วอลเตอร์ มิตตี้ ผู้ทำหน้าที่ลำดับภาพในนิตยสารฉบับหนึ่งมานานกว่า 16 ปี
ชีวิตซ้ำซากจำเจทำให้หลายๆครั้ง เขามักผ่อนคลาย โดยการสร้างโลกจินตนาการของตัวเองขึ้นมา
ปัญหาของเขาเริ่มตั้งแต่การที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิต จนไม่สามารถกรอกข้อมูลที่น่าสนใจ
ลงไปในช่องโปรไฟล์ของตัวเองในเวปไซท์หาคู่ได้
อีกทั้งฟิลม์ใบสำคัญซึ่งช่างภาพอิสระมากฝีมือส่งมาให้ ก็ดันมาหายไป
และดูเหมือนว่าสาวที่แอบมีใจให้ ก็ดันเริ่มเข้ามาสนใจมนตัวเขาแล้วเช่นกัน
สิ่งที่น่าสนใจคือการเดินทางออกไปตามหาภาพใบสุดท้าย
แต่ไม่รู้ว่าจะไปตามหาช่างภาพได้ที่ใหน
เนื่องจากช่างภาพคนนั้นเดินทางไปเรื่อยๆ
ใช้nikon f3/t ในยุคที่ภาพถ่ายดิจิตอลเกลื่อนกลาด
ไม่พกโทรศัพท์ ไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน
การเดินทางโดยที่มีจุดหมายเป็นผู้คนมิใช่สถานที่
ย่อมลำบากมากขึ้นเป็นทวีคูณ
เรื่องราวมากมายระหว่างการเดินทางราวกับช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป
ชีวิตที่ถูกใช้อีกครั้ง มอบพลังที่คาดไม่ถึงให้เสมอ
การเดินทางตามาภาพถ่ายใบสุดท้ายจะเป็นเช่นไร
อยากให้ลองออกไปตามหาพร้อมๆกันในโรงภาพยนต์
_...................................................._
ข้อความด้านล่างอาจมีสปอย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
สำหรับตัวผมแล้ว ความประทับใจทั้งหมดขอมอบให้กับตัวเอก
ตัวเอกที่เหมือนเป็นตัวแทนของมนุษยวัยทำงานปัจจุบันหลายคน
ที่ยอมทิ้งตัวตน ทิ้งชีวิตที่เคยใช้ ทุ่มเทเวลาให้กับ งาน เงิน
เช่นตัวเอกที่ในเรื่องจะบอกเป็นนัย
ว่าในวัยเด็กเคยเป็นแชมป์เสกตบอร์ด
และช่วงที่เก็บของเก่าแล้วเจอกระเป๋า ทีเคยใช้ท่องเที่ยวยุโรป
แบคแพคเกอร์น่าจะเป็นความฝันคลาสสิกสำหรับวัยรุ่นในยุคโหยหา
การเวลาที่ผ่านไปพร้อมๆกับเรื่องราวในชีวิต
หลังเสียพ่อที่สนิทไป ชีวิตโลดโผนก็ดูเหมือนจะเสียตามไปด้วย
ต้องเริ่มทำงาน เก็บเงิน ใช้ชีวิตสามัญ
จนภาพถ่ายใบสำคัญหาย
การเดินทางจึงได้เริ่มต้นขึ้น
ตลอดเส้นทางเจอเรื่องราวที่ไม่คาดฝันเสมอๆ
เจอคนที่คุยไม่รู้เรื่อง เจอน้ำใจที่ได้รับ
พบกับช่วงเวลาที่ต้องตัดสินใจแบบฉับพลัน
สิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้
ชอบตรงที่ตัวเอกทำงานในนิตยสาร
เพราะเป็นความฝันอย่างหนึ่งเช่นกัน
ชอบที่แสดงความทุ่มเทของช่างภาพจริงๆ
ชอบการเดินทางไปหาจุดหมายเคลื่อนที่ได้
ชอบภาพถ่ายจากมุมสูงที่หนังเรื่องนี้ฉายให้เห็นบ่อยๆ
ชอบเสียงดนตรีที่ค่อยๆเร่งเร้าจังหวะให้อินตาม
ชอบที่ในตอนหลังๆ
ช่วงเวลาที่ตัวเอกเริ่มบันทึกการเดินทาง
ชอบท่าวิ่งของพระเอก
ฉากไถลเสกตบอร์ดทำเอาเคลิ้มไปกับบรรยากาศ
บางฉากของหนังค่อนข้างคุมโทนให้กึ่งๆภาพจากกล้องฟิลม์
ชอบแง่คิดในการใช้ชีวิตที่แฝงแทรกมาตลอดเรื่อง
หนังจบแบบจบจริงๆ ไม่มีให้ลุ้นเก็บไปคิดเอาเอง บทสรุปแน่ชัด
บางฉากของหนังอาจจะดูเวอร์จนอาจจะรู้สึกเกินความเป็นจริง
แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าหนังมันจะสมจริงตั้งแต่ดูเมลเลอร์อยู่แล้ว
ไม่รู้ว่าถ้าอีกหลายคนได้ดูจะรู้สึกแบบเดียวกันรึเปล่า
แต่สำหรับเรา เราคิดว่า เรื่องนี้เป็นหนังที่ชอบที่สุดในรอบปีนี้แล้ว
ดูจบแล้วเกิดความรู้สึกแบบ
อยากจะออกไปพจญภัยสร้างเรื่องราวของตัวเอง
และบางทีสิ่งที่เราตามหามาตลอด
มันอาจจะไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเราเท่าไรนัก
ป.ล.ชอบโปสเตอร์ใบนี้แฮะ
[CR] (ฝึกหัดรีวิว) The Secret Life of Walter Mitty ชีวิตพิศวงของวอลเตอร์ มิตตี้ กับฟิล์มใบที่ 25 ที่หายไป (ซ่อนสปอยด้านล่าง)
วอลเตอร์ มิตตี้ ผู้ทำหน้าที่ลำดับภาพในนิตยสารฉบับหนึ่งมานานกว่า 16 ปี
ชีวิตซ้ำซากจำเจทำให้หลายๆครั้ง เขามักผ่อนคลาย โดยการสร้างโลกจินตนาการของตัวเองขึ้นมา
ปัญหาของเขาเริ่มตั้งแต่การที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิต จนไม่สามารถกรอกข้อมูลที่น่าสนใจ
ลงไปในช่องโปรไฟล์ของตัวเองในเวปไซท์หาคู่ได้
อีกทั้งฟิลม์ใบสำคัญซึ่งช่างภาพอิสระมากฝีมือส่งมาให้ ก็ดันมาหายไป
และดูเหมือนว่าสาวที่แอบมีใจให้ ก็ดันเริ่มเข้ามาสนใจมนตัวเขาแล้วเช่นกัน
สิ่งที่น่าสนใจคือการเดินทางออกไปตามหาภาพใบสุดท้าย
แต่ไม่รู้ว่าจะไปตามหาช่างภาพได้ที่ใหน
เนื่องจากช่างภาพคนนั้นเดินทางไปเรื่อยๆ
ใช้nikon f3/t ในยุคที่ภาพถ่ายดิจิตอลเกลื่อนกลาด
ไม่พกโทรศัพท์ ไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน
การเดินทางโดยที่มีจุดหมายเป็นผู้คนมิใช่สถานที่
ย่อมลำบากมากขึ้นเป็นทวีคูณ
เรื่องราวมากมายระหว่างการเดินทางราวกับช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป
ชีวิตที่ถูกใช้อีกครั้ง มอบพลังที่คาดไม่ถึงให้เสมอ
การเดินทางตามาภาพถ่ายใบสุดท้ายจะเป็นเช่นไร
อยากให้ลองออกไปตามหาพร้อมๆกันในโรงภาพยนต์
_...................................................._
ข้อความด้านล่างอาจมีสปอย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้