สวัสดีปีใหม่เพื่อนสมาชิกทุกท่านนะคะ วันนี้เราเพิ่งไปตระเวนไหว้พระเนื่องในวันปีใหม่มา เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์และสิ่งที่เราได้จากการไปทำบุญในครั้งนี้ค่ะ ^^
ปีนี้เราตั้งใจเอาไว้แล้วว่า วันที่ 1 มกรา จะไปไหว้พระ 9 วัดเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย นำพาสิ่งดี ๆ เข้ามาสู่ชีวิตตั้งแต่ต้นปีกันเลยทีเดียว ประกอบกับไม่ได้มีแผนจะไปเที่ยวที่ไหน เพราะวันที่ 2 มกรา ต้องทำงานตามปกติ ก็เลยตัดสินใจไปเข้าวัดดีกว่า โดยวัดที่เราไปทั้งหมดนี้ อิงจากหนังสือพระเก่าเล่มหนึ่ง ซึ่งจะไม่เหมือนการไหว้พระ 9 วัด สมัยใหม่เสียทีเดียว ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมถึงเป็น 9 + 1 ไว้เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังนะคะ
ขอพาเที่ยวชมแต่ละวัด โดยไม่ให้เสียเวลากันเลย --
เกริ่นนิดนึง
บ้านเราอยู่นนทบุรี ซึ่งข้ามเขตจังหวัดจากฝั่ง กทม. ไปแค่ 3 กิโลครึ่ง (จนทุกวันนี้เรายังไม่รู้สึกว่าเราอยู่ ตจวและปริมณฑลเท่าไหร่เลย เพราะตลอดชีวิต อยู่ กทม มาตลอด เพิ่งจะย้ายมาไม่กี่ปี) เราออกจากบ้านตอน 7.30 เพราะรู้แน่ว่า โปรแกรมวันนี้ค่อนข้างแน่นทีเดียว และพาหนะที่เลือกใช้ซึ่งบอกได้เลยว่าเหมาะกับสถานการณ์ที่สุด ก็คือ มอเตอร์ไซค์ ค่ะ เพราะถ้านั่งรถเก๋ง (ซึ่งในชีวิตจริงยังไม่มีสักครึ่งคัน) กว่าจะครบเก้าวัดแล้วพาร่างกลับมาถึงบ้านคงมืดแน่ ๆ เนื่องจากมวลมหาประชาชน ต่างพร้อมใจกันไปทำบุญในวัดดัง ๆ หลายแห่งในกทม. อย่างพร้อมเพรียงกัน โดยมิได้นัดหมาย เราเห็นคิวยาวเหยียดของผู้มีรถ 4 ล้อทั้งหลาย ต่อเข้าลานจอดรถ เข้าซอยวัด ของวัดแต่ละวัดแล้ว ก็ได้แต่กระหยิ่มยิ้มย่องในใจว่า ชั้นเลือกพาหนะได้ถูกต้อง 100 เปอร์เซนต์ ถึงแม้จะร้อนไปบ้าง โดนรถเมล์พ่นควันใส่หน้าไปบ้าง ยามไปจอดต่อท้ายคุณเขา ก็ยังดีกว่าที่ต้องมานั่งเสียเวลาไหว้พระอันมีค่า ไปกับการต่อแถวเข้าที่จอดรถ (ซึ่งบางทีก็ไม่มีนะคะลานจอดรถที่ว่า คนขับต้องจอดนอกวัดแล้วเดินไปไกลพอสมควรเลย)
เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ
วัดที่หนึ่ง ได้แก่ (ให้นึกถึงหน้าและน้ำเสียง อ. จตุพล ในรายการตีสิบไปด้วยนะคะ) วัดชนะสงครามค่ะ
- วัดนี้ชื่อก็บอกนะคะ ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเป็นเมืองที่รักสงบ แต่ถึงรบเราก็ไม่ขลาดนะคะ อันนี้คอนเฟิมค่ะ กล้าหาญชายชัยกันทุกคนเลย การมาไหว้วัดนี้เพื่อขอพรให้มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวงค่ะ
วัดนี้มีเหตุการณ์หนึ่งที่ได้ทราบมานะคะ เลยจะฝากเตือนแก่ทุกท่าน ที่เดินทางไปทำบุญ หรือ ไปสถานที่อื่น ๆ ที่มีคนเยอะ ๆ ก็ใช้ได้เช่นกัน นั่นก็คือ เวลาที่คุณขับรถเรียงแถวเข้ามาในลานจอด (เรายกตัวอย่างในกรณีของวัดนี้นะคะ) คือลานจอดรถของวัดนี้ต้องเลี้ยวรถเข้ามา ถ้าเป็นฝั่งเดียวกับวัดก็เลี้ยวขวาเข้าวัดเลย ทีนี้เวลาคุณมีผู้โดยสาร นั่งมาในรถ แล้วคุณเห็นว่า ต้องรอคิวนานกว่าจะหาที่จอดรถได้ เจ้าของรถบางคันเลี้ยวเข้าวัดปุ๊ป ก็หยุดรถปั๊ป เพื่อส่งให้คนในรถลงแล้วเดินเข้าวัดไปก่อน (ซึ่ง ณ ตรงที่คุณหยุดส่งให้คนลง มันไม่ใช่ที่จอดรับส่ง) โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงรถคันหลัง หรือคำนึงถึงความปลอดภัยของส่วนร่วม ทำให้เกิดเหตุการณ์ รถคันหลังจูบบั้นท้ายรถคุณ ไปแบบ "ไม่รู้จะโทษใคร" เหตุการณ์นี้คนเฝ้าลานจอดรถบอกว่าเพิ่งเกิดไปเมื่อวานนี้เอง คันหน้าจอดให้คนลงตรงทางเลี้ยว คันหลังเลยชน (อันนี้เราไม่รู้ว่าใครผิดใครถูกยังไงนะคะ ได้ฟังมา เลยนำมาเล่าเป็นอุทาหรณ์ค่ะ)
ไหว้พระ 9 + 1 วัด วันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2557
ปีนี้เราตั้งใจเอาไว้แล้วว่า วันที่ 1 มกรา จะไปไหว้พระ 9 วัดเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย นำพาสิ่งดี ๆ เข้ามาสู่ชีวิตตั้งแต่ต้นปีกันเลยทีเดียว ประกอบกับไม่ได้มีแผนจะไปเที่ยวที่ไหน เพราะวันที่ 2 มกรา ต้องทำงานตามปกติ ก็เลยตัดสินใจไปเข้าวัดดีกว่า โดยวัดที่เราไปทั้งหมดนี้ อิงจากหนังสือพระเก่าเล่มหนึ่ง ซึ่งจะไม่เหมือนการไหว้พระ 9 วัด สมัยใหม่เสียทีเดียว ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมถึงเป็น 9 + 1 ไว้เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังนะคะ
ขอพาเที่ยวชมแต่ละวัด โดยไม่ให้เสียเวลากันเลย --
เกริ่นนิดนึง
บ้านเราอยู่นนทบุรี ซึ่งข้ามเขตจังหวัดจากฝั่ง กทม. ไปแค่ 3 กิโลครึ่ง (จนทุกวันนี้เรายังไม่รู้สึกว่าเราอยู่ ตจวและปริมณฑลเท่าไหร่เลย เพราะตลอดชีวิต อยู่ กทม มาตลอด เพิ่งจะย้ายมาไม่กี่ปี) เราออกจากบ้านตอน 7.30 เพราะรู้แน่ว่า โปรแกรมวันนี้ค่อนข้างแน่นทีเดียว และพาหนะที่เลือกใช้ซึ่งบอกได้เลยว่าเหมาะกับสถานการณ์ที่สุด ก็คือ มอเตอร์ไซค์ ค่ะ เพราะถ้านั่งรถเก๋ง (ซึ่งในชีวิตจริงยังไม่มีสักครึ่งคัน) กว่าจะครบเก้าวัดแล้วพาร่างกลับมาถึงบ้านคงมืดแน่ ๆ เนื่องจากมวลมหาประชาชน ต่างพร้อมใจกันไปทำบุญในวัดดัง ๆ หลายแห่งในกทม. อย่างพร้อมเพรียงกัน โดยมิได้นัดหมาย เราเห็นคิวยาวเหยียดของผู้มีรถ 4 ล้อทั้งหลาย ต่อเข้าลานจอดรถ เข้าซอยวัด ของวัดแต่ละวัดแล้ว ก็ได้แต่กระหยิ่มยิ้มย่องในใจว่า ชั้นเลือกพาหนะได้ถูกต้อง 100 เปอร์เซนต์ ถึงแม้จะร้อนไปบ้าง โดนรถเมล์พ่นควันใส่หน้าไปบ้าง ยามไปจอดต่อท้ายคุณเขา ก็ยังดีกว่าที่ต้องมานั่งเสียเวลาไหว้พระอันมีค่า ไปกับการต่อแถวเข้าที่จอดรถ (ซึ่งบางทีก็ไม่มีนะคะลานจอดรถที่ว่า คนขับต้องจอดนอกวัดแล้วเดินไปไกลพอสมควรเลย)
เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ
วัดที่หนึ่ง ได้แก่ (ให้นึกถึงหน้าและน้ำเสียง อ. จตุพล ในรายการตีสิบไปด้วยนะคะ) วัดชนะสงครามค่ะ
- วัดนี้ชื่อก็บอกนะคะ ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเป็นเมืองที่รักสงบ แต่ถึงรบเราก็ไม่ขลาดนะคะ อันนี้คอนเฟิมค่ะ กล้าหาญชายชัยกันทุกคนเลย การมาไหว้วัดนี้เพื่อขอพรให้มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวงค่ะ
วัดนี้มีเหตุการณ์หนึ่งที่ได้ทราบมานะคะ เลยจะฝากเตือนแก่ทุกท่าน ที่เดินทางไปทำบุญ หรือ ไปสถานที่อื่น ๆ ที่มีคนเยอะ ๆ ก็ใช้ได้เช่นกัน นั่นก็คือ เวลาที่คุณขับรถเรียงแถวเข้ามาในลานจอด (เรายกตัวอย่างในกรณีของวัดนี้นะคะ) คือลานจอดรถของวัดนี้ต้องเลี้ยวรถเข้ามา ถ้าเป็นฝั่งเดียวกับวัดก็เลี้ยวขวาเข้าวัดเลย ทีนี้เวลาคุณมีผู้โดยสาร นั่งมาในรถ แล้วคุณเห็นว่า ต้องรอคิวนานกว่าจะหาที่จอดรถได้ เจ้าของรถบางคันเลี้ยวเข้าวัดปุ๊ป ก็หยุดรถปั๊ป เพื่อส่งให้คนในรถลงแล้วเดินเข้าวัดไปก่อน (ซึ่ง ณ ตรงที่คุณหยุดส่งให้คนลง มันไม่ใช่ที่จอดรับส่ง) โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงรถคันหลัง หรือคำนึงถึงความปลอดภัยของส่วนร่วม ทำให้เกิดเหตุการณ์ รถคันหลังจูบบั้นท้ายรถคุณ ไปแบบ "ไม่รู้จะโทษใคร" เหตุการณ์นี้คนเฝ้าลานจอดรถบอกว่าเพิ่งเกิดไปเมื่อวานนี้เอง คันหน้าจอดให้คนลงตรงทางเลี้ยว คันหลังเลยชน (อันนี้เราไม่รู้ว่าใครผิดใครถูกยังไงนะคะ ได้ฟังมา เลยนำมาเล่าเป็นอุทาหรณ์ค่ะ)