Day 5&6 Cookie in Kanazawa

บังเอิญลูกสาวได้เขียนรวบรวมประสบการณ์การไปเที่ยวญี่ปุ่น
ให้คนที่บ้านติดตามอ่านความเป็นไป เห็นว่าน่ารักดี
เลยเอามาฝากเพื่อนๆค่ะ //แม่กุ้ง ดอกไม้

* *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  * *  *



วันที่ 5&6 Cookie in Kanazawa

December 13, 2013 at 1:16am

ตื่นมาขึ้นรถไฟแต่เช้าตรู่ รถไฟญี่ปุ่นตอนเช้านี่ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าวุ่นวาย แล้วก็เป็นเช่นนั้น
คนอัดกันมากขึ้นทุกสถานี การยืนในรถไฟที่นี่ตอนเช้าไม่จำเป็นต้องพิงเสา
หรือหาที่เกาะใดๆ เพราะเราจะถูกบีบอัดแน่นอยู่ในรถไฟจนเคลื่อนไหนไม่ได้ไปเอง
ไม่รู้เป็นเพราะอากาศหนาว ความง่วง หรือเพราะยังไม่ได้กินข้าวเช้า
กิ๊กมึนจนแทบเป็นลมเดี้ยงอยู่ในนั้น

สำหรับกิ๊กแล้วมันเป็นการขึ้นรถไฟที่ทรมาณที่สุดเลยก็ว่าได้

พอไปถึงสถานีเราก็พบกับซายะจัง กิ๊กโบกมือลาป้าจุงเพื่อออกเดินทางไปต่อที่ Kanazawa
เราขึ้นชินคันเซ็นกันไปประมาณหนึ่งชั่วโมง แล้วไปต่อรถไฟสองชั่วโมงครึ่งก็ไปถึงพอดี
เป็นรถไฟที่นิ่งมากทั้งคู่ เพราะกิ๊กหลับเพลิน มีแว๊บๆเห็นวิวบ้างก่อนจะเข้าสู้ห้วงนิทราเป็นช่วงๆ



ชินคันเซ็นสองชั้น !! >< !!


พอมาถึงคุณยูคิลูกพี่ลูกน้องป้าจุงก็มารับ เธอมีลุคแม่บ้านญี่ปุ่น น่ารักมาก
เธอบอกว่าวันนี้จะพาเราไปตลาดปลาแล้วกลับบ้านพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยเที่ยว
เพราะวันนี้พยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตก เราก็แอบหงอยๆ อุตส่าห์มาถึงแล้ว
แต่ไม่ได้เที่ยว ช่วยไม่ได้ เราบังคับดินฟ้าอากาศไม่ได้นี่นา... เศร้า

ตลาดปลาที่ Kanazawa เจ๋งมาก กิ๊กได้ชิมหอยเม่นสดจากเปลือกเปล่าๆโดยไม่มีโซยุ
รสชาติหวานอย่างน่าแปลกใจ เราสามารถใช้ตะเกียบคีบขึ้นมาเป็นชิ้นๆได้โดยไม่เละ
มันลื่นๆอยู่ในปาก ก่อนจะละลายลงคอไป เป็นรสชาติที่สุดยอดมาก สุโก้ย!!


หอยเม่นสดๅ 500 เยน !


ซายะ กะ อุนิ :3


หลังจากนั้นคุณยูกิก็ซื้อโครอกเกะให้เราคนละก้อน เป็นไส้ฟักทองชีส
หวานนุ่มลิ้นแถมยังอุ่นๆเหมาะกับอากาศหนาวเหน็บอย่างนี้เป็นที่สุด


ชีสเยิ้มเยิ้มมมมมม


ปูววววววว!!!


พอถึงบ้านเราก็ได้พบกับสมาชิกครอบครัวที่น่ารักทั้งสาม สามหนุ่มสามมุม
ตัวเล็กน่ารักมาก บ้านคุณยูกิเป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นเหมือนในการ์ตูนเรื่องโดราเอมอนเปี๊ยบ
กว้างขวาง ดูเป็นบ้านมีฐานะ มีโต๊ะโคททัตสึอันเบ้อเริ่มด้วย!


ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น


คุณยูกิเตรียมซาชิมิให้กิน ควบคู่กับอาหารจานเด็ดของเมือง Kanazawa
ที่ชื่อว่า โทริยาไซ่ แปลว่าไก่กับผัก เป็นหม้อต้มซุปไก้รวมกับผัก กินคู่กับไข่ดิบ
เมื่อกินจานนี้เสร็จเขาก็จะเอาไปใส่เส้นราเมงเพิ่ม กลายเป็นอาหารอีกชามหนึ่ง
เรากินกันจนอิ่มแล้วก็เข้านอน



นี่แค่จานเล็กเท่านั้น !!



โทริยาไซ่ฝีมือคุณยูกิ


อย่างกะห้องโนบิตะ ><



****

เช้าวันใหม่เราก็ได้เวลาออกลุย Kanazawa อย่างจริงจัง เห็นเค้าว่าวันนี้หิมะจะตก
กิ๊กก็ตื่นเต้นมาก อยากเห็นหิมะเป็นๆมานานแล้ว!! แต่ปรากฎว่าฝนตก...
เมื่อวานก็ทีละ แค่นี้เราจะยอมให้เป็นอุปสรรคของเราไปตลอดไม่ได้
เราเลยออกเดินทางท่ามกลางสายฝนซะเลย! ซึ่งก็มีตกบ้างหยุดบ้างเป็นระยะทั้งวัน
นี่ถ้ายอมแพ้ฝน วันนี้คงไม่ได้ทำอะไร

ที่แรกที่ไปถึงเลยก็คือ วัด Myoryuji หรือมีชื่อเล่นว่า Ninja-dera (วัดนินจา)
เมื่อวานตอนว่างๆกิ๊กก็ศึกษาประวัติของวัดมาก่อน เพราะอ่านไปอ่านมามันสนุกดี
คือจริงๆแล้ววัดนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนินจาแต่อย่างใด
แต่ที่มันชื่ออย่างงี้เพราะมีกับดับเต็มวัดไปหมด!


วัดนินจา


เหตุมันเกิดจาก ท่านลอร์ดมาเอดะ โทชิทสึเนะ สร้างวัดนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นวัดสำหรับสวดมนต์ส่วนตัว
แล้วไม่รู้ว่าคุณลอร์ดนี่ศัตรูเยอะรอบทิศหรือเป็นคนขี้ระแวงมหาศาล
เลยสร้างกับดักและห้องลับไว้เต็มบ้าน ถ้ามองจากภายนอก
เราจะเห็นแค่ว่าก็วัด 2 ชั้นธรรมดาทั่วไป เพราะสมัยนั้นถูกออกกฎห้ามสร้างวัดเกิน 2 ชั้น
แต่วัดนี้หาธรรมดาไม่ 2 ชั้นที่เห็นเป็นเพียงภาพลวงตา!
ภายในนั้นจริงๆแล้วมี 4 ชั้นใหญ่ แตกได้อีกเป็น 7 ชั้นย่อยด้วยกัน!! OxO

เดินเข้าไปปุ๊บนี่มีกับดักเรียงอยู่ข้างหน้าเลย
คือถ้าไม่รู้จักดีเดินเข้าไปก็จะตกลงไปในหลุมสองเมตรกว่าๆ
และยังมีประตูลับที่มีกลไกซ่อนอยู่ในกำแพง ไหนจะบันไดขึ้นไปห้องสวดมนต์ลับของพี่แกอีก
เห็นเล็กๆอย่างงี้มีบันได 29 แห่ง ห้อง 23 ห้องด้วยกัน
ดีที่มีไกด์นำทางนะ เพราะถ้าเราเดินเข้าไปเอง
อาจตกหลุมกับดักอยู่ไหนซักแห่งหาทางออกไม่เจอ แต่น่าเสียดาย
เค้าห้ามถ่ายรูปข้างไหนอีกแล้ว กิ๊กเลยลองหารูป Reference จากในเนตมาเพิ่ม


บันไดล่อให้ศัตรูตกลงไป credit : http://www.atlas-japantour.com/


ทางใต้ดินลับ credit : http://m0miji.blogspot.jp/


ระหว่างที่อยู่นอกวัดจู่ๆก็มีเสียงแกร๊กๆ ดังขึ้นจากบนหลังคาเต็มไปหมด
พอเรามองดีๆ เฮ้ย ก้อนขาวๆร่วงลงมา นี่หิมะใช่มั้ยเนี่ย กิ๊กตื่นเต้นสุดขีด
กระโดดลงไปหาเลย พอกระโดดออกไปเท่านั้นแหละ กลายเป็นเสียงเปรี๊ยะๆ
บนหัวกิ๊กแทน เวรรรรรร เจ็บเลย นี่ไม่ใช่หิมะ แต่มันคือน้ำแข็งก้อนจิ๋ว
หรือเค้าเรียกลูกเห็บรึเปล่าไม่รู้ ร่วงมากระแทกกิ๊กเต็มเลยอ้ะ !! TT^TT


นี่ไงตัวเจ้าปัญหา!


เอาหิมะของเราคืนมา T^T


คุณยูคิบอกว่านี่คือ “อาราเระ” ถ้าก้อนใหญ่กว่านี้เรียก “เคียว”
แต่ไม่ใช่หิมะหรอกนะ เราก็เศร้าเลย รอดูหิมะตกมานาน เป็นไงล่ะ เจ็บตัวเลย ชิ...

จบจากที่นี่เสร็จ เราก็ไปสวน Kenrokuen Garden กันต่อ คือสวนมันสวยมากเลย
อยากจะมองให้เต็มตากว่านี้ ถ้าฝนจะไม่ตกหนัก ลมปะทะหน้า



ลูกเห็บลูกหาบไม่กระเด็น รู้สึก 300 กว่าเยนที่คุณยูคิออกให้เราทั้งคู่ไม่ค่อยจะคุ้มค่า
เพราะแค่เดินไปมาไม่ถึง 10 นาทีพวกเราก็ต้องวิ่งหาที่หลบกันซะแล้ว
เลยไปแวะพักกินโมจิถั่วแดงกันที่ร้านแถวๆนั้น



แชะซักรูปกับคุณยูคิ ^^


โมจิ ฮ้อน ฮ้อน~


ที่ต่อไปที่เรามา คือสวรรค์... สวรรค์จริงๆนะ สำหรับหน้าหนาวอย่างงี้
คุณยูคิขับรถพาเรามาถึงออนเซ็น มาถึงทุกคนก็ถอดอย่างรวดเร็ว กิ๊กเคยไปออนเซ็นที่ไทยมา
ที่ไทยต่างกับญี่ปุ่นอยู่อย่าง 2 อย่าง หนึ่งคือ อาย ไม่กล้าเปิดของตัวเอง
ต้องมีผ้าคาด สองคือ ส่อง ใครเดินเข้ามา หุ่นเป็นไง อกใหญ่มั้ย ต้องแอบส่องเล็กน้อย
ที่ญี่ปุ่นเค้าไม่เป็นกัน คนที่ทำดูจะเสียมารยาทด้วยซ้ำ

ตัวกิ๊กเองเฉยๆกับเรื่องอายนะ (หน้าไม่อายจริงๆ 555) ส่วนเรื่องส่องนี่มีบ้าง 55555
แต่พอเข้าไปปุ๊บ ก็เปลี่ยนความคิดทันที มีแต่คนแก่เต็มออนเซ็น ไม่รู้จะส่องทำไม จบ -_-”

วันนี้เรากลับมาซะเร็ว บ่ายสี่ก็กลับมาและ กิ๊กก็ไม่ได้ทำอะไร หลับคาโต๊ะโคททัตสึ
อาห์... โต๊ะนี้นี่มันสวรค์ของหน้าหนาวจริงๆนะ ตื่นมากินอาหารที่คุณยูคิทำให้
เคนเซช่วยทำแพนเค้กให้พวกเรากินด้วย น่ารักจริงๆ


เคนเซคุงทำแพนเค้กอย่างมุ่งมั่น


อาหารเย็นวันนี้



รูปรวมก่อนจาก


ต้องขอบคุณครอบครัวคุณยูคิมาก น่ารักทุกคนเลย
ต้อนรับกิ๊กกับซายะจังอย่างดีทุกอย่าง ขอบคุณมิตรภาพดีๆสำหรับสองคืนที่ผ่านมานี้
ถึงจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสารบ้าง
แต่ทุกคนก็พยายามใช้ Google Translate คุยกับกิ๊ก 5555 ขอบคุณจริงๆ

หลังจาก 2 วันที่ Kanazawa ถ้าเปรียบเทียบแล้ว เมืองนี้เป็นเมืองที่เงียบสงบมาก
ต่างจากโตเกียวลิบ จะไปไหนก็ไม่ได้ใช้รถไฟเหมือนเคย
ไปไหนต้องติดรถเขาไปเท่านั้น ไม่ค่อยมีสิ่งล่อตาล่อใจ
รวมกันความหนาวที่โคตรเข้มข้น กิ๊กเริ่มจะสงบไปจนถึงขั้นเหงาบ้างแล้วสิ
เริ่มมีอาการคิดถึงบ้านเกิดขึ้น หรืออาจจะอยู่ไกลบ้านมา 6 วันแล้วก็ไม่รู้...

คิดถึงภาษาไทย
คิดถึงดนตรี
คิดถึงเปอร์คัสชั่น
คิดถึงนู่นนี่

เวิ่นเว้อซักพัก ก่อนจะพยายามนอนอย่างจริงจัง
ซึ่งมักกินเวลา 1 ชั่วโมงกว่าจะสำเร็จ


จบ.
ฟุ้ง.
ไหนหิมะ.

T^T

ติดตามตอนต่อไปได้เจ้าค่ะ
Day 0 เมื่อฉันกลายเป็นอาชญากรข้ามพรมแดน...     http://pantip.com/topic/31388877
Day 1 ทรัพย์สมบัติ ซูชิ พละกำลัง !!   http://pantip.com/topic/31389109
Day 2 ชา ลา ลา~   http://pantip.com/topic/31389233
Day 3 ฅ. ดล 3   http://pantip.com/topic/31389940
Day 4 วันที่ฉันป่วย  http://pantip.com/topic/31390333
Day 5&6 Cookie in Kanazawa   http://pantip.com/topic/31390347
Day 7 & 8 ส.ว. on tour  http://pantip.com/topic/31390359
Day 9 แดนหมีดำ http://pantip.com/topic/31390371
Day 10と11 BeppuとYufuin   http://pantip.com/topic/31399474
Day แถม ONEPIECE @ Huis ten bosch ฟินมว๊ากกกกก~~~~ !!!!! >0< !!!!!!  http://pantip.com/topic/31408111
Day 12 ศึกลูฟี่หมวกฟาง ปะทะ กิ๊กกี้หัวฟู ONEPIECE @ Huis ten bosch  http://pantip.com/topic/31409608
Day 13~15 Kicky King of Sushi  http://pantip.com/topic/31417630
Day 16 ฟูจิ โมจิ เปอร์เซียจิ  http://pantip.com/topic/31421929
Day 17 เปอร์ เต็ม ชั้น     http://pantip.com/topic/31461915
Day 19 มือที่สอง   http://pantip.com/topic/31461997
Day 20と21 โซ้ยแหลก @ Nikko  http://pantip.com/topic/31462342
Day 23->22 ใจแตก @บาร์เกย์  http://pantip.com/topic/31462536
Day 25.9~26.1 Special Day - Because it's New Year!  http://pantip.com/topic/31466295
Day 26~27 feat. Ai Dokdak ปวดเกี๊ยะ ที่เกียวโต  http://pantip.com/topic/31466446
Day 29 ตอนที่ 1 เสพติดศิลปะ ที่ Naoshima feat. Ai Dokdak http://pantip.com/topic/31482396
Day 29 ตอนที่ 2 เสพติดศิลปะ ที่ Naoshima feat. Ai Dokdak http://pantip.com/topic/31482430
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่