ตีสิบเมื่อคืน ทำให้ความรู้สึกเราเปลี่ยน..

ก่อนอื่นขอย้อนไปเมื่อไปเมื่อสองเดือนแล้ว เราได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่งผ่านโปรแกรมแชทอันหนึ่งผู้ชายคนนี้
ได้มาทักทายคุยกับเราทุกวัน

บอกก่อนว่าผู้ชายคนนี้ดูจากหน้าตาภาย นอกเค้าเป็นคนน่าตาใช้ได้ สูงขาว ทำงานที่สนามบิน เป็นพนักงานตรวจจับคนเข้าออกประเทศ

ช่วงแรกที่คุยกับเค้า บอกตรงๆเราก็แอบชอบเค้าเพราะเวลาคุยเค้าเป็นคนคุยสุภาพ พูดจาน่าฟัง ช่วงแรกๆที่คุยกัน
เรานี้และที่อยากคุยกับเค้าตลอด

แต่เวลาจะคุยมันไม่ตรงกัน เค้าทำงาน10โมงเลิก4ทุ่ม จะไม่สะดวกโทรคุย นานๆจะได้คุยไลน์ เค้าบอกว่าทำงานไม่สะดวกรับ

เราจะได้คุยกับเค้าอีกที4ทุ่ม ก้อตั้งหน้าตั้งตารอ พอ4ทุ่มคุยกัน เวลาคุยก็ไม่ถอยรถเข้าบ้าน จอดหน้าบ้าน คุยกับเราในรถ ทำให้เรายิ่งสงสัย   

คุยแปบหนึง เค้าก็ขอตัวไปอาบน้ำ กว่าจะคุยอีกทีเที่ยงคืน เราก็แอบเซ็ง ก็บอกกับเค้าว่าเราไม่เชื่อว่าเค้าอยู่คนเดียว

รอแฟนหลับหรอคะถึงโทรมา เค้าก็อธิบายว่าไม่มีใคร ตั้งแต่วันนั้นที่เราโว๊ย ความรู้สึกเราก็เปลื่ยนไป ไม่ได้อยากคุยเหมือนแต่ก่อน

ไม่รอเค้า แต่ตัวเค้านั้นและอยากคุยอยากพูดกับเราแต่ละวันโทรหาเรามากขึ้น ทักไลน์ ตลอด เวลาที่คุยกัน เราก็เฉยๆ บางที่ก็เหวี่ยงใส่ บ่นกับ

เค้าเรื่องงาน เรื่องเพื่อน เค้าจะช่วยปลอบเราว่าเพื่อนไม่ใช่ทุกสิ่งของเราไม่มีใครรักเราเท่าเรารักตัวเอง ให้เราอดทน เราก็ฟังไปงั้นๆ

ทุกๆวันเราก็ถามเค้ากินข้าวหรือยัง เค้าก็บอกว่า เดี๋ยวกลับไปกินมาม่าที่บ้าน และเค้าก็ถ่ายรูปมาม่าต้มมาให้กิน เราถามว่าไม่กินอย่างอื่นบ้าง เค้าบอกกินแค่นี้ก็โอเคร เราก็อืม

และเรื่องก็เกิดขึ้นเมื่อคืน เราก็คุยโทรศัพท์กับเค้าและดูตีสิบไปด้วย ตีสิบจัดงานปีใหม่ เค้าเอาเด็กที่พิการ บ้านเด็กเมตตา

เราก็พูดกับเค้าว่า เด็กพวกนี้น่าสงสาร เราอยากไปทำบุญให้เด็กบ้าง เค้าก็ถามเราว่าเราเห็นคนพิการ และรู้สึกยังไง

เราบอกว่าน่าสงสาร เห็นใจนะพอสักพัก เหมือนเค้าเปลื่อนเรื่อง เค้าถามเราปีใหม่ไปไหน ไปเที๋ยวกับเพื่อนหรือเปล่า เราก็เพิ่งมีปัญหากับเพื่อน

ก็เลยโว๊ยใส่เค้าแบบไม่มีสาเหตุ เราร้องไห้ บ่นว่าเราไม่เหลือใคร เค้าก็ปลอบเราว่าเรายังมีเค้านะ และก็มีพ่อแม่ เพื่อนก็คือคนอื่น เราก็ไม่สนใจ

สักพัก เค้าบอกว่าให้เราวางหู เดี๊ยวจะส่งรูปอะไรให้ดู

รูปที่เค้าส่งมา เป็นขาคน และอีกรูปเป็นขาเทียม เราเห็นรูปนี้ เอาอึ้งไปพักหนึง เราจำได้ว่าเป็นขากางเกงเค้า เค้าเป็นคนพิการ

เชื่อไหมครั้งแรกที่เห็น น้ำตาเราไหลเลย เราคิดแว๊บแรกทันทีว่าเราไม่รังเกียจเค้าเลย วินาทีนั้นสิ่งต่างๆมันตามมันทันที เรื่องราวของเค้า

เราโทรไปหาเค้า เสียงเค้าเศร้า และไม่คิดว่าจะโทรกลับมา เราถามเค้าว่าเกิดอะไรขึ้น และคิดจะบอกเราเมื่อไร เค้าบอกว่าคิดจะบอกวันที่31

เป็นวันเดียวกับที่เค้าเสียขาไป เค้าบอกว่า เค้าถูกรถชน เมื่อตอนอายุ23 รถกระบะเมาและขับ วันที่31 ธันวา ทำให้ขาเค้าหักทันที

เมื่อก่อนเค้าเป็นนักฟุตบอลสโมสร มีเพื่อนมากมาย มีแฟน แต่พอเค้าเป็นคนพิการเพื่อนๆก็หายหน้าหายตา

แฟนก็บอกเลิก เค้าก็อยู่กับแม่ แต่แม่เค้าไปอยู่กับป้าที่ตปท แม่อายุ75แล้ว ตัวเค้าก็อยู่คนเดียวที่บ้าน

เป็นบ้านของป้า ก็ต้องดูแลบ้านให้เค้าด้วย เวลาที่คุยกับเราที่ต้องจอดรถหน้าบ้าน เพราะขาเป็นแบบนี้ มันลำบากที่ต้องลงไปเปิดประตู กลัวเรา

จะงอล ก็เลยคุยในรถ  เค้าอยู่คนเดียว ทำอะไรมันก็ลำบาก ขอให้เราเข้าใจเค้า เราบอกกับตัวเราเอง ว่าเราจะคบเค้าต่อไป จะดีกับเค้าให้

มากกว่านี้ปัญหาที่เราเจอ มันเทียบไม่ได้เลย กับสิ่งที่พี่เค้าเจอ เราถามว่าผ่านช่วงนั้นมาได้ไง

ช่วงที่สูญเสียขา เค้าบอกอดทน คนที่ดีกับเราที่สุดคือแม่ ครอบครัว ช่วงแรกที่คุย

ที่เค้าไม่ค่อยอยากจะคุย เพราะเค้ากลัวเราจะรับไม่ได้ ก็เลยพยายามที่จะห่าง แต่เรานี้และกลับอยากคุย  ที่เค้ากินมาม่า เค้าก็บอกว่าเค้า

ประหยัด จะเก็บออมเงินไว้ยามเจ็บป่วย เพราะเค้าตัวคนเดียว และเค้าก็รวบรวมเงินเก็บปลื่ยนขาเทียมเพราะใช้มาเป็น10ปีและ เริ่มสึก

เค้าบอกว่า ขอให้เราอย่าสงสารเค้า ขอให้เค้ามีเราไปอย่างนี้ อย่าผลักไสเค้าเลย ตัวเค้าไม่มีใครเลยจริงๆจนมาเจอกับเรา

ปีใหม่นี้เราว่าเราจะชวนเค้ามากินข้าวที่บ้าน จะใส่ใจเค้าให้มากกว่านี้ เรารู้สึกดีกับเค้ามากๆ อยากดูแลเค้าจิงๆ

ขอบคุณพี่  เพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ  ขอบคุณคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่