[CR] มือใหม่หัดรีวิว ทริปญี่ปุ่น Backpacker ต้นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี 13-20 ต.ค.56

อมยิ้ม17 สวัสดีค่ะ ขอรีวิว ทริปเที่ยวญี่ปุ่นบ้างนะคะ หลังจากได้ไปเที่ยวด้วยตัวเองมาตั้งแต่ตุลาคม 2556 (ขอบคุณข้อมูลจากเวบพันทิบ เวบ Hyperdia เวบอื่นๆ รวมถึงหนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่น) จึงมาจัดเป็นทริปแบบฉบับของตัวเองสักครั้ง

อมยิ้ม07 ทริปนี้เกิดขึ้นจากที่เรา 2 คน อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นตามที่ใฝ่ฝันสักครั้ง (ใฝ่ฝันเหมือนกันเบย) โดยคิดว่าจะไปอย่างไรให้ประหยัดงบที่สุด และได้เที่ยวเยอะๆ ตามประสาคนอยากไปหลายที่ ไหนๆจะได้ไปเที่ยวสักที โดยวันเวลาที่ลงตัวสำหรับเราสองคนคือช่วงปิดเทอมสั้นตุลาคม 2556

อมยิ้ม23 สถานที่ที่เราวางแผนจะไปเที่ยวกันมีหลายเมืองและใช้เวลาในการเดินทางพอสมควรค่ะ (ซึ่งเรามีเวลาแค่ 8 วัน 6 คืน) ; โตเกียว ฟูจิ  ทาคายาม่า  ชิระคะวาโกะ โอซาก้า  ฮิโรชิม่า เกาะมิยาจิมะ เกียวโต

อมยิ้ม21 การเที่ยวครั้งนี้ ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่เราวางไว้เป๊ะๆ นัก โดยเฉพาะเวลา เรายืดหยุ่นได้ตลอดค่ะ แต่พยายามไปให้ครบทุกที่ที่วางแผนค่ะ

อมยิ้ม33 ก่อนที่จะโพสรูป เราขอรีวิวค่าใช้จ่ายเบื้องต้นให้เพื่อนๆ ทราบก่อนนะคะ เผื่อใช้ประมาณการทริปของตนเองได้ ซึ่งอาจจะมีตัวหนังสือมากสักหน่อย ขออภัยด้วยนะคะ

รายละเอียดค่าใช้จ่ายคร่าวๆ เท่าที่จำได้ของทริปนี้นะคะ (ค่าใช้จ่ายคิดแบบ 2 คนนะคะ)

สายการบิน : แอร์เอเชีย (จองตอนช่วง Big Sale ม.ค.56 จะเริ่มบินได้ตั้งแต่ ก.ย.56) ตอนจองยังไม่ประกาศยกเลิกวีซ่านะคะ เพิ่งมาประกาศตอน ก.ค.56 ก่อนเราไป 3 เดือน (ถือว่าเป็นโชคดีของเราสองคนจริงๆ) โดยสายการบินนี้จะบินลงใต้ไปเปลี่ยนเครื่องเป็น Air Asia Xที่มาเลย์ก่อนจะบินตรงไปญี่ปุ่นนะคะ ทั้งขาไปและขากลับ จึงค่อนข้างใช้เวลานานค่ะ ครั้งหน้าว่าจะลองสายการบินอื่นบ้าง อิอิ

ช่วงการเดินทาง  : อาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2556 – อาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2556 (ออกเดินทางเช้า 13 ต.ค.56 ถึงญี่ปุ่นประมาณ 22.00 ส่วนวันกลับออกเดินทางกลางคืน 19 ต.ค.56 ถึงไทย 20 ต.ค.56 เที่ยงๆ)

ราคาตั๋วขาไป 2 คน  : 12,260 บาท (ลงที่สนามบินฮาเนดะ) ยังไม่รวม Baggage และอาหาร

ราคาตั๋วขากลับ 2 คน  : 11,600 บาท (ขึ้นที่สนามบินคันไซ) ยังไม่รวม Baggage และอาหาร

ค่า Baggage/ที่นั่ง/อาหาร : 4,795 บาท (ขาไป 20 โล ขากลับ 25 โล ส่วนที่นั่งเราจ่ายที่เดียว ที่เหลือให้ระบบ Random ให้ ประหยัดตังค์ได้อีก ส่วนอาหารบนเครื่องเราซื้อแค่ตอนบินจากมาเลย์ - ฮาเนดะ แค่มื้อเดียว เพราะช่วงเวลาอื่นเราวางแผนกินมาให้เรียบร้อยก่อนบิน)

ค่า JR PASS แบบ 7 วัน 2 คน : 16,400 บาท (ซื้อที่งานเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเองตอนเดือน ก.ค.56 หลังยกเลิกวีซ่า ถูกมากกกกก) เราต้องเปิดใช้ JR ภายใน 90 วัน หลังจากซื้อนะคะ ดังนั้น เราต้องวางแผนวันที่จะไปก่อน และคำนวณวันที่จะซื้อให้ดีดีด้วยค่ะ ถามจากผู้ขายก็ได้ ซึ่งเราจะได้เป็น Voucher มา แล้วถึงไปเปิดใช้งานที่ญี่ปุ่นค่ะ

ค่าเงินเยน ณ ตอนนั้น : ประมาณ 29 – 33 บาท ต่อ 100 เยน ค่ะ (ทยอยแลกเงินเยนเก็บไว้เลย) เราแลกจาก Grand Super Rich สีฟ้า ตรงประตูน้ำค่ะ เปิดใหม่ เร็วดี ไม่ต้องใช้ Passport เรทเท่ากันค่ะ แต่เชคอีกทีก้อก็ได้ค่ะ

ค่าที่พัก : จองล่วงหน้าจาก AGODA โดยราคาต่อห้องต่อคืนประมาณ 1,500 – 1,700 บาท (ต้องดูเงื่อนไขใน AGODA ให้ดีๆนะคะว่า ราคาที่โชว์นั้น คิดต่อคน หรือคิดต่อห้อง) จ่ายด้วยบัตรเครดิตค่ะ ให้เรานำบัตรเครดิตติดไปญี่ปุ่นด้วย เพราะบางโรงแรมเค้าจะขอดูค่ะ

pompom แผนการเดินทางคร่าวๆ :
อา. 13 ต.ค.56      ออกจากไทย 7.00 น. ถึงญี่ปุ่น ประมาณ 22.00 น.
จ. 14 ต.ค.56    โตเกียว
อ. 15 ต.ค.56    ฟูจิ ทะเลสาบคาวะกูชิ  http://pantip.com/topic/31416052
พ. 16 ต.ค.56    ทาคายาม่า http://pantip.com/topic/31416087
พฤ. 17 ต.ค.56    ชิระคะวะโกะ  http://pantip.com/topic/31416106
ศ. 18 ต.ค.56    ฮิโรชิม่า เกาะมิยาจิมะ  http://pantip.com/topic/31416120
ส. 19 ต.ค.56    เกียวโต  ออกจากคันไซ 22.00 น.
อา. 20 ต.ค.56    ถึงไทย 12.00 น.


เอาล่ะค่ะ พอทราบข้อมูลเบื้องต้นไปคร่าวๆแล้ว เราจะเริ่มรีวิวตั้งแต่เริ่มการเดินทางไปจนกลับถึงไทย ไปเรื่อยๆ นะคะ อาจมีช้าบ้าง ขออภัยใน ณ ที่นี้ด้วยนะคะ มือใหม่หัดรีวิวค่ะ Facepalm





คร่อกฟี้วันที่ 1 (อาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2556)

วันนี้เราเดินทางทั้งวัน เหนื่อยหน่อยนะคะ แต่ได้ประสบการณ์เพียบ
จากดอนเมือง 8.35 น. - ถึงกัวลาลัมเปอร์ 11.45 น. (เร็วกว่าไทย 1 ชม.)
จากกัวลาลัมเปอร์ 14.30 - ถึงฮาเนดะ 22.30 น. (เร็วกว่าไทย 2 ชม.)


เราออกเดินทางจากที่พักไปถึงสนามบินดอนเมืองประมาณ 6.00 น. เครื่องออกเวลา 8.35 น.
ไปถึงก็โหลดกระเป๋า เดินตัวปลิวได้เลยค่ะ (ทำ Web Check in มาแล้ว เลยไวหน่อยค่ะ)

ขาไปเราเลือกใช้บริการบนเครื่องบิน ดังนี้ค่ะ
- ซื้อน้ำหนักกระเป๋า 20 โล ราคารวม 1,200 บาท (สายการบินนี้คิดค่าโหลด 2 ครั้งค่ะ เพราะบินแบบ Fly thru)
  โดยแยกเป็นค่าโหลดกระเป๋าจากไทย-มาเลย์ ราคา 500 บาท  และจากมาเลย์-ฮาเนดะ ราคา 700 บาท
- ค่าที่นั่งขาไป เราม่ายได้เสียค่ะ ให้ระบบ Random ให้ ถ้าไม่ใกล้กันก้อรอเวลาแล้ว Random ใหม่ ตามสูตรของหมอยุ่งชะมัด สัตวแพทย์
- ซื้ออาหาร 1 มื้อ ราคารวม 2 คน ประมาณ 300 บาท (เราเลือกมื้อเย็นตอนบินจากมาเลย์ - ฮาเนดะ เพราะบินเวลา 14.30 - 22.30)
  ส่วนตอนเช้าเรากินก่อนบินจากดอนเมือง และมื้อเที่ยงเรากินที่สนามบินกัวหาลัมเปอร์ค่ะ  



เครื่องออกจากสนามบินดอนเมือง เวลา 8.35 ไปถึงสนามบินกัวลาฯ เวลา 11.45 น. (เร็วกว่าไทย 1 ชม.)
ลงจากเครื่องแล้วเราก้อเดินตามๆ เค้าไป ค่อนข้างไกลและอบอ้าวหน่อยนะคะ


เดินมาถึงเราผู้โดยสาร Fly thru ก้อแยกตัวไปทำการ check in อีกรอบ คนบิน Fly thru ค่อนข้างเยอะค่ะ ยืนต่อแถวเมื่อยเบย


เมื่อผ่านมาเรียบร้อย เราก้ออยู่ได้แต่ในสนามบินค่ะ รอเวลาขึ้นเครื่องตอน 14.30 น. ระหว่างนี้ เดินหาของกินก่อน ซึ่งสนามบินที่นี่เล็กมาก
อาหารมื่อเที่ยงที่เลือกกิน เป็นคล้ายๆ มาม่าต้มยำ ค่ะ น่ากินสุดแระ (เราสามารถใช้เงินเยนซื้อได้นะคะ ซึ่งเค้าจะเทียบเป็นริงกิตให้)  



ถึงเวลา เจ้าหน้าที่จะมาเรียกเราขึ้นเครื่องค่ะ ก้อเดินๆๆ ตามเค้าไปขึ้นเครื่อง


อาหารมื้อเย็นที่เราเลือกไว้ หน้าตาแบบนี้ค่ะ ราคารวมน้ำประมาณ 300 บาทค่ะ รสชาติใช้ได้อยู่ กินเสร็จแล้วก้อนอนยาวเลยค่ะ



ด้วยความที่เรารู้จักเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่อยู่โตเกียว จึงได้รับความอนุเคราะห์ที่พักราคาย่อมเยาไม่ไกลจากย่านชินจูกุ 3 คืน และเค้าก้อพาเราเที่ยว 1 วัน และมารับเราที่สนามบินฮาเนดะในคืนที่ไปถึงด้วย (นับว่าเป็นความโชคดีอีกแล้ว)

(ขอเพิ่มเติมข้อมูลนิสนึงค่ะ ซึ่งวางแผนไว้แล้วแต่ไม่ได้ใช้ คือ ตอนแรก เราวางแผนจะนอนที่สนามบินฮาเนดะ อ่านรีวิวในพันทิบสามารถนอนได้ สบายมาก มีที่อาบน้ำ ล้างหน้าด้วย เราเตรียมข้อมูลในการไปนอนสนามบินเต็มที่ และวางแผนจะซื้อตั๋วรถบัสลีมูซีน ไปส่งที่ชินจูกุในตอนเช้า เวลา ตี 5.45 จะถึงชินจูกุประมาณ 6.20 น. ราคา 2 คน 2,400 เยน (ประมาณ 750 บาท) เพราะสะดวกในการขนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ โดยสามารถซื้อตั๋วรถบัสลีมูซีนได้ที่ชั้น 2 และลงไปรอรถที่ชั้น 1 ป้ายรถหมายเลข 3)

ความจริงเราสามารถเปิดใช้ JR Pass ตั้งแต่ที่นี่เลยก็ได้นะคะ เพราะมีรถไฟของ JR ที่นี่เข้าเมืองด้วย แต่ออฟฟิศ JR ที่สนามบินฮาเนดะ เปิด 11.00-18.30 น. เราก็เลยคิดว่าใช้บริการรถบัสลีมูซีนไปตั้งแต่เช้าจะดีกว่าและสะดวกในการขนกระเป๋าด้วยค่ะ




พระอาทิตย์วันที่ 2 (จันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2556)   ASAKUSA , SHINJUKU

อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่า เพื่อนชาวญี่ปุ่นจะพาเที่ยวในวันนี้ เนื่องจากว่า 14 ต.ค.56 เป็นวันหยุดประจำปีของญี่ปุ่น เค้าเลยว่าง (เราเลยต้องพับโครงการเที่ยวของเราไปก่อน) แล้วไปตามที่เค้าจะพาไปค่ะ ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการปรับตัวให้เข้ากับคนญี่ปุ่น อิอิ ไม่ซีเรียส เพราะเราแบ๊คแพ็ค ยืดหยุ่นได้ตลอดอยู่แว้ววว  เดี๋ยวตอนท้ายของการเที่ยววันนี้ เราจะบอกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนเที่ยวที่เราวางไว้ แล้วไม่ได้ใช้นะคะ เสียดาย อิอิ

ช่วงเช้า เค้าพาเราไปวัด ASAKUSA ค่ะ วัดที่มีโคมแดง วันที่เราไปคนเยอะมาก (แต่เค้าบอกว่า เยอะทุกวันแหละ คนญี่ปุ่นชอบมาวัด)




มื้อเที่ยง เราก้อหาอะไรกินแถววัดเลยค่ะ เลือกร้านที่ราคาม่ายแพงมากนัก โดยเค้าให้สังเกตจาก ร้านที่มีเด็กนักเรียนเข้าไปนั่งกิน จะราคาม่ายแพง มื้อนี้ฟรีค่ะ เลยม่ายรู้ราคา (การสั่งอาหาร ตามมารยาทจะต้องสั่งมาคนละชุดเลยนะคะ ไม่ควรสั่งมาชุดเดียวแล้วกินรวมกันค่ะ)





จากนั้น เราก้อไปเปิดใช้งาน JR Pass ที่ออฟฟิศ สถานีโตเกียว เปิด 7.30 - 20.30 น. ซึ่งตอนที่เราซื้อ JR Pass จากเมืองไทย เราจะได้เป็น Voucher
และเนื่องจากเราทำแผนการเดินทางมาเรียบร้อยแล้ว โดยระบุเวลาไว้เป๊ะๆ (Print screen จากเวบ Hyperdia) เราเลยทำการจองที่นั่งสำหรับขบวนที่ต้องจองไปเลย ซึ่งในเวบ Hyperdia จะบอกเราหมดว่าขบวนไหนต้องจองบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นพวกชินคันเซน/รถไฟทางไกล ค่ะ
เราจองที่นั่งของทุกวันเลยค่ะ เพราะในวันที่เดินทางจะได้วิ่งหาชานชาลาอย่างเดียว จองเสร็จก็จะได้ตั๋วที่นั่งของแต่ละขบวน แต่ละวัน มาครอบครองเลย เก็บไว้ให้ดีนะคะ (หากเราไปไม่ทันขบวนที่จองที่นั่งไว้ ไม่ต้องกังวลนะคะ ให้เอาตั๋วที่จองไว้ไปเปลี่ยนเวลาและที่นั่งใหม่ได้เลยค่ะ)

หน้าตา Voucher ตอนซื้อที่ไทยค่ะ ราคาเขียนไว้ 9,000 บาท/คน แต่ไปซื้อที่งานเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เดินสืบราคาทุกบูท จนมาได้ของ JTB ราคาถูกสุดในวันนั้น คือ 8,200 บาท/คน จัดเลยค่ะ (ราคาแต่ละวันไม่เท่ากัน ขึ้นลงตามค่าเงินเยนค่ะ)


เจ้าหน้าที่น่ารักมากค่ะ อธิบายเราเต็มที่ แถมอยากไปเที่ยวกระบี่ บ้านเราด้วย อิอิ


หน้าตา JR Pass หลังจากแลก Voucher แล้ว ด้านหลังจะมีรายละเอียด วันหมดอายุ ชื่อเรา ด้วยค่ะ ให้เราเก็บไว้ในที่ที่หยิบสะดวก ไว้คู่กับ Passport เลยค่ะ เพราะใช้คู่กัน การใช้งานก้อเดินเข้าช่องขวาสุดโชว์ให้เจ้าหน้าที่ดูค่ะ ก้อผ่านฉลุยๆๆๆ ทริปนี้ ใช้ JR Pass จนคุ้มเลยค่ะ เพราะเดินทางข้ามเมือง


ตอนบ่าย เค้าก้อพาเราไปเที่ยว The Tokyo Metropolitan Government Office (ศาลาว่าการมหานครโตเกียว) เพื่อชมวิวโตเกียวจากมุมสูง ไม่เสียค่าบริการนะคะ ฟรีค่ะ !!! อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://nipponnote.exteen.com/20050521/2-tmg-office-complex

ชื่อสินค้า:   ญี่ปุ่น Backpacker JR Pass
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่