เมื่อไม่กี่วันมานี่ผมกับเพื่อนคิดอยากจะไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ กรุงกันครับ แต่อยากสัมผัสบรรยากาศหนาวๆ ก็ดูกันหลายที่มากๆ แต่เนื่อวจากเรามีเวลาน้อย 2 วัน 1 คืน เท่านั้น เราก็เลยเหลือตัวเลือก แค่ไม่กี่ที่ คือ เขาใหญ่ วังน้ำเขียว และ อุทยานแห่งชาติพุเตย แต่ 2 ที่แรก เราก็ไปมาแล้ว ส่วนพุเตย ยังไม่เคยไปสัมผัส..เราก็เลยเลือกที่จะไปกันที่นี่ครับ ...
วันที่เราไป ได้มีโอกาสโทรไปถามเจ้าหน้าที่ ครับว่า ที่นั้นเป็นอย่างไรบ้างกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลที่นั้น ก็ได้รับคำตอบว่า "ช่วงนี้คนเยอะนะค่ะ เพราะจะมีคนมาจัดกิจกรรมกันที่นี่ มาจากชุมพรค่ะ อาจจะไม่สะดวกเรื่อง ห้องน้ำและที่พัก" แต่เราก็ยืนยันจะไปกันครับ
จนกระทั้งก็ถึงวันที่เราเดินทาง เนื่องจากเรามีเวลาน้อยมาก เราจึงตัดที่จะไม่ไป ดงสน และจุดเครื่องบินตก แต่เรามุ่งหน้าไปน้ำตกพุกระทิง แทน แต่แล้ว 5555 ไปถึง น้ำไม่มีเลยครับ แห้งไปหมดเลยย ทำให้เรารีบมุ่งหน้าตรงไปที่ จุดกางเต๊นท์ตะเพินคี่ทันที่ จุดนี้เป็นจุดที่ผมและเพื่อนจะพักค้างแรม รับลมหนาว เค้าสายหมอกกันครับ
แต่แล้วเจ้าหน้าที่สาว ที่คาดว่านะจะเป็นชาวกระเหี่ยง ที่ทำงานให้อุทยานก็บอกว่า เด๋วจะมีคนมาพัก ซึ่งเขาได้ทำการจองที่ไว้เกือบหมดครับ ทำให้เราไม่สามารถที่จะเลือกกางเต๊นท์ตามจุดที่ต้องการได้ครับ..แต่เนื่องจากเราก็เป็นคนหนึ่งที่โทรมาสอบถามแล้ว เจ้าหน้าที่สาวคนนี้จำเสียงของเราได้ ก็เลยพาไปอีกที่นึง บริเวณเดียวกัน ห่างจากที่พักของนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ประมาณ 5-6 เมตร แม้ว่าไกลห้องน้ำไปนิด แต่ถือว่าไม่มาก สำหรับผมคิดว่า มันก็โอเคนะ... ขอบคุณเจ้าหน้าที่สาวจริงๆ ^^
ช่วงบ่ายที่เราไปถึง ส่วนใหญ่จะใช่เวลาไปกับการตังค์แค้มป์และ เตรียมอาหาร เลยไม่ได้ไปไหนสักเท่าไหร่นัก น้ำตกตะเพินคี่ก็ไม่ได้ไปครับ เฮ้อ...พอดีมีคนมาไปมาแล้วบอกว่า น้ำน้อยมาก เราก็เลยใช้เวลาตอนบ่ายๆ นอนๆๆๆๆๆๆๆ...
จนตกดึก..สิ่งที่เราไม่คาดคิดก็ได้ปรากฎต่อหน้าเราครับ นั้นคือ.......
ดาวมากมาย ที่ ส่งประกายบนท้องฟ้า ที่พุเตยแห่งนี้
นี่จุดกางเต๊นท์ของพวกเราครับ
ส่วนนี่ก็ดาวบนท้องฟ้า คืนนั้นครับ
ข้างๆเต๊นท์ของพวกเรา มีนักท่องเที่ยวมากันเยอะเลยย ทำให้พื้นที่เหลือน้อยมาก นักท่องเที่ยวหลายกลุ่มก็เลยต้องย้ายไปนอนที่โรงเรียนตะเพินคี่แทนครับ เนื่องจาก ส่วนหนึ่งไม่ชอบเสียงดัง ส่วนพวกเราทนได้ครับ ..แต่อะนะ เสียงดังจริงๆละ ตี 2 กว่าจะเลิก 55 นอนไม่หลับ
คืนนี้เรานอนดูดาวกันครับ กว่าจะหลับก็นู้น ตี 2 เลยครับ เพราะเสียงดังด้วยละ ...ฮึ่ม
พวกเรานัดกัน ตี 4 จะขึ้นไปดูความสวยงามบนยอดเขาเทวดากันครับ แต่เพราะนอนดึกก็เลยไม่ตื่น 555 อดๆๆ
เช้าแล้วครับ... แต่ดูท่าเมฆจะเยอะเราเลยไม่รีบไปเพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า ขึ้นไปอาจจะเจอแต่เมฆบังหมด
เต๊นท์ข้างๆ ยังไม่ตื่นกันเลบครับ 55 ดึกซะขนาดนั้น
ตอนนี้ 6 โมงครึ่งแล้วครับ ไหนๆ มาแล้วครับ ก็เลยต้องไปดูซะหน่อย ว่ายอดเขาเทวดาเป็นยังไง เอาละไปกันดีกว่า เดินไปๆ หลงครับ เพราะทางขึ้นไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ครับ โชคดีที่ชาวบ้านแถวนั้นบอกทาง เลยไปต่อได้ ระยะทาง ผมไม่แน่ใจ ประมาณ 900 เมตร มั้งครับ เดินประมาณ 45 องศา เล่นเอาเหนื่อยเลยครับ มีกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินสวนพวกเราลงมา ผมเลยถามเขาว่าสวยมั๊ยครับ เขาตอบว่า มีแต่เมฆบังหมดเลยค่ะ โชคดีจริงๆเลยครับ ที่ผมไม่รีบขึ้นไปซะก่อน เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ และดวงจริงๆ เอาละเดินกันต่อ
ขึ้นไปถึงจะเห็นพระพุทธรูปก่อนเลยครับ แสดงว่า คุณแน่มากที่ขึ้นมาถึงนี่ได้
ถ่ายรูปป้ายซะหน่อย ^^
นี่คือวิวเบื้องหน้าของผมครับ
อีกซักรูปครับ...เริ่มสายละ
มาแล้วห้ามลืมถ่ายกับป้ายนะครับ ไม่งั้นพลาดอย่างใหญ่หลวงเลยยยย
ลงมาแดดแรงมากเลยครับ แถมคนไปไหนหมดแล้ว
กลุ่มเราเป็นกลุ่มสุดท้ายครับ ไม่เหลือใครเลยย
จบแล้วครับกับเวลา 2 วันหนึ่งคืนที่รวดเร็วกับบรรยากาศหนาวๆ ที่อุทยานแห่งชาติพุเตย บางครั้งไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวบางที่ก็ต้องพกดวงไปเยอะๆนะครับ ไม่งั้นอาจจะไม่ประทับใจเท่าไหร่นัก แต่การไปเที่ยวอย่าคิดมากครับ ขอแค่เราได้เที่ยวและมีความสุขกับการเดินทางก็พอแล้วครับ แค่นี้ก็มีความสุขแล้วละครับ
ลืมบอกไปครับ ขากลับแวะงานที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณ มีงานเกษตรครับ มีดอกไม้มากมายมาขาย และทุ่งทานตะวันครับ
พึ่งรู้ว่าสุพรรณก็มีทุ่งทานตะวัน
ขอให้มีความสุขกับการเดินทางนะครับ ^^
[CR] พิชิตยอดเขาเทวดา กับใจหนาวๆ
วันที่เราไป ได้มีโอกาสโทรไปถามเจ้าหน้าที่ ครับว่า ที่นั้นเป็นอย่างไรบ้างกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลที่นั้น ก็ได้รับคำตอบว่า "ช่วงนี้คนเยอะนะค่ะ เพราะจะมีคนมาจัดกิจกรรมกันที่นี่ มาจากชุมพรค่ะ อาจจะไม่สะดวกเรื่อง ห้องน้ำและที่พัก" แต่เราก็ยืนยันจะไปกันครับ
จนกระทั้งก็ถึงวันที่เราเดินทาง เนื่องจากเรามีเวลาน้อยมาก เราจึงตัดที่จะไม่ไป ดงสน และจุดเครื่องบินตก แต่เรามุ่งหน้าไปน้ำตกพุกระทิง แทน แต่แล้ว 5555 ไปถึง น้ำไม่มีเลยครับ แห้งไปหมดเลยย ทำให้เรารีบมุ่งหน้าตรงไปที่ จุดกางเต๊นท์ตะเพินคี่ทันที่ จุดนี้เป็นจุดที่ผมและเพื่อนจะพักค้างแรม รับลมหนาว เค้าสายหมอกกันครับ
แต่แล้วเจ้าหน้าที่สาว ที่คาดว่านะจะเป็นชาวกระเหี่ยง ที่ทำงานให้อุทยานก็บอกว่า เด๋วจะมีคนมาพัก ซึ่งเขาได้ทำการจองที่ไว้เกือบหมดครับ ทำให้เราไม่สามารถที่จะเลือกกางเต๊นท์ตามจุดที่ต้องการได้ครับ..แต่เนื่องจากเราก็เป็นคนหนึ่งที่โทรมาสอบถามแล้ว เจ้าหน้าที่สาวคนนี้จำเสียงของเราได้ ก็เลยพาไปอีกที่นึง บริเวณเดียวกัน ห่างจากที่พักของนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ประมาณ 5-6 เมตร แม้ว่าไกลห้องน้ำไปนิด แต่ถือว่าไม่มาก สำหรับผมคิดว่า มันก็โอเคนะ... ขอบคุณเจ้าหน้าที่สาวจริงๆ ^^
ช่วงบ่ายที่เราไปถึง ส่วนใหญ่จะใช่เวลาไปกับการตังค์แค้มป์และ เตรียมอาหาร เลยไม่ได้ไปไหนสักเท่าไหร่นัก น้ำตกตะเพินคี่ก็ไม่ได้ไปครับ เฮ้อ...พอดีมีคนมาไปมาแล้วบอกว่า น้ำน้อยมาก เราก็เลยใช้เวลาตอนบ่ายๆ นอนๆๆๆๆๆๆๆ...
จนตกดึก..สิ่งที่เราไม่คาดคิดก็ได้ปรากฎต่อหน้าเราครับ นั้นคือ.......
ดาวมากมาย ที่ ส่งประกายบนท้องฟ้า ที่พุเตยแห่งนี้
นี่จุดกางเต๊นท์ของพวกเราครับ
ส่วนนี่ก็ดาวบนท้องฟ้า คืนนั้นครับ
ข้างๆเต๊นท์ของพวกเรา มีนักท่องเที่ยวมากันเยอะเลยย ทำให้พื้นที่เหลือน้อยมาก นักท่องเที่ยวหลายกลุ่มก็เลยต้องย้ายไปนอนที่โรงเรียนตะเพินคี่แทนครับ เนื่องจาก ส่วนหนึ่งไม่ชอบเสียงดัง ส่วนพวกเราทนได้ครับ ..แต่อะนะ เสียงดังจริงๆละ ตี 2 กว่าจะเลิก 55 นอนไม่หลับ
คืนนี้เรานอนดูดาวกันครับ กว่าจะหลับก็นู้น ตี 2 เลยครับ เพราะเสียงดังด้วยละ ...ฮึ่ม
พวกเรานัดกัน ตี 4 จะขึ้นไปดูความสวยงามบนยอดเขาเทวดากันครับ แต่เพราะนอนดึกก็เลยไม่ตื่น 555 อดๆๆ
เช้าแล้วครับ... แต่ดูท่าเมฆจะเยอะเราเลยไม่รีบไปเพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า ขึ้นไปอาจจะเจอแต่เมฆบังหมด
เต๊นท์ข้างๆ ยังไม่ตื่นกันเลบครับ 55 ดึกซะขนาดนั้น
ตอนนี้ 6 โมงครึ่งแล้วครับ ไหนๆ มาแล้วครับ ก็เลยต้องไปดูซะหน่อย ว่ายอดเขาเทวดาเป็นยังไง เอาละไปกันดีกว่า เดินไปๆ หลงครับ เพราะทางขึ้นไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ครับ โชคดีที่ชาวบ้านแถวนั้นบอกทาง เลยไปต่อได้ ระยะทาง ผมไม่แน่ใจ ประมาณ 900 เมตร มั้งครับ เดินประมาณ 45 องศา เล่นเอาเหนื่อยเลยครับ มีกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินสวนพวกเราลงมา ผมเลยถามเขาว่าสวยมั๊ยครับ เขาตอบว่า มีแต่เมฆบังหมดเลยค่ะ โชคดีจริงๆเลยครับ ที่ผมไม่รีบขึ้นไปซะก่อน เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ และดวงจริงๆ เอาละเดินกันต่อ
ขึ้นไปถึงจะเห็นพระพุทธรูปก่อนเลยครับ แสดงว่า คุณแน่มากที่ขึ้นมาถึงนี่ได้
ถ่ายรูปป้ายซะหน่อย ^^
นี่คือวิวเบื้องหน้าของผมครับ
อีกซักรูปครับ...เริ่มสายละ
มาแล้วห้ามลืมถ่ายกับป้ายนะครับ ไม่งั้นพลาดอย่างใหญ่หลวงเลยยยย
ลงมาแดดแรงมากเลยครับ แถมคนไปไหนหมดแล้ว
กลุ่มเราเป็นกลุ่มสุดท้ายครับ ไม่เหลือใครเลยย
จบแล้วครับกับเวลา 2 วันหนึ่งคืนที่รวดเร็วกับบรรยากาศหนาวๆ ที่อุทยานแห่งชาติพุเตย บางครั้งไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวบางที่ก็ต้องพกดวงไปเยอะๆนะครับ ไม่งั้นอาจจะไม่ประทับใจเท่าไหร่นัก แต่การไปเที่ยวอย่าคิดมากครับ ขอแค่เราได้เที่ยวและมีความสุขกับการเดินทางก็พอแล้วครับ แค่นี้ก็มีความสุขแล้วละครับ
ลืมบอกไปครับ ขากลับแวะงานที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณ มีงานเกษตรครับ มีดอกไม้มากมายมาขาย และทุ่งทานตะวันครับ
พึ่งรู้ว่าสุพรรณก็มีทุ่งทานตะวัน
ขอให้มีความสุขกับการเดินทางนะครับ ^^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น