.....ราตรีสั่งให้แม่บ้าน ทำความสะอาดเตรียมสถานที่ สำหรับทำพิธีไล่ผี ตามที่ช่างอ๊อดเรียก ตอนนี้นายช่างใหญ่ ดูจะเปลี่ยนเป็นผู้ชานาญการด้าน ภูติ ผี ปีศาจไปแล้ว หลังจากที่ แม่บ้านเห็นวิญญาณหญิงสาว คาดผ้าแถบ นุ่งโจงนั่งเล่นที่ริมน้ำ ตอนกลางคืนรวมทั้ง เจ้าเล็ก ลูกชายวัย ห้าขวบที่เห็น หญิงสาวโบกมือให้ในวันแรกที่ศาลาสร้างเสร็จ หล่อนก็ตัดสินใจ บอกให้ สามีคืนศาลาไปให้เจ้าของเดิมเสีย แต่วิทยา ยังอยากจะเก็บศาลานี้เอาไว้ เป็นครั้งแรกในรอบหกปี ที่ทั้งคู่มีปากเสียงกัน สุดท้าย วิทยา เลยรับข้อเสนอของช่างอ๊อด ที่จะไปนิมนต์ หลวงพี่ดำ พระสงฆ์ที่นับถือมาทำพิธีไล่ผีให้
พื้นศาลาตอนนี้ปูด้วยเสื่อขนาดใหญ่ มุมหนึ่งตั้งโต๊ะหมู่บูชา ที่ย้ายมาจากห้องพระ วิทยา นิมนต์พระประธานลงมาประดิษฐานไว้ตั้งแต่เช้า ก่อนจะออกไป นิมนต์หลวงพี่ดำ กับช่างอ๊อด โดยปล่อยหน้าที่เตรียมสถานที่ไว้กับหล่อนทั้งหมด
“คุณผู้ชายกลับมาแล้วคะ” เด็กรับใช้เข้ามารายงาน
ราตรีพยักหน้ารับทราบ หล่อนตัดสินใจ รออยู่ที่ศาลา ไม่นานนักก็เห็นสามี เดินนำหน้าพระสงฆ์รูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีดำแดง ท่าทางสำรวม ตามหลังปิดท้ายด้วยช่างอ๊อดที่ หิ้วย่ามเดินตามหลังมาไม่ห่างนัก
“นมัสการคะ พระคุณเจ้า”
“ราตรี ภรรยาผมครับ” วิทยา แนะนำภรรยา
“เจริญพรสีกา” เสียงของหลวงพี่ดำ นั้นทุ้มนุ่มนัก
“ขออาตามา เดินดูข้างในก่อนได้ไหม”
“เชิญ ขอรับ”วิทยา เดินนำหน้าเข้าไปในศาลาก่อน
หลวงพี่ดำ เดินชมศาลา อยู่พักหนึ่งโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะหยุดนิ่ง บริเวณบันไดลงท่าน้ำอยู่ แล้วหันมาพูดกับวิทยา
“ไม่รู้ว่าโยมอ๊อด มาโฆษณา อะไรไว้ แต่อาตมาเป็นพระไม่ใช่หมอผี เรื่องไล่ผีนะทำไม่เป็น แต่เห็นว่าพวกโยมมีทุกข์ก็อยากจะช่วย”
คำพูดนั้น แม้ไม่ดังนัก แต่ก็ได้ยินกันทั่ว ช่างอ๊อดนั้น ก้มหน้าไม่กล้าเงยขึ้นมา ขณะที่ราตรี กับ วิทยาก็ประหลาดใจ ที่ท่านออกปากว่าไล่ผีไม่เป็น
“แล้วท่านจะช่วยอะไรได้บ้างขอรับ”
“ก็ช่วยทั้งสองฝ่าย สีกาละเอียดก็ไม่ได้ร้ายอะไร ยังมารอรับอาตมา” เสียงของหลวงพี่ดำนั้น ทุ้มนุ่มเช่นเดิม ก่อนจะกล่าวต่อ แต่คนฟังนั้นขนลุกกันทั่วหน้า ที่หลวงพี่เอ่ยชื่อ สีกาละเอียด
“ก็ถือโอกาส ทำบุญ ศาลาใหม่แล้วกัน ถ้าวิญญาณสีกาละเอียด ได้รับผลบุญจนหลุดจากห่วง จากทุกข์ ที่ยึดติด ก็ดีไปถ้ายังไม่อาจหลุดพ้น ก็ถือว่ามีกรรมร่วมกัน ถึงได้มาอยู่ร่วมกันแต่โลกทั้งสองนั้นแยกกันอยู่ สีกาอย่าได้พยายามก้าวข้ามมาเพราะยิ่งจะสร้างกรรมใหม่ขึ้นอีก”
แม้จะทราบอยู่แล้วว่ามีวิญญาณ ที่ศาลานี้ แต่การที่หลวงพี่ดำ ออกปากยืนยันว่ามีอยู่จริง และอยู่ใกล้ขนาดที่น่าจะไม่ห่างจากที่ทั้งหมดนั่งอยู่ ทำให้ ฆราวาส ทั้งหมดหันซ้าย หันขวา เพื่อจะมองหาร่องรอยของวิญญาณ
วิทยานั้นเพิ่งให้ลูกน้อง ไปสืบเรื่องวิญญาณในศาลาจากคนงานบ้านนายกิจจา พอได้ยินชื่อสีกาละเอียด ก็หมดสงสัยในตัวหลวงพี่ดำ เพราะชื่อนั้นตรงกันอย่างประหลาด
“แล้วจะต้องเตรียมอะไรบ้าง ค่ะ พระคุณเจ้า” ราตรีในฐานะแม่บ้าน สอบถามหลวงพี่ทันที หล่อนไม่แน่ใจว่าจะมีของครบสำหรับพิธีไหม หากขาดอะไร ก็คงต้องให้นายเชิด ออกไปซื้อหามาเพิ่มเติม
หลวงพี่ดำ มองสถานที่ ที่จัดเตรียมไว้ตามที่ช่างอ๊อดแนะนำเอาไว้
“ทำพิธีง่ายๆ แล้วกัน หาอ่างใส่น้ำมาสักใบ อาตมาจะทำน้ำมนต์ไว้พรม รอบบ้านเป็นสิริมงคล”
พิธีนั้นเรียบง่าย วิทยาที่เป็นเจ้าบ้านเป็นประธานจุดธูปเทียน อาราธนาศีล หลวพี่ดำ สวดเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมทั้งทำน้ำมนต์ หลังจากนั้นก็กรวดน้ำให้กับเจ้ากรรมนายเวร รวมทั้งคุณละเอียด หลังจากนั้น วิทยาก็ถืออ่างน้ำมนต์ เดินตามหลวงพี่ดำพรมน้ำมนต์รอบบ้าน หลังจากเสร็จพิธี ถวายภัตตาหารเพล คำถามที่ทุกคนคลางแคลงใจ อยู่ก็ถูกถามโดย ช่างอ๊อด ที่ไม่อาจ อดรนทนได้ด้วยความอยากรู้
“วิญญาณ คุณละเอียดไปหรือยังครับ หลวงพี่”
“ยัง ห่วงที่เขามี มันดึงเขาไว้ไม่ให้ไปผุดไปเกิดแต่เขาจะไม่ออกมาทำร้ายใครแล้วนะ โยมไม่ต้องห่วง คิดเสียว่าเขาเป็น ผีบ้านผีเรือนแล้วกัน เวลาทำบุญก็นึกถึงเขาด้วย โยมวิทยาไปย้ายเรือนเขามา เขาไม่คุ้นเคย ก็ต้องอยากกลับไปที่เก่าของเขาแต่เมื่อมันเป็นกรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ต่างฝ่ายก็ได้แต่ยอมรับ อาตมาว่าเขาก็เข้าใจนะ”
หลวงพี่หยุดนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ
“ลูกชายของโยม จิตของเด็กยังบริสุทธิ์ อาจจะเห็น หรือ ได้ยินรับรู้เรื่องพวกนี้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ จิตของผู้ใหญ่ เดี๋ยวคิดนั่น คิดนี่ สิ่งปรุงแต่งมันเยอะ เลยรับคลื่นพวกนี้ไม่ค่อยจะได้ อย่าปล่อยให้เด็กมาเล่นที่ศาลาลำพัง เขาสัมผัสได้ง่าย ยิ่งรับรู้บ่อยๆ ยิ่งทำให้เขาคุ้นเคย มันเหมือนปรับคลื่นได้ง่าย ไม่ใช่สิ่งดี เหมือนกับบ้านที่ไม่มีประตู อาจจะมีวิญญาณไม่ดีเข้ามาอาศัยได้ง่าย”
หลวงพี่กลับไปแล้ว แม่บ้าน กำลังเก็บ กวาดศาลาริมน้ำ ราตรียืนคุมอยู่ห่าง หล่อนยังไม่สบายใจ วิญญาณ คุณละเอียดยังคงอยู่แล้วยังคำเตือน นั้นอีกละ หล่อนต้องคอยระวังลูกไม่ให้มาเล่นที่ศาลานี้คนเดียวอีก เมื่อสามียืนยันจะเก็บศาลานี้ไว้ หล่อนก็ทำได้แต่เพียง ตั้งจิตระลึกถึงวิญญาณที่อาศัยในศาลาหลังน้อย ขออย่าได้มายุ่งกับ ลูกชายสุดที่รักเลย แล้วหล่อนจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ สิ้นคำอธิฐาน ก็มีลมเย็นพัดมาวูบหนึ่ง
นี่จะใช่การตอบรับคำอธิฐานของหล่อนไหม ราตรีคิดในใจ
-----------------------------------------------------------------------------------
หลังจากพิธีทำบุญ คุณละเอียด ก็ไม่ออกมาให้ใครเห็นอีกทำให้ราตรีสบายใจขึ้นมาบ้าง แต่หล่อนก็ยังทำตามคำแนะนำของหลวงพี่ดำ โดยกำชับพี่เลี้ยง ไม่ให้ปล่อยเจ้าเล็ก ลูกชายเล่นทีศาลาคนเดียว และกิจวัตรที่เพิ่มขึ้นอีกอย่างคือการตักบาตร กรวดน้ำทุกวันเสาร์ ที่หล่อนและสามี ตกลงจะทำด้วยกัน
วันเสาร์นี้ วิทยามีนัดเล่นกอล์ฟ กับลูกค้าเป็นประจำ หล่อนจะใช้เวลาช่วงดังกล่าวหัดทำขนม หรือ อาหารกลางวัน จากตำราหรือที่จดจากรายการทีวี โดยมี โสภา แม่ครัวคอยช่วย วันนี้ก็เหมือนกับทุกวัน หล่อนเลือกทำเค้กแบล๊คฟอเรสต์ ตรวจดูส่วนผสมว่ามีอยู่ครบขณะที่หล่อนกำลัง เทแป้งลงในอ่างผสม ก็รู้สึกถึงแรงดึงที่กระโปรงทำให้ หล่อนต้องหยุดมือไว้ ก่อนจะหันมาเห็นเจ้าลูกชาย ยืนเกาะชายกระโปรงอยู่
“แม่ติ๋ว พาเล็ก ไปเล่นลอยเรือหน่อย สิ”
“แล้ว จุ๋มไปไหนละ ไม่ให้จุ๋มพาไปละ”หล่อนถามถึงแม่พี่เลี้ยงทีควรจะอยู่กับลูกชายตอนนี้
“พี่จุ๋มไม่สบายครับ วิ่งเข้าวิ่งออกห้องน้ำตั้งแต่เช้า เล็กไปที่ศาลาก็โดน คุณละเอียด บอกให้พาผู้ใหญ่มาด้วย” เสียงเล่า เจื้อยๆ ของเจ้าลูกชาย ทำเอาราตรี นิ่งไปพักหนึ่งเมื่อตั้งสติได้ ราตรีก็ซักลูกชายทันที
“เล็กเล่าให้แม่ฟัง ได้ไหมค่ะว่า ไปเจอคุณละเอียดได้ยังไง”
“เล็กพับเรือ ตามทีวี” พูดไปก็ชูเรือกระดาษในมือไปด้วย“เล็กจะเอาเรือไปลอยที่ศาลา ไปที่บันได คุณละเอียด ก็เรียกเล็กไม่ให้ลงบันได” เจ้าตัวยุ่งหยุดเกาหัว ทำท่าหยุดนึก การเกาหัวเหมือนจะทำให้ความทรงจำเด็กน้อยจะไหลออกมาได้ตามแรงเกา
“คุณละเอียด บอกว่า ไอ้หนู ห้ามลงไปนะ ถ้าเอ็งจะมาเล่นที่นี่ก็ไปตามผู้ใหญ่มาดูด้วย” เจ้าตัวเล็กเลียนแบบน้ำเสียงมีจริตแบบผู้หญิง จนราตรีอดกลั้นยิ้มไว้ไม่ได้
“แล้ว เล็กรู้ได้ไงค่ะว่า เขาชื่อ คุณละเอียด”
“เล็ก บอกไปว่าคุณน้าพูดไม่เพราะ คุณน้า เลยบอกว่า อย่าเรียกข้าว่าน้า ให้เรียกคุณละเอียด”
เออหนอ นี่คุณละเอียดถึงกับ โผล่มาคุยกับลูกชายหล่อนเชียวหรือแต่เธอก็ไล่ลูกชายไม่ให้มาเล่นคนเดียว หรือว่าเธอจะทำตามที่หล่อนอธิฐานไว้
“โสภา อาพลาสติกห่อโถ ไว้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะพา คุณเล็กไปเล่นที่ศาลาก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาทำต่อ อะไรล้างได้ก็ล้างไปก่อนนะสัก” หล่อนชำเลืองไปที่นาฬิกาแขวน ข้างผนัง “ครึ่งชั่วโมง ค่อยกลับมาทำต่อ”
ราตรีเดินจูงมือ ลูกชายไปยังศาลา มองจากตรงทางเดินศาลาริมน้ำตอนนี้ปลูกต้นสร้อยอินทนิน เลื้อยไปตามไม้ระแนงจนมองเห็นภายในศาลาได้ถนัดนัก ถ้าเจ้าตัวยุ่งตกน้ำตกท่าไปใครจะเห็นละนี่
ถ้าคุณละเอียดไม่ไล่ลูกชายเธอกลับมาอะไรจะเกิดขึ้น
ตามรักคืนเรือน ตอนที่ 3
พื้นศาลาตอนนี้ปูด้วยเสื่อขนาดใหญ่ มุมหนึ่งตั้งโต๊ะหมู่บูชา ที่ย้ายมาจากห้องพระ วิทยา นิมนต์พระประธานลงมาประดิษฐานไว้ตั้งแต่เช้า ก่อนจะออกไป นิมนต์หลวงพี่ดำ กับช่างอ๊อด โดยปล่อยหน้าที่เตรียมสถานที่ไว้กับหล่อนทั้งหมด
“คุณผู้ชายกลับมาแล้วคะ” เด็กรับใช้เข้ามารายงาน
ราตรีพยักหน้ารับทราบ หล่อนตัดสินใจ รออยู่ที่ศาลา ไม่นานนักก็เห็นสามี เดินนำหน้าพระสงฆ์รูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีดำแดง ท่าทางสำรวม ตามหลังปิดท้ายด้วยช่างอ๊อดที่ หิ้วย่ามเดินตามหลังมาไม่ห่างนัก
“นมัสการคะ พระคุณเจ้า”
“ราตรี ภรรยาผมครับ” วิทยา แนะนำภรรยา
“เจริญพรสีกา” เสียงของหลวงพี่ดำ นั้นทุ้มนุ่มนัก
“ขออาตามา เดินดูข้างในก่อนได้ไหม”
“เชิญ ขอรับ”วิทยา เดินนำหน้าเข้าไปในศาลาก่อน
หลวงพี่ดำ เดินชมศาลา อยู่พักหนึ่งโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะหยุดนิ่ง บริเวณบันไดลงท่าน้ำอยู่ แล้วหันมาพูดกับวิทยา
“ไม่รู้ว่าโยมอ๊อด มาโฆษณา อะไรไว้ แต่อาตมาเป็นพระไม่ใช่หมอผี เรื่องไล่ผีนะทำไม่เป็น แต่เห็นว่าพวกโยมมีทุกข์ก็อยากจะช่วย”
คำพูดนั้น แม้ไม่ดังนัก แต่ก็ได้ยินกันทั่ว ช่างอ๊อดนั้น ก้มหน้าไม่กล้าเงยขึ้นมา ขณะที่ราตรี กับ วิทยาก็ประหลาดใจ ที่ท่านออกปากว่าไล่ผีไม่เป็น
“แล้วท่านจะช่วยอะไรได้บ้างขอรับ”
“ก็ช่วยทั้งสองฝ่าย สีกาละเอียดก็ไม่ได้ร้ายอะไร ยังมารอรับอาตมา” เสียงของหลวงพี่ดำนั้น ทุ้มนุ่มเช่นเดิม ก่อนจะกล่าวต่อ แต่คนฟังนั้นขนลุกกันทั่วหน้า ที่หลวงพี่เอ่ยชื่อ สีกาละเอียด
“ก็ถือโอกาส ทำบุญ ศาลาใหม่แล้วกัน ถ้าวิญญาณสีกาละเอียด ได้รับผลบุญจนหลุดจากห่วง จากทุกข์ ที่ยึดติด ก็ดีไปถ้ายังไม่อาจหลุดพ้น ก็ถือว่ามีกรรมร่วมกัน ถึงได้มาอยู่ร่วมกันแต่โลกทั้งสองนั้นแยกกันอยู่ สีกาอย่าได้พยายามก้าวข้ามมาเพราะยิ่งจะสร้างกรรมใหม่ขึ้นอีก”
แม้จะทราบอยู่แล้วว่ามีวิญญาณ ที่ศาลานี้ แต่การที่หลวงพี่ดำ ออกปากยืนยันว่ามีอยู่จริง และอยู่ใกล้ขนาดที่น่าจะไม่ห่างจากที่ทั้งหมดนั่งอยู่ ทำให้ ฆราวาส ทั้งหมดหันซ้าย หันขวา เพื่อจะมองหาร่องรอยของวิญญาณ
วิทยานั้นเพิ่งให้ลูกน้อง ไปสืบเรื่องวิญญาณในศาลาจากคนงานบ้านนายกิจจา พอได้ยินชื่อสีกาละเอียด ก็หมดสงสัยในตัวหลวงพี่ดำ เพราะชื่อนั้นตรงกันอย่างประหลาด
“แล้วจะต้องเตรียมอะไรบ้าง ค่ะ พระคุณเจ้า” ราตรีในฐานะแม่บ้าน สอบถามหลวงพี่ทันที หล่อนไม่แน่ใจว่าจะมีของครบสำหรับพิธีไหม หากขาดอะไร ก็คงต้องให้นายเชิด ออกไปซื้อหามาเพิ่มเติม
หลวงพี่ดำ มองสถานที่ ที่จัดเตรียมไว้ตามที่ช่างอ๊อดแนะนำเอาไว้
“ทำพิธีง่ายๆ แล้วกัน หาอ่างใส่น้ำมาสักใบ อาตมาจะทำน้ำมนต์ไว้พรม รอบบ้านเป็นสิริมงคล”
พิธีนั้นเรียบง่าย วิทยาที่เป็นเจ้าบ้านเป็นประธานจุดธูปเทียน อาราธนาศีล หลวพี่ดำ สวดเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมทั้งทำน้ำมนต์ หลังจากนั้นก็กรวดน้ำให้กับเจ้ากรรมนายเวร รวมทั้งคุณละเอียด หลังจากนั้น วิทยาก็ถืออ่างน้ำมนต์ เดินตามหลวงพี่ดำพรมน้ำมนต์รอบบ้าน หลังจากเสร็จพิธี ถวายภัตตาหารเพล คำถามที่ทุกคนคลางแคลงใจ อยู่ก็ถูกถามโดย ช่างอ๊อด ที่ไม่อาจ อดรนทนได้ด้วยความอยากรู้
“วิญญาณ คุณละเอียดไปหรือยังครับ หลวงพี่”
“ยัง ห่วงที่เขามี มันดึงเขาไว้ไม่ให้ไปผุดไปเกิดแต่เขาจะไม่ออกมาทำร้ายใครแล้วนะ โยมไม่ต้องห่วง คิดเสียว่าเขาเป็น ผีบ้านผีเรือนแล้วกัน เวลาทำบุญก็นึกถึงเขาด้วย โยมวิทยาไปย้ายเรือนเขามา เขาไม่คุ้นเคย ก็ต้องอยากกลับไปที่เก่าของเขาแต่เมื่อมันเป็นกรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ต่างฝ่ายก็ได้แต่ยอมรับ อาตมาว่าเขาก็เข้าใจนะ”
หลวงพี่หยุดนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ
“ลูกชายของโยม จิตของเด็กยังบริสุทธิ์ อาจจะเห็น หรือ ได้ยินรับรู้เรื่องพวกนี้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ จิตของผู้ใหญ่ เดี๋ยวคิดนั่น คิดนี่ สิ่งปรุงแต่งมันเยอะ เลยรับคลื่นพวกนี้ไม่ค่อยจะได้ อย่าปล่อยให้เด็กมาเล่นที่ศาลาลำพัง เขาสัมผัสได้ง่าย ยิ่งรับรู้บ่อยๆ ยิ่งทำให้เขาคุ้นเคย มันเหมือนปรับคลื่นได้ง่าย ไม่ใช่สิ่งดี เหมือนกับบ้านที่ไม่มีประตู อาจจะมีวิญญาณไม่ดีเข้ามาอาศัยได้ง่าย”
หลวงพี่กลับไปแล้ว แม่บ้าน กำลังเก็บ กวาดศาลาริมน้ำ ราตรียืนคุมอยู่ห่าง หล่อนยังไม่สบายใจ วิญญาณ คุณละเอียดยังคงอยู่แล้วยังคำเตือน นั้นอีกละ หล่อนต้องคอยระวังลูกไม่ให้มาเล่นที่ศาลานี้คนเดียวอีก เมื่อสามียืนยันจะเก็บศาลานี้ไว้ หล่อนก็ทำได้แต่เพียง ตั้งจิตระลึกถึงวิญญาณที่อาศัยในศาลาหลังน้อย ขออย่าได้มายุ่งกับ ลูกชายสุดที่รักเลย แล้วหล่อนจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ สิ้นคำอธิฐาน ก็มีลมเย็นพัดมาวูบหนึ่ง
นี่จะใช่การตอบรับคำอธิฐานของหล่อนไหม ราตรีคิดในใจ
-----------------------------------------------------------------------------------
หลังจากพิธีทำบุญ คุณละเอียด ก็ไม่ออกมาให้ใครเห็นอีกทำให้ราตรีสบายใจขึ้นมาบ้าง แต่หล่อนก็ยังทำตามคำแนะนำของหลวงพี่ดำ โดยกำชับพี่เลี้ยง ไม่ให้ปล่อยเจ้าเล็ก ลูกชายเล่นทีศาลาคนเดียว และกิจวัตรที่เพิ่มขึ้นอีกอย่างคือการตักบาตร กรวดน้ำทุกวันเสาร์ ที่หล่อนและสามี ตกลงจะทำด้วยกัน
วันเสาร์นี้ วิทยามีนัดเล่นกอล์ฟ กับลูกค้าเป็นประจำ หล่อนจะใช้เวลาช่วงดังกล่าวหัดทำขนม หรือ อาหารกลางวัน จากตำราหรือที่จดจากรายการทีวี โดยมี โสภา แม่ครัวคอยช่วย วันนี้ก็เหมือนกับทุกวัน หล่อนเลือกทำเค้กแบล๊คฟอเรสต์ ตรวจดูส่วนผสมว่ามีอยู่ครบขณะที่หล่อนกำลัง เทแป้งลงในอ่างผสม ก็รู้สึกถึงแรงดึงที่กระโปรงทำให้ หล่อนต้องหยุดมือไว้ ก่อนจะหันมาเห็นเจ้าลูกชาย ยืนเกาะชายกระโปรงอยู่
“แม่ติ๋ว พาเล็ก ไปเล่นลอยเรือหน่อย สิ”
“แล้ว จุ๋มไปไหนละ ไม่ให้จุ๋มพาไปละ”หล่อนถามถึงแม่พี่เลี้ยงทีควรจะอยู่กับลูกชายตอนนี้
“พี่จุ๋มไม่สบายครับ วิ่งเข้าวิ่งออกห้องน้ำตั้งแต่เช้า เล็กไปที่ศาลาก็โดน คุณละเอียด บอกให้พาผู้ใหญ่มาด้วย” เสียงเล่า เจื้อยๆ ของเจ้าลูกชาย ทำเอาราตรี นิ่งไปพักหนึ่งเมื่อตั้งสติได้ ราตรีก็ซักลูกชายทันที
“เล็กเล่าให้แม่ฟัง ได้ไหมค่ะว่า ไปเจอคุณละเอียดได้ยังไง”
“เล็กพับเรือ ตามทีวี” พูดไปก็ชูเรือกระดาษในมือไปด้วย“เล็กจะเอาเรือไปลอยที่ศาลา ไปที่บันได คุณละเอียด ก็เรียกเล็กไม่ให้ลงบันได” เจ้าตัวยุ่งหยุดเกาหัว ทำท่าหยุดนึก การเกาหัวเหมือนจะทำให้ความทรงจำเด็กน้อยจะไหลออกมาได้ตามแรงเกา
“คุณละเอียด บอกว่า ไอ้หนู ห้ามลงไปนะ ถ้าเอ็งจะมาเล่นที่นี่ก็ไปตามผู้ใหญ่มาดูด้วย” เจ้าตัวเล็กเลียนแบบน้ำเสียงมีจริตแบบผู้หญิง จนราตรีอดกลั้นยิ้มไว้ไม่ได้
“แล้ว เล็กรู้ได้ไงค่ะว่า เขาชื่อ คุณละเอียด”
“เล็ก บอกไปว่าคุณน้าพูดไม่เพราะ คุณน้า เลยบอกว่า อย่าเรียกข้าว่าน้า ให้เรียกคุณละเอียด”
เออหนอ นี่คุณละเอียดถึงกับ โผล่มาคุยกับลูกชายหล่อนเชียวหรือแต่เธอก็ไล่ลูกชายไม่ให้มาเล่นคนเดียว หรือว่าเธอจะทำตามที่หล่อนอธิฐานไว้
“โสภา อาพลาสติกห่อโถ ไว้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะพา คุณเล็กไปเล่นที่ศาลาก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาทำต่อ อะไรล้างได้ก็ล้างไปก่อนนะสัก” หล่อนชำเลืองไปที่นาฬิกาแขวน ข้างผนัง “ครึ่งชั่วโมง ค่อยกลับมาทำต่อ”
ราตรีเดินจูงมือ ลูกชายไปยังศาลา มองจากตรงทางเดินศาลาริมน้ำตอนนี้ปลูกต้นสร้อยอินทนิน เลื้อยไปตามไม้ระแนงจนมองเห็นภายในศาลาได้ถนัดนัก ถ้าเจ้าตัวยุ่งตกน้ำตกท่าไปใครจะเห็นละนี่
ถ้าคุณละเอียดไม่ไล่ลูกชายเธอกลับมาอะไรจะเกิดขึ้น