Backpack สิงคโปร์ คนเดียวเที่ยวได้

กระทู้สนทนา
ที่รีวิวนี้เพื่อเป็นความรู้สำหรับคนที่กำลังจะไปแล้วกันนะครับ
ผมนำเงินไป 5000 บาท(กดเอทีเอ็มอีก 1000 ) อันนี้เป็นเงินที่นำไปเพราะตอนแรกกะว่าจะไม่ซ์้อของฝาก แต่พอดีอดใจไม่ไหวมีเพิ่มของฝากอีก 2000 บาทครับ

เริ่มด้วยที่พัก ผมไป 5 วัน พัก 3 Hostel

- Beary Nice (ย่านไชน่าทาวน์) ดีมากเลยครับ เหมือนอยู่บ้าน เล็กๆกระทัดรัด คนไม่เยอะ ห้องน้ามก็แยกชายหญิงสะดวกดีครับและใกล้ด้วย
- Mori Hostel (ลิตเติ้ลอินเดีย) อันนี้มีดีที่ถูกครับผมจองได้ 400 กว่าๆเอง แล้วก็ที่พักโอเคเลย ติดแค่เดินไกล
- Rucksack Inn Temple Street ผมชอบที่นี่สุดราคากลางๆ บรรยากาศโอเคมาากมีที่ให้กินอาหารเช้าริมถนนชมบรรยากาศ ห้องน้ำเยอะนะครับ แต่แคบ แบบ พอดียืน พอดีนั่ง มีน้ำเปล่าให้ทานฟรี ที่อื่น้นำเปล่าธรรมดาที่ไม่ใช่น้ำต้มเสียเงินซื้อครับ

ส่วนการท่องเที่ยวนั้น ห้าวันผมก็ไปเยอะมาก ผมซื้อหนังสือไปหนึ่งเล่ม แล้วเด๋วผมจะมารีวิวนะครับ เพราะในหนังสือบางครั้งที่เขียนแนะนำก็ทำให้เรารู้สึกอยากไปหมดทุกที่เลยจนต้องเลือกตัดบางที่ออกไป แต่พอไปถึงทำให้เรารู้สึกพลาด 5555 โดยเฉพาะพวกห้างต่างๆเนี่ยหล่ะครับ ที่นู้นดีแบบนู้นนี้นั้น  
แล้วเด๋วผมจะมาอัพเดทนะครับ



มาแล้วววครับ

ก่อนอื่นต้องบอกว่าอันนี้เป็นเพียง 1 คำแนะนพและความเห็นเท่านั้นใครจะไปก็ลองนำไปประยุกต์ใช้กับทริปตัวเองนะครับ เพราะผมว่าสุดท้ายแล้วเราไม่ต้องวางเป๊ะๆๆ ไปนั่งอ่านนั่งศึกษาที่นู้นเลยก็สนุกดีครับ
ต่อด้วยการเดินทางนะครับ จากหนังสือที่แนะนำบัตรสองอย่างคือ Ezy (เติมเงิน) / Tourist Pass(ใช้ได้  3 วันฟรีตลอด)

ส่วนใหญ่จะแนะนำ Ezy กัน แต่สำหรับผม ผมว่า Tourist Pass โอเคกว่าตรง ผมไป 5 วัน 3 วันแรก ผมก็ใช้แบบไม่จำกัด เราก็จัดตารางการเที่ยวของเราบบที่ต้องเดินทางเยอะๆ ไกลๆ ไปหลายๆที่ แล้ว 2 วันหลัง Tourist Pass จะแปลงกลายเป็นบัตร Ezy ไปเลย ก็คือสามารถเติมเงินอีกสองวันสุดท้ายได้ครับ สองวันสุดท้ายผมใช้ไปอีก 10 เหรียญ

คือ ถ้าบัตร Ezy เราซื้อแล้วมีอายุ 5 ปี ใช้ยาวๆ คืนบัตรไม่ได้แต่ Tourist Pass จะได้ค่าบัตรคืนอีก 10 เหรียญนะครับ ผมเลยชอบกว่า 5555 แล้วการใช้แบบบุฟเฟ่ต์มันทำให้เราไม่ต้องกังวัลว่าบัตรจะหมดไหม๊ค่ารถจะเปลืองไม๊

การเดินทางเนี่ย ทางใครไปคงหาข้อมูลหรืออ่านหนังสือไป ให้ลง MRT สถานีไหน ประตูไหน แต่สิ่งที่เราควรเผื่อใจคือ ส่วนใหญ่ไม่ใช่โผล่ออกมาแล้วจะเจอเลยส่วนใหญ๋แค่ใกล้เฉยๆ แต่ต้องเดินอีกพอสมควร ดังนั้นใครจะไปเตรียมเท้าสำหรับเดินให้ดีๆ งานเดินจริงงง !!!! เดิน เดิน เดิน ผมเลยแก้ปัญหาวันหลังๆด้วยการ ศึกษารถเมล์ครับ ซึ่ง สะดวกเหมือนกันเพราะ ทุกป้ายรถเมล์จะเขียนบอกว่า จอดป้ายไหนบ้าง บนถนนเส้นไหน เราก็สามารถขึ้นรถเมล์ได้ โดยไม่ต้องหาข้อมูลมาก่อนก็ได้ครับไปยืนอ่านที่ป้ายรถเมล์เลย

มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวนะครับ คือ ผมจะไม่นิยมไปพวกโบสถ์พวกวัดเลย จะเน้นเป็ฯสถานที่คนเมืองมากกว่า

ผมไม่ได้ทำตารางไปนะครับก็นึกเอาตรงนั้นว่าจะไปไหนแพลนล่วงหน้าบ้างเล็กๆน้อยสรุปผมขอเล่าสั้นๆดีกว่า

- วันแรก เดินเล่นแถบไชน่าทาวน์หลังจากเช็คอินที่พัก / ไปเมอไลอ้อน / มารีน่าเบย์ ก็คือต้องยอมรับว่าวันแรกยังล่องๆลอยๆอยู่ครับ เพราะหลงกระจาย สิ่งที่ได้รับจากวันแรกคือ ห้ามละสายจาจากแผนที่ แต่ผมว่ามันก็สนุกดีนะครับ บางทีเราเดินมั่วๆหลงๆไปโผล่ที่ที่เราไม่ได้ตั้งใจไป แต่เราก็คิดส่ะว่าโชคชะตาพัดพามา ก็เดินดูเดินถ่ายรูปไปส่ะเลย เรื่องหลงเนี่ยธรรมดามาก หลงได้ทุกโค้ง งง ทิศ งงแผนที่ตลอด 555


- วันที่สอง ผมพักลิตเติ้ลอินเดีย ก็เดินเล่นแถวๆนั้น นะครับแล้วก็ ไป มารีน่าแซนครับ (ห้างเรือ) ผมไปแวะคาสิโนด้วยครับ ผมอายุ 21 ปีพอดีตามเกณฑ์ มีเรื่องมาเล่าครับ เอาเป็นว่า ไม่ใช่ตัวอย่าง แต่มาทั้งทีเราก็ต้องลองเด๋วจะหาว่ามาไม่ถึง

เข้าไปงงยิ้ม ก้อเดินวนๆๆ ไปเจอไฮโล ผมก็ยืนดูอยู่นาน ศึกษาวิธีเล่น ไม่นานก้อเข้าใจ 555 // เสดแล้วไปแลกมา 20 doll (520bath) น้อยสุดในคนที่แลกแล้วมั้ง ไม่เจียมด้วย เอาเงินไปเหลือแค่ 100 ดอล ก้อจะไปลงไฮโร มันไม่ให้กุลงจ้าาบอกต้อง 25 ดอล ปล. มารู้ตอนหลังว่าแต่ละโตะราคาไม่เท่ากัน ก้อเลยไปดูอย่างอื่น ไปเจอคล้ายๆปอกเด้ง แมร่งขั้นต่ำ 25 แต่ถ้าลง tie คือไรไม่รุ แค่ 10 ก้อได้ ก้อไปยืนดูครึ่งชม. ก็ยัง งง ไปพบกับนางฟ้าคนนึง นางเล่นวาง tie หลายๆโต๊ะชั้นก้อสะกดรอยตามนาง เลยตัดสินใจลงตามตาแรกเสีย ยิ้มเหลือ สิบดอล สรุปกุไฟต์ลงอีกสุดท้าย ได้หว่ะยิ้มกกก ได้ๆไงยังไม่รุ แมร่งยื่นชิบมากุก้อรับจ้าาา 70 ดอล สรุปเล่นต่ออีกแปปเริ่มเสีย จบที่กำไร 30 ดอล (800 บาท)
รีบออกมาก่อนขาดทุน ปล. มาเล่นให้รุเฉยๆ555

เลยนำเงินที่ได้ไปเข้า ArtScienceMuseum เพราะต้องเสียเงิน 15 เหรียญ

แล้วจบด้วยต้นไม้ไฟๆ จำชื่อไม่ได้หลังตึกเรือ ตอนกลางคืนจะมีแสดงประกอบเพลงประมาน ทุ่มนึง ก็ไปให้ทันเวลานะครับ

- วันที่สาม ผมไป ยูนิเวอซอลครับ แนะนำให้ซื้อบัตรก่อนไปถึงนะครับ ขาไปรถไฟ Sentosa Express คนเยอะมาาาาก ผมเลยนั่งรถเมล์ ถูกกว่าด้วยครับ ขากลับก็กลับ รถไฟ Sentosa Express ไม่เสียงเงินด้วยครับ แล้วก็กลับมาเดินแถว Clak Quay หาข้าวเย็นทาน แนะนำร้าน บัสกุเต๋ แถวนั้นครับ อยู่ตรงข้ามห้างเยื้องๆกับ เครื่องเล่นอะไรสักอย่างตรงนั้นพอดี

- วันที่สี่ ผมตัดสินใจไป Outlet แถวๆ QueenWay คือตั้งใจไว้ว่า โอ้โหเอ้าเล็ท ช็อปแหลก พอไปถึงเป็นเหมือนห้าง ตจว. อันนี้เป็นอันนึงที่อ่านในหนังสือแล้วเขียนไว่ะอยากไป พอไปถึงผมว่าส่วนใหญ่ต้องผิดหวัง มีอยู่ประมาน 2 - 3 ช็อปที่ชัดๆมีอันเดียวคือ Billabong แล้วอีกฝั่งเป็นห้างชายเครื่องกีฬา รองเท้ากีฬา ถูกอยู่ครับแต่ใครไม่ได้ตั้งใจซื้อรองเท้ากีฬาก็คงเฉยๆ เป็นร้านเหมือนๆมาบุญครองเลยครับไม่ใช่ช็อปด้วย ค่อนข้างผิดหวังงง ห้างมีสองชั้น เล็กมาาาก แต่นั่งรถไปไกลมาาาาาาาาาาก ผมแนะนำใครเวลาน้อยไม่แนะนำเลยยยยยย ไปเที่ยวที่อื่นดีกว่าครับ คหสต.
แล้วก็กลับมาเดิน Orchard ที่นี่ห้างเยอะแบบเยอะมาาาาาก แนะนำเดิน ION ก่อนครับเพราะครบทุกช็อปล่ะ ผมไปดู H&M มีสาขาใหญ่สุด อยู่ตรงออกมาจาก ION แล้วไปทางขวาเดินไปเรื่อยๆ จะเจอช็อปใหญ่อยู่หัวมุม สี่ชั้น โอเคมากครับร้านเยอะมาาาก ช่วงนีเราคาถูกมาก เสื้อหนาวตัวละ 200 - 300  แต่ห้างอื่นๆอาจจะเดินได้นะครับลองหาข้อมูลเพิ่มดูแต่ผมเดินเกือบทุกห้างก็คล้ายๆกันครับ

- วันที่ห้า ผมไป Museum ครับ พอดีผมสนใจด้านนี้ ผมแนะนำ SAM singapore art museum เสีย 10 เหรียญได้เข้าสองที่เลย จากนั้นก็ไปเดินเล่นเก็บตกช๊อปที่ห้าง Suntec ก็โอเคนะครับก่อนกลับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่