วันนี้(24ธ.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสงรมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการเมื่อเร็วๆนี้ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายปฎิรูปการศึกษาเรื่องการปฎิรูปการเรียนการสอน การเร่งรัดคุณภาพการอ่านรู้เรื่องสื่อสารได้โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้รายงานผลล่าสุดการสแกนนักเรียนชั้นป.3และป.6 พร้อมเสนอวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.นักเรียนอ่านไม่ได้มีทั้งสิ้น 45,929 คน แบ่งเป็นป.3 จำนวน 33,084 คน คิดเป็น6.43% และป.6 จำนวน 12,845 คน คิดเป็น2.51% ซึ่งการแก้ปัญหาจำเป็นต้องสอนในวิธีการที่หลากหลาย เช่น การจดจำรูปสระใช้บทเพลงหรือบทร้อง นิทาน แบบฝึกทักษะ หนังสือแนวสอนซ่อมเสริมรวมทั้งพิมพ์แบบเรียนเร็วใหม่สำหรับชั้นป.1 จำนวน 6 แสนเล่ม2.นักเรียนกลุ่มที่อ่านได้และเข้าใจเรื่องบ้าง มี365,420คนแบ่งเป็นป.3จำนวน 184,598 คน คิดเป็น 35.89% และป.6จำนวน 180,822คน คิดเป็น 35.40% ซึ่งการพัฒนาต้องพัฒนาวิทยากรแกนนำให้ทุกเขตพื้นที่และจัดแข่งทักษะภาษา เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่3 นักเรียนที่อ่านได้และเข้าใจเรื่องดีควรได้รับการส่งเสริมตามแผนยุทธศาสตร์และมาตรการตามโครงการ PISA
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อไปว่า ตนได้มอบให้สพฐ.ไปคิดต่อในเรื่องการดูแลการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยทั้งระบบไม่เฉพาะแค่ป.3กับป.6เท่านั้นแต่ต้องดูให้กว้างขวางกว่านี้ว่าความรู้ภาษาไทยที่เหมาะสมกับเด็กในระบบการศึกษาควรเป็นอย่างไรแล้วนำมาโยงกับการทดสอบวัดผลความรู้สมรรถนะด้านภาษาไทยที่เป็นมาตรฐานสากล เพราะขณะนี้พบว่าเด็กไม่สามารถอ่านสรุปหรือเขียนเป็นเรียงความได้สะท้อนให้เห็นว่าการไม่เน้นข้อสอบอัตนัยเป็นการไม่ส่งเสริมให้เด็กได้ใช้ภาษาซึ่งเรื่องนี้สพฐ.ต้องร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.)และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.)ในการพัฒนาหลักสูตรและการทดสอบวัดผลภาษาไทยที่ดีว่าควรเป็นอย่างไร
" ปัญหาการอ่านไม่ออกของเด็กส่วนใหญ่พบว่าครูไม่มีเวลาสอนหรือเป็นครูที่สอนไม่ตรงกับวิชาเอกที่จบมา ขาดสื่อการเรียนการสอนและที่สำคัญวิธีการสอนไม่ให้ความสำคัญกับการสะกดคำ ทำให้การสอนไม่ได้ผลซึ่งวิธีการสอนที่ใช้ได้ผลอย่างหลากหลายจำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำวิธีที่ได้ผลดีไปใช้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงจัดกิจกรรมให้เด็กได้ฝึกทักษะด้วย” นายจาตุรนต์ กล่าว
เดลินิวส์
ศธ. เร่งแก้ปัญหานักเรียนอ่านหนังสือไม่ออก
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อไปว่า ตนได้มอบให้สพฐ.ไปคิดต่อในเรื่องการดูแลการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยทั้งระบบไม่เฉพาะแค่ป.3กับป.6เท่านั้นแต่ต้องดูให้กว้างขวางกว่านี้ว่าความรู้ภาษาไทยที่เหมาะสมกับเด็กในระบบการศึกษาควรเป็นอย่างไรแล้วนำมาโยงกับการทดสอบวัดผลความรู้สมรรถนะด้านภาษาไทยที่เป็นมาตรฐานสากล เพราะขณะนี้พบว่าเด็กไม่สามารถอ่านสรุปหรือเขียนเป็นเรียงความได้สะท้อนให้เห็นว่าการไม่เน้นข้อสอบอัตนัยเป็นการไม่ส่งเสริมให้เด็กได้ใช้ภาษาซึ่งเรื่องนี้สพฐ.ต้องร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.)และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.)ในการพัฒนาหลักสูตรและการทดสอบวัดผลภาษาไทยที่ดีว่าควรเป็นอย่างไร
" ปัญหาการอ่านไม่ออกของเด็กส่วนใหญ่พบว่าครูไม่มีเวลาสอนหรือเป็นครูที่สอนไม่ตรงกับวิชาเอกที่จบมา ขาดสื่อการเรียนการสอนและที่สำคัญวิธีการสอนไม่ให้ความสำคัญกับการสะกดคำ ทำให้การสอนไม่ได้ผลซึ่งวิธีการสอนที่ใช้ได้ผลอย่างหลากหลายจำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำวิธีที่ได้ผลดีไปใช้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงจัดกิจกรรมให้เด็กได้ฝึกทักษะด้วย” นายจาตุรนต์ กล่าว
เดลินิวส์