Captain Phillips (2013)
Genre: Biography, Adventure, Drama, Thriller
Director: Paul Greengrass
Based upon the book "A Captain's Duty: Somali Pirates, Navy SEALS, and Dangerous Days at Sea" by: Stephan Talty, Richard Phillips
Screenplay: Billy Ray
ว่าจะเก็บเงินซื้อขาตั้งกล้องให้พอล กรีนกราสสักหน่อย ฮ่าๆๆๆ แซวเล่นนะครับ กล้องไม่ได้เหวี่ยงอะไรขนาดนั้น ก็ตามสไตล์หนังที่ต้องการความสมจริงมักจะนิยมตั้งกล้องไม่ให้นิ่ง แถมนี่เป็นหนังที่ทั้งเรื่องอยู่กลางทะเลมีคลื่นมีลม ภาพมันก็ต้องไม่นิ่งเป็นเรื่องปกติครับ
Captain Phillips สร้างจากเรื่องจริงของกัปตันฟิลลิปส์ (Tom Hanks) กัปตันเรือ US-flagged MV Maersk Alabama ที่ถูกกลุ่มโจรสลัดโซมาเลียยึดเรือได้สำเร็จ และเป็นเรือบรรทุกสินค้าสัญชาติอเมริกันลำแรกในรอบ 200 ปีที่ถูกปล้นโดยโจรสลัดครับ
แนวหนังจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างกัปตันฟิลลิปส์กับกัปตันมิวส์ (Barkhad Abdi) กัปตันเรือโจรสลัดโซมาเลียครับ ช่วงต้นเรื่องตอนเข้ายึดเรือตื่นเต้นมากแม้จะรู้ว่ายังไงก็ยึดเรือสำเร็จ ได้เห็นการต่อสู้ด้วยแทคติกของสองกัปตันด้วย ให้อารมณ์คล้ายตอนดู Master and Commander: The Far Side of the World หนังเรือรบต่อสู้ด้วยมันสมองเลยครับ เพราะกัปตันฟิลลิปส์ก็ต้องใช้ทุกกลยุทธ์ทุกอย่างที่ทำได้เพื่อไม่ให้โจรสลัดพาดบันไดกับเรือได้
หลังจากยึดเรือสำเร็จหนังก็กลายเป็นดราม่าความสัมพันธ์ของทั้งสองกัปตันโดยมีช่วงได้ลุ้นระทึกแทรกมาเป็นระยะ ช่วงนี้กัปตันฟิลลิปส์และลูกเรือถูกจับเป็นตัวประกันแล้วครับ หนังก็ใส่การสนทนาต่อรอง ใส่ดราม่าบีบคั้นอารมณ์เล็กน้อยเข้ามา เอาเข้าจริงผมรู้สึกว่าหนังไม่ได้เน้นดราม่าตรงนี้สักเท่าไรหรอกครับ เหมือนว่าหนังเน้นไปที่ภาพรวมของเหตุการณ์มากกว่าแต่ใส่ความสัมพันธ์ของสองกัปตันเข้ามาให้มันดูมีอะไรมากขึ้น
ส่วนช่วงท้ายของหนังขอให้คุณนึกถึงไคลแมกซ์ของหนังเรื่อง United 93 ผลงานเก่าพอล กรีนกราสได้เลยครับ เขาสามารถพาไคลแมกซ์ของ Captain Phillips ไต่ระดับขึ้นไปสุดยอดระทึกขวัญกดดันสุด ๆ
ขอการันตีอีกอย่างว่าเอาเครดิตงานเก่าของเขามากางได้เลย อย่างแรกคือไม่เสียชื่อผู้กำกับฉากปฏิบัติภารกิจแบบ The Bourne Ultimatum และ Greenzone แน่นอน และหากใครเคยประทับใจการทำหนังที่สร้างจากเรื่องจริงได้สมจริงและเคารพเหตุการณ์จริงแบบ United 93 ก็จะไม่ผิดหวัง Captain Phillips อย่างแน่นอน
การแสดงของทอม แฮงส์ในเรื่องนี้น่าจะพาเขามีชื่อบนเวทีออสการ์อีกครั้งหลังจากว่างเว้นมา 13 ปี คนเดียวแบกหนังทั้งเรื่องอีกแล้ว (แม้จะมีบาร์กฮัด แอบดี้ช่วยพยุงหนังอีกคน) ตลอดทั้งเรื่องการแสดงของเขาทำได้น่าเชื่อถือว่าคือกัปตันเรือ สุขุมดูน่าเคารพแม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์กดดันสุด ๆ มีมาดความเป็นผู้นำ ส่วนช่วงพีคสุด ๆ คงหนีไม่พ้น 10-20 นาทีสุดท้าย อารมณ์แบบแฮงส์ขั้นเทพกลับมาแล้วววววว แสดงเข้าถึงอารมณ์ตัวละครและสถานการณ์ราวกับว่าเรื่องทั้งหมดมันเพิ่งเกิดขึ้นกับตัวเขาเอง ไม่ใช่การแสดงเป็นกัปตันฟิลลิปส์! แต่ถ้าหากพูดถึงว่าจะไปถึงขั้นชนะเลิศไหม ผมว่าการแสดงขั้นเทพช่วง 10-20 นาทีสุดท้ายอาจจะยังไม่พอนะ (ต้องดูคู่แข่งด้วยอีกทีนึง)
สมจริง ตื่นเต้นกดดัน ไคลแมกซ์ขั้นเทพทั้งการกำกับของกรีนกราสและการแสดงของแฮงส์
ป.ล. เหมือนหนังจะเตือนว่าอย่ามาแหยมกับคนสัญชาติอเมริกันนะเฟ้ย
9/10
ฝากเพจหนัง
https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms ไว้ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
[รีวิวไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ] Captain Phillips สมจริง กดดัน ไคลแมกซ์ขั้นเทพทั้งการกำกับของกรีนกราสและการแสดงของแฮงส
Genre: Biography, Adventure, Drama, Thriller
Director: Paul Greengrass
Based upon the book "A Captain's Duty: Somali Pirates, Navy SEALS, and Dangerous Days at Sea" by: Stephan Talty, Richard Phillips
Screenplay: Billy Ray
ว่าจะเก็บเงินซื้อขาตั้งกล้องให้พอล กรีนกราสสักหน่อย ฮ่าๆๆๆ แซวเล่นนะครับ กล้องไม่ได้เหวี่ยงอะไรขนาดนั้น ก็ตามสไตล์หนังที่ต้องการความสมจริงมักจะนิยมตั้งกล้องไม่ให้นิ่ง แถมนี่เป็นหนังที่ทั้งเรื่องอยู่กลางทะเลมีคลื่นมีลม ภาพมันก็ต้องไม่นิ่งเป็นเรื่องปกติครับ
Captain Phillips สร้างจากเรื่องจริงของกัปตันฟิลลิปส์ (Tom Hanks) กัปตันเรือ US-flagged MV Maersk Alabama ที่ถูกกลุ่มโจรสลัดโซมาเลียยึดเรือได้สำเร็จ และเป็นเรือบรรทุกสินค้าสัญชาติอเมริกันลำแรกในรอบ 200 ปีที่ถูกปล้นโดยโจรสลัดครับ
แนวหนังจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างกัปตันฟิลลิปส์กับกัปตันมิวส์ (Barkhad Abdi) กัปตันเรือโจรสลัดโซมาเลียครับ ช่วงต้นเรื่องตอนเข้ายึดเรือตื่นเต้นมากแม้จะรู้ว่ายังไงก็ยึดเรือสำเร็จ ได้เห็นการต่อสู้ด้วยแทคติกของสองกัปตันด้วย ให้อารมณ์คล้ายตอนดู Master and Commander: The Far Side of the World หนังเรือรบต่อสู้ด้วยมันสมองเลยครับ เพราะกัปตันฟิลลิปส์ก็ต้องใช้ทุกกลยุทธ์ทุกอย่างที่ทำได้เพื่อไม่ให้โจรสลัดพาดบันไดกับเรือได้
หลังจากยึดเรือสำเร็จหนังก็กลายเป็นดราม่าความสัมพันธ์ของทั้งสองกัปตันโดยมีช่วงได้ลุ้นระทึกแทรกมาเป็นระยะ ช่วงนี้กัปตันฟิลลิปส์และลูกเรือถูกจับเป็นตัวประกันแล้วครับ หนังก็ใส่การสนทนาต่อรอง ใส่ดราม่าบีบคั้นอารมณ์เล็กน้อยเข้ามา เอาเข้าจริงผมรู้สึกว่าหนังไม่ได้เน้นดราม่าตรงนี้สักเท่าไรหรอกครับ เหมือนว่าหนังเน้นไปที่ภาพรวมของเหตุการณ์มากกว่าแต่ใส่ความสัมพันธ์ของสองกัปตันเข้ามาให้มันดูมีอะไรมากขึ้น
ส่วนช่วงท้ายของหนังขอให้คุณนึกถึงไคลแมกซ์ของหนังเรื่อง United 93 ผลงานเก่าพอล กรีนกราสได้เลยครับ เขาสามารถพาไคลแมกซ์ของ Captain Phillips ไต่ระดับขึ้นไปสุดยอดระทึกขวัญกดดันสุด ๆ
ขอการันตีอีกอย่างว่าเอาเครดิตงานเก่าของเขามากางได้เลย อย่างแรกคือไม่เสียชื่อผู้กำกับฉากปฏิบัติภารกิจแบบ The Bourne Ultimatum และ Greenzone แน่นอน และหากใครเคยประทับใจการทำหนังที่สร้างจากเรื่องจริงได้สมจริงและเคารพเหตุการณ์จริงแบบ United 93 ก็จะไม่ผิดหวัง Captain Phillips อย่างแน่นอน
การแสดงของทอม แฮงส์ในเรื่องนี้น่าจะพาเขามีชื่อบนเวทีออสการ์อีกครั้งหลังจากว่างเว้นมา 13 ปี คนเดียวแบกหนังทั้งเรื่องอีกแล้ว (แม้จะมีบาร์กฮัด แอบดี้ช่วยพยุงหนังอีกคน) ตลอดทั้งเรื่องการแสดงของเขาทำได้น่าเชื่อถือว่าคือกัปตันเรือ สุขุมดูน่าเคารพแม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์กดดันสุด ๆ มีมาดความเป็นผู้นำ ส่วนช่วงพีคสุด ๆ คงหนีไม่พ้น 10-20 นาทีสุดท้าย อารมณ์แบบแฮงส์ขั้นเทพกลับมาแล้วววววว แสดงเข้าถึงอารมณ์ตัวละครและสถานการณ์ราวกับว่าเรื่องทั้งหมดมันเพิ่งเกิดขึ้นกับตัวเขาเอง ไม่ใช่การแสดงเป็นกัปตันฟิลลิปส์! แต่ถ้าหากพูดถึงว่าจะไปถึงขั้นชนะเลิศไหม ผมว่าการแสดงขั้นเทพช่วง 10-20 นาทีสุดท้ายอาจจะยังไม่พอนะ (ต้องดูคู่แข่งด้วยอีกทีนึง)
สมจริง ตื่นเต้นกดดัน ไคลแมกซ์ขั้นเทพทั้งการกำกับของกรีนกราสและการแสดงของแฮงส์
ป.ล. เหมือนหนังจะเตือนว่าอย่ามาแหยมกับคนสัญชาติอเมริกันนะเฟ้ย
9/10
ฝากเพจหนัง https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms ไว้ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ