*ถ้ายาวก็ขออภัยด้วยนะ
คือว่าตอนนี้อยู่ชั้น ม.4 เทอม 2 นี่แหละ แต่ว่ารู้สึกว่าเรียนไม่ไหวแล้วอ่ะค่ะ เพราะเราเรียนสายวิทย์-คณิต แล้วเราปวดหัวมาก เอาตรงๆคือเราเป็นคนเรียนดีนะคะ ถ้าชอบอะไรจะพยายามอย่างเต็มที่ และทำได้ดีด้วย แต่วิชาชีวะกับฟิสิกส์เนี่ยสิ เรางงมากเลย ทีแรกพอเรียนพิเศษฟิสิกส์ก็เข้าใจนะ แต่ว่าพออยู่ในห้องแล้วสภาพแวดล้อมมันทำให้เราไม่มีกะจิตกะใจอยากจะเรียนเลยอ่ะ พูดแล้วอยากร้องไห้ คือเรายอมรับนะว่าเราเป็นคนพูดน้อยก็เลยไม่ค่อยมีคนเข้าหา คือเพื่อนเค้าจะเข้าหาเราเฉพาะเรื่องงานวิชาภาษาอังกฤษอย่างเดียวเลยอ่ะค่ะ [เราเก่งอังกฤษนะอันนี้ยอมรับ] แต่เรารู้สึกเหมือนเพื่อนไม่ค่อยจริงใจกับเราเลย แต่เราก็ยังคบกันอยู่นะคะเป็นกลุ่มใหญ่ แล้วทีนี้มันมีปัญหาพ่วงมาตั้งแต่ตอนม.ต้นอ่ะค่ะ คือตอนที่เข้าม.ต้นใหม่ๆ กลุ่มของพวกเราก็มีกันอยู่ 5 คน ซึ่ง 1 ในนั้นก็คือคนที่เราชอบค่ะ ไม่ได้เชิงว่าชอบแบบรักๆหรืออะไร แต่อยู่ด้วยแล้วเขินอ่ะค่ะไม่เหมือนคนอื่นๆในกลุ่ม [เค้าเป็นผู้หญิงนะคะ ปล.เราไม่ได้เป็นทอมแล้วก็ไม่ได้ชอบทอม เราก็เป็นผู้หญิงธรรมดาๆที่รู้สึกดีกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายค่ะ] พอขึ้นม.2-3 เราก็ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน แล้วเค้าก็พัฒนาตัวเองอ่ะค่ะ เราไม่ชอบที่เค้าเป็นแบบนั้นเลย เคยมั้ยคะเวลาชอบใครแล้วรู้สึกอยากเก็บเค้าไว้คนเดียวไม่อยากให้ใครมาชอบเค้า คือตอนม.1 เรายอมรับนะคะว่าเราก็น่ารักมีแต่คนเข้าหา ในขณะที่คนที่เราชอบคนนั้นเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบเดินก้มหน้า ผิวคล้ำๆ ฟันเหยินๆ (แต่เค้าน่ารักจริงๆนะคะ) พอขึ้นม.2 เค้าก็ไม่รู้ไปทำอะไรกับตัวเองมาอ่ะ คือเรานานๆทีจะเห็นเค้าอ่ะค่ะ คือที่เห็นคือเค้าผิวขาวขึ้นแล้วแถมดัดฟันด้วย ที่เจ็บที่สุดก็คือมีคนมาจีบเค้าเยอะเลยค่ะ T^T แล้วเค้าก็ตกลงคบกับคนๆนึง เป็นผู้หญิงด้วย คือเราแอบเห็นตอนเดินผ่านห้องเค้าอ่ะแล้วแบบพวกเค้าจูบกันค่ะ (พูดแล้วอยากร้องไห้+เจ็บใจ) แล้วคือเค้าเป็นพวกที่เอาแน่เอานอนไม่ได้คือไม่รู้ว่าเค้าหลงระเริงในความดูดีขึ้นของตัวเองหรือว่ายังไงแต่เค้าก็คบกับผู้ชายด้วยค่ะ คือผู้ชายอ่ะเค้าก็คบๆไปอย่างนั้นไม่ค่อยเท่าไร แต่กับผู้หญิงคนนั้นเค้าจูบกันอ่ะค่ะ แล้วคือเราเงิบอ่ะค่ะ ทำแบบนี้มันถูกต้องแล้วเหรอ? คบทีเดียวสองคนนี่มันก็เกินไปนะคะ ตอนนั่งเรียนในคาบมีคนจากห้องเค้ามาบอกหนูค่ะแล้วถึงไม่บอกหนูก็เคยเห็น ก็คือเค้ากับแฟนผู้หญิงเค้าคนนั้นจูบกันในขณะที่แฟนของเค้านั่งอยู่ข้างหลังอ่ะค่ะ คิดดูสิถ้าเกิดเราเป็นแฟนผู้ชายเค้านะเราขอเลิกนานแล้ว ทำแบบนี้มันใจร้ายที่สุด คือเรามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะว่าเค้าต้องหลงระเริงกับความดูดีของตัวเองขึ้นค่ะก็เลยทำแบบนั้น เพราะแต่ก่อนพอจะมีคนมาขอถ่ายรูปก็เอามือมาบังหน้า ไม่ก็หลบกล้อง เดินก้มหน้าตลอด พอตอนนี้ดูดีขึ้นก็ถึงกับถ่ายรูปตัวเองกับแฟนบอกตรงๆเราไม่ชอบคนแบบนี้เลยย [แต่ก็ชอบไปแล้ว] แล้วสุดท้ายแฟนผู้ชายเค้าก็เลยทนไม่ไหวค่ะ ขอเลิก เค้าก็กลับไปด่าว่าผู้ชายคนนั้น [คือถ้าไม่ติดที่ว่าเราไม่ได้ชอบเค้าเราด่า

ไปนานและ T^T] นี่ขนาดม.2นะคะ เรารู้สึกเงิบมาก ในใจคิดว่าหน้าตาบุคลิกมันเปลี่ยนคนเราได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ? พอขึ้นม.3ตอนจะปลายๆใกล้จะจบ ก็มีผู้ชายคนนึงกับเพื่อนผู้ชายคนนั้นคุยกันว่า ".....น่ารักขึ้นว่ะ ลองจีบดูสิ" แล้วผู้ชายคนนั้นก็ไปขอคบเค้าอีกค่ะโดยที่ยังมีแฟนผู้หญิงอยู่ แต่เผอิญว่าผู้ชายคนนี้เนี่ยดูท่าทางเค้าจะชอบเอามากๆเลยผิดกับคนก่อน ถึงขนาดเดินกอดแขนกันเลยทีเดียว เห็นแล้วร้องไห้ทุกครั้งเลยค่ะ คือเราอยากจะบอกว่า ผู้ชายสมัยนี้มันก็มองที่ภายนอกทั้งนั้นแหละ เพราะถ้าเกิดรักจริงๆ ทำไมไม่บอกชอบตั้งแต่ตอนแรกที่อยู่ห้องเดียวกันล่ะ มาขอคบด้วยตอนเค้าน่ารักขึ้นเนี่ยนะ เหอะๆ แล้วมันก็มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะแฟนผู้หญิงของเค้าไปพูดกับแฟนผู้ชายคนใหม่ของเค้าว่า "มาจีบ....ทำไม" คือพูดในเชิงไม่พอใจอ่ะค่ะ แล้วผู้ชายคนนั้นก็เอาไปฟ้องเค้าว่า "แฟนเธอมาบอกว่าห้ามไม่ให้เรายุ่งกับเธออ่ะ" แล้วพอเค้ารู้เค้าก็ไปว่าแฟนผู้หญิงเค้าว่า "ไปพูดแบบนั้นกับ....แบบนั้นได้ไง" แล้วหลังจากนั้นเค้ากับแฟนผู้หญิงเค้าก็เลิกกันค่ะแบบตัดขาดไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกเลย เอาตามความรู้สึกเลยนะเราสงสารแฟนผู้หญิงเค้ามากกว่าเค้าอีก พอไปเห็นสถานะในไลน์เค้าเขียนว่า "แรด ร่าน" เราเห็นเราก็รู้สึกไม่ดีนะที่มีคนมาว่าเค้าอ่ะ แต่ตอนนี้เราเริ่มรู้สึกแล้วว่าเค้ามัน "ร่าน" ของแท้เลยค่ะ แล้วพอจบม.3 ขึ้นม.4 เราได้โควตาขึ้น รร เดิมค่ะ เพราะเกรด GPA รวมเราก็ได้เยอะ [3.94] เลยไม่ต้องสอบ ส่วนเค้านั้นการเรียนตกลงค่ะ จากเมื่อก่อนตอนที่อยู่ม.1ด้วยกัน เราได้เกรด 4 เค้าได้ 3.87 พอตอนนี้เกรดเค้าตกเหลือ 3.4 เลยค่ะ [เราว่าต้องเป็นผลจากการที่เค้าหลงระเริงมากเกินไปแน่ๆ] แต่ GPA เค้าก็ผ่านเข้าม.4 นะคะ เราเลยได้ขึ้นม.4 รร เดิมกันค่ะ แถมที่แย่กว่านั้นคือเค้ากับแฟนผู้ชายคนนั้นของเค้าก็มาอยู่ห้องเดียวกับเราด้วย T^T เราไม่กล้ามองหน้าเค้าเลยค่ะ เค้ายังไม่รู้ตัวนะคะ แต่เราพยายามหลบหน้าเค้าตลอดเพราะทนเห็นพวกเค้าจู๋จี๋กันไม่ได้ค่ะ ในใจก็เจ็บปวด เราเลยเลือกที่จะมาอยู่กับอีกกลุ่มนึงไงคะที่ได้บอกไว้ตั้งแต่เกริ่นเรื่องอ่ะ [ที่ว่าคนในกลุ่มนั้นเข้าหาเราเฉพาะเรื่องงานอ่ะค่ะ] ตอนนี้เค้าก็ป๊อปปูลาร์ไปแล้วเรียบร้อยกลายเป็นคนดังในห้องเลยค่ะ แต่ไม่มีใครกล้าจีบเพราะแฟนเค้านั่งข้างๆ ส่วนเราก็ยังอยู่เหมือนเดิม เพราะเราได้บอกคนที่มาบอกชอบเราหมดแล้วว่าเราไม่ชอบผู้ชาย ตอนนี้ก็เลยไม่ค่อยมีผู้ชายเข้ามากวนเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ ซึ่งก็นับเป็นเรื่องดี แต่ด้วยเหตุผลนี้เนี่ยแหละ เราทนเห็นคนที่เราเคยแอบชอบมานานถึง 3 ปี คนที่เราอยากเก็บเค้าไว้คนเดียว ตอนนี้เค้ามีแฟนไปแล้วแถมจู๋จี๋กันทั้งวันอีก การเรียนก็แย่ลงอีก ถึงจะสวยขึ้นก็เถอะ ตอนนี้เรารู้สึกผิดหวังมากจริงๆค่ะ คนเรามันเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย พูดมาถึงนี่แล้วเอาจริงๆคือถ้าเป็นคนทั่วไปก็จะบอกว่า "เราก็อยู่ส่วนเรา เค้าก็อยู่ส่วนเค้าไปเลย" พูดน่ะมันง่ายอยู่นะแต่ทำเราทำไม่ได้หรอกค่ะ ต้องทนร้องไห้ทุกวันแบบนั้น เบ้าตาคงทะลุ HP อาจจะหมดหลอดก็ได้ค่ะ [ใช่เวลาเล่นมุกมั้ยเนี่ย] แล้วเราก็ขอพูดเกี่ยวกับปัญหาเรื่อง "สก๊อย" ต่อนะคะ ขอพูดไว้ก่อนเลยว่าเราเป็นเด็กโลกไอทีค่ะ เล่เกมส์ ไม่ชอบเที่ยวผับ หรือสก๊อย [เอ่อเคยได้ยินบทความของฝรั่งที่ว่าๆ วัยรุ่นมี 2 ประเภทคือ 1.พวกที่อยู่กับคอม โลกจินตนาการ ไซไฟ แฟนตาซี 2.พวกที่บ้าโซเชียล เที่ยวเตร่ไปวันๆบ้าดาราเกาหลี และทั้ง 2 ประเภทนี้มักจะคิดว่าอีกฝ่าไร้สาระ อ่ะค่ะ] แล้วเราก็เป็นประเภทที่ 1 ค่ะ เราเป็นเด็กเรียนหน้าตาน่ารัก ใส่แว่นดัดฟัน [กำ เราไม่ได้หลงตัวเองนะคะ เพราะคนเค้าชมบ่อย อิอิ] ที่ชอบโลกแห่งจินตนาการค่ะ เราชอบเล่นเกมส์มากอ่ะ ว่างๆก็ดูพี่เอกพี่ออยไรงี้ ว่างๆก็ LOL, Hon แถมพอตอนอยู่ที่ รร เรายังเล่นเกมส์แนว MOBA ในไอโฟนตอนคาบว่างบ่อยๆด้วยอ่ะ อยู่บ้านก็เล่นแต่คอม ไม่ก็ LOL บ้าง วาดรูปบ้าง คือเราชอบญี่ปุ่นมากอ่ะค่ะ ชอบดูอนิเมะ คอสเพลย์ สะสมฟิก ด๋อย มังงะ บลาๆสารพัด แต่เรื่องเรียนเราก็ยังสบายค่ะจนกระทั่ง ม.4 เนี่ยแหละ T^T คือคุณพ่อกับแม่เราเป็นพวกที่แบบว่าไม่ถึงกับตามใจแต่ว่าไว้ใจ เชื่อใจและให้อิสระในการทำทุกอย่างที่เราอยากทำค่ะซึ่งเราก็รักพ่อแม่แบบนี้ที่สุดดดดด ^^ ขนาดตอนป.2 เราเคยไปนอนบ้านเพื่อนที่เป็นฝรั่ง 3 วัน พ่อแม่เรายังให้ไปเลย แถมคุยถูกคอกับพ่อแม่ของอีกฝ่ายซะด้วย 5555 ตอนนี้ก็ยังให้อิสระกับเราอยู่ค่ะ แต่เราไม่ได้เหลิงนะคะ เรายังประพฤติตัวดีอยู่ ซึ่งเราว่าพ่อแม่คงอาจจะเห็นว่าการเรียนก็ไม่มีปัญหาอะไร แถมดูแลตัวเองได้ด้วย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ด้วยมั้งคะ ก็เลยเชื่อใจเรา และเราก็เป็นแบบนั้นจริงๆค่ะ [พูดจริงนะคะ ^^] อย่างที่บอกค่ะพ่อแม่ให้อิสระทุกอย่างยกเว้น "เรื่องเรียน!!!!!!" คือคุณแม่อ่ะไม่เท่าไรหรอกค่ะ แต่พ่อเนี่ยสิ T^T บังคับให้เราเรียนสายวิทย์ค่ะ เพราะพ่อบอกว่ามันกว้างขวางดีค่ะ เราเลยเชื่อพ่อแบบนั้น จนทำให้พลาดแบบนี้นี่แหละ พูดตามตรง หัวเราไปทุกด้านโดยเฉพาะภาษา ยกเว้นวิชาวิทย์ค่ะ ชีวะนี่เป็นวิชาที่เกลียดเข้าไส้เลยค่ะ เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยชอบสนใจเรื่องรอบตัวอยู่แล้วด้วยก็เลยทำให้เรียนชีวะไม่รู้เรื่องด้วยมั้งคะ บวกกับเราเป็นพวกไม่ชอบจำค่ะ คือจะมีหลายคนบอกใช่ป่ะคะว่าชีวะถ้าเรียนด้วยความเข้าใจก็จะเรียนได้ แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้จริงค่ะ เพราะเรามีอคติที่ว่าไม่ชอบสนใจเรื่องรอบตัวอ่ะค่ะ เลยไม่อยากจะเรียนรู้อะไรพวกนั้นก็เลยทำให้เกลียดวิชานี้ พอจำมันก็จำสลับกันมั่วไงคะเพราะว่าไม่เข้าใจ แต่เราถนัดด้านภาษาและการออกแบบ วาดรูปด้วย เราก็เลยกะจะย้ายออกจาก รร นี้แล้วไปอยู่ที่กรุงเทพค่ะ ปล.เราอยู่ภูเก็ตนะคะ ไม่ขอเอ่ยชื่อ รร ก็แล้วกัน แต่คาดว่า บางคนอาจจะเดาๆออกนะคะ 5555 เพราะว่าในห้องเราเนี่ยนอกจากจะเรื่องเค้าคนนั้นที่ทำให้เรากลุhมใจแล้ว ยังจะเรื่องของเพื่อนกลุ่มใหม่ที่ไม่จริงใจอีก แต่เรามีเพื่อนคนนึงนะคะที่จริงใจที่เคยอยู่ในกลุ่ม 5 คนกับเราตอนม.1 อ่ะค่ะ ตอนนี้เค้าก็อยู่ห้องเดียวกับเรา แต่ตอนนี้เค้าไปอยู่กับเค้าคนนั้นแล้วค่ะ T^T [ขอพูดสั้นๆว่าคนที่เราชอบอ่ะเป็นพวกที่แบบว่าถ้าอะไรที่ไม่ดีมาเกิดขึ้นกับตัวเองจะรับไม่ได้ แต่พอเกิดขึ้นกับคนอื่นกลับไม่รู้สึกอะไร ซึ่งก็อยากจะเล่าอยู่หรอกนะว่ามันเป็นยังไง แต่ถ้าเล่าคงยาวกว่านี้แน่นอนค่ะ สงสารคนอ่าน 55555 เอาเป็นว่าเค้าคนนั้นไม่สนใจความรู้สึกคนอื่นนั่นเองค่ะ] ซึ่งเพื่อนรักเราคนนั้นเค้าก็บอกว่าอยากมาอยู่กับเรามากเลยแต่ว่าเค้าดันอยู่กับคนที่เราชอบไปแล้วค่ะ ก็คือเพื่อนเราคนนี้บอกว่าถ้าแยกมาแล้วปล่อยให้เค้าคนนั้นอยู่กับแฟนกันสองคน เค้าจะทนไม่ได้ค่ะ เพราะเค้าคนนั้นจะใส่ความเราว่าเป็นพวกแย่งเพื่อนค่ะ T^T [คิดดูสิคะ คนเห็นแก่ตัวไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น แถมร่านผู้ชายอีกต่างหาก เราชอบไปได้ยังไง T^T แต่ตอนนี้ตัดใจเรียบร้อยแล้วค่ะ] ปล.สำหรับคนที่ไม่เก็ตว่าทำไมเค้าคนนั้นถึงต้องมากล่าวหาเรานะคะ ก็เพราะตอนนี้เราทำเป็นเหมือนว่าไม่รู้จักกันแล้วยังไงล่ะคะ ก็เลยเหมือนตัดความสัมพันธ์ไปด้วยเลย เพราะเราเป็นฝ่ายแรกที่เลือกจะออกห่างมาเอง
**สรุป คือเราได้สัญญากับเพื่อนรักเราคนนั้นไว้แล้วค่ะว่ายังไงเราจะต้องกลับมาเจอกันอีก และจะไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันด้วยค่ะ เราเชื่อใจคนนี้มากเพราะคบมาตั้งแต่ม.1 เราเคยไปนอนบ้านเค้าด้วย เค้าเข้าใจเราหมดทุกอย่างเลยค่ะ นิสัยดีด้วย ก็เลยตัดสินใจที่จะย้ายจาก รร เก่าที่เดิมจังหวัด ภูเก็ต ไปเข้าเตรียมที่กรุงเทพค่ะ เตรียมใหญ่อ่ะค่ะ สายภาษา-ญี่ปุ่นอ่ะค่ะ คืออยากจะถามว่าถ้าไปยื่นเรื่องขอร้องขอลาออกกลางคันเลยได้มั้ยคะ แล้วก็ไปรอสอบเข้าใหม่ ม.4 อีกครั้งในเดือนมีนาที่จะถึงปีหน้านี้อ่ะค่ะ ปล.ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าต้องซิ่ว T^T ไม่น่าเชื่อพ่อตั้งแต่แรกเลย ถ้ารู้ทันกว่านี้ป่านนี้มาเข้าที่เตรียมสายศิลป์-ภาษาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ T^T แต่เรายอมนะคะ เพราะเราคิดว่าถึงจะเสียเวลาไป 1 ปี เพื่อเรียนใหม่แต่อย่างน้อยก็ได้เรียนในสายที่ตนเองรักจริงๆแล้วค่ะ เราก็ไม่รู้อนาคตหรอกนะคะ แต่เราอยากทำงานเกี่ยวกับที่ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นแล้วก็งานสร้างอนิเมะอ่ะค่ะ เพราะตอนนี้ภาษาญี่ปุ่นเราก็พอไปวัดไปวานะคะ คือพูดง่ายๆอยากจะเรียนอนิเมะชั่นค่ะ คือมันต้องวิศวะคอมใช้มั้ยคะ T^T บอกตรงๆเลือกไม่เป็นเลยค่ะ ถ้าใครรู้ช่วยแนะนำคณะในมหาลัยที่เกี่ยวกับคอมแล้วก็สร้างอนิเมชั่น หรืองานออกแบบอะไรพวกนี้ให้ทีนะ + มหาลัยด้วยนะ ปล.ที่จริงมันต้องเรียนสายวิทย์สินะพวกวิศวะเนี่ยแต่เราจะไม่เรียนค่ะ เพราะเราไม่อยากเรียนชีวะ เดี่ยวจะไปหาเรียนพิเศษฟิสิกส์เพิ่มเติมเองค่ะ เพราะทุกอย่างเราก็พอไปได้แล้ว ภาษาก็ได้แล้วด้วย เราอยากเรียนสายที่ไม่ทำให้เราปวดหัวอ่ะค่ะ เพราะตอนนี้เราปวดหัวบ่อยมาก เรื่องเครียดรุมเร้าหลายเรื่อง แล้วเราก็รักประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้วด้วย เพราะงั้นคืออยากเข้า รร.เตรียมสายภาษา-ญี่ปุ่นมากค่ะ อยากจะถามอีกครั้งว่าจะย้ายออกมากลางคันแล้วรอไปสมัครสอบใหม่หรือซิ่วได้หรือเปล่าคะ แล้วข้อสอบเข้ามีวิชาอะไรบ้าง ยากมั้ย ขอแนวด้วยค่ะ ขอขอบคุณทุกคน^^
ย้ายโรงเรียน + ปัญหาหน่อยๆ ช่วยทีนะคะ T^T มันยาวมากสามารถเลื่อนไปอ่านตรง "**สรุป" ได้นะคะเพราะคำถามมันอยู่ตรงนั้นค่ะ
คือว่าตอนนี้อยู่ชั้น ม.4 เทอม 2 นี่แหละ แต่ว่ารู้สึกว่าเรียนไม่ไหวแล้วอ่ะค่ะ เพราะเราเรียนสายวิทย์-คณิต แล้วเราปวดหัวมาก เอาตรงๆคือเราเป็นคนเรียนดีนะคะ ถ้าชอบอะไรจะพยายามอย่างเต็มที่ และทำได้ดีด้วย แต่วิชาชีวะกับฟิสิกส์เนี่ยสิ เรางงมากเลย ทีแรกพอเรียนพิเศษฟิสิกส์ก็เข้าใจนะ แต่ว่าพออยู่ในห้องแล้วสภาพแวดล้อมมันทำให้เราไม่มีกะจิตกะใจอยากจะเรียนเลยอ่ะ พูดแล้วอยากร้องไห้ คือเรายอมรับนะว่าเราเป็นคนพูดน้อยก็เลยไม่ค่อยมีคนเข้าหา คือเพื่อนเค้าจะเข้าหาเราเฉพาะเรื่องงานวิชาภาษาอังกฤษอย่างเดียวเลยอ่ะค่ะ [เราเก่งอังกฤษนะอันนี้ยอมรับ] แต่เรารู้สึกเหมือนเพื่อนไม่ค่อยจริงใจกับเราเลย แต่เราก็ยังคบกันอยู่นะคะเป็นกลุ่มใหญ่ แล้วทีนี้มันมีปัญหาพ่วงมาตั้งแต่ตอนม.ต้นอ่ะค่ะ คือตอนที่เข้าม.ต้นใหม่ๆ กลุ่มของพวกเราก็มีกันอยู่ 5 คน ซึ่ง 1 ในนั้นก็คือคนที่เราชอบค่ะ ไม่ได้เชิงว่าชอบแบบรักๆหรืออะไร แต่อยู่ด้วยแล้วเขินอ่ะค่ะไม่เหมือนคนอื่นๆในกลุ่ม [เค้าเป็นผู้หญิงนะคะ ปล.เราไม่ได้เป็นทอมแล้วก็ไม่ได้ชอบทอม เราก็เป็นผู้หญิงธรรมดาๆที่รู้สึกดีกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายค่ะ] พอขึ้นม.2-3 เราก็ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน แล้วเค้าก็พัฒนาตัวเองอ่ะค่ะ เราไม่ชอบที่เค้าเป็นแบบนั้นเลย เคยมั้ยคะเวลาชอบใครแล้วรู้สึกอยากเก็บเค้าไว้คนเดียวไม่อยากให้ใครมาชอบเค้า คือตอนม.1 เรายอมรับนะคะว่าเราก็น่ารักมีแต่คนเข้าหา ในขณะที่คนที่เราชอบคนนั้นเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบเดินก้มหน้า ผิวคล้ำๆ ฟันเหยินๆ (แต่เค้าน่ารักจริงๆนะคะ) พอขึ้นม.2 เค้าก็ไม่รู้ไปทำอะไรกับตัวเองมาอ่ะ คือเรานานๆทีจะเห็นเค้าอ่ะค่ะ คือที่เห็นคือเค้าผิวขาวขึ้นแล้วแถมดัดฟันด้วย ที่เจ็บที่สุดก็คือมีคนมาจีบเค้าเยอะเลยค่ะ T^T แล้วเค้าก็ตกลงคบกับคนๆนึง เป็นผู้หญิงด้วย คือเราแอบเห็นตอนเดินผ่านห้องเค้าอ่ะแล้วแบบพวกเค้าจูบกันค่ะ (พูดแล้วอยากร้องไห้+เจ็บใจ) แล้วคือเค้าเป็นพวกที่เอาแน่เอานอนไม่ได้คือไม่รู้ว่าเค้าหลงระเริงในความดูดีขึ้นของตัวเองหรือว่ายังไงแต่เค้าก็คบกับผู้ชายด้วยค่ะ คือผู้ชายอ่ะเค้าก็คบๆไปอย่างนั้นไม่ค่อยเท่าไร แต่กับผู้หญิงคนนั้นเค้าจูบกันอ่ะค่ะ แล้วคือเราเงิบอ่ะค่ะ ทำแบบนี้มันถูกต้องแล้วเหรอ? คบทีเดียวสองคนนี่มันก็เกินไปนะคะ ตอนนั่งเรียนในคาบมีคนจากห้องเค้ามาบอกหนูค่ะแล้วถึงไม่บอกหนูก็เคยเห็น ก็คือเค้ากับแฟนผู้หญิงเค้าคนนั้นจูบกันในขณะที่แฟนของเค้านั่งอยู่ข้างหลังอ่ะค่ะ คิดดูสิถ้าเกิดเราเป็นแฟนผู้ชายเค้านะเราขอเลิกนานแล้ว ทำแบบนี้มันใจร้ายที่สุด คือเรามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะว่าเค้าต้องหลงระเริงกับความดูดีของตัวเองขึ้นค่ะก็เลยทำแบบนั้น เพราะแต่ก่อนพอจะมีคนมาขอถ่ายรูปก็เอามือมาบังหน้า ไม่ก็หลบกล้อง เดินก้มหน้าตลอด พอตอนนี้ดูดีขึ้นก็ถึงกับถ่ายรูปตัวเองกับแฟนบอกตรงๆเราไม่ชอบคนแบบนี้เลยย [แต่ก็ชอบไปแล้ว] แล้วสุดท้ายแฟนผู้ชายเค้าก็เลยทนไม่ไหวค่ะ ขอเลิก เค้าก็กลับไปด่าว่าผู้ชายคนนั้น [คือถ้าไม่ติดที่ว่าเราไม่ได้ชอบเค้าเราด่า
**สรุป คือเราได้สัญญากับเพื่อนรักเราคนนั้นไว้แล้วค่ะว่ายังไงเราจะต้องกลับมาเจอกันอีก และจะไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันด้วยค่ะ เราเชื่อใจคนนี้มากเพราะคบมาตั้งแต่ม.1 เราเคยไปนอนบ้านเค้าด้วย เค้าเข้าใจเราหมดทุกอย่างเลยค่ะ นิสัยดีด้วย ก็เลยตัดสินใจที่จะย้ายจาก รร เก่าที่เดิมจังหวัด ภูเก็ต ไปเข้าเตรียมที่กรุงเทพค่ะ เตรียมใหญ่อ่ะค่ะ สายภาษา-ญี่ปุ่นอ่ะค่ะ คืออยากจะถามว่าถ้าไปยื่นเรื่องขอร้องขอลาออกกลางคันเลยได้มั้ยคะ แล้วก็ไปรอสอบเข้าใหม่ ม.4 อีกครั้งในเดือนมีนาที่จะถึงปีหน้านี้อ่ะค่ะ ปล.ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าต้องซิ่ว T^T ไม่น่าเชื่อพ่อตั้งแต่แรกเลย ถ้ารู้ทันกว่านี้ป่านนี้มาเข้าที่เตรียมสายศิลป์-ภาษาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ T^T แต่เรายอมนะคะ เพราะเราคิดว่าถึงจะเสียเวลาไป 1 ปี เพื่อเรียนใหม่แต่อย่างน้อยก็ได้เรียนในสายที่ตนเองรักจริงๆแล้วค่ะ เราก็ไม่รู้อนาคตหรอกนะคะ แต่เราอยากทำงานเกี่ยวกับที่ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นแล้วก็งานสร้างอนิเมะอ่ะค่ะ เพราะตอนนี้ภาษาญี่ปุ่นเราก็พอไปวัดไปวานะคะ คือพูดง่ายๆอยากจะเรียนอนิเมะชั่นค่ะ คือมันต้องวิศวะคอมใช้มั้ยคะ T^T บอกตรงๆเลือกไม่เป็นเลยค่ะ ถ้าใครรู้ช่วยแนะนำคณะในมหาลัยที่เกี่ยวกับคอมแล้วก็สร้างอนิเมชั่น หรืองานออกแบบอะไรพวกนี้ให้ทีนะ + มหาลัยด้วยนะ ปล.ที่จริงมันต้องเรียนสายวิทย์สินะพวกวิศวะเนี่ยแต่เราจะไม่เรียนค่ะ เพราะเราไม่อยากเรียนชีวะ เดี่ยวจะไปหาเรียนพิเศษฟิสิกส์เพิ่มเติมเองค่ะ เพราะทุกอย่างเราก็พอไปได้แล้ว ภาษาก็ได้แล้วด้วย เราอยากเรียนสายที่ไม่ทำให้เราปวดหัวอ่ะค่ะ เพราะตอนนี้เราปวดหัวบ่อยมาก เรื่องเครียดรุมเร้าหลายเรื่อง แล้วเราก็รักประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้วด้วย เพราะงั้นคืออยากเข้า รร.เตรียมสายภาษา-ญี่ปุ่นมากค่ะ อยากจะถามอีกครั้งว่าจะย้ายออกมากลางคันแล้วรอไปสมัครสอบใหม่หรือซิ่วได้หรือเปล่าคะ แล้วข้อสอบเข้ามีวิชาอะไรบ้าง ยากมั้ย ขอแนวด้วยค่ะ ขอขอบคุณทุกคน^^