ยังไม่ทันเริ่ม ก็เจอทางตันซะแล้ว

เรื่องของเราบางคนมองว่าปัญหาโลกแตก ระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้ และ แม่ยายกับลูกเขย
อาจจะยาวหน่อยนะค่ะ

ตอนนี้เรากำลังมีเจ้าตัวน้อยอยู่ในท้องได้ 3 เดือนค่ะ เรายังไม่ได้แต่งงานนะคะ แต่มีแปลนปลายปี 57
วันแรกที่รู้ ก็บอกแฟน แฟนก็ทั้งตกใจ ดีใจ แต่เราด้วยความที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน
เลยคิดว่าจะยังไม่บอกผู้ใหญ่ัทั้ง 2 ฝ่าย แต่จะรีบเตรียมจัดงานแต่งให้เร็วที่สุด

แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจ บอกผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย ทางฝ่ายชายก็มีอาการอึ้งๆ แต่ก็ไม่ดีใจอะไรมากมายนัก
แม่ของแฟนเรา ไม่ปลื้มเราตั้งแต่ที่คบแฟนในปีแรกๆ แถมคอยจ้องให้เลิกกันตลอดที่คบ 6 ปี
สาเหตุที่ไม่ชอบเรา เพราะว่า เราอ้วน  ใช่ค่ะ อ้วน กลัวว่าจะดูแลลูกเค้าไม่ได้ คนอ้วนโรคเยอะ

ฝ่ายทางแม่เรา ตอนแรกที่ทราบ ร้องไห้ผิดหวังกับเราตรงที่มีอะไรทำไมไม่บอก
แต่ไม่นาน แม่เราออกอาการเห่อหลาน อยากเห็นหลาน เตรียมตั้งชื่อ ฯลฯ

จากที่เราเล่ามา ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่น แต่ปัญหาต่างๆ เรื่องคืบคลานเข้ามา
เราได้ฤกษ์จัดงานแต่งเดือนมีนาคม 57
เริ่มวางแผนเตรียมงานกันอย่างมีความสุข ไปหาสถานที่ จองสถานที่เรียบร้อย

พอมาลงรายละเอียดเรื่องพิธีการ นั่นแหล่ะค่ะ ปัญหา
คือแฟนเรารับปากทางแม่เราทึกอย่าง ตั้งแต่จะมาต่อเติมห้องในบ้าน
แล้วจะเอาเงินมาฝากให้แม่เราเก็บไว้ใช้ตอนงานแต่งงาน

พอเค้ากลับไปบ้านตอนเย็น วันรุ่งขึ้นเรื่องกลับกลายเป็นอีกอย่าง
สรุปการต่อเติมบ้านเป็นอันพับไว้ก่อน เพราะกลัวเงินจะไม่พอที่จะจัดเลี้ยง

แม่เราก็หยวนๆ เข้าใจ พอคุยเรื่องสินสอด แม่เราเรียกสินสอด
เป็นทอง 4 บาท (ให้ไว้กับเจ้าสาว) และเงิน 2 แสน (ใช้ในพิธีเท่านั้น เสร็จแล้วคืนให้เจ้าบ่าวไป)

แววของปัญหาเริ่มกระโดดมาทันที
เราเข้าไปคุยกับแม่แฟน สรุปที่ฟังมาจับใจความได้ว่า
ค่าจัดเลี้ยงทางนี้ยอมรับได้  แต่ค่าสินสอดให้ทางเราหามาหละกัน ช่วยๆกัน
ถ้าทองไม่มีก็ยืมญาติๆมา หรือไม่ก็ใช้ทองปลอมมาวางเป็นพิธีพอ
ส่วนเงินสินสอด ให้เรายืมญาติเราเอามาวาง
เฮ้ย....สรุปเราหาทองหาเงินมาสู่ขอตัวเอง มีอย่างนี้ด้วยหร๋อ.....

เรากลับไปคุยกับแม่ แม่เราโมโหใหญ่เลย ว่ามีที่ไหน สินสอดเ้จ้าสาวหามาหมั้นตัวเอง
แม่ก็เลยคิดหาวิธีแก้ปัญหาจะได้พอผ่อนคลายสถานการณ์
โดยให้วันสู่ขอ (เดือนมกราคม) เป็นวันพิธีเกี่ยวกับสงฆ์และจัดสินสอดมาเลย
งานวันนี้ถือเป็นส่วนของเจ้าสาวที่ต้องจ่าย
เพื่อวันจัดงาน จะได้เอาเงินสินสอดที่มีมาจ่ายได้อย่างไม่ฉุกละหุก

คุยกับแฟนว่าดีไม๊แบบนี้ ตอนอยู่บ้านเราแฟนก็โอเคทุกอย่าง
แต่ยังติดเรื่องทอง 4 บาทนี่แหล่ะ เราก็เลย เอาน่าลองคุยกับทางบ้านก่อน

ผลออกมา ไม่โอเค ไม่ใช่ไม่โอเคแค่วันสู่ขอ
ไม่โอเควันที่จัดเลี้ยงด้วย เนื่องจากกลัวเงินไม่พอจ่าย

ไปๆ มาๆ จะไม่จัด ไม่ทำอะไรเลย ห้องก็ไม่ต่อเติม งานแต่งก็จะไม่อยากจัด
ออกแนวว่า ไม่เอา ไม่ทำ ไม่อยากเสียเงิน
ท้องก็ท้องไปแล้ว จะเรียกร้องอะไรมากมาย

แม่เราโมโหอย่างแรง ทำลูกสาวเค้าท้องแล้วยังมาหยามไม่ให้เกียรติกัน
ตอนนี้แม่เราไม่สนใจเรื่องงานแต่งงานแล้วค่ะ
สนใจแต่เรื่องหลานที่กำลังจะเกิดขึ้น

เราบอกไม่ถูกเลยว่าจะทำยังไงต่อไป พยายามหาทางแก้ปัญหา
แต่ทางฝ่ายชายยังยืนยันในจุดเดิม

เราร้องไห้ทุกวัน เรารู้ว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเด็กในท้อง
แต่ช่วงนี้เราอารมณ์อ่อนไหวมากมาย เดี๊ยวก็ร้องไห้ เดี๊ยวก็ร้องไห้
ส่วนตัวแฟนเรา ไม่มีคำตอบอะไรที่ทำให้เราสบายใจได้เลย
เอะอะ ก็ต้องบอกแม่ ต้องปรุกษาแม่ ต้องขออนุญาตแม่
ถ้าแม่เค้าบอกว่าไม่ คือไม่

เราอึ้งไปเลย ว่าสามัญสำนึกของความที่จะเป็นพ่อคนหายไปไหน
พอมีปัญหา ก็หายหน้า ไม่โทรติดต่อ ไม่ส่งข้อความ ไม่อะไรใดๆทั้งสิ้น

เราท้อเหลือเกิน  ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้
แค่ท้องก่อนแต่ง เราก็รู้สึกผิดต่อพ่อแม่เรามากมายแล้ว
ถึงแม้ว่าเราจะอายุ 34 แล้วก็เถอะ แต่เราทำผิดประเพณี
พอจะหาทางทำให้ถูกต้อง ก็เจอกับทางตันแบบนี้

ไม่รู้จะหาทางออกยังไง
แม่เราเห็นเราร้องไห้เสียใจกับเรื่องนี้ เราเข้าใจว่าแม่ทนไม่ได้
แม่เราถึงกับลั่นคำขาดว่า ไม่ต้องมาติดต่อ ไม่ต้องมายุ่ง
ลูกคนเดียว จะเพิ่มหลานอีกคน แม่เลี้ยงได้
จบๆ กันไปเลย เจ็บตอนนี้ ตัดขาดตอนนี้
ดีกว่าจะมีปัญหาต่อเนื่องไปอีก

เพื่อนๆค่ะ เราขอกำลังใจ และคำแนะนำหน่อยนะค่ะ
คำแนะนำของเพื่อนๆ อาจจะชี้ทาง หรือทำให้เราเห็นทางออกได้บ้างค่ะ

ขอบคุณเพื่อนๆ นะค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่