องทั้งหมด ตลอดทุกก้าวที่เดินกลับเข้าบ้าน เขาพยายามเรียบ
เรียงว่าจะเริ่มเล่าจากตรงไหน

   “เล็ก มาคุยกับแม่ก่อน”
   
   เดินเข้าประตูมา ก็ได้ยินเสียงเรียกจากผู้เป็นแม่ทันที  เขาเดินคอตก เข้าไปยังห้องรับแขกที่ตอนนี้เหลือเพียงคุณราตรี นั่งรออยู่เพียงคนเดียว

   “เล่ามาให้หมด เรื่องของหนูวาณี อย่าปิดแม่”

   เขาเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาข้างๆแม่  เมื่อเลี่ยงไม่ได้แล้ว ก็ต้องทำใจดีสู้เสือ เสียงแม่นั้นเข้มจนเขารู้ว่าเฉไฉ นอกเรื่องไม่ได้

   “เริ่มตรงไหนดีละครับ”

   “ไปรู้จักเขาได้ยังไง ?”

   “ไปเจอกันที่งานศพ คุณตากิจจา ครับ แต่ไม่รู้จักกัน”

   “ไม่รู้จักได้ไง แม่เห็นเล็กเรียกชื่อเล่นเขา”

   “เล็ก ได้ยินน้าของหวาน เขาเรียกในงานศพเลยจำได้”

   “แล้วที่ไปจ้างเขามาจัดสวนนี่ก็แผนของเราใช่ไหม”

   “ก็...”เขาเองก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันเมื่อโดนไล่ต้อน “เล็กอยากรู้จักเขา  ลองหาทางอื่นแล้วก็ไม่มีใครแนะนำเล็กให้รู้จักเขาได้ ” นั่นเท่ากับเขายอมรับเรื่องแผน

   “เล็กชอบเขาจริงๆหรือเปล่า หรือว่าแค่จีบเล่นๆ ?” เสียงย้ำนั้นทำให้รู้ว่าแม่ต้องการคำตอบจริงๆ

   “ครับ หวานเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมอยากจะรู้จักจริงๆ”เขาให้คำมั่น “ไม่รู้สิครับ เหมือนรักแรกพบมั้ง ผมรู้สึกว่าคนนี้แหละใช่เลยตั้งแต่เจอเขาครั้งแรก” ประโยคท้ายนั้นเขาตอบแบบเขินๆ

   “แล้ว น้ำ ละเล็กคิดยังไงกับเขา” เสียงแม่บอกถึงความไม่สบายใจ

     ธาริณี หรือ น้ำ เป็น ผู้ช่วยของแม่ ที่บริษัท ด้วยวัยที่ใกล้เคียงกันทำให้เขามักแวะเข้าไปทักทาย พูดเล่นกับ หญิงสาวเสมอ เวลาแวะไปหา บิดา หรือ มารดาที่บริษัท

   “น้ำ  ทำ ไมเหรอ ครับ ผมไม่ได้คิดอะไรกับ น้ำ”เขาออกจะงงกับคำ ถามของมารดา

   “เล็กไม่รู้เหรอ ว่าเขาลือ ไปทั้งบริษัทแล้ว ว่าราไปจีบ ยายน้ำ”

   “เปล่านะครับ” เขารีบปฏิเสธ ทันที เขาไม่ค่อยได้สนใจข่าวซุบซิบในบริษัท เลยไม่รู้เรื่องนี้  “เล็กก็แค่ ทักทาย อาจจะแซวเขามากหน่อย เพราะเขาไม่ค่อยจะยิ้ม เขายิ้มสวยนะครับ เล็กเลยไปแหย่เขาบ่อยๆ”

   “ผู้หญิง เขารู้หรือเปล่าละ ว่าเราแค่แหย่เล่นๆ”

   คำถามของแม่ทำให้เขาอึ้งไป  เขาไม่เคยคิดว่า ที่ไปแหย่ ธาริณีบ่อยๆ จะกลายเป็นเรื่องขนาดนี้

   “ถ้าเล็กจะจริงจังกับ หนูวาณี ต่อไปอย่าไปยุ่งกับ น้ำอีก น้ำเป็นลูกน้องแม่ แม่ไม่อยากให้มีข่าวพวกนี้อีก”เสียงเรียบๆ นั้นถือเป็นคำสั่งเด็ดขาด

   “ครับ” เขาได้แต่รับคำ

---------------------------------------------------------


ห้องนั้นมืดสนิท ผิดกับทุกครั้ง ที่หล่อนกลับมาถึงบ้าน ที่มักจะพบ พี่ปุ่นรออยู่ที่บ้าน อยู่ก่อนแล้ว หล่อนผิดหวังนิดๆ วันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย และหล่อนอยากได้ที่ปรึกษา อย่างพี่ปุ่น หล่อนเปิดสวิทช์ไฟ และเหมือนอย่างทุกครั้งที่พี่ชายต่างสายเลือด จะไปไหนเขามักจะทิ้งโน้ตไว้บนโต๊ะกินข้าว ครั้งนี้ก็เช่นกัน ข้อความสั้นๆบนกระดาษ

   คุมรถไปสุราษฎร์ ข้าวอยู่ในตู้เย็น

   เป็นอันเข้าใจว่าพี่ปุ่น ติดรถบริษัทขนส่ง ลงใต้ ซึ่งทำเป็นประจำเดือนละ หนึ่งถึงสองครั้ง โดยจะสุ่มตรวจการทำงานของคนขับรถ นอกเหนือไปจากสมุดลงเวลาตามสถานีสาขาของบริษัท

   หล่อนไม่มีกะใจจะสนใจอาหารเย็น  ปล่อยเป้หนังกองไว้บนพื้น ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟายาว ชีวิตของหล่อนกับแม่เหมือนกับละครน้ำเน่าแล้วเรื่องที่หล่อนเจอวันนี้ ทำให้มันกลายเป็นนิยายผีสยองขวัญด้วย ความทรงจำเรื่องของคุณทวดละเอียด ที่ได้ฟังจากตาสน นั้นมีเพียงแค่ คุณทวด ป่วยและย้ายไปรักษาที่บางกอกและตายที่นั่นตั้งแต่ยังสาว

   หล่อน เอามือขวาขึ้นมาลูบจี้รูปผีเสื้อบนคอเบาๆ  ทำไมคุณทวดถึงไม่ไปเกิด ทำไมถึงได้ยึดติดกับศาลาริมน้ำ เกิดอะไรขึ้นกันแน่กับคุณทวดละเอียด  ความคิดนั้นวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา หล่อนต้องหาสาเหตุนั้นให้ได้ วาณีสัญญากับตัวเอง

---------------------------------------------------------
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่