ใครๆ ก็บอกว่าหลีเป๊ะสวย เลยอยากจะไปดูให้เห็นเลย ว่าสวยจริงหรือเปล่า แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ สวยและสงบมาก เหมาะแก่การพักผ่อนมากค่ะ
ปล. เป็นการรีวิวครั้งแรกในชีวิต หากมีข้อขัดข้อง ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
มาเริ่มกันเลยดีกว่า เราออกเดินทางจากกรุงเทพไปหาดใหญ่ ทริปนี้เราเดินทางกับแอร์เอเชียด้วยตั๋วโปรที่จองตั้งแต่มกราคมต้นปีโน้น สงวนราคาไปกลับคนละ 700 บาืทนิดๆ จำราคาไม่ค่อยได้เพราะจองมาเป็นปีแห๊ะๆ เริ่มเดินทางวันแรก 19/12/13 บ่ายสองโมงตรงเป๊ะ
มาถึงหาดใหญ่แล้วจ้า ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงครึ่งลงเครื่องเวลาสามโมงครึ่งพอดิบพอดี เรานอนที่สงขลา 1 คืนค่ะ ด้วยความที่เรามีพี่อยู่ที่นี่ค่ะ เลยไม่ได้ใช้บริการรถเช่าหรือรถโดยสารและบริการโรงแรมที่หาดใหญ่ พอมาถึงก็หิวโซกัน เลยต้องจัดเต็มที่ร้านนี้ค่ะ "ติ่มซ่ำโชคดี แต่เตี้ยม"
ร้านนี้เปิดขายกันตั้งแต่เวลา 6.00 -11.30น รอบแรก เปิดอีกที 17.00-22.00 น. รอบสอง รับประกันความอร่อยค่ะ เราสั่งกันทั้งหมด 24 ถาดกินกัน 4 คน จ่ายไป 600บาท นิดๆ ราคาไม่แพงมากคุ้มกับความอร่อยจริงๆ อิอิ
ปล. สำหรับคนที่ต้องการใช้บริการรถโดยสารไปท่าเรือปากปารานะค่ะ เราแนะนำคือ
1 เมื่อมาถึงสนามบินแล้วเดินไปต่อรถสองแถวด้านหน้าสนามบิน บอกเค้าว่ามาลงตลาดเกษตร ค่าโดยสาร 20 บาท/คน แล้วก็เดินมาซื้อตั๋วรถตู้ ช่องที่9 เขียนว่าปากปารา ค่ารถตู้ 100 บาทต่อคน รถตู้ใช้เวลาเดินทางจากตลาดเกษตรถึงท่าเรือปากปาราประมาณไม่เกิน 1.45 ชมค่ะ
2.วันก่อนเดินทางเมื่อจะจองตั๋วเรือแล้ว ก็จองตั๋วรถตู้กับบริษัทเรือไปเลยค่ะ เค้าจะมีบริการมารับที่สนามบินทั้งขาไป และขากลับเช่นกัน สะดวกสบายกว่าเห็นๆ ราคาค่ารถตู้ไปกลับโดยประมาณ 500 บาท และ ค่าสปีดโบ๊ทไปกลับ 1000 บาทค่ะ
**คำนวณเวลากันดีดีนะค่ะ เพราะรอบเรือขาไปมีด้วยกัน 2 รอบคือ รอบแรก 11.30 น. และรอบสอง 14.30 น.**
เรานอนบ้านพี่สาวที่สงขลา 1 คืนจ้า พอเช้าวันที่ 20/12/13 ก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ท่าเรือปากปาราเลยเย้ๆ ใกล้เห็นหลีเป๊ะแล้ว ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชม. พอดีว่าทางบริษัทที่เราจองเรือเค้าบอกว่ามีเที่ยวเรือพิเศษรอบเช้า 9.30 น. เป็นเรือสปีดโบ้ทด้วย ก็เลยตัดสินใจนั่งเรือรอบเช้าตรู่กันเลย ไปถึงท่าเรือปากปารา 9.00 น. ก็เลยต้องกินอาหารง่ายๆ ลองท้องก่อน อิอิ ที่นี่เค้ามี 7-11 และอาหารให้แวะทานข้าวก่อนขึ้นเรือเพียบเลย แนะนำให้ซื้อน้ำดื่มหิ้วใส่เรือไปซักแพคสองแพคก็ดีนะคะ เพราะน้ำที่โน้นราคาสูงกว่าปกติ
ไปกันเลยค่ะ
มาถึงแล้วใช้เวลาเดินทางนั่งเรือสปีดโบ๊ท 1 ชม.นิดๆ แล้วก็นั่งเรือหางยาวต่อมารีสอร์ทเลย ค่าเรือหางยาว 70 บาท เราเลือกนอนที่ mountain resort เพราะอ่านรีวิวในพันทิพนี้แหละ 555+
มาถึงที่ mountain resort ก็เช็คอิน เข้าห้อง บันไดขึ้นไปเช็คอินจะสูงมากเลยค่ะ แต่พอขึ้นมาแล้วเห็นวิวแบบนี้ หายเหนื่อยเลย
[CR] ทริปดีดี กับบรรยากาศดีดี 2 คืน 3 วัน ที่หลีเป๊ะ
ปล. เป็นการรีวิวครั้งแรกในชีวิต หากมีข้อขัดข้อง ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
มาเริ่มกันเลยดีกว่า เราออกเดินทางจากกรุงเทพไปหาดใหญ่ ทริปนี้เราเดินทางกับแอร์เอเชียด้วยตั๋วโปรที่จองตั้งแต่มกราคมต้นปีโน้น สงวนราคาไปกลับคนละ 700 บาืทนิดๆ จำราคาไม่ค่อยได้เพราะจองมาเป็นปีแห๊ะๆ เริ่มเดินทางวันแรก 19/12/13 บ่ายสองโมงตรงเป๊ะ
มาถึงหาดใหญ่แล้วจ้า ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงครึ่งลงเครื่องเวลาสามโมงครึ่งพอดิบพอดี เรานอนที่สงขลา 1 คืนค่ะ ด้วยความที่เรามีพี่อยู่ที่นี่ค่ะ เลยไม่ได้ใช้บริการรถเช่าหรือรถโดยสารและบริการโรงแรมที่หาดใหญ่ พอมาถึงก็หิวโซกัน เลยต้องจัดเต็มที่ร้านนี้ค่ะ "ติ่มซ่ำโชคดี แต่เตี้ยม"
ร้านนี้เปิดขายกันตั้งแต่เวลา 6.00 -11.30น รอบแรก เปิดอีกที 17.00-22.00 น. รอบสอง รับประกันความอร่อยค่ะ เราสั่งกันทั้งหมด 24 ถาดกินกัน 4 คน จ่ายไป 600บาท นิดๆ ราคาไม่แพงมากคุ้มกับความอร่อยจริงๆ อิอิ
ปล. สำหรับคนที่ต้องการใช้บริการรถโดยสารไปท่าเรือปากปารานะค่ะ เราแนะนำคือ
1 เมื่อมาถึงสนามบินแล้วเดินไปต่อรถสองแถวด้านหน้าสนามบิน บอกเค้าว่ามาลงตลาดเกษตร ค่าโดยสาร 20 บาท/คน แล้วก็เดินมาซื้อตั๋วรถตู้ ช่องที่9 เขียนว่าปากปารา ค่ารถตู้ 100 บาทต่อคน รถตู้ใช้เวลาเดินทางจากตลาดเกษตรถึงท่าเรือปากปาราประมาณไม่เกิน 1.45 ชมค่ะ
2.วันก่อนเดินทางเมื่อจะจองตั๋วเรือแล้ว ก็จองตั๋วรถตู้กับบริษัทเรือไปเลยค่ะ เค้าจะมีบริการมารับที่สนามบินทั้งขาไป และขากลับเช่นกัน สะดวกสบายกว่าเห็นๆ ราคาค่ารถตู้ไปกลับโดยประมาณ 500 บาท และ ค่าสปีดโบ๊ทไปกลับ 1000 บาทค่ะ
**คำนวณเวลากันดีดีนะค่ะ เพราะรอบเรือขาไปมีด้วยกัน 2 รอบคือ รอบแรก 11.30 น. และรอบสอง 14.30 น.**
เรานอนบ้านพี่สาวที่สงขลา 1 คืนจ้า พอเช้าวันที่ 20/12/13 ก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ท่าเรือปากปาราเลยเย้ๆ ใกล้เห็นหลีเป๊ะแล้ว ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชม. พอดีว่าทางบริษัทที่เราจองเรือเค้าบอกว่ามีเที่ยวเรือพิเศษรอบเช้า 9.30 น. เป็นเรือสปีดโบ้ทด้วย ก็เลยตัดสินใจนั่งเรือรอบเช้าตรู่กันเลย ไปถึงท่าเรือปากปารา 9.00 น. ก็เลยต้องกินอาหารง่ายๆ ลองท้องก่อน อิอิ ที่นี่เค้ามี 7-11 และอาหารให้แวะทานข้าวก่อนขึ้นเรือเพียบเลย แนะนำให้ซื้อน้ำดื่มหิ้วใส่เรือไปซักแพคสองแพคก็ดีนะคะ เพราะน้ำที่โน้นราคาสูงกว่าปกติ
ไปกันเลยค่ะ
มาถึงแล้วใช้เวลาเดินทางนั่งเรือสปีดโบ๊ท 1 ชม.นิดๆ แล้วก็นั่งเรือหางยาวต่อมารีสอร์ทเลย ค่าเรือหางยาว 70 บาท เราเลือกนอนที่ mountain resort เพราะอ่านรีวิวในพันทิพนี้แหละ 555+
มาถึงที่ mountain resort ก็เช็คอิน เข้าห้อง บันไดขึ้นไปเช็คอินจะสูงมากเลยค่ะ แต่พอขึ้นมาแล้วเห็นวิวแบบนี้ หายเหนื่อยเลย