วันนี้ (2 มกราคม 2557) ตั้งใจว่าจะพิชิต 100 กิโลเมตรแรกให้ได้ในชีวิต
หลังจากได้เสือหมอบคันใหม่มาได้ไม่ถึงอาทิตย์
อารมณ์ของคนที่กำลังเห่อของใหม่คงเข้าใจกันดี
ไม่สนอะไรทั้งนั้น ตั้งใจไว้แล้วว่าต้องทำให้ได้ ก็ต้องทำให้ได้ ไม่งั้นไม่ต้องพูดถึงทริปอื่นๆเลย
ไอที่ว่าทริปนี้ครบรสจริงๆ เป็นอย่างไรมาดูกันครับ ขอเวลาบรรยายกับลงรูปหน่อยนะครับ
ออกจากบ้านประมาณ 6.30 น.
อุปกรณ์ความปลอดภัยพร้อมเช่นเคย
ขาไปผมไม่กล่าวถึงมากก็แล้วกัน
เอาเป็นว่าทีเด็ดมันอยู่ตอนขากลับ
หลังจากผ่านพ้นกิโลเมตรที่ 50
ย่างเข้าสู้กิโลเมตรที่ 60
61...62...63...64...65...

ข้างๆทางสายขากลับจากนาทวี มุ่งหน้าสู่ตำบลคลองแงะ
ผมก็สังเกตเห็นลำคลองเล็กๆ ไหลผ่านสวนยาง ดูแล้วบรรยากาศดีเอามากๆ
ปั่นผ่านมา ทีแรกก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงไปดื่มด่ำกับบรรยากาศดีหรือว่าจะรีบกลับเลย
สุดท้าย คิดไปคิดมาใช้เวลาประมาณ 40 วินาที ก็ตัดสินใจวกหัวกลับไปยังลำคลองที่ได้เห็น
เพราะนึกเสียดายถ้าไม่ได้แวะ คิดว่าไม่ได้มาทริป 100 โลง่ายๆ เหมือนครั้งนี้
ไอตัวเราก็มาคนเดียวเหมือนเคย เป็นเสือเดียวดายมาตลอด ไม่จำเป็นต้องไปแข่งเวลากับใครหรือต้องเกรงใจให้ใครรอ
จอดรถเตรียมตัวเดินเท้าเปล่าลงไปสัมผัสกับความสุขในลำธารเบื้องหน้า
เลยถอดรองเท้า ถอดถุงเท้า แบกรถแบบที่เค้าแข่ง Cyclocross ไว้บนบ่านั้นแหละ มืออีกข้างก็ถือรองเท้ากับถุงเท้าไป แลดูทุลักทุเลพอสมควร
หนทางข้างหน้าเป็นทางลงไปยังลำธาร ข้างหน้ามีสวนยาง บรรยากาศดีสุดๆ
ทริป 110 กม. ทริปแรกของปี 2557 ไป-กลับ หาดใหญ่-นาทวี แลกมาด้วยรอยยิ้ม หยาดเหงื่อ จบด้วยหยดเลือดแต่ได้มิตรภาพกลับมา
หลังจากได้เสือหมอบคันใหม่มาได้ไม่ถึงอาทิตย์
อารมณ์ของคนที่กำลังเห่อของใหม่คงเข้าใจกันดี
ไม่สนอะไรทั้งนั้น ตั้งใจไว้แล้วว่าต้องทำให้ได้ ก็ต้องทำให้ได้ ไม่งั้นไม่ต้องพูดถึงทริปอื่นๆเลย
ไอที่ว่าทริปนี้ครบรสจริงๆ เป็นอย่างไรมาดูกันครับ ขอเวลาบรรยายกับลงรูปหน่อยนะครับ
ออกจากบ้านประมาณ 6.30 น.
อุปกรณ์ความปลอดภัยพร้อมเช่นเคย
ขาไปผมไม่กล่าวถึงมากก็แล้วกัน
เอาเป็นว่าทีเด็ดมันอยู่ตอนขากลับ
หลังจากผ่านพ้นกิโลเมตรที่ 50
ย่างเข้าสู้กิโลเมตรที่ 60
61...62...63...64...65...
ข้างๆทางสายขากลับจากนาทวี มุ่งหน้าสู่ตำบลคลองแงะ
ผมก็สังเกตเห็นลำคลองเล็กๆ ไหลผ่านสวนยาง ดูแล้วบรรยากาศดีเอามากๆ
ปั่นผ่านมา ทีแรกก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงไปดื่มด่ำกับบรรยากาศดีหรือว่าจะรีบกลับเลย
สุดท้าย คิดไปคิดมาใช้เวลาประมาณ 40 วินาที ก็ตัดสินใจวกหัวกลับไปยังลำคลองที่ได้เห็น
เพราะนึกเสียดายถ้าไม่ได้แวะ คิดว่าไม่ได้มาทริป 100 โลง่ายๆ เหมือนครั้งนี้
ไอตัวเราก็มาคนเดียวเหมือนเคย เป็นเสือเดียวดายมาตลอด ไม่จำเป็นต้องไปแข่งเวลากับใครหรือต้องเกรงใจให้ใครรอ
จอดรถเตรียมตัวเดินเท้าเปล่าลงไปสัมผัสกับความสุขในลำธารเบื้องหน้า
เลยถอดรองเท้า ถอดถุงเท้า แบกรถแบบที่เค้าแข่ง Cyclocross ไว้บนบ่านั้นแหละ มืออีกข้างก็ถือรองเท้ากับถุงเท้าไป แลดูทุลักทุเลพอสมควร
หนทางข้างหน้าเป็นทางลงไปยังลำธาร ข้างหน้ามีสวนยาง บรรยากาศดีสุดๆ