เครดิตจากมติชนออนไลน์
ปี 2013 ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องจริงจังหรือน่าประทับใจอย่างเดียว เพราะบางครั้งเหตุการณ์แปลกประหลาด พิลึกพิลั่น หรือชวนอมยิ้มก็เกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน จนเราต้อง "เก็บตก" มาฝากกันเพื่อให้ทุกท่านเริ่มต้นปี 2014 พร้อมรอยยิ้มไปพร้อมๆ กัน
1.ไม่ได้ดีแค่ฝีเท้า
ในรอบปีที่ผ่านมา การเดินทางมาของสโมสรที่มีแฟนบอลเยอะที่สุดอย่าง "ปีศาจแดง" "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" นอกจากจะสร้างความประทับใจในเกมที่ลงเล่นแล้ว ยังสร้างเสียงฮือฮา (ในทางลบ) ให้กับแฟนทีมตัวเอง และสร้างเสียงหัวเราะให้กับแฟนทีมอื่นๆ ได้เช่นกัน
เพราะแค่เพียงวันแรก "เดวิด มอยส์" กับ "เวนย์ รูนี่ย์" มาถึงสนามบินดอนเมืองด้วยกัน แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง กลับมีข่าวว่าศูนย์หน้าดาวยิงทีมชาติอังกฤษ เดินทางกลับอังกฤษเรียบร้อย เนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บ สร้างข้อกังขาให้กับแฟนบอลว่า "มาทำไม(วะ)?"
และที่คนไทยให้ความสนใจไม่แพ้กัน น่าจะเป็นวาทะของ "ลีซอ" "ธีรเทพ วิโนทัย" กองหน้าทีม "สิงห์ ออลสตาร์" ก่อนการแข่งขันว่า ถ้ายิงประตูได้ จะทำเฉยๆ ไม่แสดงความดีใจ เหมือนยิงทีมเก่าได้ สร้างความไม่พอใจให้กับสาวกผีแดงในเมืองไทยอย่างมาก จนลีซอตกเป็นเป้าโห่ฮาของแฟนๆ ทุกครั้งเวลาได้บอลในสนาม มิหนำซ้ำตอนที่เจ้าตัวยิงได้ กลับวิ่งดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง จนแฟนๆ ต้องหันไปมองหน้ากันด้วยความงงงวยว่า "ลืมที่พูดไว้ก่อนเกมแล้วเหรอ?"
นี่ยังไม่นับช็อตฮาในเกมของ "แดนนี่ เวลเบ๊ค" กองหน้าอันดับหนึ่งของผีแดงชุดที่มาเมืองไทย ซึ่งพยายามจะโชว์เทคนิคระดับโลก คลึงบอลหลอกล่อกองหลังสิงห์ออลสตาร์ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นการตอกส้นออกหลัง สร้างเสียงฮาให้กับผู้ชมทางบ้านและในสนาม แม้แต่เจ้าตัวยังยิ้มแบบเขินๆ เลย
หลังจากเกมปีศาจแดง คนไทยยังได้อมยิ้มอีกครั้งกับช็อตหลุตของกุนซือ "เดอะ แฮปปี้วัน" "โจเซ่ มูรินโญ่" ของ "สิงห์บลูส์" "เชลซี" ที่สร้างรอยยิ้มให้กับแฟนบอลที่มารอในวันแถลงข่าว เพราะตอนเจ้าตัวกำลังเดินขึ้นเวที ดันสะดุดเกือบหน้าคว่ำ จนต้องยิ้มแก้เก้อ แล้วรีบเดินไปนั่งแถลงข่าวต่อไปแบบเขินๆ
เรียกได้ว่าการมาเมืองไทยครั้งนี้ แฟนบอลไทยได้อรรถรสหลากหลาย ไม่ใช่แค่ได้ดูบอลอย่างเดียวแน่นอน
2.เกรียนมิ้ว
หลังจากจบการแข่งขัน "ซีเกมส์ ครั้งที่ 27" ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า ไม่มีใครไม่รู้จัก "อุสเซน มิ้ว" "จิระพงศ์ มีนาพระ" กรีฑาดาวรุ่ง ความหวังใหม่ของคนไทย ที่คว้ามาได้ถึง 3 เหรียญทอง จากรายการ 100 เมตร, 200 เมตร และ 4 x 100 เมตร กลายเป็นนักกรีฑาคนที่ 5 ของไทยที่กวาด 3 เหรียญระยะสั้นได้
หากใครได้ติดตามเฟซบุ๊คส่วนตัวของเจ้าลมกรดรายนี้ จะเห็นว่านอกจากเจ้ามิ้วจะมีความเร็วที่ไม่เป็นรองใครในอาเซียนแล้ว ยังมีความ "เกรียน" ไม่แพ้ใครเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นภาพการใส่ชุดแมสคอตนกฮูก "อู่ ชิ่ว ยู" ของซีเกมส์ครั้งที่ 27 พร้อมกับทำท่าสายฟ้าฟาดของ "อุสเซน โบลต์" ลมกรดขวัญใจของเขา
สิ่งที่ทำให้คนจดจำเจ้ามิ้วได้นอกจากความเร็วแล้ว คงไม่พ้นท่าทางแสดงความดีใจ โดยเฉพาะหลังจากคว้าเหรียญทองในรายการ 100 เมตรชายมาครอง ซึ่งลมกรดหนุ่มจัดเต็มด้วยท่าทางแบบ "สาวแตก" ออกมา ทำเอากองเชียร์และนักข่าวในสนามต้องหัวเราะและยิ้มตามกันไปทั้งหมด
ไม่เว้นแม้แต่กองเชียร์ชาวไทยที่ชมและเชียร์กันแบบออนไลน์อยู่ทางบ้าน ขณะที่ตัวแม่บางคนในเว็บบอร์ดชื่อดัง ถึงกับทิ้งถ้อยคำปริศนาไว้อีกว่า
"ดิฉันรู้สึกได้ถึงพลังบางอย่าง!!!!!!" ก็เป็นได้...?
3.เพลงฮิตแห่งปี
นาทีนี้ คงไม่มีทีมกีฬาหญิงทีมไหนครองใจคนไทยทั้งประเทศมากไปกว่าทีมนักตบลูกยางสาวไทย ที่เดินหน้าสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมได้ตลอดทั้งปี ตั้งแต่การผ่านคัดเลือกเข้าไปเล่นในวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอิตาลี รวมไปถึงการคว้าแชมป์ "วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย" อย่างยิ่งใหญ่ในบ้านของตัวเอง และการคว้าอันดับ 5 ในการแข่งขัน "วอลเลย์บอล เวิลด์ แกรนด์ แชมป์เปี้ยนส์คัพ 2013" ที่ประเทศญี่ปุ่นช่วงปลายปี
ที่ลุ้นกันสนุกสะใจที่สุดไม่พ้นศึกลูกยางชิงแชมป์เอเชียที่จังหวัดนครราชสีมา บ้านเกิดของ "กัปตันกิ๊ฟ" "วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์" ซึ่งงานนี้ ความสนุกตื่นเต้นไม่ได้มีแค่เกมตบในสนามอย่างเดียว เพราะที่ข้างๆ สนามก็มีภาพกีฬามันๆ (?) มาเรียกรอยยิ้มจากแฟนกีฬาชาวไทยและชาวโลกได้ไม่แพ้กัน
โดยในแมตช์รอบรองชนะเลิศซึ่งไทยเอาชนะจีน 3-2 เซตนั้น มีช็อตเด็ดข้างสนามขณะ "หน่อง" "ปลื้มจิตร์ ถินขาว" มือตบสาวหล่อ และ "แป้น" "ปิยานุช แป้นน้อย" ลิเบอโร่หน้าหวาน ออกลีลาเต้นเชียร์เพื่อนร่วมทีมอย่างกับเด็กน้อย ทำเอาแฟนๆ ทั้งที่โคราชและที่บ้านต้องยิ้มตามไปด้วย
เท่านั้นไม่พอ ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวยังมีทีเด็ดคลิปและภาพของ 2 หนุ่มสุดพลิ้ว เต้นเพลงดัง "ขอใจแลกเบอร์โทร" ของ "หญิงลี ศรีจุมพล" แบบจัดหนักจัดเต็ม เรียกเสียงปรบมือกึกก้องบนอัฒจันทร์ ก่อนพวกเขา (หรือเธอ) จะชักชวนเพื่อนแฟนคลับ "ยายนา" "วรรณา บัวแก้ว" ลิเบอโร่มือเก๋ามาเต้นกันโดยพร้อมเพรียงอีกแมตช์ต่อมา
เพลงนี้สาวๆ นักตบของไทยก็อินเทรนด์กับเขาไม่แพ้กัน เคยมีคลิปโชว์สเต็ปแบบพร้อมเพรียงโดยมีหน่องคนเดิมเป็นแกนนำ จนพิธีกร "3 แซ่บ" ต้องรบเร้าให้สาวๆ เต้นโชว์ออกอากาศด้วย
จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมพวกเธอจึงเป็นที่รักของคนไทยขนาดนี้
4.ดีใจเกิ๊น
ตามกฎระเบียบของ "สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า)" การแสดงความดีใจด้วยการถอดเสื้อ ผลที่ได้รับนั่นคือใบเหลือง 1 ใบ แต่ไม่มีใครเคยบอกว่าการดีใจด้วยการ "ถอดกางเกง" จะมีผลเช่นไร นั่นเป็นเพราะคงไม่มีใครอุตริถอดกางเกงดีใจหลังยิงประตูได้แน่นอน
แต่แล้วในเกม "โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก" นัดที่ "ฮัลโหล" "ทีโอที เอสซี" พ่ายคาบ้านให้ "กิเลนผยอง" "เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด" 1-2 นั้น ก็เกิดเหตุการณ์ที่ว่าขึ้น
โดยประตูนำ 2-0 ของทีมกิเลนผยองในนาทีที่ 36 มาจากการหลุดไปชิพอย่างสุดสวยของ "มาริโอ ยูรอฟสกี้" ซึ่งแข้งมาซิโดเนียก็ดีใจสุดเหวี่ยง ฉลองด้วยการถอดกางเกงมาสวมหัว สร้างความตื่นตะลึงให้กับทั้งสนาม ทำให้เจ้าตัวที่ก่อนหน้านี้ถูกใบเหลืองไปแล้วตั้งแต่นาทีที่ 22 ถูกแจกใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที
โชคดีที่ว่าใบเหลืองที่ 2 ถูกมองว่ามาจากการทำตัวไม่เหมาะสม ทำให้นับเป็นใบเหลืองสะสม ไม่ใช่ใบแดง เกมนัดต่อไปหลังจากเกมดังกล่าว ยูรอฟสกี้จึงสามารถกลับมาลงสนามได้เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเจ้าตัวก็ไม่รอดพ้นโทษปรับเงิน ที่โดนไปถึง 20,000 บาท โทษฐานฐานแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชน
เชื่อว่ายูรอฟสกี้คงจดจำใบเหลือง-แดง ครั้งนี้ไปอีกนาน และไม่ทำอีกแน่นอน
*มีต่อ คห.1 นะค่ะ
เก็บตก 10 เรื่องฮากีฬาไทย-เทศ!?
ปี 2013 ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องจริงจังหรือน่าประทับใจอย่างเดียว เพราะบางครั้งเหตุการณ์แปลกประหลาด พิลึกพิลั่น หรือชวนอมยิ้มก็เกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน จนเราต้อง "เก็บตก" มาฝากกันเพื่อให้ทุกท่านเริ่มต้นปี 2014 พร้อมรอยยิ้มไปพร้อมๆ กัน
1.ไม่ได้ดีแค่ฝีเท้า
ในรอบปีที่ผ่านมา การเดินทางมาของสโมสรที่มีแฟนบอลเยอะที่สุดอย่าง "ปีศาจแดง" "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" นอกจากจะสร้างความประทับใจในเกมที่ลงเล่นแล้ว ยังสร้างเสียงฮือฮา (ในทางลบ) ให้กับแฟนทีมตัวเอง และสร้างเสียงหัวเราะให้กับแฟนทีมอื่นๆ ได้เช่นกัน
เพราะแค่เพียงวันแรก "เดวิด มอยส์" กับ "เวนย์ รูนี่ย์" มาถึงสนามบินดอนเมืองด้วยกัน แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง กลับมีข่าวว่าศูนย์หน้าดาวยิงทีมชาติอังกฤษ เดินทางกลับอังกฤษเรียบร้อย เนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บ สร้างข้อกังขาให้กับแฟนบอลว่า "มาทำไม(วะ)?"
และที่คนไทยให้ความสนใจไม่แพ้กัน น่าจะเป็นวาทะของ "ลีซอ" "ธีรเทพ วิโนทัย" กองหน้าทีม "สิงห์ ออลสตาร์" ก่อนการแข่งขันว่า ถ้ายิงประตูได้ จะทำเฉยๆ ไม่แสดงความดีใจ เหมือนยิงทีมเก่าได้ สร้างความไม่พอใจให้กับสาวกผีแดงในเมืองไทยอย่างมาก จนลีซอตกเป็นเป้าโห่ฮาของแฟนๆ ทุกครั้งเวลาได้บอลในสนาม มิหนำซ้ำตอนที่เจ้าตัวยิงได้ กลับวิ่งดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง จนแฟนๆ ต้องหันไปมองหน้ากันด้วยความงงงวยว่า "ลืมที่พูดไว้ก่อนเกมแล้วเหรอ?"
นี่ยังไม่นับช็อตฮาในเกมของ "แดนนี่ เวลเบ๊ค" กองหน้าอันดับหนึ่งของผีแดงชุดที่มาเมืองไทย ซึ่งพยายามจะโชว์เทคนิคระดับโลก คลึงบอลหลอกล่อกองหลังสิงห์ออลสตาร์ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นการตอกส้นออกหลัง สร้างเสียงฮาให้กับผู้ชมทางบ้านและในสนาม แม้แต่เจ้าตัวยังยิ้มแบบเขินๆ เลย
หลังจากเกมปีศาจแดง คนไทยยังได้อมยิ้มอีกครั้งกับช็อตหลุตของกุนซือ "เดอะ แฮปปี้วัน" "โจเซ่ มูรินโญ่" ของ "สิงห์บลูส์" "เชลซี" ที่สร้างรอยยิ้มให้กับแฟนบอลที่มารอในวันแถลงข่าว เพราะตอนเจ้าตัวกำลังเดินขึ้นเวที ดันสะดุดเกือบหน้าคว่ำ จนต้องยิ้มแก้เก้อ แล้วรีบเดินไปนั่งแถลงข่าวต่อไปแบบเขินๆ
2.เกรียนมิ้ว
หลังจากจบการแข่งขัน "ซีเกมส์ ครั้งที่ 27" ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า ไม่มีใครไม่รู้จัก "อุสเซน มิ้ว" "จิระพงศ์ มีนาพระ" กรีฑาดาวรุ่ง ความหวังใหม่ของคนไทย ที่คว้ามาได้ถึง 3 เหรียญทอง จากรายการ 100 เมตร, 200 เมตร และ 4 x 100 เมตร กลายเป็นนักกรีฑาคนที่ 5 ของไทยที่กวาด 3 เหรียญระยะสั้นได้
หากใครได้ติดตามเฟซบุ๊คส่วนตัวของเจ้าลมกรดรายนี้ จะเห็นว่านอกจากเจ้ามิ้วจะมีความเร็วที่ไม่เป็นรองใครในอาเซียนแล้ว ยังมีความ "เกรียน" ไม่แพ้ใครเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นภาพการใส่ชุดแมสคอตนกฮูก "อู่ ชิ่ว ยู" ของซีเกมส์ครั้งที่ 27 พร้อมกับทำท่าสายฟ้าฟาดของ "อุสเซน โบลต์" ลมกรดขวัญใจของเขา
สิ่งที่ทำให้คนจดจำเจ้ามิ้วได้นอกจากความเร็วแล้ว คงไม่พ้นท่าทางแสดงความดีใจ โดยเฉพาะหลังจากคว้าเหรียญทองในรายการ 100 เมตรชายมาครอง ซึ่งลมกรดหนุ่มจัดเต็มด้วยท่าทางแบบ "สาวแตก" ออกมา ทำเอากองเชียร์และนักข่าวในสนามต้องหัวเราะและยิ้มตามกันไปทั้งหมด
ไม่เว้นแม้แต่กองเชียร์ชาวไทยที่ชมและเชียร์กันแบบออนไลน์อยู่ทางบ้าน ขณะที่ตัวแม่บางคนในเว็บบอร์ดชื่อดัง ถึงกับทิ้งถ้อยคำปริศนาไว้อีกว่า
"ดิฉันรู้สึกได้ถึงพลังบางอย่าง!!!!!!" ก็เป็นได้...?
3.เพลงฮิตแห่งปี
นาทีนี้ คงไม่มีทีมกีฬาหญิงทีมไหนครองใจคนไทยทั้งประเทศมากไปกว่าทีมนักตบลูกยางสาวไทย ที่เดินหน้าสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมได้ตลอดทั้งปี ตั้งแต่การผ่านคัดเลือกเข้าไปเล่นในวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอิตาลี รวมไปถึงการคว้าแชมป์ "วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย" อย่างยิ่งใหญ่ในบ้านของตัวเอง และการคว้าอันดับ 5 ในการแข่งขัน "วอลเลย์บอล เวิลด์ แกรนด์ แชมป์เปี้ยนส์คัพ 2013" ที่ประเทศญี่ปุ่นช่วงปลายปี
ที่ลุ้นกันสนุกสะใจที่สุดไม่พ้นศึกลูกยางชิงแชมป์เอเชียที่จังหวัดนครราชสีมา บ้านเกิดของ "กัปตันกิ๊ฟ" "วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์" ซึ่งงานนี้ ความสนุกตื่นเต้นไม่ได้มีแค่เกมตบในสนามอย่างเดียว เพราะที่ข้างๆ สนามก็มีภาพกีฬามันๆ (?) มาเรียกรอยยิ้มจากแฟนกีฬาชาวไทยและชาวโลกได้ไม่แพ้กัน
โดยในแมตช์รอบรองชนะเลิศซึ่งไทยเอาชนะจีน 3-2 เซตนั้น มีช็อตเด็ดข้างสนามขณะ "หน่อง" "ปลื้มจิตร์ ถินขาว" มือตบสาวหล่อ และ "แป้น" "ปิยานุช แป้นน้อย" ลิเบอโร่หน้าหวาน ออกลีลาเต้นเชียร์เพื่อนร่วมทีมอย่างกับเด็กน้อย ทำเอาแฟนๆ ทั้งที่โคราชและที่บ้านต้องยิ้มตามไปด้วย
เท่านั้นไม่พอ ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวยังมีทีเด็ดคลิปและภาพของ 2 หนุ่มสุดพลิ้ว เต้นเพลงดัง "ขอใจแลกเบอร์โทร" ของ "หญิงลี ศรีจุมพล" แบบจัดหนักจัดเต็ม เรียกเสียงปรบมือกึกก้องบนอัฒจันทร์ ก่อนพวกเขา (หรือเธอ) จะชักชวนเพื่อนแฟนคลับ "ยายนา" "วรรณา บัวแก้ว" ลิเบอโร่มือเก๋ามาเต้นกันโดยพร้อมเพรียงอีกแมตช์ต่อมา
จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมพวกเธอจึงเป็นที่รักของคนไทยขนาดนี้
4.ดีใจเกิ๊น
ตามกฎระเบียบของ "สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า)" การแสดงความดีใจด้วยการถอดเสื้อ ผลที่ได้รับนั่นคือใบเหลือง 1 ใบ แต่ไม่มีใครเคยบอกว่าการดีใจด้วยการ "ถอดกางเกง" จะมีผลเช่นไร นั่นเป็นเพราะคงไม่มีใครอุตริถอดกางเกงดีใจหลังยิงประตูได้แน่นอน
แต่แล้วในเกม "โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก" นัดที่ "ฮัลโหล" "ทีโอที เอสซี" พ่ายคาบ้านให้ "กิเลนผยอง" "เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด" 1-2 นั้น ก็เกิดเหตุการณ์ที่ว่าขึ้น
โดยประตูนำ 2-0 ของทีมกิเลนผยองในนาทีที่ 36 มาจากการหลุดไปชิพอย่างสุดสวยของ "มาริโอ ยูรอฟสกี้" ซึ่งแข้งมาซิโดเนียก็ดีใจสุดเหวี่ยง ฉลองด้วยการถอดกางเกงมาสวมหัว สร้างความตื่นตะลึงให้กับทั้งสนาม ทำให้เจ้าตัวที่ก่อนหน้านี้ถูกใบเหลืองไปแล้วตั้งแต่นาทีที่ 22 ถูกแจกใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที
โชคดีที่ว่าใบเหลืองที่ 2 ถูกมองว่ามาจากการทำตัวไม่เหมาะสม ทำให้นับเป็นใบเหลืองสะสม ไม่ใช่ใบแดง เกมนัดต่อไปหลังจากเกมดังกล่าว ยูรอฟสกี้จึงสามารถกลับมาลงสนามได้เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเจ้าตัวก็ไม่รอดพ้นโทษปรับเงิน ที่โดนไปถึง 20,000 บาท โทษฐานฐานแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชน
เชื่อว่ายูรอฟสกี้คงจดจำใบเหลือง-แดง ครั้งนี้ไปอีกนาน และไม่ทำอีกแน่นอน
*มีต่อ คห.1 นะค่ะ