ประเมินสถานะการณ์ ล่าสุด23/12/2556

กระทู้สนทนา
.............หลังจากพรรคประชาธิปัตย์รับลูก จากนายสุเทพบอยคอตไม่ลงเลือกตั้ง เพื่อเพิ่มอุณหภูมิทางการเคลื่อนไหว ให้เข้มข้นขึ้น ถึงตรงนี้พรรคประชาธิปัตย์ ไม่อาจปฎิเสธได้อีกต่อไป ว่า การดำเนินการของนายสุเทพกับพวก เป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากเเบ่งหน้าที่กันทำงาน โดยมีนักวิชาการในภายใต้ระบอบขุนนางคอย อธิบายเพื่อโน้มน้าว ประชาชนพวกกลางๆที่เป็นกลุ่มใหญ่ให้เห็นดีงามในการ  กระทำของนายสุเทพเเละพวก เพื่อสร้างความชอบธรรม

ไฮไลท์พุ่งตรงไปที่การเลือกตั้ง ซึ่งเป็นปรกติวิธีสากลในระบอบประชาธิปไตย  เเต่ดูท่ามวลมหาประชาชน จะไม่ยอมรับเเละเป็นคำถามใหญ่ที่หาคำตอบไม่เจอ เเม้นายอภิสิทธิ์ จะพยายามอธิบาย ด้วยความหมายเท่ๆ หากประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้งอาจได้เสียงส่วนใหญ่ ซึ่งขัดกับท่าทีของหลายคนในพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงนายสุเทพที่ เฉลยกันตรงๆ เลือกไปก้เเพ้

การดำเนินการต่อจากนี้ไปหลายคนอาจ ยังมองไม่ออก ทางเลือกสองทางที่มีคือหลังมีเลือกตั้ง กับไม่มีเลือกตั้ง ตรงไหนที่คิดว่าความไม่สงบจะมีมากกว่ากัน ในตรงนี้ขออธิบายในส่วนของการไม่มีเลือกตั้งก่อน นับจากที่ผ่านมา นายสุเทพกับพวกพยายาม จัดตั้งสภาประชาชน ซึ่งหากมองลึกลงไปอย่างที่นายสุเทพกับพวก ตั้งธงใว้ คือ มาจากการคัดสรร หรือสรรหา จากหลากหลายอาชีพ 300 กับที่ กปปส เลือกเข้ามา100เป็นผู้รู้ ปราชญ์เเผ่นดิน ซึ่งถ้ามองกันเเบบผ่านๆ หลายคนก้อาจมองดูก็น่าจะดี  เเต่หากมองพฤติกรรมของม๊อบนายสุเทพ จะพบได้ว่าหลายเรื่อง สวนทางกับสิ่งที่นำเสนอ

หลายคนพูด ขนาดนายสุเทพกับพวกยังไม่กุมอำนาจใว้ในมือ ยังกระทำการสร้างความวุ่นวายขนาดนี้เเล้วจะเชื่อได้อย่างไรกับ นายสุเทพกับพวก ที่ผ่านมา ปี52-53 หลายคนคงจำภาพ ทหารถือปืนออกมาไล่ยิงประชาชน มันคงหลอนน่าดูถ้าปล่อยให้นายสุเทพ มากุมอำนาจรัฐอยู่ในมือ

การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ก้ไม่ใช่ทางออกของสังคมเช่นกัน เพราะเมือพรรคประชาธิปัตย์ ลงทุนบอยคอต ต้องมีอะไรเเอบเเฝงอยู่เช่นกัน ถ้ามองไปครั้งเก่าจะพบว่าสุดท้าย ก็จะบีบให้เกิดมีการทำรัฐประหาร เพื่อเปิดทางให้ ขุนนางเก่าเข้ามากุมอำนาจทางการเมือง ซึ่งเป็นคุณกับพรรคประชาธิปัตย์ เเละตรงตามความต้องการ ของขุนนางเหล่านี้ที่สร้างภาพนักการเมืองให้มันดูเลวร้าย  จะได้เป็นข้ออ้างให้ คนดี คนกลาง คนของจัวเองเข้าสู่อำนาจ

ฉนั้นการชิงอำนาจจึงมีสามฝ่ายเป็นอย่างน้อย ไม่ใช่สองฝ่ายอย่างที่หลายคนเข้าใจ กลับมาที่ไม่มีเลือกตั้ง เเล้ว นายสุเทพกับพวกกระทำการสำเร็จ ไม่ว่าจะตั้งสภาประชาชน หรือทำให้มีการทำรัฐประหาร หากสองอย่างนี้เกิดขึ้น ความไม่สงบในประเทศจะขยายขอบเขตไปสุ่ ต่างจังหวัด จะมีการลุกฮือ จากทุกสารทิศ โอกาสเกิดสงครามการเมืองเป็นไปได้สูง เมื่อภาพมันชัด

ย้อนกลับมาดูท่าทีนายก เช็คกระเเส เดินสายรอบนอก วัดความนิยม นายก ยิ่งลักษณ์ คงมีคำตอบอยู่ในใจ กระเเสคนต่างจังหวัด อีสาน เหนือ เเละกลาง ไหลไปที่เพื่อไทย กระเเสหมั่นใส้ นายสุเทพกับพรรคประชาธิปัตย์ จะช่วยดึงคะเเนนจากพรรคอื่นๆมาสมทบ บวกมี อดีต สสไหลเข้ามาอย่างมาก รวมคะเเนนทั้งประเทศ รวม สส น่าจะเข้ามามาก กว่าเดิม จึงสร้างความมั่นใจ ในส่วนของนายก

ย้อนกลับมาที่นายสุเทพกับพวก หยั่งเสียงก็คงได้มาเเนวๆเดียวกับเพื่อไทยถ้าไม่พยายามหลอกตัวเอง คือโอกาสชนะในเกมส์นั้นยากขึ้นทุกวัน จริงๆ ถ้าประชาธิปัตย์ ยอมจบเกมส์ตั้งเเต่รัฐบาลพลาดเรื่อง พรบ นิรโทษ ตรงนั้น คือจุดที่ดีที่สุดของประชาธิปัตย์ ถ้าลงเสียเเต่ตรงนั้น

เเต่อย่างไรก็ตาม ทีมยุทธศาสตร์ประชาธิปัตย์ เลือกทางนี้ก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย ความเสี่ยงในเกมส์นี้ อาจนำพาประชาธิปัตย์ เสียหลายๆด้าน ภาพในสายตาต่างชาติ ประชาธิปัตย์ ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ยิ่งในอาเซี่ยนด้วยกัน ถึงกับส่ายหน้า ถ้าเข้าสู่ aec นำโดยประชาธิปัตย์ ความยุ่งยากคงทำให้การดำเนินการไม่ราบรื่น

คำถามยอกฮิตก็คือ เมื่อใหร่จะจบ ตรงนี้ต้องตอบกันตามตรง นี่เเค่เพิ่งเริ่ม ส่วนจะยาวไปไกลขนาดไหน ก้อาจต้องพึ่งสิ่งศักศิทธิ์ บนบานสารกล่าว ขอพรประเทศไทย เพราะเมื่อประชาธิปัตย์ สร้างวาทะกรรม ระบอบทักษิณได้สำเร็จ คงต้องใช้เวลาอีกนาน กว่าจะลบออกจากสมอง สาวกประชาธิปัตย์ได้ อาจใช้ทั้งชีวิต

คำถามต่อมาเเล้วประชาชนอย่างเราๆจะทำอย่างไรต่อไป เท่าที่ตอบได้คือ อดทนอยู่กับมันอย่างถึงที่สุด ตราบใดที่ระบอบประชาธิปไตยยังคงทำหน้าที่ของมัน ใช้ชีวิตให้ ปรกติ ให้เชื่อได้ว่าเราคือคนปรกติ ไม่ได้บ้า เเละพยายามอย่าไปบ้าตาม ปล่อยให้ พรรคประชาธิปัตย์ ปลดปล่อยสิ่งที่กดดัน ตัวเองออกมา ความพ่ายเเพ้ ที่ยาวนาน อันนี้ต้องเข้าใจ สาวกพรรคประชาธิปัตย์ พยายามมายาวนานที่จะชนะเลือกตั้ง ถึงขนาดสร้างภาคนิยม เเต่ก็ยังไม่สามารถชนะคนจะนวนมากในประเทศ

ทหารไม่ขยับ ข้าราชการปฎิบัติไปตามหน้าที่ คนที่ดูเเละความสงบเรียบร้อบก็ทำไป สุเทพก้าวพลาดเรื่องไปยึดสถานที่ราชการ นอกจากจะมีคดีติดตัวเเล้ว ก้าวนั้นทำให้เสียภาพในสายตาต่างประเทศ เมื่ออดทนรอชัยชนะของการต่อสู้ทางการเมืองไม่ไหว เลือกทางนี้ ความเสียหายต่อพรรคประชาธิปัตย์ จะอยู่ไปอีกยาวนาน เเละนานพอที่ พรรคประชาธิปัตย์จะไม่สามารถจะกลับเข้ามทาชนะทางการเมืองได้อีก หนทางที่พรรคประชาธิปัตย์เลือก มันคือรอยด่างที่จะติดตัวไปกับพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนภาพฆาตกร ที่ติดตัวนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ สองคนนี้จะลากพรรคประชาธิปัตย์ มาเปื้อนเลือดอีกรอบไหม ต้องจับตาดูกัน...................ยังไม่จบประเทศไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่