พาคุณแฟนไปหาหมอ แล้วคุณหมอสรุปว่า ยังไงๆก็ต้องใส่เครื่องช่วยฟัง เพราะเป็นหูหนวกระดับกลาง ทั้ง 2 ข้าง แต่ข้างซ้ายได้ยินมากกว่าข้างขวาเล็กน้อย เลยได้ฤกษ์ไปหาซื้อเครื่องช่วยฟังมาใช้ ค่ะ
เนื่องจากแฟนไม่อยากให้ใครเห็นเครื่องช่วยฟังที่ตัวเองใส่อยู่ กลัวเสียบุคคลิก บวกกับคุณแม่แฟนก็ไม่อยากให้ใส่อยู่แต่แรก ยืนกรานไม่เอา ถ้าใส่แบบเกี่ยวหลังหู จริงๆแล้วอาการได้ยินไม่ชัดของแฟนเป็นมานานมากแล้วค่ะ คุณหมอบอกว่าน่าจะเป็นมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะพูดไม่ชัด เนื่องจากโทนเสียงบางช่วงไม่ได้ยิน
ก็เลยเป็นที่มาว่าจะเลือกรุ่นเครื่องช่วยฟังแบบที่ใส่ในช่องหู แบบเล็กๆที่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นค่ะ
ตอนนี้อยากทราบเรื่องการดูแลค่ะ ใช้มาได้ประมาณ 1 เดือนเศษๆแล้วค่ะ
เท่าที่ทราบคือห้ามโดนน้ำ เวลาล้างหน้าต้องระวัง
- ส่วนเรื่องเหงื่อ เวลาใส่ เห็นแฟนบอกว่าใส่ไปนานๆ จะคันๆ ไม่ทราบว่าต้องทำยังไงบ้างคะ คือเห็นเค้าถอดบ่อยๆมาเกาๆหู เรามาก็กลัวหล่นหายเพราะมันเล็ก และหายที ราคาก็หลายอยู่ค่ะ
- เรื่องกินแบตเตอร์รี่ จากที่เห็นแฟนใช้ กินแบตเตอร์รี่พอประมาณค่ะ ที่ร้านบอกไว้ว่าจะใช้ได้ประมาณ 5-7 วัน แล้วจะมีเสียงเตือน 1 ครั้ง แล้วก็รอแบตฯหมดเลย แต่ใช้จริงได้ประมาณ 3 วัน ก็มีเสียงเตือนแล้ว ไม่ทราบว่าเวลาไม่ได้ใส่เครื่อง เช่น ตอนนอน หรือยู่บ้าน ต้องถอดแบตฯออกไหมคะ เราก็กลัวว่า ถอดเข้าถอดออก ที่ใส่แบตฯจะหักเอา
-เราสังเกตว่า พอเอา 2 เครื่องซ้ายขวา มาวางใกล้ๆกัน จะได้ยินเสียงวี้ๆ คล้ายๆเวลาไมค์หอน ถ้าไว้ด้วยกันจะมีปัญหากับตัวเครื่องไหมคะหรือว่าเก็บแยกดีกว่า
เวลาถอดตอนนอนเห็นกล่องมันจะมี 2 ช่องแยกจากกันสำหรับข้างซ้ายกับข้างขวา แต่เวลาไม่ได้ใส่ช่วงกลางวันเช่น แบตอ่อน หรือ กลัวโดนน้ำ จะมีซองใส่เฉพาะ เป็นซองหนังเล็กๆ เก็บไว้ด้วยกันจะมีปัญหาไหมคะ
มีข้อแนะนำสำหรับมือใหม่บ้างไหมคะ
ตอนนี้แฟนกำลังพยายามหัดให้ชินกับเครื่องอยู่ค่ะ คงจะรำคาญอยู่
เราบอกเค้าว่า คิดซะว่าเหมื่อนเราที่ต้องใส่แว่นตา ไม่ใส่ก็เห็นเบลอๆ คุณแฟนก็ต้องใส่เครื่องช่วยฟัง ไม่ใส่ก็จะไม่ค่อยได้ยิน
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ปล.ของแฟนคุณหมอระบุเหตุมา เนื่องจากโรคในวัยเด็ก กับ พันธุกรรม เลยเริ่มกังวลนิดๆกับลูกสาวตอนนี้ 1 ขวบกับ 4 เดือนค่ะ พอถามคุณหมอ คุณหมอก็บอกว่า "แล้วแต่คุณแม่ ถ้าอยากตรวจการได้ยินก็ได้ ถ้าคิดว่าไม่ตรวจก็ไม่เป็นไร ยังไม่จำเป็น"
จากที่สังเกตุลูกสาว เค้าน่าจะได้ยินปกติดี ยกเว้นเวลาแม่เรียกไม่ค่อยหันหา แต่ถ้าคนอื่นเรียก เสียงนก เสียงประตู สิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ยิน แต่รู้สึกว่าเค้าพูดเสียงดัง อันนี้ไม่ทราบว่าติดมาจากพ่อเค้าที่พูดเสียงดังรึเปล่า
ไม่ทราบว่าคุณแม่ท่านไหนเคยพาลูกไปทดสอบการได้ยินไหมคะ ควรทำตอนอายุเท่าไหร่ แล้วมีข้อบ่งชี้อะไรถึงควรไปทดสอบคะ
(ฝากถามคุณแม่ๆ ในห้องชานเรือนด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ)
สอบถามเรื่องการดูแลเครื่องช่วยฟัง ชนิดใส่ในช่องหู
เนื่องจากแฟนไม่อยากให้ใครเห็นเครื่องช่วยฟังที่ตัวเองใส่อยู่ กลัวเสียบุคคลิก บวกกับคุณแม่แฟนก็ไม่อยากให้ใส่อยู่แต่แรก ยืนกรานไม่เอา ถ้าใส่แบบเกี่ยวหลังหู จริงๆแล้วอาการได้ยินไม่ชัดของแฟนเป็นมานานมากแล้วค่ะ คุณหมอบอกว่าน่าจะเป็นมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะพูดไม่ชัด เนื่องจากโทนเสียงบางช่วงไม่ได้ยิน
ก็เลยเป็นที่มาว่าจะเลือกรุ่นเครื่องช่วยฟังแบบที่ใส่ในช่องหู แบบเล็กๆที่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นค่ะ
ตอนนี้อยากทราบเรื่องการดูแลค่ะ ใช้มาได้ประมาณ 1 เดือนเศษๆแล้วค่ะ
เท่าที่ทราบคือห้ามโดนน้ำ เวลาล้างหน้าต้องระวัง
- ส่วนเรื่องเหงื่อ เวลาใส่ เห็นแฟนบอกว่าใส่ไปนานๆ จะคันๆ ไม่ทราบว่าต้องทำยังไงบ้างคะ คือเห็นเค้าถอดบ่อยๆมาเกาๆหู เรามาก็กลัวหล่นหายเพราะมันเล็ก และหายที ราคาก็หลายอยู่ค่ะ
- เรื่องกินแบตเตอร์รี่ จากที่เห็นแฟนใช้ กินแบตเตอร์รี่พอประมาณค่ะ ที่ร้านบอกไว้ว่าจะใช้ได้ประมาณ 5-7 วัน แล้วจะมีเสียงเตือน 1 ครั้ง แล้วก็รอแบตฯหมดเลย แต่ใช้จริงได้ประมาณ 3 วัน ก็มีเสียงเตือนแล้ว ไม่ทราบว่าเวลาไม่ได้ใส่เครื่อง เช่น ตอนนอน หรือยู่บ้าน ต้องถอดแบตฯออกไหมคะ เราก็กลัวว่า ถอดเข้าถอดออก ที่ใส่แบตฯจะหักเอา
-เราสังเกตว่า พอเอา 2 เครื่องซ้ายขวา มาวางใกล้ๆกัน จะได้ยินเสียงวี้ๆ คล้ายๆเวลาไมค์หอน ถ้าไว้ด้วยกันจะมีปัญหากับตัวเครื่องไหมคะหรือว่าเก็บแยกดีกว่า
เวลาถอดตอนนอนเห็นกล่องมันจะมี 2 ช่องแยกจากกันสำหรับข้างซ้ายกับข้างขวา แต่เวลาไม่ได้ใส่ช่วงกลางวันเช่น แบตอ่อน หรือ กลัวโดนน้ำ จะมีซองใส่เฉพาะ เป็นซองหนังเล็กๆ เก็บไว้ด้วยกันจะมีปัญหาไหมคะ
มีข้อแนะนำสำหรับมือใหม่บ้างไหมคะ
ตอนนี้แฟนกำลังพยายามหัดให้ชินกับเครื่องอยู่ค่ะ คงจะรำคาญอยู่
เราบอกเค้าว่า คิดซะว่าเหมื่อนเราที่ต้องใส่แว่นตา ไม่ใส่ก็เห็นเบลอๆ คุณแฟนก็ต้องใส่เครื่องช่วยฟัง ไม่ใส่ก็จะไม่ค่อยได้ยิน
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ปล.ของแฟนคุณหมอระบุเหตุมา เนื่องจากโรคในวัยเด็ก กับ พันธุกรรม เลยเริ่มกังวลนิดๆกับลูกสาวตอนนี้ 1 ขวบกับ 4 เดือนค่ะ พอถามคุณหมอ คุณหมอก็บอกว่า "แล้วแต่คุณแม่ ถ้าอยากตรวจการได้ยินก็ได้ ถ้าคิดว่าไม่ตรวจก็ไม่เป็นไร ยังไม่จำเป็น"
จากที่สังเกตุลูกสาว เค้าน่าจะได้ยินปกติดี ยกเว้นเวลาแม่เรียกไม่ค่อยหันหา แต่ถ้าคนอื่นเรียก เสียงนก เสียงประตู สิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ยิน แต่รู้สึกว่าเค้าพูดเสียงดัง อันนี้ไม่ทราบว่าติดมาจากพ่อเค้าที่พูดเสียงดังรึเปล่า
ไม่ทราบว่าคุณแม่ท่านไหนเคยพาลูกไปทดสอบการได้ยินไหมคะ ควรทำตอนอายุเท่าไหร่ แล้วมีข้อบ่งชี้อะไรถึงควรไปทดสอบคะ
(ฝากถามคุณแม่ๆ ในห้องชานเรือนด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ)