19 นัดของ Liverpool ด้วยสถิติที่ดีกว่าปีที่แล้ว .. แต่ไม่ใช่ดีที่สุดในรอบหลายปีนี้ ...

คำเตือน : ยาวนิดนึงนะคะ ... อันที่จริง ยาวมากๆต่างหาก T_T
กระทู้ 1 : 19 นัดของ Hull City ทีมที่ฟอร์มดีที่สุดจากกลุ่มทีมรองในครึ่งฤดูกาลแรก
http://pantip.com/topic/31453201

ฤดูกาลนี้ รอดเจอร์สพาทีมจบครึ่งฤดูกาลที่ อันดับ 5 ด้วยสถิติ ชนะ 11 แพ้ 5 เสมอ 3
อันดับอาจดีกว่าปีที่แล้ว แต่ไม่ใช่ดีที่สุดในรอบหลายปีนี้ ...

แบรนเดน รอดเจอร์ส (2 ฤดูกาล-ปัจจุบัน) (ตัวเลขในวงเล็บคืออันดับที่จบในท้ายฤดูกาล)
2012-13 : นัดครึ่งฤดูกาลเมื่อปีที่แล้ว ลิเวอร์พูลบุกไปเยือนสโต๊ก และพ่ายให้กับสโต๊กที่สกอร์ 3-1
และรั้งอยู่ที่ อันดับ 10 ด้วยสถิติ ชนะ 6 แพ้ 6 เสมอ 7 (7)

เคนนี่ ดัลกลิช (2 ฤดูกาล)
2011-12 : 2 ปีก่อนโน้นเปิดบ้านเอาชนะนิวคาสเซิลได้ที่สกอร์ 3-1 รั้ง อันดับ 5 ด้วยสถิติ ชนะ 6 แพ้ 3 เสมอ 7 (8)

รอย ฮอดจ์สัน / เคนนี่ ดัลกลิช
2010-11 : 3 ปีก่อนนั้นเปิดเอาชนะโบลตันที่สกอร์ 2-1 รั้ง อันดับ 9 สถิติชนะ 7 แพ้ 8 เสมอ 4 (6)

ราฟาเอล เบนิเตซ (6 ฤดูกาล)
2009-10 : 4 ปีก่อนเอาชนะวูฟแธมตันในบ้านที่สกอร์ 2-0 สถิติ ชนะ 9 แพ้ 7 เสมอ 3 รั้ง อันดับ 7 (7)
2008-09 : 5 ปีก่อน เปิดบ้านเอาชนะโบลตันที่สกอร์ 3-0 สถิติ ชนะ 12 แพ้ 6 เสมอ 1 อยู่ อันดับ 1 ในแมตครึ่งฤดูาลปีนั้น (2)
2007-08 : 6 ปีก่อน บุกไปเยือนแมนเชสเตอร์ซิตี้ เพื่อเก็บสกอร์เสมอ สถิติ ชนะ 10 แพ้ 2 เสมอ 7 เกาะท็อป 4 ที่ อันดับ 4 (4)
2006-07 : 7 ปีก่อน เอาชนะวัตฟอร์ดในบ้าน สถิติ ชนะ 10 แพ้ 5 เสมอ 4 รั้ง อันดับ 3 บนตาราง (3)
2005-06 : 8 ปีก่อน เล่นเกมเยือน เสมอโบลตัน 2-2 เก็บสถิติชนะ 12 แพ้ 2 เสมอ 5 รั้งอันดับ 3 (3)
2004-05 : 9 ปีก่อนบุกไปเยือนเวมบรอมฯ เอาชนะได้ด้วยสกอร์ถล่มทลาย 5-0 รั้ง อันดับ 6 บนตารางด้วยสถิติ ชนะ 9 แพ้ 6 เสมอ 4 (5)

ที่ต้องสถิติให้ดูถึง 9 ปีเพียงเพื่อจะบอกว่า 9 ปีที่แล้วเราเคยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการเป็นแชมป์ยุโรป จากฝีมือการทำทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ ปีแรกที่เขามาถึง แต่ถึงอย่างนั้น อันดับในลีก เราก็ไม่เคยหนีห่างไกลจากอันดับ ณ ปัจจุบันเท่าไรนัก ปีที่ดูใกล้เคียงอาจเป็นปี 2008-09 ที่เรามีแต้มห่างแชมป์ลีกในตอนนั้นอย่างยูไนเต็ดเพียง 4 แต้ม จะว่าไปแล้ว 4 แต้มก็ไม่น่าใช้คำว่า "เพียง" ได้เลย ถ้าเราชนะมากกว่าสัก 2 นัด คงได้แชมป์ไปแล้ว

ถ้า ...ก็แค่เป็นความคิดที่ยังไม่ได้ทำเท่านั้น
แล้วไอ้ชัยชนะ 2 นัดนี่มันง่ายที่ไหน ..

ปีนั้นยังน่าสนใจตรงที่ผลรวมออกมาแล้ว ลิเวอร์พูลแพ้เพียง 2 นัด ขณะัที่ยูไนเต็ดแพ้ 4 นัด กลับคว้าแชมป์ได้ ด้วยสถิติชนะมากกว่า เสมอน้อยกว่า ปีนั้นลิเวอร์พูลปล่อยให้มีสถิติเสมอมากเกินไป แล้วส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับเกมที่พบทีมเล็กด้วย ยิ่งน่าเจ็บใจเข้าไปใหญ่

แต่มันก็ผ่านมาแล้วล่ะน่ะ ..




หรือเราจะกลับเข้าฟอร์มเดิม ..?


ลิเวอร์พูลเริ่มต้นฤดูกาลนี้ด้วยอันดับที่น่าพอใจ แต่จะว่าไปก็แทบวัดอะไรไม่ได้เลยกับ 3-4 นัดแรก แต่ 5 เดือนที่ผ่านมา อันดับบนตารางก็ทำให้แฟนๆได้ดี๊ด๊าดีใจอยู่เป็นพักๆด้วยการเกาะกลุ่มที่ TOP 4 เสมอและบางครั้งบางหนก็ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงให้แฟนๆได้ดีใจเล่นๆ โอ้ .. แต่หนทางยังอีกยาวไกลเหลือเกิน

19 นัดผ่านไปกับเกมในบ้าน 10 นัดที่ส่วนใหญ่ใช้โควต้าหมดไปกับทีมเล็กๆ พ่ายแพ้ 1 นัดให้กับ เซาธ์แธมตัน และชัยชนะที่สำคัญยิ่งกับยูไนเต็ดก็เกิดขึ้นในบ้าน ที่เหลือคือเกมเยือนที่มีสถิติค่อนข้างช้ำเลือดช้ำหนอง กับการบุกไปเยือนทีมใหญ่ (และเล็ก) 10 นัดคว้ามาได้เพียง 12 แต้มเท่านั้น

WIN 3 : นัดที่ 3 เปิดบ้านรับทีมคู่ปรับตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปีนี้ยูไนเต็ดเปลี่ยนไปแล้ว พวกเขาเปลี่ยนกุนซือจาก เซอร์อเล็ก มาเป็น เดวิด มอยส์ ที่เคยคุม เอฟเวอร์ตันทีมอริร่วมเมือง แมตนี้เลยมีอะไรมากกว่าแค่แมตแดงเดือดอยู่นิดหน่อย ยูไนเต็ดพึ่งเปิดบ้านเสมอเชลซีมา ขณะที่ลิเวอร์พูลมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม แม้จะขาดดาวยิงอย่างหลุยส์ ซัวเรซ แต่ 2 นัดที่ผ่านมา สเตอรริดจ์ก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี เราคว้าชัยชนะ 2 นัดรวด

ลิเวอร์พูลได้ประตูตั้งแต่ต้นเกม เหมือนยิ่งทำให้อยากเร่งเกมมากขึ้นครึ่งแรกลิเวอร์พูลทำได้ดีกว่า จนครึ่งหลังแม้เราจะไมไ่ด้ผ่อนเกม แต่ยูไนเต็ดก็เริ่มบุกหนักขึ้นพวกเขาได้โอกาสบุกเยอะกว่า สุดท้ายจบลงที่สกอร์ 1-0



LOSE 1 : นัดที่ 5 นัดนี้เราเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เซาธ์แธมตัน .. นักบุญมีสถิติที่แบ่งรับแบ่งสู้ ก่อนจะมาพบเรา แม้กองหลังของพวกเขาแน่นปึ้ก แดนกลางพลิ้ว กองหน้าฉับไว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พึ่งชนะมาเพียงครั้งเดียว แพ้ 1 ครั้งและเสมอถึง 2 ครั้ง และเกมนี้เรายังเปิดบ้านรับการมาเยือนของพวกเขาด้วย ... ทรงเกมของเราก็ไม่ได้ย่ำแย่นัก แต่กลับพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยเมื่อเสียประตูในครึ่งหลังจากฝีมือกองหลังของนักบุญอย่าง ลอฟเรน หลังจากนั้นเราก็ทำประตูเพิ่มไม่ได้ จบเกมเราแพ้ที่สกอร์ 0-1 ชวด 3 แต้มอย่างน่าเสียดาย

LOSE 2 : นัดที่ 10 แม้สถิติ 9 นัดที่ผ่านมาเราทำได้ค่อนข้างดีมาก ด้วยสถิติแพ้เพียงครั้งเดียว เสมอ 2 ครั้ง แต่สถิติเหล่านั้นก็ไม่ได้ช่วยเท่าไรนัก เมื่อต้องไปเจอ อาเซนอล ทีมจ่าฝูงในรังเอมิเรตส์ ที่ความแข็งแกร่งของพวกเขาน่าจะคูณ 2 เมื่ออยู่ในบ้าน

อาเซนอลเป็นทีมที่เซตบอลเป็นระบบที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ต่อบอลรวดเร็ว มีลูกทะลุช่อง เล่นบอลบนพื้น ป้อนกองหน้ายิง หนำซ้ำแผงหลังของพวกเขายังหนึบและคุมพื้นที่ได้ดีมาก แม้เรามีโอกาสบุกพอๆกัน แต่กองหน้าเราก็ยิงนกตกปลาทะเลกันเสียเป็นส่วนใหญ่ เกมนี้เราพ่ายไปแบบสู้ไม่ได้ที่สกอร์ 2-0

DRAW 3 : นัดที่ 12 หากแมตแดงเดือดว่าโหดร้ายแล้ว ยังไม่เท่าดาร์บี้แมตครั้งนี้ นัดนี้เราโคจรไปพบเอเวอร์ตันที่กูดิสัน พาร์ค เอฟเวอร์ตัน กำลังร้อนแรง จากฟอร์มสะบัดช่อของ โรเมลู ลูคาคู กองหน้าตัวยืมจากเชลซี แต่ก็ใช่ว่ากองหน้าของเราจะด้อยกว่าแต่อย่างใด หลุยส์ ซัวเรซ ซัดมาแล้ว 8 ตุงจากการลงเล่น 5 นัด ขณะที่ลูคาคูลงไป 9 นัดพึ่งยิงไป 6 ลูก

เกมนี้ต้องเรียกว่าเปิดหน้าแลก แล้วจบด้วยดับเครื่องชน ใครผ่อนมีตาย วัดกันหมัดต่อหมัด แลกกันมันสุดฤทธิ์ ด้วยสกอร์ที่ชวนใจหายใจคว่ำ แบบผลัดกันขึ้นนำ สุดท้าย จบลงที่สกอร์เสมอ 3-3 ไปแบบแทบหยุดหายใจ



LOSE 3 : นัดที่ 13 เกมสยอง ... ทีแรกก็ไม่คิดอะไร พอคิดเท่านั้นแหละ คิดเลย!!! นัดนี้เราต้องเดินทางไปถึงเมือง คิงสตัน ฮัลล์ ที่อยู่อีกฝากของเมืองยัง เคซี สเตเดียม ฮัลล์ ซิตี้ เป็นสโมสรที่พึ่งเลื่อนชั้นกลับมาเล่นในปีนี้ หลังจากตกชั้นไปเมื่อ 2 ปีก่อน คุมทีมโดยอดีตนักเตะยูไนเต็ดอย่าง สตีฟ บรู๊ซ เพราะฉะนั้น ..คงไม่น่าจะยากเกินรับมือหรอกจริงมั้ย ...

จริงกะผีอ่ะสิ

อันที่จริงลิเวอร์พูลก็ไม่ได้นึกประมาท ฮัลล์อะไรขนาดนั้น แต่เป็นเพราะฮัลล์กำลังอยู่ในช่วงดวงกุดสุดๆ พึ่งเปิดบ้านแพ้พาเลซทั้งที่พาเลซฟอร์มแย่ซะยิ่งกว่า ก่อนหน้านั้น ก็พึ่งน่วมมาจากทีมใหญ่ 4 นัดล่าสุดเก็บชัยชนะได้นัดเดียวจากซันเดอร์แลนด์ ... และ 5 นัดล่าสุดของพวกเขาจะได้ชัยชนะจากลิเวอร์พูลไปด้วย T__T

ไม่รู้ว่าแพ้ทางบอลโยนหรือไงไม่ทราบ แต่จะพูดไปก็เหมือนอ้าง เพราะนัดนี้ลิเวอร์พูลเล่นเกมบุกได้แย่จริงๆ อย่าว่าแต่เกมบุกเลย แต่เป็นทุกเกมนั่นแหละ แม้จะมีหลุยส์ ซัวเรซยืนค้ำหอก ถึงลูกพี่หลุยส์จะมีโอกาสได้ยิงอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่ติดเซฟ(ตลอด)ก็ยิงป้ายหลังโกลด์นั่นแหละ นัดนี้เจอเสือขย้ำ พาร่างอันขาดวิ่นออกจากเคซีสเตเดี้ยมที่สกอร์ 3-1



WIN 10 : นัดที่ 16 มีเรื่องให้ต้องกังวลถึงอย่างมาก เมื่อโปรแกรม BOXING DAY ที่ใกล้เข้ามานั้น ชวนปวดกบาลอย่างยิ่ง ถัดจากนัดสเปอร์ส เรายังต้องไปเจอซิตี้ จอมเขมือบแม้แต่ศพก็ไม่เหลือทิ้งไว้ให้ในบ้าน แต่ถึงอย่างนั้น กังวลไปล่วงหน้าก็ไม่ได้อะไร สไตล์เรามันต้อง "โฟกัส นัดต่อนัด" แน้ ...ทำเป็นเข้ม นัดนี้เราเลยจะบุกไปเยือน ไวท์ ฮาร์ท เลน ของ ท็อธแนม ฮอตสเปอร์ส ...

สเปอร์สมีปัญหาด้านนักเตะที่ "ไม่ยอมทำสกอร์" คือได้ยิงแต่ไม่มีสกอร์ แม้จะมีนักเตะดีๆล้นทีม แต่ก็ยังไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ประมาทพวกเขาได้อยู่ดี แต่นัดนี้นี่เองก็เป็นดั่งแมตชะโลมใจด้วยน้ำทิพย์แก่หัวใจอันแห้งผากของแฟนลิเวอร์พูล หลังจากถูกด่าว่าฝันเฟื่องมาบ่อยเหลือเกินในระยะหลัง นัดนี้มันปาฏิคูณชัดๆ (มากกว่าหารแล้ว) นัดนี้เราจัดชุดคอมโบเซตยำใหญ่ ใส่ถั่วงอกเพิ่มลูกชิ้น ให้ท็อธแนม ด้วยสกอร์ 0-5 ชัยชนะครั้งแรกใน ไวท์ ฮาร์ท เลน



LOSE 4 : นัดที่ 18 ..และแล้วนรกก็มาเยือนจนได้ แม้จะอยากหลบลี้หนีหน้า แต่ก็ทำเช่นนั้นไม่ได้อยู่ดี นัดนี้เราจะบุก (กล้าใช้คำว่าบุก..) ไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงเอติฮัด สเตเดียม ที่เขาว่ากันว่าเป็นสุสานของทุกทีม แม้แต่ศพยังหาไม่เจอ ...

ด้วยความหวังริบหรี่ หรี่ริบๆ ทำให้เกมนี้เราเล่นเหมือนไม่มีอะไรจะเสีย และแน่นอนว่า ยังบังอาจคิดฝันถึงถึงการเก็บแต้มออกจาก เอติฮัดด้วย เพราะฤดูกาลนี้มีทีมเดียวที่พึ่งผ่านออกจากที่นี่พร้อม 3 แต้ม คือ บาร์เยิร์น มิวนิค โคตรทีมบัลลังก์ทองจาก เยอรมันเท่านั้น ..

คือถ้าชนะได้นี่กลายเป็น บาร์เยิร์น แห่งอังกฤษ ทันที ... มิชชั่นท้าทายมาก ...
และอ่ะโถ่ เห้ย!!! ไม่ได้ฝันเฟื่องนะเฟร้ย ... ฟอร์มแบบนี้ เจอแมนฯซิในบ้าน มันได้ลุ้น 3 แต้มชัดๆ!!!!

นัดนี้ลิเวอร์พูลเล่นได้ค่อนข้างดีมาก ผิดจากที่คาดไว้เยอะเลยทีเดียว เพราะกองหลังสามารถประกบกองหน้าบ้าพลังของแมนฯซิได้อยู่หลายจังหวะที่อันตราย สามารถสร้างเกมบุกได้บ้าง แต่หลังแมนฯซิมันปั่นป่วนเหลือเกิน ยังไม่นับกลางและปีกที่แล่นเร็วเป็นจรวดอีก เกมนี้ลิเวอร์พูลเลยถูกกดดันให้เล่นเร็วตามไปด้วย แม้จะได้ขึ้นนำให้ใจชื่นตั้งแต่ต้นเกม สุดท้ายก็ต้าน พายุสลาตันไม่ไหว พ่ายไปที่สกอร์ 2-1 หมดกันความฝัน บาร์เยิร์นแห่งอังกฤษ...

Facepalm

LOSE 5 : นัดที่ 19 ... นัดที่แล้วยังไม่ทันหายช้ำ แต่ก็รู้สึกภาคภูมิใจอยู่นิดหน่อยที่เล่นเกมเยือนกับแมนฯซิได้สูสีพอไปวัดไปวา ไปไหนมาสามวาสองศอกได้ เกมนี้กับ เชลซี แม้จะไม่ได้น่ากลัวเท่ากับตอนเจอแมนฯซิ แต่การทำทีมของมูริญโญ่ กุนซือจอมหมกเม็ดนี่ประมาทไม่ได้แม้แต่นิดเดียว เอ็งจะอุดรอสวน หรือ สวนรออุด หรือ อุดอุดอุด ข้าก็ไม่รู้ทางเหมือนกัน

เกมนี้เป็นนัดสุดท้ายในครึ่งฤดูกาล แน่นอนว่าเราหวัง 3 แต้มเพื่อที่จะกลับไปเกาะกลุ่มหัวตารางอีกครั้ง เพราะข้างล่างน่ะมันร้อนนะ ไม่ค่อยอยากกลับไป แต่แล้วฝันก็สูญสลาย ดับฝันโคชิเอ็ง เมื่อลูกขึ้นนำจากมหาเทพสเกอเทลถูกตีเสมอจากเอเด็น อาซาร์ และ ถูกยิงขึ้นนำในท้ายเกมจาก เอโต้ในที่สุด จบเกมเราจบที่สกอร์ 2-1

2 นัดล่าสุด แต้มที่ได้คือ 0 หล่นลงมาอยู่ที่อันดับ 5 ในที่สุด ก่อนขึ้นปีใหม่


แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ฟุตบอล ฟุตบอลต่างประเทศ พรีเมียร์ลีก Liverpool F.C.
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่