สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
ปล่อยวางไปเถอะ เพราะสามีก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ตั้งแต่อาสาจะให้เพื่อนผู้หญิงเข้ามาพักอยู่ในบ้านด้วยแล้ว จนมาถึงวันนี้สามีก็ยังไม่เก็ทว่า การที่เพื่อนผู้หญิงขอนั่งหน้าและให้เมียนั่งข้างหลังน่ะ มันไม่ใช่เรื่องของเพื่อนสาวนะ คนไม่รู้จักกาละเทศะ แล้วจะอยู่กันได้ไงรึ ?
ไม่ต้องระแวงแล้ว จะไประแวงทำไม เพราะที่เห็นๆและทำๆมาทั้งหมดมันก็ส่อสัญญาณแล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนยังไง และสามีก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดปกติด้วย คุณก็ปากหนักเกินไป เมียนะคะ ไม่ใช่เพื่อนบ้าน พูดอะไรได้ก็โพล่งๆออกไปซะบ้าง จะมามัวเกรงอกเกรงใจแล้วเก็บไว้เอามาคิดมากทำไม
เรื่องไหนรู้สึกไม่ดี ก็ต้องเคลียร์ๆกันไปเลย คิดจะอยู่ด้วยกันมันก็ต้องโปร่งใสนะ คุณอย่าทำตัวดีมากเลย เป็นเมียก็ต้องเอาสามีให้อยู่หมัดค่ะ หากทำไม่ได้ คุณก็จะต้องมาเป็นทาสพวกเค้าแบบนี้แหละ เรื่องประเภทนี้ต้องแข็งค่ะ ถ้าสามีไม่เกรงใจเรา แล้วคิดหรือเพื่อนเขาจะเกรงเราด้วย ?
จัดการสามีก่อนเพื่อนเลยค่ะ หากสามีเลือกเพื่อน ก็ปล่อยไปค่ะ ปล่อยวางค่ะ แล้วก็เลิกระแวงค่ะ เรื่องแบบนี้ต้องพูดกันให้กระจ่างอย่างเดียว ปล่อยเรื้อรังไม่ได้ค่ะ คุณจะประสาทแดร๊กแน่นอน แววมาแล้วค่ะ
เป็นผู้หญิงอยู่ต่างประเทศ มีสามีต่างชาตินี่ต้องเก่งนะคะ ต้องเท่าทันเกมส์เค้าค่ะ จะมาทำตัวเป็นแบบแม่พระ อดทนกับเรื่องอุบาทว์ๆ พวกนี้แบบ แม่ ญ ไทยสมัยโบราณ ไม่ได้ค่ะ เราจะต้องเข้มแข็ง และลุกขึ้นต่อสู้กับความจริง อย่าปล่อยให้ผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นสามี หรือ ผู้หญิงที่เป็นเพื่อนสามีมาข่มเหงน้ำใจได้ มนุษย์เหมือนกัน มีทุกอย่างเท่าเทียมกัน หากมาร้าย เราไม่จำเป็นต้องร้ายตอบ แต่เราต้องเป็นคนจริงค่ะ เด็ดขาด เด็ดเดี่ยว พูดจริงทำจริง อยู่รอดได้ สบายทุกสถาณการณ์ค่ะ
ขอให้โชคดี
ไม่ต้องระแวงแล้ว จะไประแวงทำไม เพราะที่เห็นๆและทำๆมาทั้งหมดมันก็ส่อสัญญาณแล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนยังไง และสามีก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดปกติด้วย คุณก็ปากหนักเกินไป เมียนะคะ ไม่ใช่เพื่อนบ้าน พูดอะไรได้ก็โพล่งๆออกไปซะบ้าง จะมามัวเกรงอกเกรงใจแล้วเก็บไว้เอามาคิดมากทำไม
เรื่องไหนรู้สึกไม่ดี ก็ต้องเคลียร์ๆกันไปเลย คิดจะอยู่ด้วยกันมันก็ต้องโปร่งใสนะ คุณอย่าทำตัวดีมากเลย เป็นเมียก็ต้องเอาสามีให้อยู่หมัดค่ะ หากทำไม่ได้ คุณก็จะต้องมาเป็นทาสพวกเค้าแบบนี้แหละ เรื่องประเภทนี้ต้องแข็งค่ะ ถ้าสามีไม่เกรงใจเรา แล้วคิดหรือเพื่อนเขาจะเกรงเราด้วย ?
จัดการสามีก่อนเพื่อนเลยค่ะ หากสามีเลือกเพื่อน ก็ปล่อยไปค่ะ ปล่อยวางค่ะ แล้วก็เลิกระแวงค่ะ เรื่องแบบนี้ต้องพูดกันให้กระจ่างอย่างเดียว ปล่อยเรื้อรังไม่ได้ค่ะ คุณจะประสาทแดร๊กแน่นอน แววมาแล้วค่ะ
เป็นผู้หญิงอยู่ต่างประเทศ มีสามีต่างชาตินี่ต้องเก่งนะคะ ต้องเท่าทันเกมส์เค้าค่ะ จะมาทำตัวเป็นแบบแม่พระ อดทนกับเรื่องอุบาทว์ๆ พวกนี้แบบ แม่ ญ ไทยสมัยโบราณ ไม่ได้ค่ะ เราจะต้องเข้มแข็ง และลุกขึ้นต่อสู้กับความจริง อย่าปล่อยให้ผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นสามี หรือ ผู้หญิงที่เป็นเพื่อนสามีมาข่มเหงน้ำใจได้ มนุษย์เหมือนกัน มีทุกอย่างเท่าเทียมกัน หากมาร้าย เราไม่จำเป็นต้องร้ายตอบ แต่เราต้องเป็นคนจริงค่ะ เด็ดขาด เด็ดเดี่ยว พูดจริงทำจริง อยู่รอดได้ สบายทุกสถาณการณ์ค่ะ
ขอให้โชคดี
ความคิดเห็นที่ 40
เป็นเราจะพูดตรงๆนะ ชั้นคือภรรยาของเธอ ส่วนเค้าเป็นแค่เพื่อนของเธอ
ใครคือคนสำคัญที่สุดที่เธอควรจะแคร์ความรู้สึก คนที่แต่งงานกับเธอและจะอยู่กับเธอไปจนแก่เฒ่า
หรือเพื่อนเธอที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป
ผู้ชายให้ความสำคัญผิดคน ที่สำคัญไม่ให้เกียรติภรรยา พาผู้หญิงอื่นมาอาศัยอยู่ในบ้าน ถึงแม้จะเพื่อนก็เถอะ
ยังจะมาให้ภรรยาดูแลเค้าสารพัดอีก แต่พูดยาก พูดมากก็จะดูจุกจิกอีก เว้นเสียแต่สามีจะรักภรรยามากจริงๆ
แบบนั้นภรรยามาที่หนึ่ง ไม่พอใจ ไม่สบายใจ สามีรีบเข้ามาดูแลและซัพพอตความรู้สึก
เราว่าเหตุการณ์นี้จะช่วยให้คุณเห็นคนได้เยอะเลยละ โดยเฉพาะคนใกล้ตัว
แต่ถ้าไม่อยากให้สถานการณ์มันเลวร้าย ก็พยายามทำอะไรตัดหน้าไปเลยค่ะ
สามีตื่นมาทำงานแต่เช้า ก็ตื่นก่อนสามี มาชงกาแฟให้ ยืนส่งหน้าบ้าน จุ๊ฟๆส่งจูบให้
ระหว่างวันส่งข้อความหวานๆหยอดไป ทำงานหนักไหม เหนื่อยไหมวันนี้ คิดถึงคุณจังเลย เย็นนี้อยากทานอะไรไหม
สามีกลับมาบ้าน นวดนิดนึง เสริฟน้ำเย็นๆ พูดจาหวานๆ ยิ้มแย้มเข้าไว้ แม้ในใจจะร้อนมากแค่ไหนก็ตาม
พื้นฐานสามีรักคุณ แต่งงานกับคุณ นอนเตียงเดียวกับคุณ เพราะฉะนั้นคุณมีโอกาสมากกว่าที่จะดึงสามีกลับมาให้ความสำคัญกับคุณ
ส่วนผู้หญิงคนนี้ ทำเหมือนเป็นธาตุอากาศไปค่ะ พยายามทำให้สามีเห็นว่าเธอดูเป็นคนไม่มีมารยาทและไม่มีความเกรงใจ
แทนที่จะบอกดูสิเค้ามาแย่งที่นั่งชั้น ก็ให้บอกว่าเธอคิดว่าเค้าแปลกๆไหม ปกติถ้าเธอไปบ้านเพื่อนสามีภรรยา
แล้วภรรยาเค้าเป็นคนขับ เธอจะนั่งหน้ากับภรรยาเค้าหรือว่าไปนั่งข้างหลัง ชั้นว่าเค้าดูแปลกๆ แต่ไม่หรอกมั้ง ชั้นคงคิดไปเอง
ให้สามีเอาไปฉุกคิด และคอยสังเกตุพฤติกรรมเอาเอง หรือว่าเรื่องที่เค้าให้แฟนคุณออกค่าใช้จ่ายนั่นนี่ให้แบบเนียนๆ
ก็บอกว่าที่รัก เดือนนี้ชั้นจะช่วยเธอประหยัดค่ากับข้าวนะ เพราะว่าชั้นเห็นเธอต้องช่วยออกเงินให้เพื่อนเธอด้วย
ค่าใช้จ่ายมากขึ้นแบบนี้ ชั้นคงต้องช่วยเธอประหยัดแล้วละ (พูดพร้อมกับยิ้มให้หวานๆ) ชั้นรู้ว่าเงินหายากและเธอก็ทำงานหนัก
อยากแช่น้ำอุ่นๆไหม หรือว่า massage ดีกว่า
ดีนี่ร้ายยังไง แต่ถ้าคุณยังเป็นสามี ภรรยากันอยู่ มันก็มีวิธีที่จะสลัดดีนี่ออกไป
ตั้งสติไว้เยอะๆนะคะ สติมาปัญญาเกิด และที่สำคัญ ต้องไม่ประมาท
ใครคือคนสำคัญที่สุดที่เธอควรจะแคร์ความรู้สึก คนที่แต่งงานกับเธอและจะอยู่กับเธอไปจนแก่เฒ่า
หรือเพื่อนเธอที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป
ผู้ชายให้ความสำคัญผิดคน ที่สำคัญไม่ให้เกียรติภรรยา พาผู้หญิงอื่นมาอาศัยอยู่ในบ้าน ถึงแม้จะเพื่อนก็เถอะ
ยังจะมาให้ภรรยาดูแลเค้าสารพัดอีก แต่พูดยาก พูดมากก็จะดูจุกจิกอีก เว้นเสียแต่สามีจะรักภรรยามากจริงๆ
แบบนั้นภรรยามาที่หนึ่ง ไม่พอใจ ไม่สบายใจ สามีรีบเข้ามาดูแลและซัพพอตความรู้สึก
เราว่าเหตุการณ์นี้จะช่วยให้คุณเห็นคนได้เยอะเลยละ โดยเฉพาะคนใกล้ตัว
แต่ถ้าไม่อยากให้สถานการณ์มันเลวร้าย ก็พยายามทำอะไรตัดหน้าไปเลยค่ะ
สามีตื่นมาทำงานแต่เช้า ก็ตื่นก่อนสามี มาชงกาแฟให้ ยืนส่งหน้าบ้าน จุ๊ฟๆส่งจูบให้
ระหว่างวันส่งข้อความหวานๆหยอดไป ทำงานหนักไหม เหนื่อยไหมวันนี้ คิดถึงคุณจังเลย เย็นนี้อยากทานอะไรไหม
สามีกลับมาบ้าน นวดนิดนึง เสริฟน้ำเย็นๆ พูดจาหวานๆ ยิ้มแย้มเข้าไว้ แม้ในใจจะร้อนมากแค่ไหนก็ตาม
พื้นฐานสามีรักคุณ แต่งงานกับคุณ นอนเตียงเดียวกับคุณ เพราะฉะนั้นคุณมีโอกาสมากกว่าที่จะดึงสามีกลับมาให้ความสำคัญกับคุณ
ส่วนผู้หญิงคนนี้ ทำเหมือนเป็นธาตุอากาศไปค่ะ พยายามทำให้สามีเห็นว่าเธอดูเป็นคนไม่มีมารยาทและไม่มีความเกรงใจ
แทนที่จะบอกดูสิเค้ามาแย่งที่นั่งชั้น ก็ให้บอกว่าเธอคิดว่าเค้าแปลกๆไหม ปกติถ้าเธอไปบ้านเพื่อนสามีภรรยา
แล้วภรรยาเค้าเป็นคนขับ เธอจะนั่งหน้ากับภรรยาเค้าหรือว่าไปนั่งข้างหลัง ชั้นว่าเค้าดูแปลกๆ แต่ไม่หรอกมั้ง ชั้นคงคิดไปเอง
ให้สามีเอาไปฉุกคิด และคอยสังเกตุพฤติกรรมเอาเอง หรือว่าเรื่องที่เค้าให้แฟนคุณออกค่าใช้จ่ายนั่นนี่ให้แบบเนียนๆ
ก็บอกว่าที่รัก เดือนนี้ชั้นจะช่วยเธอประหยัดค่ากับข้าวนะ เพราะว่าชั้นเห็นเธอต้องช่วยออกเงินให้เพื่อนเธอด้วย
ค่าใช้จ่ายมากขึ้นแบบนี้ ชั้นคงต้องช่วยเธอประหยัดแล้วละ (พูดพร้อมกับยิ้มให้หวานๆ) ชั้นรู้ว่าเงินหายากและเธอก็ทำงานหนัก
อยากแช่น้ำอุ่นๆไหม หรือว่า massage ดีกว่า

ดีนี่ร้ายยังไง แต่ถ้าคุณยังเป็นสามี ภรรยากันอยู่ มันก็มีวิธีที่จะสลัดดีนี่ออกไป
ตั้งสติไว้เยอะๆนะคะ สติมาปัญญาเกิด และที่สำคัญ ต้องไม่ประมาท
ความคิดเห็นที่ 44
เคยอ่านเจอในหนีงสือสารคดีท่องเที่ยว เรื่องความเจนจัดของหญิงสาวไต้หวีนที่จับผู้ชายฝรี่งเสียอยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็นกลเม็ดน่ำตานาง หรือ
หนื่งมิตรชิดใกล้ และเรืองความเจนจัดเรื่องกิจกรรมทางเพศ คนปรกติที่เขามีตรอบตรีว ถ้าจะเชิญแขกต่างแดนมาพักพิงที่บ้าน อย่างมากก็อยู่แค่ 2-3 สัปดาห์ ถ้าเป็นคนในครอบครัวจะอยู่นานหน่อยก็ไม่เป็นไร
แขกที่มาพักพิง โดยมารยาท และ จิตสำนีกที่ดี มักจะดูแลตัวเองไม่ให้เป็นภาระของเจ้าของบ้าน และมักจะช่วยเหลือ
แบ่งเยาภาระงานบ้านตามสมควร เป็นการตอบแทนที่ได้รับความช่วยเหลือที่พักพิง กรณีของคุณ ถ้าจะให้หูดตรงๆ คือไม่ทันคน หน้าบาง
และไม่รู้จักปกป้อง รักษาสิทํธิความเป็นภรรยา
เข้าใจว่าสามีคุณเองก็มีใจอบากหาภรรยาใหม่ด้วย และคงมีความสัมพีนธ์ทางเพศไปแล้วกีบ ดีนี่
โดยทั่วไป นิสัยฝรั่ง ส่วนมากจะตัวใครตัวมัน จะไม่ต่อยเอาตัวเข้าไปยุ่ง ไปแบกภาระ ไม่ว่าที่อยู่ หรือ การเงิน กีบคนแปลกหน้า
แต่ที่คุณเล่ามานั้นแปลก ที่เพี่ยงรู้จักคุยกันทางอืนเตอร์เนตอ ก็ให้มาพักที่บ้านเป็นปี มารับผิดชอยการเงิน ความเป็นอยู่ของคนที่รู้จักทางเนต คนเราถ้าไม่มีใจ หรือความสัมพันธ์ลีกซึ้ง ทางกาย ทางใจ มีหรือจะช่วยกันเกืนเหตุแบบนี้ โดยที่ไม่เกรงใจภรรยา หรือคนในครอบครัว
การกระทำของสามีคุณเท่ากับเป็นการไม่ให้เกียรติคุณในฐานะภรรยา คุณลองตรองดูดีๆ หากเป็นครอบครัวอื่น หรือภรรยาฝรั่ง มีหวังบ้านแตก
ฟ้องร้องเรียกสมบัติ ค่าเลี้ยงดู เพราะถือเป็นตวามประพฤตินอกใจ เพียงแต่ยังจับไม่ได้คาหนังคาเขา เรื่องการมีชู้
ส่วนดินี่ ก็คงรู้กันกับสามีตุณแล้วว้าจะมาแทนที่คุณแน่ๆ และคงได้ไปมีความสัมพันธ์ทางเพศกับสามีตุณไปแล้ว เมื่อลับหลังคุณ
เธอถึงได้ทำตัวราวกับเป็นนาย ปล่อยให้คุณมาดูแลซักเสื้อผ้า ทำอาหาร ดูแลความสะดวกสบายทุกอย่าง ฐานะคุณในขณะนี้คือ
คนรับใช้ในบ้าน รอเวลาทีสามีคุณยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน หรือไม่ก็รออัปเปหิคุณออกไปนั่นแหละ
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติ ผู้ชายเขาก็ชอบของใหม่ ยิ่งภรรยาไทยบางคนหน้าบาง ปล่อยให้เรื่องที่ทำลายครอบครัวเกิดขึ้นแล้วถลำลึกไม่รีบจัดการเช่นกรณีที่คุณเล่า ยิ่งเมื่อตอนที่คุณคุยกับสามีแล้วเขามาออกมาเป็นเดือดเป็นร้อน ออกรับแทนดินี ซึ่งเป็นคนนอก เท่ากัยเป็นนัย
ว่าคุณไม่อยู่ในสายตาเขาแล้ว เขาคงเตรียมเลิกกับคุณแน่นอนแล้ว เพียงแต่รอจังหวะเหมาะๆ เท่านั้นเอง
เรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นซ้ำซ่าก วนไปวนมายิ่งกว่าละครเอามารีเมคหลายๆ หน เหมือนที่คุณคงเคยดูในละครทีวี ยางทีเขาถึงกับกล่าวกันว้า ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย
หนื่งมิตรชิดใกล้ และเรืองความเจนจัดเรื่องกิจกรรมทางเพศ คนปรกติที่เขามีตรอบตรีว ถ้าจะเชิญแขกต่างแดนมาพักพิงที่บ้าน อย่างมากก็อยู่แค่ 2-3 สัปดาห์ ถ้าเป็นคนในครอบครัวจะอยู่นานหน่อยก็ไม่เป็นไร
แขกที่มาพักพิง โดยมารยาท และ จิตสำนีกที่ดี มักจะดูแลตัวเองไม่ให้เป็นภาระของเจ้าของบ้าน และมักจะช่วยเหลือ
แบ่งเยาภาระงานบ้านตามสมควร เป็นการตอบแทนที่ได้รับความช่วยเหลือที่พักพิง กรณีของคุณ ถ้าจะให้หูดตรงๆ คือไม่ทันคน หน้าบาง
และไม่รู้จักปกป้อง รักษาสิทํธิความเป็นภรรยา
เข้าใจว่าสามีคุณเองก็มีใจอบากหาภรรยาใหม่ด้วย และคงมีความสัมพีนธ์ทางเพศไปแล้วกีบ ดีนี่
โดยทั่วไป นิสัยฝรั่ง ส่วนมากจะตัวใครตัวมัน จะไม่ต่อยเอาตัวเข้าไปยุ่ง ไปแบกภาระ ไม่ว่าที่อยู่ หรือ การเงิน กีบคนแปลกหน้า
แต่ที่คุณเล่ามานั้นแปลก ที่เพี่ยงรู้จักคุยกันทางอืนเตอร์เนตอ ก็ให้มาพักที่บ้านเป็นปี มารับผิดชอยการเงิน ความเป็นอยู่ของคนที่รู้จักทางเนต คนเราถ้าไม่มีใจ หรือความสัมพันธ์ลีกซึ้ง ทางกาย ทางใจ มีหรือจะช่วยกันเกืนเหตุแบบนี้ โดยที่ไม่เกรงใจภรรยา หรือคนในครอบครัว
การกระทำของสามีคุณเท่ากับเป็นการไม่ให้เกียรติคุณในฐานะภรรยา คุณลองตรองดูดีๆ หากเป็นครอบครัวอื่น หรือภรรยาฝรั่ง มีหวังบ้านแตก
ฟ้องร้องเรียกสมบัติ ค่าเลี้ยงดู เพราะถือเป็นตวามประพฤตินอกใจ เพียงแต่ยังจับไม่ได้คาหนังคาเขา เรื่องการมีชู้
ส่วนดินี่ ก็คงรู้กันกับสามีตุณแล้วว้าจะมาแทนที่คุณแน่ๆ และคงได้ไปมีความสัมพันธ์ทางเพศกับสามีตุณไปแล้ว เมื่อลับหลังคุณ
เธอถึงได้ทำตัวราวกับเป็นนาย ปล่อยให้คุณมาดูแลซักเสื้อผ้า ทำอาหาร ดูแลความสะดวกสบายทุกอย่าง ฐานะคุณในขณะนี้คือ
คนรับใช้ในบ้าน รอเวลาทีสามีคุณยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน หรือไม่ก็รออัปเปหิคุณออกไปนั่นแหละ
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติ ผู้ชายเขาก็ชอบของใหม่ ยิ่งภรรยาไทยบางคนหน้าบาง ปล่อยให้เรื่องที่ทำลายครอบครัวเกิดขึ้นแล้วถลำลึกไม่รีบจัดการเช่นกรณีที่คุณเล่า ยิ่งเมื่อตอนที่คุณคุยกับสามีแล้วเขามาออกมาเป็นเดือดเป็นร้อน ออกรับแทนดินี ซึ่งเป็นคนนอก เท่ากัยเป็นนัย
ว่าคุณไม่อยู่ในสายตาเขาแล้ว เขาคงเตรียมเลิกกับคุณแน่นอนแล้ว เพียงแต่รอจังหวะเหมาะๆ เท่านั้นเอง
เรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นซ้ำซ่าก วนไปวนมายิ่งกว่าละครเอามารีเมคหลายๆ หน เหมือนที่คุณคงเคยดูในละครทีวี ยางทีเขาถึงกับกล่าวกันว้า ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย
ความคิดเห็นที่ 64
เราเห็นใจคุณมากเลยค่ะ จะพูดกับสามี สามีก็จะว่าจุกจิก คิดเล็กคิดน้อย คิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง ถ้าไปพูดกับ (ขออนุญาต) ยัยผู้หญิงคนนั้นลับหลังสามี ชีก็อาจจะมาตีหน้าเศร้าเล่าให้สามีคุณฟัง คุณก็จะเป็นฝ่ายแย่ในสายตาสามีอีก เราเห็นด้วยกับคุณความเห็นที่ 40 ค่ะ ตื่นเช้ามาดูแลสามีก่อนไปทำงาน ส่งเค้าไปทำงาน รอรับกลับ เอาใจ อาจจะต้องเหนื่อยกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นการดึงให้สามีอยู่ใกล้ชิดเราที่สุด ต้องยอมค่ะ กับข้าวกับปลาทำเตรียมไว้ซะต้งแต่ตอนสามียังไม่กลับบ้านนะคะ พอเค้ากลับมาถึงเวลาทานใช้อุ่นเอา อย่าไปยืนหน้าเตาหน้ามันทิ้งให้ปลาย่างอยู่ใกล้แมว (เน่าๆ) แต่งตัวสวยๆ รอเค้ากลับค่ะ เอาใจเค้าเยอะๆ ถ้าหากเค้าสงสัยว่าทำไม ก็บอกเค้าไปเลยค่ะว่าตั้งแต่มีคนอื่นมาอยู่ด้วย เราไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่ด้วยกันเลย ชั้นเลยอยากให้เวลากับคุณบ้าง คิดถึงกอดเค้า คิดถึงจุ๊บเค้าก็ว่าไป ถ้าหากว่าชียังกล้านั่งหน้าคู่คุณสามีคุณอีก ไม่เป็นไรค่ะ ยอมชีไป เมื่อสามีคุณไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ อย่าไปย้ำกับเค้าอีกค่ะ เราขอแนะนำให้คุณนั่งหลังเบาะสามีคุณแทน นั่งๆ สักพักก็เอามือโอบเค้าเบาๆ ลูบไหล่เค้านิดๆ อ้อนด้วยนิดๆ บอกรักเค้าพอเป็นกระสัย ลงจากรถเดินไปไหนแม้แต่จะใกล้ๆ ต้องจับมือค่ะ เราต้องจับมือ ไม่ก็ควงแขน เดินๆ แล้วซบไหล่บ้างเป็นกระสัย
สามีเราเป็นคล้ายๆ สามีคุณค่ะคือเวลามีเพื่อนมาพักที่บ้าน หรือง่ายๆ ใช้บ้านชั้นเป็นโรงแรม (จริงๆ ก็มีแค่ 2 คนแหละค่ะ) จะดูแลดีทุกอย่าง ซื้อข้าวของ เลี้ยงข้าว สารพัดอย่าง คนแรกเป็นเด็กผู้ชาย ณ ขณะนั้นอายุแค่ 19 เองมั๊งคะ เห็นเราเป็นเมดโรงแรมเลย สามีนี่เลี้ยงข้าวแล้วยังให้เงินติดกระเป๋าอีกต่างหาก เราปวดหัวมาก เหมือนมีลูกวัยรุ่นโดยไม่รู้ตัว
อีกคนเป็นเพื่อนสาวบราซิลที่เค้ารู้จักกันนานมาก นานก่อนมารู้จักเราอีก เคยเจอกันมาก่อนที่จะมารู้จักเราครั้งนึง คราวที่แล้วไม่ได้พักด้วยกัน คราวนี้เค้าชวนมาพักด้วย ตกลงกันก่อนมาถามเราอีก ตอนนั้นเราโกรธมาก นี่เมียนะ คิดจะถามก่อนมั๊ย แต่เราก็รู้จักนิสัยเค้าอ่ะนะคะ เป็นพวกคิดน้อย ไม่ค่อยรู้สึกอะไร ส่วนเราก็เป็นพวกขี้หึงค่ะ ขี้หึงมากกกกก เวลาออกไปไหนด้วยกัน เค้าก็จะเดินกันสองคนปล่อยเรารั้งท้าย คุยกันกระหนุงกระหนิงกระจุ๋งกระจิ๋ง นั่งกินข้าวก็คุยกันกระจุกกระจิก ไปกินข้าวข้างนอกเราก็เหมือนส่วนเกินตลอด เราเก็บมาร้องไห้หลายทีเลยค่ะว่าเห็นชั้นเป็นอะไรฟร่ะ (ที่สำคัญคือหุ่นนางเซี๊ยะมากกกก ในขณะที่เราหน้าอกก็ไม่มี เอวก็ไม่คอด แถมมีพุงอีก) จนสุดท้ายเราทนไม่ไหวถ้าจะเดินคู่กัน ชั้นก็จะเดินหน้ากระดานเรียงสามนี่แหละ จับมือสามีเดิน แต่ขอโทษทีเถอะ พอคนเดินสวนมาไม่รู้อีท่าไหน เราก็ต้องเป็นคนหลบทุกที กลายเป็นไปเดินหลังสามีซะงั้นอ่ะทั้งๆ ที่มือก็ยังจับกันอยู่นะคะ แต่ของเรายังดีค่ะเพราะเค้าแค่มาเที่ยว มีกำหนดกลับ อยู่ประมาณเดือนเดียว ตอนนั้นเราตัดสินใจคุยกับสามีนะคะ ว่าเราไม่ไหวแล้วนะ เราเหมือนเป็นส่วนเกินมากเลย แล้วจบด้วย 'I trust you. I know there's nothing and I'm silly. I guess it's all because I love you but I just can't stop this feeling.' แนวๆ นี้อ่ะค่ะ พูดไปน้ำตาก็ไหลพรากๆ ไป แต่สามีเรารู้ตัวนะคะ ไปไหนด้วยกันเค้าจะเดินเข้ามาจับมือเราเอง เดินโอบเราเอง ทุกวันนี้สามีเรายังเห็นเป็นเรื่องโจ๊ก เอามาแซวเราอยู่เรื่อยๆ แต่ครั้งที่สามที่ชีมาเที่ยว สามีเราหาที่อยู่อื่นให้เค้าไปอยู่ ไม่ให้มาพักที่บ้านโดยที่เราไม่ต้องเอ่ยปาก บางทีสามีคุณอาจจะเป็นเหมือนสามีเรานะคะ อาจจะต้องมีกระทุ้งนิดๆ บ้าง ขอให้เรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดีนะคะ
แก้ไขคำผิดค่ะ
สามีเราเป็นคล้ายๆ สามีคุณค่ะคือเวลามีเพื่อนมาพักที่บ้าน หรือง่ายๆ ใช้บ้านชั้นเป็นโรงแรม (จริงๆ ก็มีแค่ 2 คนแหละค่ะ) จะดูแลดีทุกอย่าง ซื้อข้าวของ เลี้ยงข้าว สารพัดอย่าง คนแรกเป็นเด็กผู้ชาย ณ ขณะนั้นอายุแค่ 19 เองมั๊งคะ เห็นเราเป็นเมดโรงแรมเลย สามีนี่เลี้ยงข้าวแล้วยังให้เงินติดกระเป๋าอีกต่างหาก เราปวดหัวมาก เหมือนมีลูกวัยรุ่นโดยไม่รู้ตัว
อีกคนเป็นเพื่อนสาวบราซิลที่เค้ารู้จักกันนานมาก นานก่อนมารู้จักเราอีก เคยเจอกันมาก่อนที่จะมารู้จักเราครั้งนึง คราวที่แล้วไม่ได้พักด้วยกัน คราวนี้เค้าชวนมาพักด้วย ตกลงกันก่อนมาถามเราอีก ตอนนั้นเราโกรธมาก นี่เมียนะ คิดจะถามก่อนมั๊ย แต่เราก็รู้จักนิสัยเค้าอ่ะนะคะ เป็นพวกคิดน้อย ไม่ค่อยรู้สึกอะไร ส่วนเราก็เป็นพวกขี้หึงค่ะ ขี้หึงมากกกกก เวลาออกไปไหนด้วยกัน เค้าก็จะเดินกันสองคนปล่อยเรารั้งท้าย คุยกันกระหนุงกระหนิงกระจุ๋งกระจิ๋ง นั่งกินข้าวก็คุยกันกระจุกกระจิก ไปกินข้าวข้างนอกเราก็เหมือนส่วนเกินตลอด เราเก็บมาร้องไห้หลายทีเลยค่ะว่าเห็นชั้นเป็นอะไรฟร่ะ (ที่สำคัญคือหุ่นนางเซี๊ยะมากกกก ในขณะที่เราหน้าอกก็ไม่มี เอวก็ไม่คอด แถมมีพุงอีก) จนสุดท้ายเราทนไม่ไหวถ้าจะเดินคู่กัน ชั้นก็จะเดินหน้ากระดานเรียงสามนี่แหละ จับมือสามีเดิน แต่ขอโทษทีเถอะ พอคนเดินสวนมาไม่รู้อีท่าไหน เราก็ต้องเป็นคนหลบทุกที กลายเป็นไปเดินหลังสามีซะงั้นอ่ะทั้งๆ ที่มือก็ยังจับกันอยู่นะคะ แต่ของเรายังดีค่ะเพราะเค้าแค่มาเที่ยว มีกำหนดกลับ อยู่ประมาณเดือนเดียว ตอนนั้นเราตัดสินใจคุยกับสามีนะคะ ว่าเราไม่ไหวแล้วนะ เราเหมือนเป็นส่วนเกินมากเลย แล้วจบด้วย 'I trust you. I know there's nothing and I'm silly. I guess it's all because I love you but I just can't stop this feeling.' แนวๆ นี้อ่ะค่ะ พูดไปน้ำตาก็ไหลพรากๆ ไป แต่สามีเรารู้ตัวนะคะ ไปไหนด้วยกันเค้าจะเดินเข้ามาจับมือเราเอง เดินโอบเราเอง ทุกวันนี้สามีเรายังเห็นเป็นเรื่องโจ๊ก เอามาแซวเราอยู่เรื่อยๆ แต่ครั้งที่สามที่ชีมาเที่ยว สามีเราหาที่อยู่อื่นให้เค้าไปอยู่ ไม่ให้มาพักที่บ้านโดยที่เราไม่ต้องเอ่ยปาก บางทีสามีคุณอาจจะเป็นเหมือนสามีเรานะคะ อาจจะต้องมีกระทุ้งนิดๆ บ้าง ขอให้เรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดีนะคะ
แก้ไขคำผิดค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ควรจะระแวงผู้หญิงคนนี้มั๊ยหรือควรจะปล่อยวาง