มีหลายคนกังวลว่า นายก ครม. สส. สว. ที่โหวตผ่านแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญจะถูก ปปช.ชี้มูลแล้วต้อง
หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดสูญญากาศทางการเมือง จะเป็นที่มาของนายกตาม ม.๗
เรื่องนี้ตัดปัญหาทิ้งไปได้ นายกและครม. ยังคงปฏิบัติหน้าที่ได้ตามที่ รธน.มาตรา ๑๘๑ กำหนดไว้ จนกว่าจะมี
ครม.ใหม่รับหน้าที่ต่อไป
ความจริงแล้ว เมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ๒๕๕๖ แล้ว ความเป็นนายกและ ครม.สิ้นสุดลง จึงไม่มีตำแหน่ง ครม.เหลือให้
กฎหมายบังคับหยุดปฏิบัติหน้าที่ และ
ทุกวันนี้ ปฎิบัติหน้าที่ได้ด้วยอำนาจของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๑
มาตรา ๑๘๑ คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
แต่ในกรณีพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา ๑๘๐ (๒) คณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ได้เท่าที่จำเป็น ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
ดังต่อไปนี้.....ฯลฯ
ฉะนั้น เมื่อ ปปช.ชี้มูล ครม. ถ้าก่อนเลือกตั้ง นายก ครม. ก็รักษาการณ์ต่อไปเช่นเดิมตามรัฐธรรมนูญกำหนด การเลือกตั้งก็ดำเนินต่อไปได้
ประเด็นว่าจะไม่มีนายกรักษาการณ์ไปจนเลือกตั้ง จึงตัดไปได้
แต่สิ่งที่ ปปช.หรือกลุ่มคนบางกลุ่มคาดหวังคือ การลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง 5 ปี หรือที่เรียกว่า โทษแบน
ซึ่งจะมี สส. สว. บางส่วนถูกแบน และคิดว่าน่าเป็นปัญหาอย่างมากในกรณีที่ สส. ที่โดนโทษแบนได้รับเลือกเข้ามา
เป็น สส. เพราะจะมีผลให้หลุดจาก สส.ทันที ในกรณี สว. ก็สิ้นสภาพ สว. เช่นกัน
และแม้ ปปช.จะชีมูล สส. หรือ สว. อะไรก็ตาม จะก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง จนทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลและมี ครม.
ใหม่มารับหน้าที่ได้ ก็ไม่เกิดศูนยากาศทางการเมือง อันเนื่องมาจาก นายกก็ต้องอยู่รักษาการณ์ต่อไปรวมทั้ง ครม.ด้วย เพราะ
รธน.๕๐ กำหนดว่าต้องอยู่นตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
ต่อให้ลากยาวไป 10 ปี ถ้ายังไม่มี ครม.ใหม่มารับหน้าที่ นายกก็ต้องรักษาการณ์ต่อไป เว้นแต่นายกตาย หรือ ทิ้งหน้าที่
ปัญหาคือ นายกจะทำอะไรไม่ได้มาก เพราะโดน รธน.กำหนดอำนาจหน้าที่ไว้ เมื่อนั้นแหระ การบริหารบ้านเมืองจะลำบาก
นายกอาจจะไม่ลำบาก เพราะอ้างได้ว่า รธน.กำหนดให้แค่นี้ คนที่ลำบากคือภาคธุรกิจ
เรื่องมันยาว กับดักมันเยอะ ยังอีกหลายปม ถ้ารัฐบาลใจเย็นๆ ค่อยๆแก้เรื่องกฎหมายพวกนี้ มีทางออกมากมาย
ระน.ฉบับ ๕๐ เหมือนเขียนมาแกล้งเขา สุดท้ายก็แกล้วคนอื่นเขาไม่ได้ ทุกวันนี้ที่แกล้งกันอยู่ไม่ใช่ รธน.แล้ว
แต่คนแกล้งตีความมั่วไปเอง
ขอให้ผุ้ที่รักประชาธิปไตยที่ต้องการเลือกตั้ง ยึดมั่นแค่ว่า ต้องเลือกตั้ง วันเลือกตั้งหายไม่ได้ นอกนั้นกลไกลกฎหมายมีทางออกให้เอง
ที่จริงจะลองมีความเห็นเรื่อง ปปช. ทำไม่ชอบที่รับตรวจสอบกรณีตามคำวินิฉัยของ ตลก. แต่มันยาว ต้องลำดับมาก เลยเอาประเด็นนี้ก่อน
ปปช.ลงดาบ จะเกิดอะไรขึ้น
หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดสูญญากาศทางการเมือง จะเป็นที่มาของนายกตาม ม.๗
เรื่องนี้ตัดปัญหาทิ้งไปได้ นายกและครม. ยังคงปฏิบัติหน้าที่ได้ตามที่ รธน.มาตรา ๑๘๑ กำหนดไว้ จนกว่าจะมี
ครม.ใหม่รับหน้าที่ต่อไป
ความจริงแล้ว เมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ๒๕๕๖ แล้ว ความเป็นนายกและ ครม.สิ้นสุดลง จึงไม่มีตำแหน่ง ครม.เหลือให้
กฎหมายบังคับหยุดปฏิบัติหน้าที่ และ
ทุกวันนี้ ปฎิบัติหน้าที่ได้ด้วยอำนาจของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๑
มาตรา ๑๘๑ คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
แต่ในกรณีพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา ๑๘๐ (๒) คณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ได้เท่าที่จำเป็น ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
ดังต่อไปนี้.....ฯลฯ
ฉะนั้น เมื่อ ปปช.ชี้มูล ครม. ถ้าก่อนเลือกตั้ง นายก ครม. ก็รักษาการณ์ต่อไปเช่นเดิมตามรัฐธรรมนูญกำหนด การเลือกตั้งก็ดำเนินต่อไปได้
ประเด็นว่าจะไม่มีนายกรักษาการณ์ไปจนเลือกตั้ง จึงตัดไปได้
แต่สิ่งที่ ปปช.หรือกลุ่มคนบางกลุ่มคาดหวังคือ การลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง 5 ปี หรือที่เรียกว่า โทษแบน
ซึ่งจะมี สส. สว. บางส่วนถูกแบน และคิดว่าน่าเป็นปัญหาอย่างมากในกรณีที่ สส. ที่โดนโทษแบนได้รับเลือกเข้ามา
เป็น สส. เพราะจะมีผลให้หลุดจาก สส.ทันที ในกรณี สว. ก็สิ้นสภาพ สว. เช่นกัน
และแม้ ปปช.จะชีมูล สส. หรือ สว. อะไรก็ตาม จะก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง จนทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลและมี ครม.
ใหม่มารับหน้าที่ได้ ก็ไม่เกิดศูนยากาศทางการเมือง อันเนื่องมาจาก นายกก็ต้องอยู่รักษาการณ์ต่อไปรวมทั้ง ครม.ด้วย เพราะ
รธน.๕๐ กำหนดว่าต้องอยู่นตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
ต่อให้ลากยาวไป 10 ปี ถ้ายังไม่มี ครม.ใหม่มารับหน้าที่ นายกก็ต้องรักษาการณ์ต่อไป เว้นแต่นายกตาย หรือ ทิ้งหน้าที่
ปัญหาคือ นายกจะทำอะไรไม่ได้มาก เพราะโดน รธน.กำหนดอำนาจหน้าที่ไว้ เมื่อนั้นแหระ การบริหารบ้านเมืองจะลำบาก
นายกอาจจะไม่ลำบาก เพราะอ้างได้ว่า รธน.กำหนดให้แค่นี้ คนที่ลำบากคือภาคธุรกิจ
เรื่องมันยาว กับดักมันเยอะ ยังอีกหลายปม ถ้ารัฐบาลใจเย็นๆ ค่อยๆแก้เรื่องกฎหมายพวกนี้ มีทางออกมากมาย
ระน.ฉบับ ๕๐ เหมือนเขียนมาแกล้งเขา สุดท้ายก็แกล้วคนอื่นเขาไม่ได้ ทุกวันนี้ที่แกล้งกันอยู่ไม่ใช่ รธน.แล้ว
แต่คนแกล้งตีความมั่วไปเอง
ขอให้ผุ้ที่รักประชาธิปไตยที่ต้องการเลือกตั้ง ยึดมั่นแค่ว่า ต้องเลือกตั้ง วันเลือกตั้งหายไม่ได้ นอกนั้นกลไกลกฎหมายมีทางออกให้เอง
ที่จริงจะลองมีความเห็นเรื่อง ปปช. ทำไม่ชอบที่รับตรวจสอบกรณีตามคำวินิฉัยของ ตลก. แต่มันยาว ต้องลำดับมาก เลยเอาประเด็นนี้ก่อน