เห็นข่าวน้องการ์ตูนแล้วคิดว่า ประสบการณ์ของเรา น่าจะมีประโยชน์สำหรับทุกครอบครัว
ตอนเราอยู่อนุบาล 1( น่าจะประมาณ 3-4 ขวบ) ซึ่งก็ย้อนหลัง ไปหลายสิบปีอยู่นะคะ
เราเคยถูกหลอกในโรงเรียน
เราเป็นเด็กต่างจังหวัด(ต่างอำเภอ) อยู่โรงเรียนเอกชนใกล้ๆบ้าน
มีวันหนึ่งช่วงพักเที่ยงหน้าห้องเรียนอนุบาล 1 มีคนมาถามหาเรา บอกว่าเป็นเพื่อนแม่ เป็นผู้หญิงท่าทางไม่ได้น่ากลัวเข้ามาคุยกับเรา (เราจำไม่ได้จริงๆว่า คุณครูมาถามหรือเปล่าว่า "ใช่เพื่อนคุณแม่ไหม?" ความรู้สึกของเราในเวลานั้น คือกลัวแม่ดุ ว่าจำเพื่อนแม่ไม่ได้มากกว่า = =" ) ผู้หญิงคนนั้นพาเราไปกินขนมที่โรงอาหาร พาเดินเล่นในโรงเรียน พาไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็พากลับมาห้องเรียน (มาคิดตอนนี้สยองขวัญมาก เพราะที่เขาพาเดินวนในโรงเรียน แล้วต้องพากลับมาส่งที่ห้อง อาจเป็นเพราะหาช่องทางเอาเราออกจากโรงเรียนไม่ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ) เราไม่รู้เรื่องเลยว่ามีเรื่องอะไรผิดปกติ กลับมาบ้านตอนเย็นสร้อยคอกับพระก็ไม่อยู่แล้ว แม่มาซักถาม เลยรู้ว่ามีคนบอกว่าเป็นเพื่อนแม่มาหาที่โรงเรียน (ซึ่งแม่สอบถามเพื่อนๆแล้วไม่มีใครไปหาเราที่โรงเรียนแน่ๆ) สร้อยที่หายไป น่าจะเป็นช่วงที่เขาพาเราเข้าห้องน้ำ เพราะคนไม่พลุกพล่าน เขาไม่ได้เข้าไปในห้องน้ำกับเรานะคะ รออยู่ข้างนอก แล้วพอเราออกมาจากห้องน้ำ เขาจะเช็ดหน้าให้ คิดว่าตอนนั้น ที่เขาเอาสร้อยเราไปเพราะเป็นช่วงเดียวที่เขาเอามือมาถูกบริเวณคอเรา นอกนั้นเขาจะแค่จูงมือ เราโชคดีมากๆ ที่ไม่ได้โดนกระทำชำเรา ลวนลาม หรือละเมิดใดๆนะคะ คิดว่าเขาคงหวังทรัพย์สิน(บวก - ลบ ตัวเรา ถ้าพาออกจากโรงเรียนได้) หลังจากนั้นเราก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย จำได้แค่ถูกแม่ดุ มาเข้าใจว่าถูกดุเรื่องอะไร น่ากลัวแค่ไหน ก็ประมาณ ป. 4 - ป. 5 แล้วค่ะ
เพิ่งคุยกันกับแม่เมื่อเร็วๆนี้ แม่บอกเสียใจที่ไม่ได้เตือนลูกให้ระวังคนแปลกหน้าเพราะลูกเด็กมาก เราบอกแม่ว่า ตอนนั้นเรางง ไม่เข้าใจหรอกว่าถูกดุเรื่องอะไร เพราะก่อนหน้านั้น แม่สอนให้ เรายิ้ม เชื่อฟัง ยกมือไหว้ ผู้ใหญ่ ไม่งั้นจะถูกดุว่า ว่าเป็นเด็กไม่ดี ไม่น่ารัก >>> หลังจากนั้น เราเลยเป็นเด็กติสต์ ไม่ค่อยยิ้ม คบคนยาก (จำได้ว่าไม่ชอบเลยที่มีคนยิ้มให้ ชวนคุย ขอหอมแก้มอะไรแบบนั้น)
อย่าลืม ไม่ควรใส่ของมีค่าใดๆให้ลูก ของรับขวัญอะไรก็เก็บไว้ที่บ้านดีกว่านะคะ
อย่าลืม บอกลูกเสมอ ให้ระวังคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัว อย่าเชื่อ อย่าตามเขาไป อย่ารับขนมที่คนอื่นให้ ถ้าอยากกินให้มาถามพ่อแม่ก่อนทุกครั้ง (ถ้าไปข้างนอก ควรบอกลูกทุกครั้ง ว่าถ้าหลงทางกับพ่อแม่แล้วควรทำอย่างไร)
อย่าดุ เพราะเด็กเขาจะกลัว ไม่กล้าบอก ไม่กล้าเล่า ถ้ามีใครมาตีสนิท ชวนเขาคุย
ที่สำคัญ อย่าคิดว่าเขาเด็กเกินไป ไม่เข้าใจ ยังไม่ต้องสอน เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ไม่เลือกเวลา
สุดท้ายนี้ ขอให้เรื่องร้ายๆ อย่าได้เกิดขึ้นกับเด็กคนไหนๆอีกเลยนะคะ
เล่าประสบการณ์ "โรงเรียน คือ หนึ่งในสถานที่ที่พ่อแม่ควรต้องเฝ้าระวัง"
ตอนเราอยู่อนุบาล 1( น่าจะประมาณ 3-4 ขวบ) ซึ่งก็ย้อนหลัง ไปหลายสิบปีอยู่นะคะ
เราเคยถูกหลอกในโรงเรียน
เราเป็นเด็กต่างจังหวัด(ต่างอำเภอ) อยู่โรงเรียนเอกชนใกล้ๆบ้าน
มีวันหนึ่งช่วงพักเที่ยงหน้าห้องเรียนอนุบาล 1 มีคนมาถามหาเรา บอกว่าเป็นเพื่อนแม่ เป็นผู้หญิงท่าทางไม่ได้น่ากลัวเข้ามาคุยกับเรา (เราจำไม่ได้จริงๆว่า คุณครูมาถามหรือเปล่าว่า "ใช่เพื่อนคุณแม่ไหม?" ความรู้สึกของเราในเวลานั้น คือกลัวแม่ดุ ว่าจำเพื่อนแม่ไม่ได้มากกว่า = =" ) ผู้หญิงคนนั้นพาเราไปกินขนมที่โรงอาหาร พาเดินเล่นในโรงเรียน พาไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็พากลับมาห้องเรียน (มาคิดตอนนี้สยองขวัญมาก เพราะที่เขาพาเดินวนในโรงเรียน แล้วต้องพากลับมาส่งที่ห้อง อาจเป็นเพราะหาช่องทางเอาเราออกจากโรงเรียนไม่ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ) เราไม่รู้เรื่องเลยว่ามีเรื่องอะไรผิดปกติ กลับมาบ้านตอนเย็นสร้อยคอกับพระก็ไม่อยู่แล้ว แม่มาซักถาม เลยรู้ว่ามีคนบอกว่าเป็นเพื่อนแม่มาหาที่โรงเรียน (ซึ่งแม่สอบถามเพื่อนๆแล้วไม่มีใครไปหาเราที่โรงเรียนแน่ๆ) สร้อยที่หายไป น่าจะเป็นช่วงที่เขาพาเราเข้าห้องน้ำ เพราะคนไม่พลุกพล่าน เขาไม่ได้เข้าไปในห้องน้ำกับเรานะคะ รออยู่ข้างนอก แล้วพอเราออกมาจากห้องน้ำ เขาจะเช็ดหน้าให้ คิดว่าตอนนั้น ที่เขาเอาสร้อยเราไปเพราะเป็นช่วงเดียวที่เขาเอามือมาถูกบริเวณคอเรา นอกนั้นเขาจะแค่จูงมือ เราโชคดีมากๆ ที่ไม่ได้โดนกระทำชำเรา ลวนลาม หรือละเมิดใดๆนะคะ คิดว่าเขาคงหวังทรัพย์สิน(บวก - ลบ ตัวเรา ถ้าพาออกจากโรงเรียนได้) หลังจากนั้นเราก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย จำได้แค่ถูกแม่ดุ มาเข้าใจว่าถูกดุเรื่องอะไร น่ากลัวแค่ไหน ก็ประมาณ ป. 4 - ป. 5 แล้วค่ะ
เพิ่งคุยกันกับแม่เมื่อเร็วๆนี้ แม่บอกเสียใจที่ไม่ได้เตือนลูกให้ระวังคนแปลกหน้าเพราะลูกเด็กมาก เราบอกแม่ว่า ตอนนั้นเรางง ไม่เข้าใจหรอกว่าถูกดุเรื่องอะไร เพราะก่อนหน้านั้น แม่สอนให้ เรายิ้ม เชื่อฟัง ยกมือไหว้ ผู้ใหญ่ ไม่งั้นจะถูกดุว่า ว่าเป็นเด็กไม่ดี ไม่น่ารัก >>> หลังจากนั้น เราเลยเป็นเด็กติสต์ ไม่ค่อยยิ้ม คบคนยาก (จำได้ว่าไม่ชอบเลยที่มีคนยิ้มให้ ชวนคุย ขอหอมแก้มอะไรแบบนั้น)
อย่าลืม ไม่ควรใส่ของมีค่าใดๆให้ลูก ของรับขวัญอะไรก็เก็บไว้ที่บ้านดีกว่านะคะ
อย่าลืม บอกลูกเสมอ ให้ระวังคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัว อย่าเชื่อ อย่าตามเขาไป อย่ารับขนมที่คนอื่นให้ ถ้าอยากกินให้มาถามพ่อแม่ก่อนทุกครั้ง (ถ้าไปข้างนอก ควรบอกลูกทุกครั้ง ว่าถ้าหลงทางกับพ่อแม่แล้วควรทำอย่างไร)
อย่าดุ เพราะเด็กเขาจะกลัว ไม่กล้าบอก ไม่กล้าเล่า ถ้ามีใครมาตีสนิท ชวนเขาคุย
ที่สำคัญ อย่าคิดว่าเขาเด็กเกินไป ไม่เข้าใจ ยังไม่ต้องสอน เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ไม่เลือกเวลา
สุดท้ายนี้ ขอให้เรื่องร้ายๆ อย่าได้เกิดขึ้นกับเด็กคนไหนๆอีกเลยนะคะ