เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 15 ธ.ค. ที่ จ.อุทัยธานี ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า พระครูอุปการพัฒนกิจ หรือหลวงพ่อสมัย อาภาธโร เจ้าอาวาสวัดหนองหญ้านาง ต.หนองไผ่แบน อ.เมือง จ.อุทัยธานี และเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองอุทัยธานี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในด้านเมตตา มหานิยม คงกระพัน และยังเป็นหมอสมุนไพรที่เปิดวัดหนองหญ้านางเป็นสถานพยาบาลอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งได้รับรางวัลหมอไทยดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2554 ได้มรณภาพลงอย่างสงบด้วยอาการโรคมะเร็งตับ ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลอุทัยธานี เมื่อเวลา 15.23 น. วันเดียวกันนี้ สิริอายุ 67 ปี พรรษา 42
สำหรับหลวงพ่อสมัย เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนสืบทอดพุทธศาสนาให้มั่นคงอยู่เป็นประจำ พัฒนาวัดเก่าแก่เสื่อมโทรมจนเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง นอกจากนี้ยังใช้วิชาการแพทย์แผนไทยบำบัดโรคภัยให้กับประชาชนที่เจ็บป่วย ปัจจุบันวัดหนองหญ้านางกลายเป็นที่ศึกษาดูงานด้านการแพทย์แผนไทย ทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้และประสบการณ์การบำบัดรักษาแบบพื้นบ้านที่มีศักยภาพ เป็นครูภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยอีกรูปหนึ่ง โดยล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2554 ได้รับรางวัลหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ และเข้ารับถวายรางวัลจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ถือเป็นรางวัลสุดท้ายที่หลวงพ่อสมัยได้รับเกี่ยวกับวงการแพทย์แผนไทย ที่หลวงพ่อสมัยมีใจรักในวงการนี้
เดลินิวส์
สิ้น "หลวงพ่อสมัย" วัดหนองหญ้านาง เจ้าของรางวัลหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 15 ธ.ค. ที่ จ.อุทัยธานี ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า พระครูอุปการพัฒนกิจ หรือหลวงพ่อสมัย อาภาธโร เจ้าอาวาสวัดหนองหญ้านาง ต.หนองไผ่แบน อ.เมือง จ.อุทัยธานี และเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองอุทัยธานี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในด้านเมตตา มหานิยม คงกระพัน และยังเป็นหมอสมุนไพรที่เปิดวัดหนองหญ้านางเป็นสถานพยาบาลอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งได้รับรางวัลหมอไทยดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2554 ได้มรณภาพลงอย่างสงบด้วยอาการโรคมะเร็งตับ ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลอุทัยธานี เมื่อเวลา 15.23 น. วันเดียวกันนี้ สิริอายุ 67 ปี พรรษา 42
สำหรับหลวงพ่อสมัย เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนสืบทอดพุทธศาสนาให้มั่นคงอยู่เป็นประจำ พัฒนาวัดเก่าแก่เสื่อมโทรมจนเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง นอกจากนี้ยังใช้วิชาการแพทย์แผนไทยบำบัดโรคภัยให้กับประชาชนที่เจ็บป่วย ปัจจุบันวัดหนองหญ้านางกลายเป็นที่ศึกษาดูงานด้านการแพทย์แผนไทย ทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้และประสบการณ์การบำบัดรักษาแบบพื้นบ้านที่มีศักยภาพ เป็นครูภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยอีกรูปหนึ่ง โดยล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2554 ได้รับรางวัลหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ และเข้ารับถวายรางวัลจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ถือเป็นรางวัลสุดท้ายที่หลวงพ่อสมัยได้รับเกี่ยวกับวงการแพทย์แผนไทย ที่หลวงพ่อสมัยมีใจรักในวงการนี้
เดลินิวส์