เชื่อมั๊ยตอนที่สุเทพเริ่มม้อบนกหวีดกรีดคลั่ง บอกตรงๆว่าผมเครียด โกรธ แค้น ว่าทำไมรัฐบาลไม่ทำอะไรเสียที
นั่งเฉยอยู่ได้ ทำไมไม่ใช้กำลังสลายม้อบ ทั้งที่ผมก็รู้อยู่ว่าถ้าทำก็จะเข้าทางให้ทหารใช้เป็นเหตุผลในการปฏิวัติ
นานวันม้อบก็ประกาศยกระดับขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนมากมายพากันออกมาแสดงตนเป็นคนรักชาติ คลั่งชาติ บางคนถึงกับคิดว่าตัวเอง
เป็นนักรบเอก เป็นทหารกล้า ยกทัพไปมา ยึดโน่นยึดนี่ ผู้คนหันมาคล้องนกหวีด สาวๆผูกโบว์
ลายธงชาติ ผู้ชายใส่สายข้อมือ บางบ้านเอาธงมาติดหน้าบ้านบ้าง ติดรถบ้าง พอกำนันนัดให้ออกมา
แสดงพลัง ผู้คนก็ออกมาเดินแล้วก็ถ่ายรูปอัฟเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม เป็นทืครึกครื้น มีการยกขบวนไปยึดสถาน
ที่สำคัญกะจะให้แตกหัก เกิดการปะทะ ที่ไหนได้เจอเปิดประตูต้อนรับด้วยรอยยิ้ม น้ำเย็น มีอาหารเลี้ยง
ม้อบถึงกับงงเงิบ
นัดครั้งสำคัญเจอยุบสภา ม้อบก็ประกาศชัยชนะ
กำนันครับ แผนนารีเยือกเย็นคริงนี้นับว่าได้ผลดีนะ เพราะมันทำให้กำนันคุ้มคลั่งจนถึงกับบ้า
เกินเยียวยากลายเป็นตัวตลกไปในทันที วันนี้หลายบ้านปลดธงชาติออก สาวๆเลิกใช้โบว์ผูกผมลาย
ธงชาติ หลายคนเก็บนกหวีด เลิกเป่า เฟสบุคดูเงียบเหงา แต่ยังมีเหลิอยู่. สำหรับสาวกตัวจริงที่มีพื้นฐาน
จิตใจที่ถูกปลูกฝังควาเกลียดชังจสหยั่งรากฃึก
ผมว่านะใครที่อยู่เบื้องหลังยิ่งคลั่งกว่า เพราะคนที่คิดว่าโง่กลับสุขุม เยือกเย็น อดทน ซึ่งฝ่ายกำนัน
อาจใช้คำอื่นแทนคำว่าอดทน
กลยุทธนี้เป็นครั้งแรกนะที่นำมาใช้ โดยฝ่ายตรงข้ามไม่คาดคิดว่าจะเจอไม้นี้ ทั้งยั่วทั้งยุ ก็ไม่รับมุข
การกระชับสัมพันธ์กับนานาประเทศกลายเป็นเครื่องมือป้องกันได้ในระดับนึง ที่แสดงใหเเห็นว่ารัฐบาล
ไม่โดดเดี่ยวบนเวทีโลก การยึดมืนในรัฐธรรมนูญใช้เป็นโล่ห์และเป็นสัญญลักษณ์ของประชาธิปไตย
การเมืองก็แก้ด้วยการเมือง กำนีนยังคงวิ่งไปมาอย่างว้าวุ่นในขณะที่นารียังคงเยือกเย็น
คนที่กระอักเลือดเห็นจะเป็นกำนันและคนที่สนับสนุน ยิ่งเต้นยิ่งเหนื่อย ยิ่งบ้า ยิ่งคลั่ง
นารียังคงเยือกเย็นนั่งกินไก่ย่างกับข้าวเหนียวบนขบวนรถไฟในเส้นทางที่อบอุ่นอย่างมั่นคง
มาถึงวันนี้ผมไม่เครียดกับกำนันแล้ว ปล่อยแกไต่ระดับจนหาทางลงไม่เจอ พร้อมกับผู้สนับสนุนแกที่คงกำลัง
หงุดหงิดแทบกระอักออกมาเป็นเลือดไปก็แล้วกัน ส่วนผมจะไปเทืยวยาวรับอากาศเย็นในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง
หวังว่ากลับมาจะได้เห็นการเลือกตั้งนะครับ เจอกันวันที่. 2 กพ
นารีเยือกเย็น กลยุทธที่ทำให้ใครหลายคนคลั่ง
นั่งเฉยอยู่ได้ ทำไมไม่ใช้กำลังสลายม้อบ ทั้งที่ผมก็รู้อยู่ว่าถ้าทำก็จะเข้าทางให้ทหารใช้เป็นเหตุผลในการปฏิวัติ
นานวันม้อบก็ประกาศยกระดับขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนมากมายพากันออกมาแสดงตนเป็นคนรักชาติ คลั่งชาติ บางคนถึงกับคิดว่าตัวเอง
เป็นนักรบเอก เป็นทหารกล้า ยกทัพไปมา ยึดโน่นยึดนี่ ผู้คนหันมาคล้องนกหวีด สาวๆผูกโบว์
ลายธงชาติ ผู้ชายใส่สายข้อมือ บางบ้านเอาธงมาติดหน้าบ้านบ้าง ติดรถบ้าง พอกำนันนัดให้ออกมา
แสดงพลัง ผู้คนก็ออกมาเดินแล้วก็ถ่ายรูปอัฟเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม เป็นทืครึกครื้น มีการยกขบวนไปยึดสถาน
ที่สำคัญกะจะให้แตกหัก เกิดการปะทะ ที่ไหนได้เจอเปิดประตูต้อนรับด้วยรอยยิ้ม น้ำเย็น มีอาหารเลี้ยง
ม้อบถึงกับงงเงิบ
นัดครั้งสำคัญเจอยุบสภา ม้อบก็ประกาศชัยชนะ
กำนันครับ แผนนารีเยือกเย็นคริงนี้นับว่าได้ผลดีนะ เพราะมันทำให้กำนันคุ้มคลั่งจนถึงกับบ้า
เกินเยียวยากลายเป็นตัวตลกไปในทันที วันนี้หลายบ้านปลดธงชาติออก สาวๆเลิกใช้โบว์ผูกผมลาย
ธงชาติ หลายคนเก็บนกหวีด เลิกเป่า เฟสบุคดูเงียบเหงา แต่ยังมีเหลิอยู่. สำหรับสาวกตัวจริงที่มีพื้นฐาน
จิตใจที่ถูกปลูกฝังควาเกลียดชังจสหยั่งรากฃึก
ผมว่านะใครที่อยู่เบื้องหลังยิ่งคลั่งกว่า เพราะคนที่คิดว่าโง่กลับสุขุม เยือกเย็น อดทน ซึ่งฝ่ายกำนัน
อาจใช้คำอื่นแทนคำว่าอดทน
กลยุทธนี้เป็นครั้งแรกนะที่นำมาใช้ โดยฝ่ายตรงข้ามไม่คาดคิดว่าจะเจอไม้นี้ ทั้งยั่วทั้งยุ ก็ไม่รับมุข
การกระชับสัมพันธ์กับนานาประเทศกลายเป็นเครื่องมือป้องกันได้ในระดับนึง ที่แสดงใหเเห็นว่ารัฐบาล
ไม่โดดเดี่ยวบนเวทีโลก การยึดมืนในรัฐธรรมนูญใช้เป็นโล่ห์และเป็นสัญญลักษณ์ของประชาธิปไตย
การเมืองก็แก้ด้วยการเมือง กำนีนยังคงวิ่งไปมาอย่างว้าวุ่นในขณะที่นารียังคงเยือกเย็น
คนที่กระอักเลือดเห็นจะเป็นกำนันและคนที่สนับสนุน ยิ่งเต้นยิ่งเหนื่อย ยิ่งบ้า ยิ่งคลั่ง
นารียังคงเยือกเย็นนั่งกินไก่ย่างกับข้าวเหนียวบนขบวนรถไฟในเส้นทางที่อบอุ่นอย่างมั่นคง
มาถึงวันนี้ผมไม่เครียดกับกำนันแล้ว ปล่อยแกไต่ระดับจนหาทางลงไม่เจอ พร้อมกับผู้สนับสนุนแกที่คงกำลัง
หงุดหงิดแทบกระอักออกมาเป็นเลือดไปก็แล้วกัน ส่วนผมจะไปเทืยวยาวรับอากาศเย็นในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง
หวังว่ากลับมาจะได้เห็นการเลือกตั้งนะครับ เจอกันวันที่. 2 กพ