[CR] จากบ้านไปไกล สู่ดินแดนอาทิตอุทัย ตอนที่ 6 เมืองและแสงสีแห่ง “นาโกย่า”

คำแนะนำ : รีวิวผมเป็นรีวิวกาก ๆ ที่ไม่ได้ใส่รายละเอียดข้อมูลแนะนำต่าง ๆ ไว้ให้นะครับ
เป็นเพียงแค่สิ่งที่ผมอยากเล่าให้ฟังกับประสบการณ์ที่ได้เดินทางไป ได้พบ ได้เจอเรื่องราวต่าง ๆ
แล้วก็อยากแชร์ภาพถ่ายให้ดู คิดซะว่าอ่านเล่น ๆ ยามว่างแล้วกันนะครับ
ภาษา ความรุนแรง ไม่เหมาะแก่เยาวชน นะครับ กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับลม...เอ่ย..รับชม ด้วย

ความเดิมตอนที่แล้ว
จากบ้านไปไกล สู่ดินแดนอาทิตอุทัย ตอนที่ 5 สงคราม ความโศกเศร้า และสันติสุข แห่งฮิโรชิม่า
http://pantip.com/topic/31380945



นาโกย่า เดินทางเมื่อ 20-21 กรกฎาคม2556

สัปดาห์นี้ชิวฝุด ๆ เนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ ๆ นั่งรถไฟไปครึ่งชั่วโมงก้อถึง คราวนี้ก้อเลยไม่ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อขึ้นรถไฟเที่ยวแรกเหมือนทุกที กว่าจะตื่นล่อไปซะเกือบเก้าโมง แต่ก้อม้ายเปนไรชิว ๆ เป็นเมืองที่ตัวเองควรจะต้องรู้อะไรมากที่สุดด้วยซ้ำ แต่ก้อยั่งว่า ผมซะอย่าง ไม่รู้อะไรอยู่แว้ว รู้แค่ว่ากรูจะต้องไปกินไก่ยามะจัง ที่ใคร ๆ ก้อล้ำลือถึงว่ามันอร่อยนักอร่อยหนา

อย่างที่เคยบอกไปแล้วตั้งแต่รีวิวแรก ๆ นาโกย่าเองเป็นเมืองใหญ่มาก สถานีรถไฟบ้านเค้า ใหญ่พอ ๆ กะสนามบินบ้านเราอะ คนนี่มะต้องพูดถึง เดินไปนี่แทบได้กันเรยทีเดียว 55+  ผมเริ่มต้นด้วยการไปที่ที่เป็นจุดกำเนิดของบริษัทระดับโลกอย่างโตโยต้า หลาย ๆ ท่านเองไม่ทราบว่าโตโยต้า มีต้นกำหนิดมาจากโรงงานทอผ้า ใช่แว้วครับ ผมบอกไม่ผิด จากโรงงานทอผ้า สู้การปฏิวัติอุตสาหกรรมระดับโลก ผมเองทึ่งในความสามารถของผู้นำโตโยต้า ที่ฟันฝ่าปัญหาต่าง ๆ มาจนกลายเปนบริษัทใหญ่โตแบบนี้ ผมทึ่งในความคิดสร้างสรรค์ขึ้นเทพของคนญี่ปุ่น ผมทึ่งในความพยายามคิดต่อยอดอย่างไม่หยุดยั้งของคนญี่ปุ่น ผมทึ่งในการพัฒนาทักษะทางด้านเทคโนโลยีของคนญี่ปุ่น



สำหรับผม การมาเที่ยวที่นาโกย่า ทำให้ผมเกิดต่อมอิจฉาต่อคนญี่ปุ่นในทุก ๆ ด้าน



ภายในโกดังอิฐแดงนี้ เคยเป็นโรงงานทอผ้าของโตโยต้า ปัจจุบันได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว แต่เครื่องไม้เครื่องมือทุกอย่างยังคงสามารถใช้งานได้ และมีการสาธิตหลักการทำงานของเครื่องจักรต่าง ๆ ตั้งแต่การปั่นได้ การทอ ไปจนถึงกระบวนการทำรถยนต์คันแรก และโชว์เครื่องจักร์ขนาดยักษ์ที่ใช้ในไลน์ประกอบของโตโยต้า


จากนั้นขึ้นรถเมย์ต่อไปยังปราสาทนาโกย่า จิง ๆ แล้วผมเฉย ๆ กับการไปเที่ยวปราสาทของญี่ปุ่น เนื่องจากปราสาทเกือบทั้งหมด เปนการสร้างขึ้นมาใหม่ แทนของเดิมที่ถูกทำลายไปนั่นเอง แต่พอได้เข้าไปมันก้อทำให้รู้สึกว่า ที่นี้มันคงเคยยิ่งใหญ่มาก ๆ อยู่นะ






หลังจากนั้น ผมเดินทางต่อไปยังวัดโอสุ ปกติแล้วที่นี้คนจะเยอะมาก ๆ แต่ว่ากว่าผมจะไปถึงเล่นเอาซะเย็นแล้ว
เลยอาจจะไม่ค่อยมีคนก้อได้



ในระหว่างที่นั่งรถเมย์ สังเกตุเห็นอะไรบางอย่าง...เฮ้ยยยย น่ารักวะ ลองดูที่ภาพนะครับ สัญลักษณ์สุดท้าย รู้สึกดีจิง


ช่วงใกล้จะค่ำผมมุ่งตรงสู่ย่านใจกลางธุรกิจ นั่นก้อคือซากาเอ่ะ ถ้าบอกแต่ชื่อ คงจะนึกมะค่อยออก แต่ถ้าเห็นรูป ก้อน่าจะพอเคยเห็นมาบ้าง ที่นี้จะมีจานบิน แล้วก้อมีสระน้ำอยู่ด้านบน ถ่ายรูปแล้วสวยดีหว่ะ แล้วก้อมองเห็นวิวของหอคอยส่งสัญญาณด้วย บริเวณกลางถนนจะเป็นสวนสาธารณะตลอดเกาะกลาง ซึ่งใหญ่มาก ๆ ยาวมากด้วย



ข้างล่างเป็นร้านค้าแหล่งช้อปปิ้ง ผมเดิน ๆ ไปก้อได้แต่พูดว่า เช็ดดดด กรูอิจฉาแมร่งวะ (เมืองไทยไม่มีงะ ประเด็น ความอิจฉาเลยเกิดอีกครั้ง) มีทั้งลานเบียร์ ร้านอาหาร วงดนตรี นู้นนี่นั่น เต็มไปหมด ช่วงค่ำ ๆ มีหนุ่มสาว มีนั่งจู๋จี๋กันเป็นคู่ ๆ บรรยากาศแมร่งดีจิง ๆ อะ ถ้าได้ไปนั่งแบบนั้นบ้าง ผมยอมเสียตัวอะ จิง ๆ แต่มะมีคู่ไง ได้แต่เดินถ่ายรูป คนเค้าก้อมอง ๆ กัน ว่าไอ้กระเหรี่ยงนี่มันทำสนตรีนสนแตรกไรของมันฟระ คนเค้าจาสวีทกัน 55



เส็ดจากย่านนี้ก้อเดินต่อไปบริเวณใกล้ ๆ แถวที่มีพวกคาราโอเกะ ร้านอาหาร ร้านออรัล ผับ อะไรทำนองนั้น ไม่ได้ใช้บริการไรหรอก แค่อยากถ่ายรูปแสงไฟเท่านั้นเอง กว่าจาได้กลับปาเข้าไปเกือบห้าทุ่ม เลยต้องรีบไปที่สถานีรถไฟเพื่อกลับคาริยะ


ก่อนกลับก้อจัดซะหน่อย เอาให้อิ่ม


ตารางรถไฟที่นั่งกลับ เป็นแบบข้างล่างครับ บอกแยกเป็นสี ๆ ไว้ ให้รู้ว่าสายไหนเป็นสายไหน จอดที่สถานีอะไรบ้าง เวลาเท่าไหร่
อย่างที่ทุกคนรู้ว่ารถไฟที่ญี่ปุ่นตรงเวลามาก ก้อตามนั้นครับ ตรงฝุด ๆ


รุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ ผมเดินทางเข้านาโกย่าอีกครั้ง แบบไม่เร่งรีบ ตื่นสาย ๆ อิกวัน วันนี้ต้องการไปที่เดียวคือย่าน นาโกย่าพอร์ท ที่นี้จะมีพวกท่าเรือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอยู่ ผมใช้เวลาที่นี้นานมาก ๆ เกือบจาทั้งวัน ด้วยความที่เป็นคนชอบพวกปลาสวยงามอยู่แล้ว อีกอย่างสวนสัตว์น้ำที่ญี่ปุ่นนี่ ดีฉริบหายเบย ค่าเข้ารู้สึกจา สองพันกว่า ๆ เยน เหมือนจะแพง แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพ ผมว่าดีกว่าบ้านเราหลายเท่า ทั้งการแสดงโลมา ที่มีพื้นที่ให้คนนั่งดูทั้งข้างบน รึอยากจะดูปลาตอนอยู่ข้างใต้น้ำ ก้อสามารถทำได้ เจ๋งโคตร ไม่แปลกใจเลย ทำไมคนญี่ปุ่นถึงเป็นประชากรที่มีคุณภาพ เค้ามีที่ที่ดีให้ไป เค้ามีครอบครัวที่ดี มีพ่อแม่พาลูก ๆ มาเที่ยวเยอะมาก ๆ ในวันหยุด เค้ามีสังคมที่ดี มีตัวอย่างจากรุ่นสู่รุ่นที่ดี มีสภาพแวดล้อมที่ดี อะไร ๆ ก้อดีไปหมด พอลองมองย้อนกลับมาบ้านเรา หลาย ๆ อย่างเราก้อดีเหมือนกัน อีกหลายอย่างเราดีกว่าด้วยซ้ำ แต่คนของเราไม่ดี จิตสำนึกต่อสังคมไม่ดี น้ำใจไม่ดี เห็นแก่ตัว คอยแต่จะเอาเปรียบ ไม่รู้จักเสียสละ มันเลยทำให้ทุก ๆ อย่างในเมืองไทยไม่ดีไปด้วย ไม่รู้อีกกี่ปี เราถึงจะยกระดับจิตใจเราให้เท่ากับบ้านเค้า....





นอกเรื่องไปไกลแระ ช่างแมร่ง ยังงัยก้อต้องอยู่เมืองไทยอยู่ดีปะวะ หลังจากออกมาจากสวนสัตว์น้ำ ผมก้อเดินไปพิพิธภัณฑ์เรือสำรวจขั้วโลกใต้ที่อยู่บริเวณใกล้ ๆ ซึ่งเรือลำนี้เค้าปลดประจำการหลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนนี้เลยจอดให้คนเข้ามาศึกษากัน เดิน ๆ ไปก้อขนลุก เกิดพลังหึกเหิมอยากจะทำงานเป็นนักสำรวจไรแบบนี้บ้าง คงจะมันส์มิใช่น้อย




ก่อนกลับผมเลยแวะซื้อไก่ทอดชื่อดังของเมือง ชื่อว่าไก่ยามะจัง เห็นเค้าบอกนักบอกหนาว่ามันอร่อยโคตร เลยจัดมาชุดนึง จำราคามะได้แระ พอกัดไปเท่านั้นแหละ ฮือหืออออออ ไก่ทอดในตลาดบ้านกรูอร่อยก่าเมิงอิก สาดด เหมือนโดนหลอกว่างั้น...จิง ๆ ไอ้ไก่ยามะจังนี่ เจ้าของมันก้อได้ไอเดียวมาจากไก่ทอดที่จัตตุจักรนั่นแหละ แค่ปรับเพิ่มให้เนื้อมันหลุดหล่อน รูดเข้าปากได้เลย ก้อแค่นั้น แต่ยังไง ผมก้อว่าเมืองไทยอร่อยกว่าอะ


โปรดติดตามตอนต่อไปกับ
จากบ้านไปไกล สู่ดินแดนอาทิตอุทัย ตอนที่ 7 โตเกียว เมืองหลวงระดับโลก.....
http://pantip.com/topic/31557582
ชื่อสินค้า:   nagoya
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่