เห็นในนี้ส่วนใหญ่มีแต่คนตั้งกระทู้รีวิวแนวว่าผิดหวังกับเรื่อง 47 Ronin เลยขอมารีวิวในมุมมองของคนที่ไปดูมาแล้วชอบค่ะ
อาจจะดูเหมือนอวยนิดนึงแต่เป็นความรู้สึกของเราหลังจากที่ไปดูมาแล้วสองรอบ ทั้งแบบ 3D และ 2D
ใครยังไม่ได้ไปดูก็ลองอ่านเป็นข้อมูลดูได้นะคะ
ออกตัวก่อนเลยว่า 47 Ronin เป็นหนังที่เราตั้งหน้าตั้งตารอดูมากๆ เพราะเราเป็นแฟนคลับชิบาซากิ โคที่เป็นนางเอก 555
ด้วยเหตุนี้เราเลยไม่ได้คาดหวังกับแอคชั่น แฟนตาซีอะไรขนาดนั้น
ขอแบ่งแสดงความเห็นเป็นหัวข้อๆ นะคะ
1. ฉากแอคชั่นต่อสู้
อย่างที่หลายคนรีวิวมาแล้วคือ อย่าไปเชื่อตัวอย่างหนังค่ะ เรื่องนี้ไม่ได้เน้นที่ตรงนี้มากขนาดนั้น
สำหรับเรา เราว่าฉากต่อสู้ทำออกมาได้ภาพสวยงาม แต่ไม่ได้สู้กันแบบเมามันหรือมีทริค เทคนิคในการปราบศัตรูที่เจ๋งๆ ยอมรับว่าบางตัวแอบตายง่ายไปหน่อยด้วยซ้ำ
แต่ตอนที่บุกกันช่วงท้าย เราว่าก็ทำออกมาได้สนุกดีเลยนะคะ ดูแล้วก็ลุ้นตามดี
สรุป หัวข้อนี้เราให้ 2/5 คือภาพสวยแต่ไม่ใช่ว่าต่อสู้มันส์สะใจ
2. ฉาก / เสื้อผ้า / ดนตรีประกอบ
องค์ประกอบพวกนี้ เราว่าสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของคนทำดีมากเลยค่ะ โดยรวมฉากสวย ถ้าไม่ใช่ดูแบบจับผิดก็ไม่รู้สึกว่าภาพไม่เนียนอะไรนะคะ(เหมือนเห็นบางคนวิจารณ์ตรงนี้) เสื้อผ้าสีสวยค่ะ ดนตรีประกอบเราว่าทำดีมากๆ เลย ชอบ
แต่ถ้าจะให้ติ ก็คือฉากกับเสื้อผ้าเนี่ย มันดูไม่เป็นญี่ปุ่นเท่าที่ควร เหมือนจับจีน เกาหลี ญี่ปุ่นมายำรวมกัน บวกกับStar Warsนิดๆ 5555
อืมม อันนี้ก็แล้วแต่ค่ะว่าคุณจะดูแบบยึดติดความเป็นญี่ปุ่นมากแค่ไหน ถ้าอยากได้แบบเป๊ะๆ ก็คงผิดหวัง แต่ถ้าดูแบบไม่คิดมาก คิดซะว่ามันเป็นหนังแฟนตาซีที่เอาตำนานของญี่ปุ่นมาเป็นแรงบันดาลใจเฉยๆ เราว่าก็รับได้นะคะ
สรุป หัวข้อนี้เราให้ 4/5 คือดีไซน์ทุกอย่างได้ดีแค่ไม่ได้เป๊ะกับความเป็นญี่ปุ่น
3. นักแสดง
เราว่านักแสดงทุกคนทำได้ดีหมดเลยค่ะ จะมีก็คีนูรีฟที่แบบ อาจจะเหมือนทื่อๆ แต่เฮียแกก็งี้อยู่แล้วป่ะ 555 ยังไงก็หล่อสมบทค่ะ
ส่วนนักแสดงญี่ปุ่น ประทับใจโออิชิกับแม่มดมากกกก เล่นได้ดีมากจริงๆ สมกับที่เป็นคนญี่ปุ่นที่เคยร่วมงานกับฮอลีวูดมาแล้ว ทั้งสองคนออร่าแรงมากค่ะ ชอบรินโกะสุดๆ เลย
ด้านโคจังกับจินที่เพิ่งเคยร่วมงานกับฮอลิวูดครั้งแรก เราว่าทั้งสองคนทำได้ดีทีเดียวค่ะ แต่ด้วยความที่บทไม่ได้เยอะแล้วก็ไม่ได้ซับซ้อนมีอะไรให้แสดงได้มากเท่ากับสองคนข้างบน คนที่ไม่ใช่แฟนคลับก็คงแค่ดูผ่านๆ ไม่ถึงกับประทับใจมากมั้ง
แต่อย่างเราที่เป็นแฟนคลับโคจัง แบบว่า กรี๊ดทุกครั้งที่ออกค่ะ สวยมาก >____< พูดภาษาอังกฤษเพราะเกินคาดด้วย 555
ส่วนจิน โผล่มาเยอะนะ แต่ไม่ค่อยมีบทพูดอ่ะค่ะ ส่วนใหญ่พูดแค่ father เองอ่ะ แต่เข้าไปดูความหล่อก็คุ้มค่ะ
สรุป หัวข้อนี้ จะว่าอวยก็อวยเถอะแต่เราให้ 5/5 ค่ะ
4. เนื้อเรื่อง
อันนี้บอกเลยว่า ใครที่เป็นเซียนประวัติศาสตร์หรือเคยดูเรื่องนี้เวอร์ชั่นอื่นๆ ที่ญี่ปุ่นเคยทำ คุณจะไม่ได้เห็นอะไรแบบเดียวกันนั้นแน่นอนค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าเรื่องนี้แค่"ได้รับแรงบันดาลใจ"มาเฉยๆ คือ เอาแค่แก่นของเรื่องมาเติมความเป็นแฟนตาซีเข้าไป แถมยังมองแบบมุมมองฝรั่ง เพิ่มบทของพระเอกนางเอกที่ไม่มีในประวัติศาสตร์จริงเข้าไปอีก ยังไงเนื้อเรื่องก็ต้องเปลี่ยนไปจากเดิมมากอยู่แล้วค่ะ
ในแง่ของความเป็นหนังแอคชั่น พูดตามตรงว่าเรื่องนี้ดำเนินเรื่องค่อนข้างเรียบ ไม่มีอะไรหักมุม ค่อยเป็นค่อยไป เดาทิศทางได้ เพราะงั้นบางคนอาจจะเบื่อค่ะ
แต่สำหรับใครที่คุ้นเคยกับหนังญี่ปุ่น เราว่าคุณน่าจะชินกับสไตล์แบบนี้นะ เพราะส่วนใหญ่หนังญี่ปุ่นก็จะไม่หวือหวา ออกแนวซึมลึก มีอะไรให้คิดให้สัมผัสมากกว่าจะทำออกมาให้ตื่นตาตื่นใจ
เราคิดว่าผู้กำกับ Carl Rinsch เป็นฝรั่งที่เข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นได้ดีเลยนะคะ เหมือนเขาสามารถจับความแฟนตาซี ฉากอลัง ทุนเยอะ มาผสมเข้าก็ความสงบลึกซึ้งแบบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
ถ้าคุณดูแล้วคิดตามอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัว คุณจะซึ้งมากๆ ค่ะ เราดูแล้วแบบ ร้องไห้เยอะมากโดยเฉพาะตอนจบ
ข้อคิดที่เราได้จากเรื่องนี้คือ คนเรา ถ้าเรามั่นใจว่าสิ่งที่เราเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ว่าปลายทางจะไปจบลงที่ตรงไหนก็จงเดินไปตามวิถีของความเชื่อนั้นให้ถึงที่สุดอย่างเต็มภาคภูมิ ...ข้างล่างขอปิดสปอยล์นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ข้อคิดนี้ ถ้าเอามาใช้กับพวกโรนิน ทำตามวิถีซามูไร เราว่าทุกคนคงคิดได้ เห็นได้ชัดจากตัวหนังอยู่แล้ว
แต่สำหรับเรา ด้วยความที่เป็นแฟนคลับนางเอก เราว่าข้อคิดนี้เอามาใช้กับเจ้าหญิงมิกะได้ด้วย เพราะบทมิกะ ดูเผินๆ อาจจะเป็นแค่เจ้าหญิงที่ได้รับการปกป้องตลอดทั้งเรื่อง แต่ถ้าคิดดูจริงๆ มิกะเป็นบทที่เข้มแข็งมากนะคะ ทั้งๆ ที่ตอนพ่อตายคนใช้ก็เอายาพิษมาให้กินจะได้ไม่ต้องตกเป็นตัวประกัน ตอนหลัง แม่มดก็หลอกว่าไคตายแล้วเอามีดมาให้ฆ่าตัวตายอีก แต่มิกะก็เชื่อมั่นในไคว่าจะต้องมาช่วยแน่ๆ และยังไม่ยอมละทิ้งหน้าที่ของตัวเองในฐานะเจ้าหญิงที่ต้องดูแลบ้านเมือง ถึงจะเจ็บปวดแต่ก็เลือกที่จะอยู่ต่อไปจนกอบกู้บ้านเมืองกลับมาได้ แถมตอนจบไคตาย ถึงจะเจ็บและอยากตายตามแค่ไหนแต่ก็ต้องอยู่ต่อไปเพื่อปกป้องเมืองตัวเอง ไม่งั้นตำแหน่งผู้นำจะว่างไปแล้วคนอื่นอาจจะเข้ามาชิงไปได้ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน เราว่าการเลือกที่จะอยู่ทั้งๆ ที่ความตายเป็นอะไรที่เจ็บปวดน้อยกว่านี่มันแบบ T____T สมเป็นญี่ปุ่นดีมากๆ
สรุป หัวข้อนี้เราให้ 4/5 ค่ะ
ภาพรวม ได้ 3.75/5 ค่ะ
แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนที่อยากดูแอคชั่น น่าจะได้ 4.5/5 เลยแหละ
รวมถึง ถ้ามีดาราที่ชอบอยู่ในนั้น เราว่าไปดูหน้าก็เกินคุ้มแล้วค่ะ
ขอจบการรีวิวแค่นี้แล้วกัน เดี๋ยวจะยาวไป แค่นี้ก็ยาวจนหลายคนอาจจะขี้เกียจอ่าน 55555
ยังไงก็หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่กำลังลังเลว่าจะไปดูมั้ยนะคะ ถ้าคุณอ่านแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ ก็อย่าไปดูเลยค่ะเพราะเดี๋ยวจะผิดหวัง
แต่ถ้าใครสนใจก็เข้าไปลองก่อนนะคะ ถึงจะไม่ใช่หนังที่"ต้องไปดู" แต่เราเชื่อว่ามันจะคุ้มค่าเงินและเวลาของคุณค่ะ
อ้อ แต่ถ้าใครหวัง 3D แบบพุ่งๆ เราแนะนำว่าไปดู 2D พอค่ะเพราะมันไม่ได้พุ่งขนาดนั้น เน้นความลึกมากกว่า
ส่วนตัว หลังปีใหม่เรายังกะว่าจะไปดูแบบ 4DX อีกซักรอบเลยเนี่ย
[CR] รีวิวหนังเรื่อง 47 Ronin จากคนที่ไปดูมาแล้วชอบ (ยาว + ไม่สปอยล์)
อาจจะดูเหมือนอวยนิดนึงแต่เป็นความรู้สึกของเราหลังจากที่ไปดูมาแล้วสองรอบ ทั้งแบบ 3D และ 2D
ใครยังไม่ได้ไปดูก็ลองอ่านเป็นข้อมูลดูได้นะคะ
ออกตัวก่อนเลยว่า 47 Ronin เป็นหนังที่เราตั้งหน้าตั้งตารอดูมากๆ เพราะเราเป็นแฟนคลับชิบาซากิ โคที่เป็นนางเอก 555
ด้วยเหตุนี้เราเลยไม่ได้คาดหวังกับแอคชั่น แฟนตาซีอะไรขนาดนั้น
ขอแบ่งแสดงความเห็นเป็นหัวข้อๆ นะคะ
1. ฉากแอคชั่นต่อสู้
อย่างที่หลายคนรีวิวมาแล้วคือ อย่าไปเชื่อตัวอย่างหนังค่ะ เรื่องนี้ไม่ได้เน้นที่ตรงนี้มากขนาดนั้น
สำหรับเรา เราว่าฉากต่อสู้ทำออกมาได้ภาพสวยงาม แต่ไม่ได้สู้กันแบบเมามันหรือมีทริค เทคนิคในการปราบศัตรูที่เจ๋งๆ ยอมรับว่าบางตัวแอบตายง่ายไปหน่อยด้วยซ้ำ
แต่ตอนที่บุกกันช่วงท้าย เราว่าก็ทำออกมาได้สนุกดีเลยนะคะ ดูแล้วก็ลุ้นตามดี
สรุป หัวข้อนี้เราให้ 2/5 คือภาพสวยแต่ไม่ใช่ว่าต่อสู้มันส์สะใจ
2. ฉาก / เสื้อผ้า / ดนตรีประกอบ
องค์ประกอบพวกนี้ เราว่าสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของคนทำดีมากเลยค่ะ โดยรวมฉากสวย ถ้าไม่ใช่ดูแบบจับผิดก็ไม่รู้สึกว่าภาพไม่เนียนอะไรนะคะ(เหมือนเห็นบางคนวิจารณ์ตรงนี้) เสื้อผ้าสีสวยค่ะ ดนตรีประกอบเราว่าทำดีมากๆ เลย ชอบ
แต่ถ้าจะให้ติ ก็คือฉากกับเสื้อผ้าเนี่ย มันดูไม่เป็นญี่ปุ่นเท่าที่ควร เหมือนจับจีน เกาหลี ญี่ปุ่นมายำรวมกัน บวกกับStar Warsนิดๆ 5555
อืมม อันนี้ก็แล้วแต่ค่ะว่าคุณจะดูแบบยึดติดความเป็นญี่ปุ่นมากแค่ไหน ถ้าอยากได้แบบเป๊ะๆ ก็คงผิดหวัง แต่ถ้าดูแบบไม่คิดมาก คิดซะว่ามันเป็นหนังแฟนตาซีที่เอาตำนานของญี่ปุ่นมาเป็นแรงบันดาลใจเฉยๆ เราว่าก็รับได้นะคะ
สรุป หัวข้อนี้เราให้ 4/5 คือดีไซน์ทุกอย่างได้ดีแค่ไม่ได้เป๊ะกับความเป็นญี่ปุ่น
3. นักแสดง
เราว่านักแสดงทุกคนทำได้ดีหมดเลยค่ะ จะมีก็คีนูรีฟที่แบบ อาจจะเหมือนทื่อๆ แต่เฮียแกก็งี้อยู่แล้วป่ะ 555 ยังไงก็หล่อสมบทค่ะ
ส่วนนักแสดงญี่ปุ่น ประทับใจโออิชิกับแม่มดมากกกก เล่นได้ดีมากจริงๆ สมกับที่เป็นคนญี่ปุ่นที่เคยร่วมงานกับฮอลีวูดมาแล้ว ทั้งสองคนออร่าแรงมากค่ะ ชอบรินโกะสุดๆ เลย
ด้านโคจังกับจินที่เพิ่งเคยร่วมงานกับฮอลิวูดครั้งแรก เราว่าทั้งสองคนทำได้ดีทีเดียวค่ะ แต่ด้วยความที่บทไม่ได้เยอะแล้วก็ไม่ได้ซับซ้อนมีอะไรให้แสดงได้มากเท่ากับสองคนข้างบน คนที่ไม่ใช่แฟนคลับก็คงแค่ดูผ่านๆ ไม่ถึงกับประทับใจมากมั้ง
แต่อย่างเราที่เป็นแฟนคลับโคจัง แบบว่า กรี๊ดทุกครั้งที่ออกค่ะ สวยมาก >____< พูดภาษาอังกฤษเพราะเกินคาดด้วย 555
ส่วนจิน โผล่มาเยอะนะ แต่ไม่ค่อยมีบทพูดอ่ะค่ะ ส่วนใหญ่พูดแค่ father เองอ่ะ แต่เข้าไปดูความหล่อก็คุ้มค่ะ
สรุป หัวข้อนี้ จะว่าอวยก็อวยเถอะแต่เราให้ 5/5 ค่ะ
4. เนื้อเรื่อง
อันนี้บอกเลยว่า ใครที่เป็นเซียนประวัติศาสตร์หรือเคยดูเรื่องนี้เวอร์ชั่นอื่นๆ ที่ญี่ปุ่นเคยทำ คุณจะไม่ได้เห็นอะไรแบบเดียวกันนั้นแน่นอนค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าเรื่องนี้แค่"ได้รับแรงบันดาลใจ"มาเฉยๆ คือ เอาแค่แก่นของเรื่องมาเติมความเป็นแฟนตาซีเข้าไป แถมยังมองแบบมุมมองฝรั่ง เพิ่มบทของพระเอกนางเอกที่ไม่มีในประวัติศาสตร์จริงเข้าไปอีก ยังไงเนื้อเรื่องก็ต้องเปลี่ยนไปจากเดิมมากอยู่แล้วค่ะ
ในแง่ของความเป็นหนังแอคชั่น พูดตามตรงว่าเรื่องนี้ดำเนินเรื่องค่อนข้างเรียบ ไม่มีอะไรหักมุม ค่อยเป็นค่อยไป เดาทิศทางได้ เพราะงั้นบางคนอาจจะเบื่อค่ะ
แต่สำหรับใครที่คุ้นเคยกับหนังญี่ปุ่น เราว่าคุณน่าจะชินกับสไตล์แบบนี้นะ เพราะส่วนใหญ่หนังญี่ปุ่นก็จะไม่หวือหวา ออกแนวซึมลึก มีอะไรให้คิดให้สัมผัสมากกว่าจะทำออกมาให้ตื่นตาตื่นใจ
เราคิดว่าผู้กำกับ Carl Rinsch เป็นฝรั่งที่เข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นได้ดีเลยนะคะ เหมือนเขาสามารถจับความแฟนตาซี ฉากอลัง ทุนเยอะ มาผสมเข้าก็ความสงบลึกซึ้งแบบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
ถ้าคุณดูแล้วคิดตามอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัว คุณจะซึ้งมากๆ ค่ะ เราดูแล้วแบบ ร้องไห้เยอะมากโดยเฉพาะตอนจบ
ข้อคิดที่เราได้จากเรื่องนี้คือ คนเรา ถ้าเรามั่นใจว่าสิ่งที่เราเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ว่าปลายทางจะไปจบลงที่ตรงไหนก็จงเดินไปตามวิถีของความเชื่อนั้นให้ถึงที่สุดอย่างเต็มภาคภูมิ ...ข้างล่างขอปิดสปอยล์นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุป หัวข้อนี้เราให้ 4/5 ค่ะ
ภาพรวม ได้ 3.75/5 ค่ะ
แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนที่อยากดูแอคชั่น น่าจะได้ 4.5/5 เลยแหละ
รวมถึง ถ้ามีดาราที่ชอบอยู่ในนั้น เราว่าไปดูหน้าก็เกินคุ้มแล้วค่ะ
ขอจบการรีวิวแค่นี้แล้วกัน เดี๋ยวจะยาวไป แค่นี้ก็ยาวจนหลายคนอาจจะขี้เกียจอ่าน 55555
ยังไงก็หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่กำลังลังเลว่าจะไปดูมั้ยนะคะ ถ้าคุณอ่านแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ ก็อย่าไปดูเลยค่ะเพราะเดี๋ยวจะผิดหวัง
แต่ถ้าใครสนใจก็เข้าไปลองก่อนนะคะ ถึงจะไม่ใช่หนังที่"ต้องไปดู" แต่เราเชื่อว่ามันจะคุ้มค่าเงินและเวลาของคุณค่ะ
อ้อ แต่ถ้าใครหวัง 3D แบบพุ่งๆ เราแนะนำว่าไปดู 2D พอค่ะเพราะมันไม่ได้พุ่งขนาดนั้น เน้นความลึกมากกว่า
ส่วนตัว หลังปีใหม่เรายังกะว่าจะไปดูแบบ 4DX อีกซักรอบเลยเนี่ย