การเสนอเรื่องราวของคุณจ๊อยส์ TK ค่อนข้างละเอียดอ่อน และควรระมัดระวัง

เรื่องของคุณจ๊อยส์ Triump Kingdom เราดีใจที่เธอได้รับโอกาสกลับมาอีกครั้ง และเต็มใจให้โอกาสเธอ เธอได้พลาดไปแล้ว และก็ได้รับโทษแล้ว การให้โอกาสเธอเป็นเรื่องที่ควรทำ

แต่ค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องการนำเสนอเรื่องราวของคุณจ๊อยส์ คิดว่าสื่อต่างๆ (และพวกเรากันเองด้วย) ควรจะเสนอด้านความไม่สนุก ความเป็นทุกข์ ของบทลงโทษที่เธอได้รับจากการขายยาเสพติดให้ทุกคนเห็นภาพด้วย เพราะการที่สื่อเพียงภาพความสวยงาม ความปลื้มปริ่มจากการต้อนรับคุณจ๊อยซ์กลับเข้าวงการ แต่เพียงด้านเดียว อาจทำให้คนที่ได้เห็นภาพเพียงด้านเดียวนี้ ได้เห็นว่า "ทำผิดก็ไม่เป็นไร ทำไปเหอะ เข้าคุกแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ไม่มีอะไรแล้ว ดูอย่างจ๊อยส์สิ กลับมาก็อนาคตสดใส" นั่นเป็นเพราะเขาไม่เห็นว่าจริงๆ แล้วตอนรับโทษคุณจ๊อยส์ก็ทุกข์อยู่มาก หากคนได้เห็นช่วงทุกข์นั้นด้วย (หวังว่า)เขาอาจจะฉุกคิด และเปลี่ยนใจไม่อยากทำผิดก็ได้ โดยเฉพาะน้องๆ เด็กๆ ที่ยังมองภาพกว้างไม่ชัด และเสพย์สื่อแค่เพียงสิ่งที่เห็น

อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนกับทุกๆ คนค่ะ

ด้านล่างนี้ คือการแก้ไขเพิ่มเติมหลังจากอ่านถึงความเห็นที่ 1-8 เพื่ออธิบายให้เข้าใจตรงกันค่ะ

ประเด็นคือหากจะทำให้เรื่องใดๆ ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนที่ดี ให้เกิดผลดีกับสังคมนั้น การนำเสนอเรื่องราวก็ควรจะให้ผลในทาง ฉุกใจให้คิด

เรื่องของคุณจ๊อยส์ เป็นบทเรียนให้ฉุกคิดได้หลายด้าน ด้านที่เด่นๆ คือ
1) ปลุกความกลัวการกระทำผิด เพื่อให้ไม่กระทำผิด - ให้ได้รู้ว่าการค้ายาเสพติด ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แต่เป็นสิ่งที่มีผลลบมาก ทั้งตัวเอง และครอบครัว
2) ปลุกความเมตตาในจิตใจ - ให้มองว่าเราควรให้โอกาสกับคนที่ทำพลาดไป และสำนึกผิดแล้ว ควรให้โอกาสด้วยความรัก และความเมตตา อย่างเช่นที่ชาว Bakery โดยเฉพาะคุณโบ และแฟนคลับทั้งหลายได้ทำ เพื่อให้เขาเป็นคนดีของสังคมต่อไป

ข้อ 2)นั้นเห็นชัดอยู่แล้ว ส่วนข้อ 1) นั้น ต้องบอกว่า ทุกๆ คนรับรู้ว่าการค้ายาไม่ใช่เรื่องดี แต่ไม่ใช่ทุกคนที่รู้ว่า ผลจากการค้ายา นั้น รุนแรงขนาดไหน เขาจึงไม่กลัว และเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนมากคนที่ขายยาเสพติด เขาเสพย์ยาอยู่แล้ว เขาได้เห็นประโยชน์ของยาเสพติด เขาจึงลืมที่จะกลัวผลเสียอื่นๆ ทั้งนี้เห็นได้จากการสัมภาษณ์ผู้ค้ายา หลายๆ คนบอกว่า "รู้นะว่ามันไม่ดี แต่ก็ไม่คิดว่าถูกจับแล้วจะลำบากขนาดนี้ หากรู้มาก่อนก็คงจะไม่ทำ" ฉะนั้น ก็ควรจะให้ทุกคนได้ "รู้" และไม่ลืมข้อนี้

ประเด็นที่จขกทพูดถึงคือ ต้องระวังอย่าให้ข้อ 2) นั้นมากเกินไป จนทำให้อาจมองข้อ 1) น้อยลง หากคนเสพย์สื่อ เข้าใจโลกดีอยู่แล้ว ก็ไม่เป็นไร เพราะแยกแยะได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชนที่ไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิด กลุ่มที่อาจตีความจากการที่เห็นด้านสวยงามด้านเดียว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่