น่าสลดใจมาก ๆ ครับ กับคำพูดที่ว่า "พี่ผมจะแลกกับมัน"

ในช่วง ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ และ กรุงเทพมหานคร ยังไม่โดนปิด

ผมได้มีโอกาส เจอคนรู้จัก มักจี่ กันแบบไม่ค่อยสนิทนัก ในงานกินเลี้ยง เล็ก ๆ งานหนึ่ง อีกอย่าง ก็เคยมีพรายกระซิบ ขอให้หลีกเลี่ยง คุญเรื่องการเมืองกับบุคคลนี้ เพราะพรายกระซิบผู้นั้น พอจะคาดเดาได้ว่าเขา มีรสนิยม แบบใด (เขายืนยันว่า คนคนนี้ เคยไปร่วมกับสนธิ ที่สวนลุม)

แต่ในงานนั้น ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากมายนัก และก็คงจบกันแบบต่างคนต่างอยู่

ถ้าจู่ ๆเขาไม่โพล่งถาม ขึ้นมากลางวงว่า "เขา(กปปส.) จะปิดกรุงเทพ วันไหน ปิเท่าไหร่ (กี่วัน)"

วงสนทนานิ่ง ต่างคนต่างมองหน้ากัน จนในที่สุด ผมกลั้นใจบอกไปว่า "ราว ๆ หลังปีใหม่ น่าจะเป็นช่วง ก่อนวันเด็ก เห็นเขาบอกว่า จะปิดสัก ๑๐ วัน" (นับว่าเป็นการลงทุนน้อย ในการจะปราบดาตนเอง ขึ้นครองนคร สยาม ยิ่งนัก)

"ส่วนวันไหน เริ่มนั้น ไม่รู้จิง ๆ หวะ"

อดีต พันธิตร ก็กล่าวขึ้นมาแบบถามความเห็นว่า

"พ่อผมมีนัด บายพาส หรือ บอลลูน (อันนี้ไม่แน่ใจ) ณ ตึก CCU ที่โรงพยาบาลรามาฯ ในวันศุกร์ที่ ๑๐ นี้"

"เมื่ออาทิตย์ก่อน พ่อหายใจไม่ออก (อายุ ๙๓) แม่โทรตามศูนย์นเรนทร์ มาที่บ้าน หลังจากประสานอย่างสุดฤทธิ ก็ได้โรงพยาบาลรามา รับทำให้ด่วน เพราะเส้นเลือดที่ส่งไปยังหัวใจมีปัญหาหลายเส้น" (ช่วงนี้เอายาไปกินก่อน รอให้หมอว่างตรง)

จึงลัดคิวให้เป็นกรณีพิเศษ เพราะพ่อของเขาอยู่ในสถานะ อันตรายมากแล้ว

ทุกคนเงียบบบบบบบบบบบ....................

แม้นผมอยากจะ สมน้ำหน้าใจจะขาด

แต่ด้วย สามัญสำนึก ของความเป็นคน ที่ทีอยู่จึงเห็นใจมากกว่า จะสมน้ำหน้าซ้ำ ในฐานะ

ลูก ที่มีพ่อแม่ ให้ดูแลเหมือนกัน

ผมถามไปว่า "แล้วจะเอาอย่างไร"

เขาบอกว่าเขาคิดไม่ออก เขาเครียดมาก แม่เขาก็เครียด

ผมแนะนำว่ามีทางแก้ สองสามอย่างลองเอาไปใช้ดู

๑. โทรไปขอรามา ให้พ่อนอนรอก่อน ล่วงหน้า สามวัน (ซึ่งยากมาก กับการไปนอนรอในโรงพยาบาล รามา) หรือมีอีกทางหนึ่ง ไปหาโรงแรมที่ใกล้โรงพยาบาลที่สุดให้พ่อคุณพัก และสามารถเดิน หรือเอารถพยาบาลมารับได้

๒. วันที่ ๑๐ ให้แต่งชุด กปปส. เต็มยศ มีเท่าไหร่ ใส่ให้หมด (ถ้าคุณยังชมชอบแนวนี้อยู่) ขับรถ ไปหา ท่านผู้มีบารมีที่จะปิดถนนทั้งหลาย กราบตีนของร้องเขาว่า พ่อคุณมีปัญหา อย่าได้ไปขึ้นเสียงเป็นอันขาด เพราะคุณอาจต้องนอนโรงพยาบาล คู่กับพ่อคุณ เพราะมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว แต่หนทางนี้ก็ยังเสี่ยงมาก เนื่องจากคนนี้ให้ผ่าน คนโน้นไม่ให้ มาปิดกันเยอะ ๆ ไม่ให้รถผ่านแบบนี้ คุณจะขอใคร ? (ข้อนี้ยอมรับว่าผมกึ่งประชด)

๓. ดูสภาพของพ่อว่า พอจะไหวไหม หากต้องขึ้นรถไฟฟ้า ซึ่งโรงพยาบาลรามา นั้น ผมไม่ทราบจริง ๆ ว่า ต้องไปลงสถานีไหน อันนี้เสี่ยงมากหน่อย กับคุณพ่อในวัย ๙๓

๔. ลงทุกสุดตัว เข้าโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งก็อาจจะหนัก ประมาณ ครึ่งล้านบาทขึ้นไป (ผมเดา) เขาอาจจะมีวิธีให้พ่อคุณ ไม่ต้องเสี่ยง

เขาเงียบ

วงสนทนาเครียด

เขาพึมพัมในสิ่งที่ พวกเราไม่คาดคิดว่าจะได้ยินขึ้นมาเบา ๆว่า

"คอยดูนะ หากเกิดอะไรขึ้นกับพ่อผม ผมจะแลกกับมัน" (แลกอะไรไม่รู้) ผมไม่กล้าถาม

แต่สิ่งที่ผมคิดมากไปกว่า กรณีของเขาก็คือ

ในช่วงที่ พระยาสุเทพ จะปราบดาตัวเองขึ้นเป็น ผู้สำเร็จราชการคนใหม่ ของสยามประเทศในปี ๒๕๕๗ นี้

ผมไม่อยากเดาว่า กี่โรงพยาบาล กี่ CCU (โรคหัวใจ) เขามีเคส รอ แบบนี้กี่เคส ? ? ?

คนป่วยเหล่านั้น ต้องรอให้ท่านพระยาสุเทพ ปราบดา ตนเอง และพรรคพวก สำเร็จก่อนไหวหรือไม่ ? ? ?

พ่อใคร แม่ใคร ลูกสาวใคร ลูกชายใคร รอการรักษาแบบนี้จำนวนเท่าไหร่ ?

ผมโล่งอก นิดหน่อย ที่แม่ผมเขาผูดขาดเอาไว้กับ โรงพยาบาล ออกเมือง และใกล้บ้าน หากจะต้องเดินทางก็ไม่มีปัญหาอะไร

สำหรับผม อาชีพผม ไม่ทำก็มีกิน ขี้เกียจไป ผมก้ไม่เดือดร้อน เพราะ ผมมีหน้าที่ ช่วยเหลือ ประชาชน ให้ดำเนินธุรกิจของเขาต่อไปได้

ผมไม่ไปผมก็ยังชิว ๆ แต่ไอ้คนที่เดือดร้อนหนะ คือประชาชน

แต่จะมีอีกกี่คนที่อยู่ในสถานะแบบผม ?

และมีอีกกี่คน กี่ชีวิต ที่จำเป็นต้องเดินทาง เพื่อรักษาชีวิตตนเองให้ได้ อย่าต้องถึงกับโรคหัวใจเลย เอาแค่ต้องไปเข้าเครื่องล้างไต ตามวันนัด

ผมก็นึกภาพไม่ออกแล้วว่า ชีวิตพวกเขาต้องทรมานกันขนาดไหน

ผมทำอะไรไม่ได้หรอกครับ นอกจากขอให้ เวรกรรมมันตามทัน ท่านพระยาสุเทพและครอบครัว แบบสาสม

ทำใครตายเพิ่ม ทำใครเสียชีวิต ทำให้ครอบครัวใดเจ็บปวด

ก็ขอให้กรรมนั้น มันตามไปถึงสนองกลับไปเท่าทวีคูณ

สำหรับกระผมก็เสวยสุข นอนอยู่บ้านรับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เงินค่าบริหาร ชิว ๆ อยู่บ้านสบาย ๆ ต่อไปครับ

โชคดีครับ ประชาชนคนกรุงเทพทั้งหลาย

พรรคของท่าน คนที่ท่านเลือก ส.ส.ที่ท่านสนับสนุน

ขอให้โชคดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่