ต้องบอกว่านี่เป็นเหตุการณ์ดีเบตเล็กๆครั้งนึงที่เกิดขึ้น ระหว่างผมกับเพื่อนผู้น่ารักคนนึงครับ
ช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ ผมมีเพื่อนสมัยมัธยมคนนึงมาอยู่ด้วยครับ มันต้องเข้ามาคุมงานในกรุงเทพเลยขอมาอยู่กับผมสักเดือนนึง
มาถึงวันแรกวันแรกเพื่อนผู้น่ารักของผมก็ออกตัวเบิร์นยางเลยครับว่า "เฮ้ย! มุงไปม็อบกะกุปะ" ได้ยินครั้งแรกผมสะดุ้งเทือกเลยครับ
เอ้ย สะดุ้งเฮือก คิดในใจ "

ละ นี่กุกำลังให้ที่พักพิงแนวร่วมกบฎอยู่นี่หว่า ซวยละกุ" ก็ได้แต่ตอบเนียนๆไปว่า ไม่เอาอะ ไม่ค่อยสนใจ
ทั้งที่จริงกุนี่แหละติดตามสถานการณ์ยิ่งกว่าเหยี่ยวข่าว CNN ทุกเพจ ทุกเว็บการเมือง กุติดตามหมดโว้ย กรั่กๆๆ แต่ไม่ได้ครับ ตอนนี้
ต้องทำเนียนไป ไทยเฉย ไปก่อนอยากรู้เหมือนกันว่า สลิ่มขนานแท้มันมีแนวคิดอย่างไร มีจุดอ่อนจุดแข็งตรงไหน จะได้ยิงเข้าจุดตายทีเดียว
วันแล้ววันเล่า มันก็ยังชวนผมไปม็อบอยู่ตลอด แต่ผมก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง บางทีมันก็บอกว่า "กุไปคนเดียวก็ได้!" ผมก็เออตามสบาย
สักพักเสียงโทรศัพท์ของมันดังขึ้น กริ๊งๆๆ "ฮัลโหล ว่าไงจ้ะคนสวย ไม่ได้ทำไร อิอิ บลาๆๆๆๆ..." แล้วก็จุดบุหรี่ ไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกสบายใจ
ลืมอุดมการณ์อันแรงกล้าของมันมะกี้ไปแล้ว บางทีก็มีมุขชวนผมไปกินเหล้า บอกเดี๋ยวเลี้ยงๆ ผมก็เออๆดีๆ เหล้าฟรีใครจะเถียง เลยถามมันว่า
ร้านไหนดีวะ มันทำท่าคิดแปปนึง "แถวข้าวสารมั้ยวะ" อ๊ะ นั่นๆๆแน๊ มุงนี่ไม่พ้นกรอบจุดโทษเลยนะไอแสส ผมเลยบอกมีร้านนึงสาวอย่างเอ๊กซ์
หมดไม่เกิน 2 พันมุงกินอยู่แบบราชาเลย ตามคาดเพื่อนผมลืมอุดมการณ์ข้าวสารไปอย่างเรียบร้อย
แต่นานวันเข้าอาการมันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ มันเปิดช่อง bluesky ให้ผมดูทุกวัน ชื่นชมม็อบ ชื่นชมเทือก ใส่หูผมทุกวัน ผมก็ใส่เฮดโฟนบ้าง
ลุกไปเปลี่ยนช่องบ้าง ดูนมสาวๆแล้วกดไลค์ในเฟสบ้าง เดินไปขี้บ้าง ทำเป็นไม่สนใจไปเรื่อยๆ จนผ่านวันที่ 22 ที่มวลมหาประชาธิปัตย์ บอกว่า
มากันเป็นสิบล้าน เพื่อนผมก็ อู้วฮู้ว อ้าฮ้า ตาเหลือก ตื้นตันน้ำตาคลอประหนึ่งว่ามันได้ไปร่วมเดินกับเขา ทั้งที่ตัวมันยังนอนตากไข่อยู่บนเตียง
มันพูดทั้งวันว่า สิบล้าน หลายล้าน (ดีมันไม่บอกว่าร้อยล้าน) ไฟในตัวมันคุกรุ่นแรงกล้า บอกมันลู่สั่นเพื่อรองรับนกหวีดเต็มที่ มันพร้อมแล้ว
จนมาถึงวันที่ 26 ที่มีการปะทะกันจนเสียชีวิต เหมือนเดิมมันได้บ่นปาวๆ ตำรวจยิงประชาชนๆ ตำรวจฆ่าประชาชนๆ มีภาพนึงที่ผู้ชุมนุม
ถือปลอกกระสุนจริงแล้วบอกว่าตำรวจใช้กระสุนจริงยิงประชาชน มันรีบเอามายื่นใส่หน้าให้ผมดู จังหวะนี้ผมบอกตรงๆว่าผมไม่ไหวแล้วครับ
ความคิดมันระเบิดแล้วว่า กุมีสลิ่มเป็นเพื่อนได้ แต่กุมีควายเป็นเพื่อนไม่ได้จริงๆ!! ผมหันหน้าไปหามันช้าๆ ประหนึ่งฉากในหนังฆาตกรรม
ที่กำลังจะเผยหน้าที่แท้จริงของตัวโกง ผมมองตามันประมาณ 2 วิ สูดหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งครั้ง "ไอ้ควายยยยยยยย!!!!" มันสะดุ้งโหยง
"กระสุนพ่อมุง ยิงแล้วแถมปลอกรึไงไอสั๊ส มุงคิดว่ามันแตกตัวเป็นกระสวยเหมือนยานอวกาศเร๊อะไอเห้ย!!" ได้ผลครับมันสตั้นไปประมาน 3 วิ
พอมันตั้งสติได้ ก็แถอ้อมๆแอ้มๆ "แต่มันก็มีคนเจ็บ คนตายมั้ยวะ คนเขามาเป็นล้าน มากขึ้นๆ เขาไม่เอานายกกันแล้ว มุงไม่เห็นไง?"
หึหึ ชะตามุงขาดแล้วเพื่อนเอ๋ย ใส่พานทองแท้ให้กุซะขนาดนี้ กุปิดบัญชีมุงเลยละกันนะเพื่อน ผมลุกไปยืนตรงหน้ามัน แล้วพูดให้มันได้ยินชัดๆ
"มุงมองไปรอบตัวมุงดูดิวะ มองกุ มองห้องข้างๆ มองบ้านแถวนี้ มองร้านค้า มองยาม มองวินมอไซ มุงเห็นอะไรเปลี่ยนไปมั้ย?
ตั้งแต่วันแรกที่มุงมา รถขยะก็มาเก็บของเวลาเดิม บะหมี่ป็อกๆก็มาเหมือนเดิม ไอ้วินเชี่ยนั่นที่ขับรถท่อดัง ก็ยังวิ่งผ่านให้มุงด่าทุกวันเหมือนเดิม
มุงได้แต่บอกว่าม็อบมุงมีคนเห็นด้วยมหาศาล แล้วคนพวกนี้ละ กุไม่ได้บอกว่าเขาไม่เห็นด้วยกับมุง แต่เขาไม่เอาม็อบที่สร้างความชริบหาย
แบบพวกมุง มุงไม่ต้องบอกเขาไม่รักชาติๆ เขาทำมาหากินแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนทำมาหากินอาชีพอื่นวอดวายไปด้วยเหมือนพวกมุง เลิกคิดไปเอง
ซะทีว่าทุกคนที่เขาอยู่เฉยๆ ใช้ชีวิตปกติเห็นด้วยกับการชุมนุมของพวกมุง แต่เขาเลือกที่จะไม่สนใจพวกมุง เขาเลือกที่จะไม่เก็บตัว

แบบ
พวกมุงไว้ในความคิดแล้วก้มหน้าทำมาหากินต่อไป แต่ถ้าเมื่อไรที่พวกมุงยังไม่หยุดคุกคามให้มันล้ำเส้นไปมากกว่านี้ มุงระวังพวกเขา
และระวังกุไว้ด้วย ว่าเขาก็ทำให้หมาแบบพวกมุงไม่มีที่เดินได้เหมือนกัน สัส!!"
พูดเสร็จผมก็ยืนจ้องหน้ามันดูว่าจะมีไรเถียงมั้ย เมื่อเห็นว่าไม่มีผมเลยเดินออกมาจากห้องลงไปซื้อบุหรี่ดับอารมณ์ ซื้อเสร็จลืมไปว่าไม่มีไฟ
เลยขอยืมพี่วินที่นั่งกินเบียร์กันอยู่หน้าร้าน พี่วินลุกขึ้นมา "มาน้อง พี่ต่อให้" พร้อมกับจุดไฟแช็กให้ผม ต่างคนต่างยิ้มแม้ไม่ต้องพูดอะไร
ดูดเสร็จเดินขึ้นมาห้อง เจอเพื่อนนั่งหงอยอยู่บนโซฟา เห็นผมมันเลยพูดเสียงอ่อยๆ "มุงยังเห็นกุเป็นเพื่อนอยู่มั้ยวะ...."
ผมได้ยินก็แอบขำมัน "จะให้กุเห็นมุงเป็นผัวกุรึไงละ เพื่อนก็เพื่อนดิวะ ตอนไม่มี-กุขอยืมเงินสุเทพมันให้กุปะละ ตอนไม่มีรถกุโทรตามนายก
ปูมันมารับกุมั้ยละ คิดเห้ไรมาก ปะ-เหล้าดีกว่า ทำดราม่าเดี๋ยวกุตบคว่ำ" พอเพื่อนผมได้ยินมันก็ยิ้มกว้างเลยครับ สุดท้ายผมกะมันก็ตกลง
คบกันเป็นแฟน ถุ๊ยยย!! ตกลงกันว่าเราจะไม่พูดให้ต่างคนต่างเกลียดเกลียดอีกฝั่ง คุยเรื่องงาน เรื่องนม เรื่องนวด คุยสนุกกว่ากันเยอะครับ
จากเหตุการณ์ดีเบตเล็กๆของประชาชนกลุ่มหนึ่ง
ขอบคุณครับ
คนมาชุมนุมเป็นล้านเลยนะเพื่อน! เขาไม่เอานายกแล้ว!!
ช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ ผมมีเพื่อนสมัยมัธยมคนนึงมาอยู่ด้วยครับ มันต้องเข้ามาคุมงานในกรุงเทพเลยขอมาอยู่กับผมสักเดือนนึง
มาถึงวันแรกวันแรกเพื่อนผู้น่ารักของผมก็ออกตัวเบิร์นยางเลยครับว่า "เฮ้ย! มุงไปม็อบกะกุปะ" ได้ยินครั้งแรกผมสะดุ้งเทือกเลยครับ
เอ้ย สะดุ้งเฮือก คิดในใจ "
ทั้งที่จริงกุนี่แหละติดตามสถานการณ์ยิ่งกว่าเหยี่ยวข่าว CNN ทุกเพจ ทุกเว็บการเมือง กุติดตามหมดโว้ย กรั่กๆๆ แต่ไม่ได้ครับ ตอนนี้
ต้องทำเนียนไป ไทยเฉย ไปก่อนอยากรู้เหมือนกันว่า สลิ่มขนานแท้มันมีแนวคิดอย่างไร มีจุดอ่อนจุดแข็งตรงไหน จะได้ยิงเข้าจุดตายทีเดียว
วันแล้ววันเล่า มันก็ยังชวนผมไปม็อบอยู่ตลอด แต่ผมก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง บางทีมันก็บอกว่า "กุไปคนเดียวก็ได้!" ผมก็เออตามสบาย
สักพักเสียงโทรศัพท์ของมันดังขึ้น กริ๊งๆๆ "ฮัลโหล ว่าไงจ้ะคนสวย ไม่ได้ทำไร อิอิ บลาๆๆๆๆ..." แล้วก็จุดบุหรี่ ไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกสบายใจ
ลืมอุดมการณ์อันแรงกล้าของมันมะกี้ไปแล้ว บางทีก็มีมุขชวนผมไปกินเหล้า บอกเดี๋ยวเลี้ยงๆ ผมก็เออๆดีๆ เหล้าฟรีใครจะเถียง เลยถามมันว่า
ร้านไหนดีวะ มันทำท่าคิดแปปนึง "แถวข้าวสารมั้ยวะ" อ๊ะ นั่นๆๆแน๊ มุงนี่ไม่พ้นกรอบจุดโทษเลยนะไอแสส ผมเลยบอกมีร้านนึงสาวอย่างเอ๊กซ์
หมดไม่เกิน 2 พันมุงกินอยู่แบบราชาเลย ตามคาดเพื่อนผมลืมอุดมการณ์ข้าวสารไปอย่างเรียบร้อย
แต่นานวันเข้าอาการมันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ มันเปิดช่อง bluesky ให้ผมดูทุกวัน ชื่นชมม็อบ ชื่นชมเทือก ใส่หูผมทุกวัน ผมก็ใส่เฮดโฟนบ้าง
ลุกไปเปลี่ยนช่องบ้าง ดูนมสาวๆแล้วกดไลค์ในเฟสบ้าง เดินไปขี้บ้าง ทำเป็นไม่สนใจไปเรื่อยๆ จนผ่านวันที่ 22 ที่มวลมหาประชาธิปัตย์ บอกว่า
มากันเป็นสิบล้าน เพื่อนผมก็ อู้วฮู้ว อ้าฮ้า ตาเหลือก ตื้นตันน้ำตาคลอประหนึ่งว่ามันได้ไปร่วมเดินกับเขา ทั้งที่ตัวมันยังนอนตากไข่อยู่บนเตียง
มันพูดทั้งวันว่า สิบล้าน หลายล้าน (ดีมันไม่บอกว่าร้อยล้าน) ไฟในตัวมันคุกรุ่นแรงกล้า บอกมันลู่สั่นเพื่อรองรับนกหวีดเต็มที่ มันพร้อมแล้ว
จนมาถึงวันที่ 26 ที่มีการปะทะกันจนเสียชีวิต เหมือนเดิมมันได้บ่นปาวๆ ตำรวจยิงประชาชนๆ ตำรวจฆ่าประชาชนๆ มีภาพนึงที่ผู้ชุมนุม
ถือปลอกกระสุนจริงแล้วบอกว่าตำรวจใช้กระสุนจริงยิงประชาชน มันรีบเอามายื่นใส่หน้าให้ผมดู จังหวะนี้ผมบอกตรงๆว่าผมไม่ไหวแล้วครับ
ความคิดมันระเบิดแล้วว่า กุมีสลิ่มเป็นเพื่อนได้ แต่กุมีควายเป็นเพื่อนไม่ได้จริงๆ!! ผมหันหน้าไปหามันช้าๆ ประหนึ่งฉากในหนังฆาตกรรม
ที่กำลังจะเผยหน้าที่แท้จริงของตัวโกง ผมมองตามันประมาณ 2 วิ สูดหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งครั้ง "ไอ้ควายยยยยยยย!!!!" มันสะดุ้งโหยง
"กระสุนพ่อมุง ยิงแล้วแถมปลอกรึไงไอสั๊ส มุงคิดว่ามันแตกตัวเป็นกระสวยเหมือนยานอวกาศเร๊อะไอเห้ย!!" ได้ผลครับมันสตั้นไปประมาน 3 วิ
พอมันตั้งสติได้ ก็แถอ้อมๆแอ้มๆ "แต่มันก็มีคนเจ็บ คนตายมั้ยวะ คนเขามาเป็นล้าน มากขึ้นๆ เขาไม่เอานายกกันแล้ว มุงไม่เห็นไง?"
หึหึ ชะตามุงขาดแล้วเพื่อนเอ๋ย ใส่พานทองแท้ให้กุซะขนาดนี้ กุปิดบัญชีมุงเลยละกันนะเพื่อน ผมลุกไปยืนตรงหน้ามัน แล้วพูดให้มันได้ยินชัดๆ
"มุงมองไปรอบตัวมุงดูดิวะ มองกุ มองห้องข้างๆ มองบ้านแถวนี้ มองร้านค้า มองยาม มองวินมอไซ มุงเห็นอะไรเปลี่ยนไปมั้ย?
ตั้งแต่วันแรกที่มุงมา รถขยะก็มาเก็บของเวลาเดิม บะหมี่ป็อกๆก็มาเหมือนเดิม ไอ้วินเชี่ยนั่นที่ขับรถท่อดัง ก็ยังวิ่งผ่านให้มุงด่าทุกวันเหมือนเดิม
มุงได้แต่บอกว่าม็อบมุงมีคนเห็นด้วยมหาศาล แล้วคนพวกนี้ละ กุไม่ได้บอกว่าเขาไม่เห็นด้วยกับมุง แต่เขาไม่เอาม็อบที่สร้างความชริบหาย
แบบพวกมุง มุงไม่ต้องบอกเขาไม่รักชาติๆ เขาทำมาหากินแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนทำมาหากินอาชีพอื่นวอดวายไปด้วยเหมือนพวกมุง เลิกคิดไปเอง
ซะทีว่าทุกคนที่เขาอยู่เฉยๆ ใช้ชีวิตปกติเห็นด้วยกับการชุมนุมของพวกมุง แต่เขาเลือกที่จะไม่สนใจพวกมุง เขาเลือกที่จะไม่เก็บตัว
พวกมุงไว้ในความคิดแล้วก้มหน้าทำมาหากินต่อไป แต่ถ้าเมื่อไรที่พวกมุงยังไม่หยุดคุกคามให้มันล้ำเส้นไปมากกว่านี้ มุงระวังพวกเขา
และระวังกุไว้ด้วย ว่าเขาก็ทำให้หมาแบบพวกมุงไม่มีที่เดินได้เหมือนกัน สัส!!"
พูดเสร็จผมก็ยืนจ้องหน้ามันดูว่าจะมีไรเถียงมั้ย เมื่อเห็นว่าไม่มีผมเลยเดินออกมาจากห้องลงไปซื้อบุหรี่ดับอารมณ์ ซื้อเสร็จลืมไปว่าไม่มีไฟ
เลยขอยืมพี่วินที่นั่งกินเบียร์กันอยู่หน้าร้าน พี่วินลุกขึ้นมา "มาน้อง พี่ต่อให้" พร้อมกับจุดไฟแช็กให้ผม ต่างคนต่างยิ้มแม้ไม่ต้องพูดอะไร
ดูดเสร็จเดินขึ้นมาห้อง เจอเพื่อนนั่งหงอยอยู่บนโซฟา เห็นผมมันเลยพูดเสียงอ่อยๆ "มุงยังเห็นกุเป็นเพื่อนอยู่มั้ยวะ...."
ผมได้ยินก็แอบขำมัน "จะให้กุเห็นมุงเป็นผัวกุรึไงละ เพื่อนก็เพื่อนดิวะ ตอนไม่มี-กุขอยืมเงินสุเทพมันให้กุปะละ ตอนไม่มีรถกุโทรตามนายก
ปูมันมารับกุมั้ยละ คิดเห้ไรมาก ปะ-เหล้าดีกว่า ทำดราม่าเดี๋ยวกุตบคว่ำ" พอเพื่อนผมได้ยินมันก็ยิ้มกว้างเลยครับ สุดท้ายผมกะมันก็ตกลง
คบกันเป็นแฟน ถุ๊ยยย!! ตกลงกันว่าเราจะไม่พูดให้ต่างคนต่างเกลียดเกลียดอีกฝั่ง คุยเรื่องงาน เรื่องนม เรื่องนวด คุยสนุกกว่ากันเยอะครับ
จากเหตุการณ์ดีเบตเล็กๆของประชาชนกลุ่มหนึ่ง
ขอบคุณครับ