สมัยมาร์ค แจกเช็คคนละ 2000 บาทเอาใจชนชั้นกลาง ไปรับเช็คซื้อของกันไม่อายหรอ
ตอนหนี้ หม่อมแจกโบนัสให้พนักงาน กทม ซึ่งหน่วยงานรัฐปกติไม่มีโบนัสเพราะเป็นหน่วยงานไม่แสวงหากำไร
แต่พนักงานบางส่วนก็หยุดงานไปประท้วง ไม่รับใช้ประชาชน ทำงานไม่คุ้มภาษี อายกันไหม
หรือไม่ก็ ซื้อรถจากโครงการที่มาจากรัฐบาลเลวๆที่พวกคุณด่ากัน เพื่อ รอภาษี 100,000 บาท อายไหม
ถ้าอายทำไมถึงไปใช้สิทธิรถคันแรกหละ
ขณะที่ชาวนา ปลูกข้าวขายข้าว ต้องลงทุน ตากแดด ขายข้าวทีก็ไม่ได้ 15000 ตามที่รัฐบาลบอกนะ
เพราะข้าวมันมีความชื้น ก็ต้องขายตามสภาพ เขาทำมาหากกิน มีความเสี่ยงกับดินฟ้าอากาศ ไม่ใช่รอรับเงินคืนภาษีแบบพวกคุณ
ไม่ทราบว่าชนชั้นกลาง คนกรุง นักวิชาการ อายบ้างไหม เห็น-ดันชาวนานักหนา ไม่ทราบว่าที่บ้านไม่กินข้าวกันหรอ
เขาทำงานแลกเงิน เขาก็ต้องเลือกนโยบายที่เอื้อต่อการทำมาหากินมันผิดหรอครับ
อย่างน้อยเขาก็ปลูกข้าวให้คุณกิน เงินได้มาก็ใช้จ่ายหมุนเวียนเศรษฐกิจ
ขณะที่นโยบายชนชั้นกลาง เหมือนแบมือขอเงินจากรัฐอย่างเดียว
มุ่งไปทางสะดวกสบาย ไม่ได้มุ่งไปสู่การดำรงชีพ
เวลาด่าชาวนา ย้อนกลับมามองตัวเองบ้างนะครัช
แด่ คนกรุง ชนชั้นกลาง นักวิชาการ ที่ชอบด่าเกษตรกร ชาวนา ว่าถูกซื้อเสียงด้วยประชานิยม "อายกันบ้างไหม"
ตอนหนี้ หม่อมแจกโบนัสให้พนักงาน กทม ซึ่งหน่วยงานรัฐปกติไม่มีโบนัสเพราะเป็นหน่วยงานไม่แสวงหากำไร
แต่พนักงานบางส่วนก็หยุดงานไปประท้วง ไม่รับใช้ประชาชน ทำงานไม่คุ้มภาษี อายกันไหม
หรือไม่ก็ ซื้อรถจากโครงการที่มาจากรัฐบาลเลวๆที่พวกคุณด่ากัน เพื่อ รอภาษี 100,000 บาท อายไหม
ถ้าอายทำไมถึงไปใช้สิทธิรถคันแรกหละ
ขณะที่ชาวนา ปลูกข้าวขายข้าว ต้องลงทุน ตากแดด ขายข้าวทีก็ไม่ได้ 15000 ตามที่รัฐบาลบอกนะ
เพราะข้าวมันมีความชื้น ก็ต้องขายตามสภาพ เขาทำมาหากกิน มีความเสี่ยงกับดินฟ้าอากาศ ไม่ใช่รอรับเงินคืนภาษีแบบพวกคุณ
ไม่ทราบว่าชนชั้นกลาง คนกรุง นักวิชาการ อายบ้างไหม เห็น-ดันชาวนานักหนา ไม่ทราบว่าที่บ้านไม่กินข้าวกันหรอ
เขาทำงานแลกเงิน เขาก็ต้องเลือกนโยบายที่เอื้อต่อการทำมาหากินมันผิดหรอครับ
อย่างน้อยเขาก็ปลูกข้าวให้คุณกิน เงินได้มาก็ใช้จ่ายหมุนเวียนเศรษฐกิจ
ขณะที่นโยบายชนชั้นกลาง เหมือนแบมือขอเงินจากรัฐอย่างเดียว
มุ่งไปทางสะดวกสบาย ไม่ได้มุ่งไปสู่การดำรงชีพ
เวลาด่าชาวนา ย้อนกลับมามองตัวเองบ้างนะครัช