ช่วงต้นเดือนมีความคิดว่าอยากไปเที่ยวลาว เลยหาข้อมูลพี่ๆในนี้ ยิ่งดูก็ยิ่งอยากไป
แต่.. เจอกระทู้ของพี่นิรายนะที่เขารีวิว 15 เมนู ณ เชียงคาน
http://pantip.com/topic/31213043
ความคิดเริ่มเปลี่ยนค่ะ อยากไปเชียงคานด้วย เลยหาข้อมูลใหม่ มีวิธีไปได้ทั้งสองที่ค่ะ เลยจัดทริปนี้ขึ้นมา
ในทริปไปกันแค่ 4 คนค่ะ ไปแบบไม่มีใครรู้ข้อมูลเลย ไปตายเอาดาบหน้าอย่างเดียว
เพราะเราลงความเห็นกันแล้วว่า รู้ว่ามีวิธีไป รู้สถานที่เที่ยวที่กิน แค่นี้พอ ที่เหลือไปถามเอาค่ะ
นี่เป็นรีวิวครั้งแรกตั้งแต่เป็นสมาชิกมา ข้อมูลอาจจะไม่ครบถ้วน
มีหลงๆลืมๆบ้าง พิมพ์ไม่รู้เรื่องบ้าง พูดไม่เป็นภาษาบ้าง ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ
เราเริ่มจากจองที่พักและตั๋วรถก่อนค่ะ กลัวจะเต็มเพราะใกล้ปีใหม่ เราเลือกไปวันที่ 21-25 ธันวาคม (รวมเดินทาง)
วันที่ 1
รถออกตอน 21:30 น. เราไปถึงหมอชิตนั่งรอเวลารถออก แต่พอจะขึ้นรถดันหารถไม่เจอค่ะ
ถึงรถก็ตอน 21:34 นาที โดนพี่คนขับรถบ่นค่ะ พี่ท่านไหนที่อยู่บนรถคันเดียวกัน ขอโทษด้วยนะคะ
หนูหารถไม่เจอจริงๆ

หลังจากนั้นก็รอเวลาค่ะ กว่าจะถึงเชียงคานคงประมาณ หกโมงเช้า หลับๆตื่นๆ ตลอดทาง
วันที่ 2
กว่าจะถึงเชียงคานก็ 8 โมงค่ะ อากาศหนาวมาก เข้าที่พักยังไม่ได้ พอดีกับพี่สามล้อมาถามว่าจะไปไหนๆ
เราเลยถามว่าตอนนี้ไปทะเลหมอกทันไหม (จริงๆคิดว่าไม่ทันแล้ว) แต่พี่เขาบอกว่าทันแล้วจะพาไปแก่งคุดคู้ด้วย
โดนไปคนละ 100 บาทค่ะ แต่ระยะทางก็ไกลพอสมควร
ที่ภูทอกตอน 8 โมงเช้ายังมีหมอกอยู่นะคะ แต่ไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น อากาศตอนนั้นแค่ 7 องศาเองคะ
ถ่ายรูปเสร็จเราก็ไปแก่งคุดคู้ต่อคะ
เวลาเหลือเราเลยให้พี่เขาพาไปวัดพระพุทธบาทภูควายเงิน พี่เขาคิดเพิ่มอีกคนละ 50 บาท เลยไปกับพี่เขาค่ะ
กระต่ายยังคงเยอะเหมือนเดิมค่ะ
เที่ยวเสร็จก็เกือบเที่ยงแล้ว เราเลยให้พี่เขาพาไปที่พักค่ะ เราพักกันที่เชียงคานริเวอร์วิวค่ะ ไม่ได้ถ่ายด้านหน้ามาแต่มีด้านหลังให้ชม
ติดกับแม่น้ำโขงเลยค่ะ บรรยากาศดีมาก ลมเย็นตลอดทั้งวัน หลังจากเช็คอินเราก็ปั่นจักรยานหาอะไรทานกัน
มาการองร้านนี้อร่อยสมคำเล่าลือจริงๆค่ะ สนนราคาที่ 350 บาท
หลังจากนั้นก็กลับมาที่พักนั่งเล่นริมโขงรอเดินถนนคนเดินแต่ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมาเลยค่ะ ห่วงกินมากกว่า 55555
วันที่ 3
เราตื่นกันมาแต่เช้าเพื่อใส่บาตรข้าวเหนียวและเตรียมตัวเดินทางไปเวียงจันทน์ต่อ
หลังจากใส่บาตรเสร็จ ป้าที่พักก็บอกให้เราไปขึ้นรถรอบ 8 โมงเช้า เพราะว่าจะได้ไม่ถึงช้าเกินไป
ตอนแรกเราจะไปรอบ 9 โมงค่ะ แต่เราเชื่อป้าเปลี่ยนไปตอน 8 โมงแทน
บรรยากาศที่บขส.เชียงคานคะ หลังจากเรานั่งรถมาถึงเมืองเลย เราก็รีบไปต่อรถจากเมืองเลยไปอุดรทันที ซึ่งเราโชคดีค่ะที่เชื่อป้า
เพราะว่าพอถึงเมืองเลยเราก็ได้ไปรอบ 9 โมงทันพอดีเลย ไม่งั้นต้องรออีก 1 ชั่วโมง
ใช้เวลาเท่าไหร่จำไม่ได้แต่ว่านานพอสมควรค่ะ พอเราไปถึงอุดรก็รีบไปซื้อตั๋วเพื่อไปหนองคายค่ะ
แต่มาช้าไป รถออกแล้วต้องรอรอบบ่ายโมง ทำให้เสียเวลาตรงนี้ไปค่ะ จากอุดรเราไปหนองคายด้วยรถตู้นะคะ
เมื่อมาถึงหนองคายก็พาเพื่อนไปทำบัตรผ่านแดนที่บขส.แหละคะ คนละ 120 บาท
ระหว่างรอเราก็ไปซื้อตั๋วคะ คนละ 55 บาท
รอบรถจากหนองคายไปเวียงจันทน์ค่ะ เราไปรอบ 14:30 น. รอบที่เราไปได้ขึ้นเป็นรถของที่ลาวค่ะ
ตอนขึ้นไปก็มีคนลาวนั่งที่เราแล้ว เลยหันถามเอื้อยข้างๆว่าแบบนี้ต้องทำยังไง พี่เขาบอกว่านั่งตรงไหนก็ได้ ไม่เป็นไร
รอบนั้นที่ไปทั้งรถมีเรา 4 คนค่ะที่เป็นคนไทย คนทั้งรถคุยกันเสียงดังเหมือนรู้จักกันหมด ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยคะระหว่างทาง
พอถึงด่านเราทำอะไรไม่ถูก ก็ได้พี่ที่เราถามเมื่อกี้เป็นคนพาทำเรื่องค่ะ พี่เขาบอกเขามาทุกปีคะ แนะนำเราทุกอย่างเลย ใจดีมาก
กว่าจะถึงที่พักก็เกือบๆ 5 โมงแล้ว อากาศที่เวียงจันทน์ตอนเช้าไม่หนาวเท่าไหร่คะ ลมเย็นสบายๆ
ไปเดินเล่นริมโขงกันต่อคะ
เราเดินไปตลาดมืด แล้วเดินไปหาข้าวทานค่ะ เจอร้านอาหารญี่ปุ่นร้านนึงน่าทานมาก เลยตัดสินใจเลือกร้านนี้ค่ะ
ที่ขาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวลาวค่ะ
ทานเสร็จเราก็เดินย่อยไปเรื่อยๆ เดินแบบไม่มีจุดหมาย
ลืมบอกไปว่าเราพักแถวน้ำพุค่ะ ชื่อ พรประเสริฐเกสเฮ้าส์ อ้ายที่เฝ้าโรงแรมตอนเย็นน่ารักคะ คุยกับเราและเพื่อนตลอด
แล้วก็มีอ้ายอีกคนชื่ออ้ายสวน คนนี้ไม่ทราบว่าเป็นอะไรกับอ้ายคนเมื่อกี้รึป่าวนะคะ เห็นมานั่งที่ล็อบบี้ตลอด สงสัยมาอยู่เป็นเพื่อนกัน
อ้ายสวนเพิ่งอยู่ปี 1 ค่ะ อายุไล่เลี่ยกันเลยคุยกันรู้เรื่องหน่อย อิอิ
ด้วยความที่เราอยากรู้ว่าผับที่ลาวเป็นยังไง เราเลยให้อ้ายสวนพาเราไปผับค่ะ จะคล้ายๆที่ไทยค่ะ คนที่ลาวร้องเพลงไทย
อ้ายสวนบอกว่า เวลาคนลาวมาเที่ยวผับ ผู้หญิงเขาก็จะนุ่งซิ่นกัน ส่วนผู้ชายจะใส่เสื้อเชิ้ตเอาเสื้อใส่ในกางเกงด้วยค่ะ ดูเรียบร้อยมาก
อ้ายสวนคนขวาสุดค่ะ เราเจอคนไทยที่ผับด้วย ก็ทักทายกัน หลังจากนั้นก็กลับที่พักกัน
วันที่ 4
ตื่นมาเช็คเอ้าตอน 9 โมง อ้ายสวนก็ออกไปเรียนแล้ว เราเลยเดินไปวัดศรีสะเกษกัน
ไม่ได้ฝากกระเป๋านะคะ เพราะไม่อยากเดินย้อนไปย้อนมา
หลังจากนั้นก็เดินข้ามไปอีกฝั่งนึงค่ะ เจอคนไทยกลุ่มเดิมกับที่เจอในผับ เราไม่ได้ถ่ายรูปหอพระแก้วมาค่ะ
หลังจากนั้นเราก็ตรงไปประตูชัย ระหว่างทางก็แวะทานเฝอ อร่อยอีกแล้ว ไปลาวมีแต่ของอร่อยทาน น้ำหนักขึ้นเป็นว่าเล่น กว่าจะเดินมาถึงประตูชัยก็เล่นเอาเหนื่อยเลย ที่เวียงจันทน์ ลมจะเย็นแต่แดดจะร้อนค่ะ ทำให้พอเดินไหว
ตอนไปถึงเด็กนักเรียนออกมาทานข้าวกันพอดี เลยให้น้องแถวๆนั้นถ่ายรูปให้ น้องเขาก็งงๆทำหน้าขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แต่ก็ถ่ายให้ เห็นแล้วก็ตลก เด็กๆน่ารักดี
ด้านหน้าประตูชัย สวยมากๆ กว่าจะเดินขึ้นไปเหนื่อยอีกแล้ว แต่ก็คุ้มค่ะ เพราะวิวสวยมากกก
วิวที่มองจากด้านบน หลังจากเราพักเหนื่อยด้านบนเรียบร้อยก็เดินลงมาเพื่อไปซื้อตั๋วรถที่ บขส. กับเข้าหนองคายคะ
มาถึงหนองคายก็ไปเดินเล่นรอเวลาที่โลตัส (คงไม่ต้องมีรูปมั้งคะ 555) ถึงเวลารถออกตอน 20.20 น.
วันที่ 5
ถึงกรุงเทพตอน 6 โมงเช้า มาฟังสัมมนาต่อ กว่าจะถึงบ้านก็ตอน 2 ทุ่ม เหนื่อยหมดแรงเลยค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรีวิวที่เขียนไม่ค่อยจะรู้เรื่องครั้งนี้นะคะ ขอบคุณค่า
[CR] เชียงคาน-เวียงจันทน์ 5 วันยังไม่พอ
แต่.. เจอกระทู้ของพี่นิรายนะที่เขารีวิว 15 เมนู ณ เชียงคาน http://pantip.com/topic/31213043
ความคิดเริ่มเปลี่ยนค่ะ อยากไปเชียงคานด้วย เลยหาข้อมูลใหม่ มีวิธีไปได้ทั้งสองที่ค่ะ เลยจัดทริปนี้ขึ้นมา
ในทริปไปกันแค่ 4 คนค่ะ ไปแบบไม่มีใครรู้ข้อมูลเลย ไปตายเอาดาบหน้าอย่างเดียว
เพราะเราลงความเห็นกันแล้วว่า รู้ว่ามีวิธีไป รู้สถานที่เที่ยวที่กิน แค่นี้พอ ที่เหลือไปถามเอาค่ะ
นี่เป็นรีวิวครั้งแรกตั้งแต่เป็นสมาชิกมา ข้อมูลอาจจะไม่ครบถ้วน
มีหลงๆลืมๆบ้าง พิมพ์ไม่รู้เรื่องบ้าง พูดไม่เป็นภาษาบ้าง ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ
เราเริ่มจากจองที่พักและตั๋วรถก่อนค่ะ กลัวจะเต็มเพราะใกล้ปีใหม่ เราเลือกไปวันที่ 21-25 ธันวาคม (รวมเดินทาง)
รถออกตอน 21:30 น. เราไปถึงหมอชิตนั่งรอเวลารถออก แต่พอจะขึ้นรถดันหารถไม่เจอค่ะ
ถึงรถก็ตอน 21:34 นาที โดนพี่คนขับรถบ่นค่ะ พี่ท่านไหนที่อยู่บนรถคันเดียวกัน ขอโทษด้วยนะคะ
หนูหารถไม่เจอจริงๆ
หลังจากนั้นก็รอเวลาค่ะ กว่าจะถึงเชียงคานคงประมาณ หกโมงเช้า หลับๆตื่นๆ ตลอดทาง
กว่าจะถึงเชียงคานก็ 8 โมงค่ะ อากาศหนาวมาก เข้าที่พักยังไม่ได้ พอดีกับพี่สามล้อมาถามว่าจะไปไหนๆ
เราเลยถามว่าตอนนี้ไปทะเลหมอกทันไหม (จริงๆคิดว่าไม่ทันแล้ว) แต่พี่เขาบอกว่าทันแล้วจะพาไปแก่งคุดคู้ด้วย
โดนไปคนละ 100 บาทค่ะ แต่ระยะทางก็ไกลพอสมควร
ที่ภูทอกตอน 8 โมงเช้ายังมีหมอกอยู่นะคะ แต่ไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น อากาศตอนนั้นแค่ 7 องศาเองคะ
ถ่ายรูปเสร็จเราก็ไปแก่งคุดคู้ต่อคะ
เวลาเหลือเราเลยให้พี่เขาพาไปวัดพระพุทธบาทภูควายเงิน พี่เขาคิดเพิ่มอีกคนละ 50 บาท เลยไปกับพี่เขาค่ะ
กระต่ายยังคงเยอะเหมือนเดิมค่ะ
เที่ยวเสร็จก็เกือบเที่ยงแล้ว เราเลยให้พี่เขาพาไปที่พักค่ะ เราพักกันที่เชียงคานริเวอร์วิวค่ะ ไม่ได้ถ่ายด้านหน้ามาแต่มีด้านหลังให้ชม
ติดกับแม่น้ำโขงเลยค่ะ บรรยากาศดีมาก ลมเย็นตลอดทั้งวัน หลังจากเช็คอินเราก็ปั่นจักรยานหาอะไรทานกัน
มาการองร้านนี้อร่อยสมคำเล่าลือจริงๆค่ะ สนนราคาที่ 350 บาท
หลังจากนั้นก็กลับมาที่พักนั่งเล่นริมโขงรอเดินถนนคนเดินแต่ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมาเลยค่ะ ห่วงกินมากกว่า 55555
เราตื่นกันมาแต่เช้าเพื่อใส่บาตรข้าวเหนียวและเตรียมตัวเดินทางไปเวียงจันทน์ต่อ
หลังจากใส่บาตรเสร็จ ป้าที่พักก็บอกให้เราไปขึ้นรถรอบ 8 โมงเช้า เพราะว่าจะได้ไม่ถึงช้าเกินไป
ตอนแรกเราจะไปรอบ 9 โมงค่ะ แต่เราเชื่อป้าเปลี่ยนไปตอน 8 โมงแทน
บรรยากาศที่บขส.เชียงคานคะ หลังจากเรานั่งรถมาถึงเมืองเลย เราก็รีบไปต่อรถจากเมืองเลยไปอุดรทันที ซึ่งเราโชคดีค่ะที่เชื่อป้า
เพราะว่าพอถึงเมืองเลยเราก็ได้ไปรอบ 9 โมงทันพอดีเลย ไม่งั้นต้องรออีก 1 ชั่วโมง
ใช้เวลาเท่าไหร่จำไม่ได้แต่ว่านานพอสมควรค่ะ พอเราไปถึงอุดรก็รีบไปซื้อตั๋วเพื่อไปหนองคายค่ะ
แต่มาช้าไป รถออกแล้วต้องรอรอบบ่ายโมง ทำให้เสียเวลาตรงนี้ไปค่ะ จากอุดรเราไปหนองคายด้วยรถตู้นะคะ
เมื่อมาถึงหนองคายก็พาเพื่อนไปทำบัตรผ่านแดนที่บขส.แหละคะ คนละ 120 บาท
ระหว่างรอเราก็ไปซื้อตั๋วคะ คนละ 55 บาท
รอบรถจากหนองคายไปเวียงจันทน์ค่ะ เราไปรอบ 14:30 น. รอบที่เราไปได้ขึ้นเป็นรถของที่ลาวค่ะ
ตอนขึ้นไปก็มีคนลาวนั่งที่เราแล้ว เลยหันถามเอื้อยข้างๆว่าแบบนี้ต้องทำยังไง พี่เขาบอกว่านั่งตรงไหนก็ได้ ไม่เป็นไร
รอบนั้นที่ไปทั้งรถมีเรา 4 คนค่ะที่เป็นคนไทย คนทั้งรถคุยกันเสียงดังเหมือนรู้จักกันหมด ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยคะระหว่างทาง
พอถึงด่านเราทำอะไรไม่ถูก ก็ได้พี่ที่เราถามเมื่อกี้เป็นคนพาทำเรื่องค่ะ พี่เขาบอกเขามาทุกปีคะ แนะนำเราทุกอย่างเลย ใจดีมาก
กว่าจะถึงที่พักก็เกือบๆ 5 โมงแล้ว อากาศที่เวียงจันทน์ตอนเช้าไม่หนาวเท่าไหร่คะ ลมเย็นสบายๆ
ไปเดินเล่นริมโขงกันต่อคะ
เราเดินไปตลาดมืด แล้วเดินไปหาข้าวทานค่ะ เจอร้านอาหารญี่ปุ่นร้านนึงน่าทานมาก เลยตัดสินใจเลือกร้านนี้ค่ะ
ที่ขาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวลาวค่ะ
ทานเสร็จเราก็เดินย่อยไปเรื่อยๆ เดินแบบไม่มีจุดหมาย
ลืมบอกไปว่าเราพักแถวน้ำพุค่ะ ชื่อ พรประเสริฐเกสเฮ้าส์ อ้ายที่เฝ้าโรงแรมตอนเย็นน่ารักคะ คุยกับเราและเพื่อนตลอด
แล้วก็มีอ้ายอีกคนชื่ออ้ายสวน คนนี้ไม่ทราบว่าเป็นอะไรกับอ้ายคนเมื่อกี้รึป่าวนะคะ เห็นมานั่งที่ล็อบบี้ตลอด สงสัยมาอยู่เป็นเพื่อนกัน
อ้ายสวนเพิ่งอยู่ปี 1 ค่ะ อายุไล่เลี่ยกันเลยคุยกันรู้เรื่องหน่อย อิอิ
ด้วยความที่เราอยากรู้ว่าผับที่ลาวเป็นยังไง เราเลยให้อ้ายสวนพาเราไปผับค่ะ จะคล้ายๆที่ไทยค่ะ คนที่ลาวร้องเพลงไทย
อ้ายสวนบอกว่า เวลาคนลาวมาเที่ยวผับ ผู้หญิงเขาก็จะนุ่งซิ่นกัน ส่วนผู้ชายจะใส่เสื้อเชิ้ตเอาเสื้อใส่ในกางเกงด้วยค่ะ ดูเรียบร้อยมาก
อ้ายสวนคนขวาสุดค่ะ เราเจอคนไทยที่ผับด้วย ก็ทักทายกัน หลังจากนั้นก็กลับที่พักกัน
ตื่นมาเช็คเอ้าตอน 9 โมง อ้ายสวนก็ออกไปเรียนแล้ว เราเลยเดินไปวัดศรีสะเกษกัน
ไม่ได้ฝากกระเป๋านะคะ เพราะไม่อยากเดินย้อนไปย้อนมา
หลังจากนั้นก็เดินข้ามไปอีกฝั่งนึงค่ะ เจอคนไทยกลุ่มเดิมกับที่เจอในผับ เราไม่ได้ถ่ายรูปหอพระแก้วมาค่ะ
หลังจากนั้นเราก็ตรงไปประตูชัย ระหว่างทางก็แวะทานเฝอ อร่อยอีกแล้ว ไปลาวมีแต่ของอร่อยทาน น้ำหนักขึ้นเป็นว่าเล่น กว่าจะเดินมาถึงประตูชัยก็เล่นเอาเหนื่อยเลย ที่เวียงจันทน์ ลมจะเย็นแต่แดดจะร้อนค่ะ ทำให้พอเดินไหว
ตอนไปถึงเด็กนักเรียนออกมาทานข้าวกันพอดี เลยให้น้องแถวๆนั้นถ่ายรูปให้ น้องเขาก็งงๆทำหน้าขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แต่ก็ถ่ายให้ เห็นแล้วก็ตลก เด็กๆน่ารักดี
ด้านหน้าประตูชัย สวยมากๆ กว่าจะเดินขึ้นไปเหนื่อยอีกแล้ว แต่ก็คุ้มค่ะ เพราะวิวสวยมากกก
วิวที่มองจากด้านบน หลังจากเราพักเหนื่อยด้านบนเรียบร้อยก็เดินลงมาเพื่อไปซื้อตั๋วรถที่ บขส. กับเข้าหนองคายคะ
มาถึงหนองคายก็ไปเดินเล่นรอเวลาที่โลตัส (คงไม่ต้องมีรูปมั้งคะ 555) ถึงเวลารถออกตอน 20.20 น.
ถึงกรุงเทพตอน 6 โมงเช้า มาฟังสัมมนาต่อ กว่าจะถึงบ้านก็ตอน 2 ทุ่ม เหนื่อยหมดแรงเลยค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรีวิวที่เขียนไม่ค่อยจะรู้เรื่องครั้งนี้นะคะ ขอบคุณค่า