[บทความ] เฉินจ่าน : รอวันที่เป็นจุดเปลี่ยน

กระทู้ข่าว
แคมป์ทีมชาติรอบที่ 3  วันสุดท้ายของการเล่นเวท ฝึกด้านพละกำลัง ทุกคนหมุนเวียนสลับกันเล่น  ในสนามมีเปิดเพลงคลอตามด้วย  
เมื่อถึงตอนหยุดพัก  เฉินจ่านก็เดินกลับมานั่งพักในตำแหน่งที่นั่งของตนเอง

1 มิ.ย. เธอได้รับหนังสือเรียกตัวของวอลเล่ย์หญิงทีมชาติจีน  เธอมารายงานตัวที่ปักกิ่งด้วยความตื่นเต้นดีใจเป็นที่สุด
ตอนนั้นเฉินจ่านก็นั่งตรงตำแหน่งที่นั่งนี้


พฤษภาคม มาแล้วก็ไป  ไปแล้วก็มาอีก

" ดนตรีที่เปิดมีท่วงทำนองค่อนข้างเศร้า ฉันเงยหน้ามองสนามฝึกซ้อมที่อยู่ตรงหน้า  ทุกคนกำลังดื่มน้ำพักผ่อน  
สนามมีแต่ความว่างเปล่า  ไม่มีคนแม้สักคนเดียว !!
ขณะนั้นในใจคิดขึ้นมาว่า จริงๆแล้วตัวเองถือว่าโชคดีมาก  ทั่วทั้งประเทศคนเล่นวอลเล่ย์มีอยู่มากมาย  
คิดอยากจะติดทีมชาติ  ใช่ว่าทุกคนจะได้รับโอกาส !!  
บางทีตลอดชีวิตของฉันอาจมีเพียงช่วงเวลานี้ที่สามารถมาเล่นวอลเล่ย์ที่สนามฝึกแห่งนี้  
ดังนั้นฉันควรจะทนุถนอมช่วงเวลานี้ให้ดีที่สุด " เฉินจ่านพูดอย่างช้าๆ  ดูแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่ใจเย็นมีความอดทน

แต่ว่าสำหรับเรื่องการติดทีมชาติ  เฉินจ่านใช่จะมีความอดทนรอ !!

“ เมื่อโค้ชหลางมาคุมทีมชาติ  ฉันคาดหวังมากว่าตัวเองจะมีโอกาส  ไม่ใช่เพราะคิดว่าตัวเองมีฝีมือเก่งอะไรหรอก
แต่เพราะเราอายุมาถึงช่วงนี้แล้ว  ก็มักจะคิดเสมอว่าฉันควรได้รับโอกาสบ้างมิใช่หรือ?”  

เมื่อ 6 ปีก่อน เฉินจ่านได้  MVP และลิโบโร่ยอดเยี่ยมในยุวชนโลก  นับว่าเธอประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย  
แต่ว่าต่อมาเส้นทางของเธอกลับดูไม่ราบรื่นนัก

“ ฉันไม่เคยมีชื่อถูกเรียกติดทีมชาติ  รวมถึงคราวนี้ด้วย  ดังนั้นพอรายชื่อออกมาไม่มีชื่อฉันติด  ก็รู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก
เพราะถ้าดูจากทีมชาติในอดีตตามที่เคยเป็นมา  ถ้าไม่มีรายชื่อติดตอนต้นปี  ก็ไม่ต้องไปหวังแล้ว !!
โดยเฉพาะตำแหน่งลิโบโร่  ครั้งก่อนๆแต่ละรอบโอลิมปิก 4 ปี ก็ไม่ค่อยมีเปลี่ยนตัวผู้เล่น

เฉินจ่านหัวใจแทบสลาย  เริ่มคิดถึงเส้นทางของตัวเองต่อไปในภายภาคหน้า  แม้ว่าเธอเพิ่งจะอายุ 23 ปี  
แต่เป้าหมายที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เดินหน้าต่อไปมันอยู่ที่ไหน?  เธอหามันไม่เจอ !!



แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่